กู้ไป๋อีกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ไม่ใช่เรื่องที่พวกเจ้าต้องยุ่ง!”

คนของเกาะไห่เทียนเหล่านี้รู้สึกว่าท่านหัวหน้าตำหนักเป่ยหานเป็นคนที่ไร้เหตุผลมาก เป็นถึงกองกำลังระดับสาม มีเหตุผลสักหน่อยจะได้หรือไม่!

และสิ่งที่ยิ่งทำให้พวกเขาโกรธมากก็คือ ไม่ว่าสาวน้อยผู้นี้จะก่อความวุ่นวายอย่างไร้เหตุผลเช่นไร คนของตำหนักเป่ยหานหรือแม้แต่คนอื่นทุกคนล้วนแต่ยอมรับได้

เพื่อไม่ให้การลงชื่อสมัครล่าช้าไปมากกว่านี้ พวกเขาจำต้องชดใช้ไปด้วยความกล้ำกลืน

เพียงแต่ว่าเพิ่งจะเข้าเมืองมาแค่ครู่เดียว นึกไม่ถึงเลยว่าจะต้องสูญเสียซ้ำสองอย่างในคราวเดียวเช่นนี้

ไห่ฝานจ้องเขม็งไปที่มู่เฉียนซี ก่อนจะพาคนของเขาไปลงชื่อสมัคร

มู่เฉียนซีเดินไปข้างกายกู้ไป๋อีและกล่าวว่า “เสี่ยวไป๋ เกาะไห่เทียนคือที่ใดเหรอ?”

กู้ไป๋อีตอบ “เป็นเกาะเล็ก ๆ ที่ไม่ได้อยู่ในดินแดนสี่ทิศ แต่บางตระกูลได้แอบซ่อนตัวตั้งรกรากอยู่ที่นั่น ยอดฝีมือบางกองกำลังไม่ได้อ่อนด้อยไปกว่ากองกำลังระดับสามเลย เพราะน้อยนักที่พวกเขาจะปรากฏตัวออกมา ฉะนั้นคนส่วนมากจึงไม่รู้ว่าพวกเขาอยู่ที่ไหน”

มู่เฉียนซีกล่าว “ดูท่าการประลองการปรุงยาครั้งใหญ่นี้จะมียอดฝีมือที่แอบซ่อนตัวจากโลกภายนอกปรากฏออกมาไม่น้อยเลย”

กู้ไป๋อีกล่าว “นับวันเมืองเป่ยหานยิ่งวุ่นวายมากขึ้นเรื่อย ๆ รับประกันได้ยากมากว่าจะมีคนฉวยโอกาสในตอนที่ชุลมุนวุ่นวายหรือไม่ ฉะนั้นเจ้าต้องระวังตัวให้มากนะ”

มู่เฉียนซีพยักหน้าพลางกล่าว “มีเจ้ากับชิงอิ่งอยู่ด้วย ขอเพียงแค่เจ้าพิฆาตวิญญาณนั่นไม่ออกมาก่อเรื่อง มันก็คงจะไม่มีอะไร เจ้าไม่ต้องกังวลมากเกินไปหรอก”

จากนั้นมู่เฉียนซีก็ไปที่ตลาดการค้า และแน่นอนว่าในตลาดนี้มีคนพลุกพล่านจำนวนมากจริง ๆ ดูครึกครื้นเป็นอย่างยิ่ง

นักปรุงยาจำนวนมากลงชื่อสมัครการประลองเสร็จก็มาเลือกดูสินค้าที่ตลาดแห่งนี้

มู่เฉียนซีเองก็เตรียมพร้อมที่จะซื้อของมากมายแล้ว เนื่องจากที่นี่มีสมุนไพรวิญญาณจำนวนมากที่ต้องตานาง

นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ไม่นานนักก็สะดุดตากับของที่ตนเองอยากได้เข้า

มู่เฉียนซีกล่าว “อันนี้ อันนี้ แล้วก็อันนี้ด้วย ข้าเอาหมดเลย เจ้าต้องการยาลูกกลอนใด”

“ยาลูกกลอนทะลวงพลังขั้นมหาจักรพรรดิขั้นสวรรค์ แต่มีเงื่อนไขว่าต้องเป็นยาลูกกลอนที่มีคุณภาพสูงเท่านั้น”

ยาลูกกลอนที่สามารถเลื่อนขั้นพลังวิญญาณได้ ยิ่งคุณภาพสูงมากเท่าไรก็ยิ่งมีโอกาสทะลวงมากเท่านั้น

มู่เฉียนซีเอายาลูกกลอนขวดหนึ่งออกมาพลางกล่าวว่า “ขวดนี้ เจ้าเอาไปดูสิว่าเจ้าพอใจหรือไม่?”

กลิ่นหอมอันเข้มข้นนั้นของยาทำให้เขาตกตะลึงขึ้น ยาลูกกลอนนี่ยิ่งกว่าคุณภาพสูงเสียอีก

“พอใจ! พอใจแน่นอน! สมุนไพรวิญญาณทั้งหมดนี่เป็นของเจ้าแล้ว”

จากนั้นมู่เฉียนซีก็เดินไปทีละร้าน ขอแค่เป็นสมุนไพรที่นางชอบ นางก็กวาดซื้อไปจนเกลี้ยง และการกระทำนี้ก็ได้ดึงดูดสายตาของผู้คนเป็นจำนวนมาก

พวกเขาแต่ละคนต่างก็หวังว่ามู่เฉียนซีจะชื่นชอบสมุนไพรวิญญาณของพวกเขา และแลกกับของที่พวกเขาอยากได้

คนส่วนใหญ่มาจากที่อื่น เมื่อเห็นความสุรุ่ยสุร่ายเช่นนี้ของมู่เฉียนซีแล้ว พวกเขาก็ตกตะลึงจนตาค้างไป

พวกเขาอยากจะพูดมากว่า ‘แม่นางเอ้ย! ยาลูกกลอนบ้านเจ้าได้มาโดยไม่ต้องเสียเงินทองเลยหรือไง’

“แม่นางผู้นั้นเป็นใครกัน เอายาลูกกลอนแลกสมุนไพรวิญญาณเช่นนี้ ช่างโอ้อวดเกินไปแล้วกระมัง คนอื่นเขาแลกทีละต้น แต่นางแลกเป็นตะกร้า ๆ!”

“จริงรึ! แต่แปลกนะ นางแลกไปมากมายเช่นนั้นแล้วยังมียาลูกกลอนเหลืออยู่อีกเหรอ?”

“……”

“หากพวกเจ้ารู้ว่าแม่นางผู้นั้นเป็นใคร พวกเจ้าจะไม่แปลกใจเลยล่ะ” และแน่นอนว่ามีคนที่รู้จักมู่เฉียนซี

“แม่นางผู้นั้นเป็นใคร?”

“นางคือประมุขน้อยแห่งตำหนักเป่ยหาน อัจฉริยะนักปรุงยาอันดับหนึ่งแห่งแดนตะวันออก แถมยังเป็นหนึ่งในเจ้าของของหอหมอปีศาจอีกด้วย ยาลูกกลอนของหอหมอปีศาจพวกเจ้าก็น่าจะรู้ดี หากพวกเขาขาดแคลนยาลูกกลอนมันก็คงจะแปลกแล้วล่ะ”

“ที่แท้หอหมอปีศาจนั่นนี่เอง การที่นางจะเหมาสมุนไพรวิญญาณไปมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก”

“ยาลูกกลอนที่หอหมอปีศาจขายล้วนแต่เป็นยาวิเศษคุณภาพดีทั้งนั้น พวกเราก็เคยเห็นกันมาแล้ว แถมนักปรุงยาของพวกเขาก็ไม่เหมือนมนุษย์เอาซะเลย ทั้งหลอมทั้งปรุงล้วนแต่รวดเร็วมากเลยล่ะ”

มีแขกอย่างมู่เฉียนซีเช่นนี้ คนที่ขายสมุนไพรวิญญาณล้วนแต่ดีใจเป็นอย่างยิ่ง

แลกอย่างง่ายดาย แถมยังเป็นยาลูกกลอนคุณภาพสูงอีกด้วย

ทว่า เหล่าบรรดานักปรุงยาที่ต้องการแลกสมุนไพรวิญญาณที่จ้องมองมู่เฉียนซีอยู่ด้านหลังตอนนี้ต่างก็สีหน้าดำคล้ำขึ้นแล้ว พวกเขาทำได้เพียงแค่เลือกสมุนไพรวิญญาณที่มู่เฉียนซีเหลือเอาไว้แล้วเท่านั้น

พวกเขาจนปัญญากับมู่เฉียนซีจริง ๆ ในด้านของสายตานั้น พวกเขาไม่ได้สายตาเฉียบแหลมเหมือนอย่างมู่เฉียนซี

ด้านกำลังทรัพย์ ยิ่งไม่ต้องเปรียบเทียบเลย พวกเขาทำได้แค่เลือกอย่างระมัดระวังเท่านั้น จะลงมือหยิบเร็วเหมือนมู่เฉียนซีได้อย่างไรกันล่ะ

“ท่านอาจารย์ สาวน้อยนั่นน่าเกลียดเกินไปแล้วกระมัง! สมุนไพรวิญญาณที่ข้าต้องตา นางก็กวาดแลกไปจนเกลี้ยงแล้ว ข้าจะเข้าไปคุยกับนาง อวดดีเกินไปแล้ว” ชายหนุ่มหน้ากลมผู้หนึ่งจ้องมองไปที่มู่เฉียนซีด้วยความไม่พอใจ

“ศิษย์พี่ ช่างเถอะ! ศิษย์พี่ไม่รู้เหรอว่าตอนนี้พวกคนของเกาะไห่เทียนกลุ้มใจมากเพียงใด น้องสาวผู้นี้เราอย่าได้ไปยั่วยุนางเลยนะ อย่าได้ก่อเรื่องวุ่นวายเลย” หญิงสาวรูปร่างเพรียวบางผู้หนึ่งกล่าว

มู่เฉียนซีเก็บเกี่ยวมาได้ไม่เลวเลย แต่สิ่งเหล่านี้กลับไม่ใช่สิ่งที่นางอยากได้จริง ๆ

แต่นางก็ยังคงตั้งใจหาอย่างละเอียด สวรรค์ย่อมเมตตาคนที่มีความตั้งใจ ครั้นแล้วมู่เฉียนซีก็ได้เห็นบางอย่างบนแผงนั้น ดวงตาของนางแผดเผาขึ้นทันที

โสมหิมะวิญญาณ สมุนไพรวิญญาณขั้นปฐพี เป็นหนึ่งในสมุนไพรวิญญาณขั้นปฐพีที่นางขาดอยู่

มู่เฉียนซีกล่าวถามว่า “ท่านลุง ท่านลุงต้องการแลกกับยาลูกกลอนชนิดใด?”

ท่านลุงผู้นั้นมองมู่เฉียนซีและกล่าวว่า “ข้าอยากแลกกับชีวิต ชีวิตที่สดใส เจ้าแลกให้ข้าได้เหรือไม่?”

“ชีวิต!”

ท่านลุงตรงหน้าท่านนี้อายุขัยจะสิ้นสุดแล้ว แต่แววตานั้นกลับดื้อรั้นอย่างไม่ยอมแพ้

ต่อชีวิต นางทำได้!

“เจ้าอยากมีชีวิตต่ออีกกี่ปีล่ะ ข้ามียาฟื้นฟูความแห้งเหี่ยว โสมหิมะวิญญาณนี่ ข้าเอาแล้ว”

ไห่ฝานมาแล้ว หลังจากที่รีบลงชื่อสมัครเสร็จ เขาก็รีบมาที่ตลาดการค้าสมุนไพรวิญญาณแห่งนี้

ทันทีที่มาถึงแวบแรกเขาก็เห็นมู่เฉียนซีทันที ช่วยไม่ได้ เขาจดจำมู่เฉียนซีได้เป็นอย่างดี ต่อให้ผู้คนพลุกพล่านมากมายเช่นนี้ เขาก็เห็นมู่เฉียนซีเป็นคนแรก

เมื่อเห็นมู่เฉียนซี เขาก็รีบพุ่งเข้ามาทันที เห็นนางต้องการแลกสมุนไพรวิญญาณเช่นนี้แล้ว เขาจะยอมให้นางสมปรารถนาได้อย่างไรกันเล่า

อย่าคิดว่ามีท่านหัวหน้าตำหนักเป่ยหานคอยหนุนหลังอยู่แล้วจะเจ๋ง เขาจะต้องสั่งสอนหญิงสาวผู้นี้สักครั้ง

ทุกคนได้ยินเช่นนี้ก็ตกตะลึงขึ้นแล้ว “ยาฟื้นฟูความแห้งเหี่ยว นี่เป็นยาศักดิ์สิทธิ์ต่อชีวิตให้ยืนยาวได้เชียวนะ แต่สูตรยานี้มันหายสาบสูญไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอ เหตุใดถึงมีคนครอบครองยานี้ได้”

ไห่ฝานกล่าวอย่างโอ้อวดว่า “พวกบ้านนอกอย่างพวกเจ้าจะไปรู้อะไร มรดกที่ตกทอดมาตั้งแต่โบราณของตระกูลไห่ของข้า พวกเจ้าไม่มีทางจินตนาการถึงหรอก มันก็แค่สูตรยาฟื้นฟูความแห้งเหี่ยวเท่านั้น”

และกลับนึกไม่ถึงเลยว่าท่านลุงผู้นี้จะกล่าวออกมาว่า “ยาฟื้นฟูความแห้งเหี่ยว ข้าไม่แลก!”

ไห่ฝานแทบไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง “นี่เจ้าว่าอะไรนะ เจ้าเฒ่า ที่อื่นไม่มียาลูกกลอนที่ดีเช่นนี้แล้วนะ หากเจ้าไม่ยอมแลก ชาตินี้ทั้งชาติเจ้าก็จะไม่มีโอกาสแล้ว! รอความตายได้เลย”

และในตอนนี้มู่เฉียนซีก็เอ่ยปากกล่าวว่า “ท่านลุงบอกว่าไม่แลกมันก็ถูกต้องแล้ว ยาฟื้นฟูความแห้งเหี่ยวมันก็แค่ช่วยให้ภายนอกดูอ่อนวัยลงก็เท่านั้น แต่ไม่สามารถซ่อมแซมร่างกายภายในได้ รักษาให้ถึงแก่นแท้ของร่างกายไม่ได้”

ไห่ฝานกล่าว “เจ้าเฒ่านี่ก็อยู่ได้อีกไม่นานแล้ว อยากรักษาแก่นแท้ของร่างกาย ชิ! นั่นมันต้านสวรรค์ชัด ๆ ไม่มีใครทำได้หรอก”

ไห่ฝานกล่าวต่อว่า “ข้าจะให้ยาฟื้นฟูความแห้งเหี่ยวแก่เจ้าสามเม็ด แลกกับเจ้ายกโสมหิมะวิญญาณนี้ให้ข้า นี่เป็นโอกาสสุดท้ายที่ข้าจะมอบให้เจ้าแล้ว”

ท่านลุงผู้นี้ยังคงไม่สนใจยาฟื้นฟูความแห้งเหี่ยวของเขาแม้แต่น้อย

มู่เฉียนซีเอ่ยปากกล่าวว่า “ท่านลุง ข้าทำได้ แต่ไม่รู้ว่าท่านลุงจะยอมให้ข้าลองดูหรือไม่?”

.