บทที่ 769

เจ๊หวางก็พูดอย่างหัวเสียไป ใบหน้าเดิมทีก็ตึงเพราะมากส์หน้าอยู่ ก็ทำหน้าทำตาจนแผ่นมากส์หน้าหลุดออกมา

เธอก็มองแผ่นมากส์หน้าที่พื้น แล้วก็เสียดาย

พอนึกถึงเรื่องเมื่อวาน ในใจเธอก็กลัดกลุ้มอย่างมาก

ถึงแม้เธอกับหม่าหลันจะไม่ใช่เพื่อนสนิทอะไรกันมาก แต่ก็ไปสนิทกันพอสมควร มักจะเที่ยวเล่นด้วยกัน มาทำหน้าด้วยกัน เล่นไพ่ด้วยกัน

เพื่อนแบบนี้ ทุกคนก็มีกันทั้งนั้น ปกติก็จะยิ้มให้กันอย่างเกรงใจกัน ไม่มีใครทำให้ใครต้องดูแย่ แต่เมื่อวาน หม่าหลันกลับมาดูถูกประชดประชันตนเองในโทรศัพท์ เมื่อคืนเธอก็โมโหจนนอนไม่หลับทั้งคืน

เซียวชูหรันได้ยินแล้วก็แปลกใจมาก ว่าทำไมแม่ถึงได้พูดกับเจ๊หวางแบบนี้? เดิมทีแม่ก็ไม่มีเงินอะไรขนาดนั้น ช่วงนี้ก็ทำตัวเรียบง่ายอยู่ หรือว่าเมื่อวานแม่ได้เงินอะไรมาสักอย่าง?

ยังบอกอีกว่าตนเองซื้อร้านเสริมความงามเองเลย เพื่อใช้บริการคนเดียว มันแสดงว่า เงินจำนวนนั้น มันต้องไม่น้อยเลย

แต่ปัญหาก็คือ ต่อให้แม่ได้เงินอะไรมาก็จริง แต่ก็ไม่จำเป็นต้องหายตัวไปอย่างนี้เลยนะ!

นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?

เซ๊ยวชูหรันยิ่งไม่เข้าใจมากกว่าเดิม

ในตอนนี้ เจ๊วางที่กำลังโมโห ก็พูดว่า “ทำไมล่ะ? แม่เธอหายตัวไปหรือ? ”

เซียวชูหรันก็รีบพยักหน้าแล้วพูดว่า “ใช่ค่ะ!เมื่อวานแม่ออกบ้านไปตอนสาย แล้วก็ไม่กลับมาเลย โทรศัพท์ก็ติดต่อไม่ได้ วีแชทก็ไม่ตอบ วิดีโอคอลก็ไม่ติด นี่ก็หนึ่งวันหนึ่งคืนแล้ว!”

เจ๊หวางก็อึ้งๆ แล้วก็ส่งเสียงไม่พอใจว่า “แม่เธออาจจะรวย แล้วไม่เพียงจะดูถูกฉันแล้วก็เพื่อนๆ คนอื่นๆแม้แต่เธอกับพ่อเธอ ก็คงโดนดูถูกด้วยล่ะมั้ง ก็เลยหายตัวไร้ร่องรอยแบบนี้”

พูดไป เจ๊หวางก็ถอนหายใจ แล้วพูดว่า “ได้ยินเธอพูดแบบนี้ ในใจฉันก็ค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อย ยัยหม่าหลันนั่นแม้แต่สามีและลูกสาวตัวเองก็ยังดูถูกเลย จะมาดูถูกเพื่อนจนๆ อย่างฉัน ก็เป็นเรื่องธรรมดา”

เซียวชูหรันก็ใจสั่น

เธอนึกถึงป้าของตนเอง เฉียนหงเย่น

ตอนนั้นเฉียนหงเย่นก็หอบเงิน15ล้านหยวนแล้วหายตัวไป ได้ยินมาว่าไปเลี้ยงผู้ชายวัยรุ่นอยู่ข้างนอก แล้วก็หนีไปอยู่ด้วยกัน

ถ้าเกิดว่าแม่ได้เงินก้อนใหญ่มา แล้วแม่จะเป็นแบบเฉียนหงเย่นไหมนะ?

พอคิดถึงจุดนี้ ในใจเซียวชูหรันก็กังวลขึ้นมา

เธอรีบถามเจ๊หวางว่า “คุณน้าหวางคะ คุณน้ายังทราบเบาะแสอื่นๆ อีกไหมคะ? ”

เจ๊หวางก็โบกปัด แล้วพูดว่า “ฉันโทรคุยกับแม่เธอ หลังจากนั้น ก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย แล้วก็ไม่ได้ข่าวอะไรเกี่ยวกับแม่เธอด้วย”

เซียวชูหรันก็ได้แต่กล่าวขอบคุณไปว่า “งั้นก็ขอบคุณคุณน้าหวางมากนะคะ”

เจ๊หวางก็ตอบนิ่งๆ ว่า “ไม่ต้องเกรงใจ ฉันต้องขอบใจเธอมากกว่า ตอนแรกในใจฉันอัดอั้นมาตั้งนาน พอได้ยินเธอบอกแบบนี้ ก็โล่งขึ้นมาเยอะเลย”

เซียวชูหรันก็ได้แต่พูดกับเจ๊หวางอย่างใจจริงว่า “คุณน้าหวางคะ ต้องขอโทษด้วยนะคะ หนูขอโทษแทนแม่หนูด้วยค่ะ”

เจ๊หวางโบกปัด แล้วตั้งใจพูดว่า “ถ้าจะขอโทษ ก็ไม่ต้องหรอก ถ้าแม่เธอไม่กลับมาล่ะก็ ก็แล้วกันไป แต่ถ้าตามกลับมาได้ ก็บอกแม่เธอด้วยแล้วกัน ว่าอย่ามาให้ฉันเห็นหน้า ไม่งั้นล่ะก็ฉันไม่สนว่าจะมีรวยหรือไม่รวย ฉันจะตบไม่เลือกหน้าเลย”

เซียวชูหรันก็พยักหน้าอย่างทำอะไรไม่ถูก หลังจากที่ขอโทษไปอีกครั้ง ก็รีบออกมาจากคลินิกเสริมความงามนั้น

พอออกมาเซียวชูหรันก็เริ่มครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้

ตามนิสัยของแม่ ถ้าแม่พูดอย่างนั้นกับเจ๊หวางจริง ก็แสดงว่าแม่มีเงินจริงๆ ไม่งั้นล่ะก็แม่จะไม่พูดแบบนั้นแน่

แต่ตนเองก็จำได้ ว่าเมื่อวานตอนสาย แม่ยังมาขอเงินกับพ่ออยู่เลย ว่าจะไปคลินิกเสริมความงาม จากนั้นก็ไปขอกับเย่เฉิน แต่เย่เฉินไม่ให้