ตอนที่ 1154 ความเปลี่ยนแปลงในเมืองเซิ่งหลิง

คุณหนูสี่ สตรีเปื้อนเลือด

หลัง​ออก​ไป​จาก​ห้อง​ลับ​ของ​จ้าว​วิหาร​เมฆา​โบยบิน​ ​ฉิน​อวี​้​โม่​ก็​ตรง​ไปหา​อวิ​๋น​หลิง​และ​คนอื่น​ ​ๆ​ ​เพื่อ​แจ้ง​เกี่ยวกับ​แผนการ​ที่จะ​เดินทาง​กลับ

“​เจ้า​จะ​ไป​แล้ว​จริง​ ​ๆ​ ​รึ​ ​?​”

เฟย​โม่​มีสี​หน้าที่​ไม่เต็มใจ​อย่างชัดเจน​ ​ใน​ระหว่าง​ที่อยู่​ที่นี่​ ​ฉิน​อวี​้​โม่​พัก​อยู่​กับ​นาง​เป็นส่วนใหญ่​และ​ทั้งสอง​กลายเป็น​สหาย​ที่​สนิทสนม​กัน​ซึ่ง​มี​ความสัมพันธ์​อัน​ดี​ต่อกัน​อย่างมาก

เมื่อ​ได้ยิน​ว่า​ฉิน​อวี​้​โม่​กำลังจะ​เดินทาง​กลับ​ไป​ที่​เมือง​เซิ​่ง​หลิง​ ​นาง​ก็​รู้สึก​เศร้าใจ​ขึ้น​มาท​ว่า​ก็​เข้าใจ​ดี​ว่า​ไม่มีทาง​ที่​ตนเอง​จะ​เหนี่ยวรั้ง​ฉิน​อวี​้​โม่​ไว้​ได้

ฉิน​อวี​้​โม่​มิใช่​คน​ของ​วิหาร​เมฆา​โบยบิน​ตั้งแต่แรก​และ​เดินทาง​มาที​่​นี่​เพื่อ​จุดประสงค์​สำคัญ​บางอย่าง​ ​ในเมื่อ​จัดการ​ธุระ​เหล่านั้น​เรียบร้อย​แล้ว​และ​อาศัย​อยู่​ที่นี่​เป็นเวลา​นาน​ ​มัน​ก็​เป็นธรรมดา​ที่นาง​จะ​ต้อง​เดินทาง​กลับ​เสียที

“​เมื่อถึง​เวลา​ ​เรา​จะ​ได้​พบกัน​อีกครั้ง​ใน​โลก​ภายนอก​”

ฉิน​อวี​้​โม่​จับมือ​เฟย​โม่​และ​นาง​เอง​ก็​รู้สึก​ไม่เต็มใจ​เช่นกัน​ ​ตลอด​ระยะเวลา​เกือบ​หนึ่ง​ปี​ที่ผ่านมา​ ​นาง​ก็​ทำความรู้จัก​และ​สนิทสนม​กับ​คนใน​วิหาร​เป็น​อย่างดี​ ​สมาชิก​ส่วนใหญ่​ของ​วิหาร​เมฆา​โบยบิน​เป็น​คน​เปิดเผย​ตรงไปตรงมา​ ​เว้น​เพียงแต่​การแสดง​ท่าที​เป็นปฏิปักษ์​ต่อนาง​ใน​ช่วงแรก​ ​หลังจากนั้น​พวกเขา​เหล่านั้น​ก็​ค่อย​ ​ๆ​ ​เป็นมิตร​มากขึ้น​และ​กลายเป็น​สหาย​ที่​ดี​ต่อกัน​ในที่สุด​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ ​ช่วงเวลา​หก​เดือน​ที่​กล่าวว่า​เป็นการ​ชี้แนะ​ให้​กับ​คน​เหล่านั้น​ ​อันที่จริง​มัน​ก็​ถือเป็น​การ​ฝึกปรือ​ฝีมือ​ของ​ฉิน​อวี​้​โม่​เพียง​ฝ่าย​เดียว​มากกว่า

คน​เหล่านั้น​ต้อง​เพลี่ยงพล้ำ​ซ้ำแล้วซ้ำเล่า​เมื่อ​ดวล​ฝีมือ​กับ​นาง​ ​อย่างไรก็ตาม​ ​พวกเขา​ก็​ไม่​สิ้นหวัง​หรือ​โกรธเคือง​ใด​ ​ๆ​ ​ในทางกลับกัน​ ​มัน​ทำให้​ความสัมพันธ์​ระหว่าง​ทั้งสองฝ่าย​สนิทสนม​กัน​ยิ่งกว่า​เดิม

กล่าว​ได้​ว่า​ตลอด​ช่วง​เกือบ​หนึ่ง​ปี​ที่พัก​อยู่​ใน​วิหาร​เมฆา​โบยบิน​ถือเป็น​ช่วง​การพักผ่อน​ที่​หา​ได้​ยาก​สำหรับ​ฉิน​อวี​้​โม่​ ​นาง​ได้​มีโอกาส​ปล่อยวาง​จาก​แรงกดดัน​ทั้งหมด​และ​ใช้ชีวิต​อย่าง​ผ่อนคลาย​ซึ่ง​เป็นช่วง​เวลา​ที่​สบายใจ​อย่างยิ่ง

“​อวี​้​โม่​…​จะ​ไป​แล้ว​จริง​ ​ๆ​ ​รึ​ ​?​”

เมื่อ​เฟย​ซี​และ​คนอื่น​ ​ๆ​ ​ทราบ​ข่าว​ว่า​ฉิน​อวี​้​โม่​กำลังจะ​เดินทาง​กลับ​ ​พวกเขา​ต่าง​ก็​เศร้าใจ​เล็กน้อย​เช่นกัน​ ​ใน​ช่วง​ที่ผ่านมา​ซึ่ง​ได้​อยู่​ด้วยกัน​ ​พวกเขา​ก็​สนิทสนม​กับ​นาง​มากขึ้น​เรื่อย​ ​ๆ​ ​และ​รู้สึก​ชื่นชม​นาง​ยิ่งกว่า​เดิม​ ​แรกเริ่มเดิมที​ ​แม้ว่า​พวกเขา​จะ​ไม่ชอบหน้า​จอม​ยุทธ์​จาก​โลก​ภายนอก​ผู้​นี้​อย่างมาก​ ​ทว่า​ตอนนี้​อวิ​๋น​ซาน​ผู้​ซึ่ง​มี​การพัฒนา​มาก​ที่สุด​ก็​กล่าว​ออก​ไป​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​ไม่เต็มใจ

“​ใช่​ ​พวก​เจ้า​ทุกคน​หมั่น​ฝึกฝน​ต่อไป​ล่ะ​ ​หวัง​ว่า​เมื่อ​พบกัน​ครั้งหน้า​ ​พลัง​ของ​ทุกคน​จะ​แกร่งกล้า​ยิ่งกว่า​ตอนนี้​ ​อย่างน้อยที่สุด​ก็​ต้อง​มาก​พอที่​จะ​ต่อกร​กับ​ข้า​ได้​ใน​ระดับ​หนึ่ง​”

ฉิน​อวี​้​โม่​กล่าว​กับ​ทุกคน​พร้อม​รอยยิ้ม​ ​และ​เนื่องจาก​ไม่มี​สัมภาระ​หรือ​สิ่งของ​ใด​ที่​ต้อง​เก็บ​กลับ​ไป​ ​นาง​จึง​ตาม​อวิ​๋น​หลิง​และ​เฟย​โม่​ออก​ไป​ยัง​ค่าย​กล​เคลื่อนย้าย​ทันที

ด้านนอก​ค่าย​กล​เคลื่อนย้าย​ของ​วิหาร​เมฆา​โบยบิน​ก็​ยังคง​อยู่​ภายใต้​การคุ​้​มกั​นข​อง​ผู้คุม​กฎ​ทั้งสอง​เช่น​เดิม

ฉิน​อวี​้​โม่​ก็​เพียง​กล่าว​ร่ำลา​พวกเขา​ทุกคน​ก่อนที่จะ​ก้าว​เข้าไป​ใน​คฤหาสน์​เฟิง​หัว​และ​มุ่งหน้า​กลับ​ไป​ที่​เมือง​เซิ​่ง​หลิง​อย่างรวดเร็ว

ตลอด​ช่วง​เกือบ​หนึ่ง​ปี​ที่ผ่านมา​ ​เมือง​เซิ​่ง​หลิง​ได้​มี​การเปลี่ยนแปลง​เกิดขึ้น​มากมาย

เมือง​เซิ​่ง​หลิง​ที่​เคย​มี​ความขัดแย้ง​และ​การต่อสู้​ทั้ง​เล็ก​ใหญ่​เกิดขึ้น​อย่าง​ไม่หยุดหย่อน​ ​ทว่า​ใน​ตอนนี้​มัน​กลับกลาย​เป็น​เมือง​แห่ง​ความปรองดอง​ ​ขุม​กำลัง​จำนวนมาก​เลือก​ที่จะ​ผนึก​กำลัง​ร่วมกัน​เพื่อ​เตรียม​ประจันหน้า​กับ​ตระกูล​หมิง

ใน​ช่วง​ที่ผ่านมา​นี้​ ​ตระกูล​ใหญ่​หลาย​แห่ง​ก็​มัก​ส่ง​ศิษย์​ฝีมือดี​ออก​ไป​สั่งสม​ประสบการณ์​ร่วมกัน​และ​ความแข็ง​แกร่ง​โดยรวม​ของ​พวกเขา​ก็​พัฒนา​ขึ้น​กว่า​ก่อน​มาก​นัก​ ​ส่วน​ตระกูล​เยี​่ย​แห่ง​เมือง​เซิ​่ง​หลิง​ที่อยู่​ภายใต้​การปกครอง​ของ​ฉิน​เฟิง​ ​หรือ​ ​‘​เยี​่ย​เฟิง​’​ ​ก็​มี​การพัฒนา​ขึ้น​อย่างมาก​เช่นกัน​ ​ใน​ปัจจุบันนี้​ ​ตระกูล​เยี​่ย​ที่​เคย​อ่อนแอ​ที่สุด​ใน​ทั้ง​สาม​ตระกูล​ใหญ่​ก็​แข็งแกร่ง​ขึ้น​มาก​และ​มีพลัง​อำนาจ​ใน​ระดับ​เดียว​กับ​อีก​สอง​ตระกูล​แล้ว​ ​นอกจากนี้​ ​ความแข็ง​แกร่ง​ของ​เยี​่ย​เฟิง​เอง​ก็​เพียงพอ​ที่จะ​รับมือ​กับ​จอม​ยุทธ์​ที่​ทรงพลัง​ที่สุด​ของ​ทั้งสอง​ตระกูล​ใหญ่​ได้​อย่าง​ไม่​เป็นปัญหา

ตระกูล​เล็ก​อื่น​ ​ๆ​ ​ก็​มี​ความสัมพันธ์​ที่​ปรองดอง​เช่นกัน​และ​ไม่มี​ความขัดแย้ง​ใด​มา​เป็นเวลา​นาน

การ​ที่​ฉิน​อวี​้​โม่​กลับมา​ถึง​จวน​ตระกูล​เยี​่ย​ได้​สร้าง​ความประหลาดใจ​ระคน​ตื่นเต้น​ให้​กับ​ฉิน​เฟิง​และ​คนอื่น​ ​ๆ​ ​อย่างมาก​ ​เมื่อ​เซี​่ย​โป​๋ย​วี​๋​และ​หู​อี้​ทราบ​ข่าว​ ​พวกเขา​ก็​รีบ​เดินทาง​มาที​่​จวน​ตระกูล​เยี​่ย​ทันที

“​เสี่ยว​อวี​้​โม่​ ​จ้าว​วิหาร​เมฆา​โบยบิน​ว่า​อย่างไรบ้าง​รึ​ ​?​”

ทั้งสอง​ยัง​ไม่​รับรู้​ถึง​ความเปลี่ยนแปลง​ใน​ร่างกาย​ของ​ฉิน​อวี​้​โม่​และ​เอ่ย​ถาม​เกี่ยวกับ​การตัดสินใจ​ของ​วิหาร​เมฆา​โบยบิน​ซึ่ง​เป็น​สิ่ง​ที่​พวกเขา​กังวล​มาก​ที่สุด

แม้วิ​หาร​เมฆา​โบยบิน​จะ​ส่ง​คน​มาแจ้ง​ข่าว​ให้​ได้​ทราบ​ก่อนหน้านี้​แล้ว​ ​พวกเขา​ก็​ต้องการ​คำยืนยัน​จาก​ปากของ​ฉิน​อวี​้​โม่

“​ไม่ต้อง​กังวล​เจ้าค่ะ​ ​ตอนนี้​จ้าว​วิหาร​เมฆา​โบยบิน​อยู่​ใน​ช่วง​เก็บตัว​และ​ใกล้​ที่จะ​ทะลวง​พลัง​ได้​เต็มที​ ​เมื่อ​การ​ทะลวง​พลัง​ของ​เขา​สมบูรณ์​ ​เรา​ก็​จะ​เริ่ม​เปิดศึก​กับ​ตระกูล​หมิง​ทันที​ ​ช่วงนี้​ทุกคน​เพียง​ต้องเต​รี​ยม​ความพร้อม​เพื่อ​รอ​ให้​สงคราม​ชี้​ชะตา​มาถึง​”

ฉิน​อวี​้​โม่​ยิ้ม​บาง​ ​ๆ​ ​และ​เล่าเรื่อง​ราว​ใน​วิหาร​เมฆา​โบยบิน​ให้​ทุกคน​ได้​ทราบ

ทุกคน​เข้าใจ​ได้​ทันที​และ​เซี​่ย​โป​๋​อวี​๋​ก็​มอง​ฉิน​อวี​้​โม่​ด้วย​แววตา​สงสัย​ก่อน​เอ่ย​ถาม​ออกมา​ ​“​เสี่ยว​อวี​้​โม่​ ​ตอนนี้​ความแข็ง​แกร่ง​ของ​เจ้า​บรรลุ​ถึง​ระดับ​ใด​แล้ว​รึ​ ​?​”

แม้​จาก​ภายนอก​พลัง​ของ​นาง​จะ​ดู​ไม่​แตกต่าง​ไป​จาก​ขอบเขต​เทพ​ยุทธ์​หนึ่ง​ดารา​ ​แต่​มัน​ก็​ไม่มีทาง​ที่​ฉิน​อวี​้​โม่​จะเข้า​ไป​อยู่​ใน​วิหาร​เมฆา​โบยบิน​นาน​เกือบ​หนึ่ง​ปี​โดยที่​ไม่มี​การ​ทะลวง​พลัง​ ​เขา​เพียง​ไม่ทราบ​ว่า​ตอนนี้​นาง​แข็งแกร่ง​เพียงใด​เท่านั้น

“​ขอบเขต​เทพ​ยุทธ์​หก​ดารา​ขั้นสูงสุด​เจ้าค่ะ​”

ฉิน​อวี​้​โม่​กล่าวตอบ​ขณะ​ปลดปล่อย​พลัง​ของ​ตนเอง​ออก​ไป​อย่างเต็มที่​ซึ่ง​ทำให้​ทุกคน​ตกตะลึง​จน​พูดไม่ออก​ไป​ชั่วขณะ

“​ไม่​นะ​ ​นี่​มัน​พรสวรรค์​อะไร​กัน​…​”

หู​อี้​เป็น​คน​แรก​ที่​เรียก​สติก​ลับ​คืน​มา​และ​กล่าว​ด้วย​น้ำเสียง​สับสน​อย่างที่​สุด​ ​ภายใน​เวลา​เพียง​ไม่​ถึง​หนึ่ง​ปี​ ​พลัง​ใน​ขอบเขต​เทพ​ยุทธ์​หนึ่ง​ดารา​ของ​ฉิน​อวี​้​โม่​ได้​บรรลุ​ไป​สู่ขอบ​เขต​เทพ​ยุทธ์​หก​ดารา​ขั้นสูงสุด​…​ความเร็ว​ใน​การ​ทะลวง​พลัง​นี้​เป็น​ระดับ​ที่​เหนือ​มนุษย์​อย่างแท้จริง

พวกเขา​เคย​มั่นใจ​ว่า​พรสวรรค์​ของ​พวกเขา​ก็​ยอดเยี่ยม​ไม่น้อย​ ​ทว่า​เมื่อ​เทียบ​กับ​ฉิน​อวี​้​โม่​ ​พวกเขา​ก็​มิใช่​บุคคล​ที่​ควร​กล่าวถึง​ด้วยซ้ำ

หลังจาก​พลัง​บรรลุ​เข้าสู่​ขอบเขต​เทพ​ยุทธ์​ ​โดยปกติ​แล้ว​จอม​ยุทธ์​ธรรมดา​ทั่วไป​จะ​ใช้เวลา​อย่างน้อย​สิบ​ปี​ใน​การ​ทะลวง​พลัง​ข้าม​ผ่าน​ขอบเขต​เทพ​ยุทธ์​หนึ่ง​ดารา​ ​แม้แต่​อัจฉริยะ​ที่​มี​ความสามารถ​โดดเด่น​ก็​ต้อง​ใช้เวลา​อย่างน้อย​สอง​ถึง​สาม​ปี​ ​นี่​เป็นครั้งแรก​ที่​พวกเขา​ได้ยิน​เกี่ยวกับ​สิ่ง​ที่​น่าทึ่ง​เช่น​การ​ทะลวง​พลัง​ข้าม​ห้า​ระดับ​ภายใน​เวลา​ไม่​ถึง​หนึ่ง​ปี

“​คิด​ไว้​ไม่มี​ผิด​ ​คลื่นลูกใหม่​ย่อม​ซัด​คลื่น​ลูก​เก่า​ ​พวกเรา​คงจะ​แก่​เกินไป​แล้ว​จริง​ ​ๆ​”

*​ ​后​浪​推​前​浪​ ​,​ ​长​江​后​浪​推​前​浪​ ​คลื่นลูกใหม่​ซัด​คลื่น​ลูก​เก่า​ ​ความหมาย​คือ​ ​คนรุ่นใหม่​ที่​ความสามารถ​มากกว่า​และ​เข้ามา​แทนที่​คน​รุ่นเก่า​ที่​แก่​ลง

แม้​เซี​่ย​โป​๋​อวี​๋​จะ​ตกตะลึง​มาก​เช่นกัน​ ​มัน​ก็​มิใช่​สิ่ง​ที่​เกิน​กว่า​จะเข้า​ใจ​ได้​ ​เขา​เพียง​สบตา​ฉิน​เฟิ​งอย​่าง​เงียบ​ ​ๆ​ ​พลาง​ถอนหายใจ​ออกมา

ไม่ว่า​จะ​เป็น​ฉิน​เฟิง​หรือ​ฉิน​อวี​้​โม่​ก็​ล้วนแต่​เป็น​อัจฉริยะ​ที่อยู่​ใน​ระดับ​ที่​น่าอัศจรรย์​อย่างมาก​และ​เหนือ​ชั้น​เกิน​กว่า​ที่​คน​รุ่นเก่า​เช่น​พวกเขา​จะ​เทียบ​ด้วย​ได้​ ​อนาคต​ของ​คน​ทั้งสอง​ยังคง​ยาว​ไกล​ไร้​ที่​สิ้นสุด​ ​ใน​อีกไม่นาน​ ​โลก​วิญญาณ​ศักดิ์สิทธิ์​แห่ง​นี้​ก็​คงจะ​ไม่มี​พื้นที่​รองรับ​ความแข็ง​แกร่ง​ของ​พวกเขา​ได้​อีกต่อไป

หลังจาก​พูดคุย​กัน​พักใหญ่​ ​เซี​่ย​โป​๋​อวี​๋​และ​หู​อี้​ก็​ขอตัว​กลับ​ไป​ยัง​ตระกูล​ของ​พวก​ตน​ ​เวลานี้​จึง​หลงเหลือ​เพียง​ฉิน​อวี​้​โม่​ ​ฉิน​เฟิง​และ​บรรดา​สมาชิก​ของ​ตระกูล​เยี​่ย​เท่านั้น

“​การ​รวบรวม​วัตถุดิบ​สำหรับ​หลอม​โอสถ​นิพพาน​เป็น​อย่างไรบ้าง​เจ้า​คะ​ ​?​”

ฉิน​อวี​้​โม่​เอ่ย​ถาม​ด้วย​ความ​เป็นกังวล​ ​วัตถุดิบ​สำหรับ​หลอม​โอสถ​นิพพาน​มิใช่​สิ่ง​ที่จะ​ค้นหา​ได้​ง่าย​ ​ๆ​ ​ก่อนหน้านี้​ ​นาง​เคย​รวบรวม​วัตถุดิบ​สำหรับ​หลอม​โอสถ​นิพพาน​ได้​สำเร็จ​ครั้งหนึ่ง​ ​อย่างไรก็ตาม​ ​โอสถ​เหล่านั้น​ก็​ถูก​ใช้​ไป​จน​หมด​แล้ว​และ​ไม่มี​โอกาส​รวบรวม​วัตถุดิบ​หายาก​เหล่านั้น​ได้​อย่างครบถ้วน​อีก

หาก​ต้องการ​ให้​เยี​่ย​ชาง​ไห่​ฟื้น​คืน​เป็นปกติ​ ​พวก​นาง​จะ​ต้อง​รวบรวม​วัตถุดิบ​เหล่านั้น​ให้​สำเร็จ​และ​หลอม​โอสถ​นิพพาน​ขึ้น​มา​ ​ด้วย​เวลา​ที่ผ่านมา​เกือบ​หนึ่ง​ปี​เต็ม​ ​ไม่​อาจ​ทราบ​ได้​เลย​ว่า​กระบวนการ​รวบรวม​วัตถุดิบ​ดำเนิน​ไป​ถึง​ไหน

“​พวกเรา​รวบรวม​วัตถุดิบ​ได้​เกือบ​ครบ​แล้ว​ ​ทว่า​ยัง​หา​คน​หลอม​โอสถ​นิพพาน​ไม่ได้​ ​ก่อนหน้านี้​ข้า​ส่ง​คน​ออก​ไป​สืบ​ข่าว​ดูแล​้ว​และ​ไม่มี​ผู้ใด​ใน​ตระกูล​ใหญ่​ ​ๆ​ ​ของ​เมือง​เซิ​่ง​หลิง​ที่​มีฝีมือ​มาก​พอ​จะ​หลอม​โอสถ​นิพพาน​ขึ้น​มา​ได้​”

เยี​่ย​หลิง​ซีก​ล่า​วอ​ย่าง​จนปัญญา​ ​ตอนนี้​พวก​นาง​ตามหา​และ​รวบรวม​วัตถุดิบ​สำหรับ​หลอม​โอสถ​ดังกล่าว​ได้​เกือบ​ครบ​แล้ว​และ​ยัง​ขาด​สมุนไพร​อีก​เพียง​สอง​ชนิด​เท่านั้น​ ​ทว่า​พวก​นาง​ก็ได้​ส่ง​คน​ไป​เก็บ​มัน​มา​แล้ว​เช่นกัน​ ​คาด​ว่า​คน​เหล่านั้น​จะ​กลับมา​ภายใน​เวลา​ไม่​เกิน​ครึ่ง​ปีนี​้

ตอนนี้​สิ่ง​เดียว​ที่​ยัง​ขาด​อยู่​ก็​คือ​ผู้​หลอม​โอสถ​มาก​ฝีมือ​ที่สามา​รถ​หลอม​โอสถ​นิพพาน​ขึ้น​มา​ได้

“​ข้า​จดจำ​ได้​ว่า​พี่ชาย​ของ​อวี​้​โม่​—​ฉิน​อี้​เฟย​เคย​หลอม​โอสถ​นิพพาน​ได้​สำเร็จ​มิใช่​รึ​ ​?​”

ฉิน​เฟิง​นึกถึง​ฉิน​อี้​เฟย​ที่​เคย​หลอม​โอสถ​ดังกล่าว​ได้​สำเร็จ​และ​กล่าว​ต่อ​ ​“​ถ้าอย่างนั้น​ข้า​จะ​เดินทาง​ไปหา​พี่ชาย​ของ​เจ้า​เอง​และ​เชิญ​เขา​มาที​่​นี่​”

“​ไม่ต้อง​หรอก​เจ้าค่ะ​ ​ข้า​จะ​ไป​เอง​”

ฉิน​อวี​้​โม่​ส่าย​ศีรษะ​เบา​ ​ๆ​ ​และ​เสนอตัว​ออก​ไป​ ​นาง​ออกจาก​ดินแดน​มหาเทพ​เพื่อ​เข้าสู่​โลก​วิญญาณ​ศักดิ์สิทธิ์​มานา​นพ​อสม​ควร​แล้ว​และ​ฉิน​อี้​เฟ​ยอาจ​ไม่ได้​อยู่​ใน​นิกาย​กระบี่​สายฟ้า​อีกต่อไป​ ​เพราะ​เหตุ​นั้น​ ​การ​ที่นาง​เดินทาง​ไป​ที่ดิน​แดน​มหาเทพ​เพื่อ​ตามหา​ฉิน​อี้​เฟ​ยด​้วย​ตนเอง​จะ​รวดเร็ว​กว่า​มาก

“​เอาล่ะ​ ​ตกลง​ตามนั้น​”

ฉิน​เฟิง​พยัก​ศีรษะ​และ​ไม่​ขัดขวาง​แต่อย่างใด

หลังจาก​เตรียม​ความพร้อม​เล็กน้อย​ ​ฉิน​อวี​้​โม่​ก็​วางแผน​ที่จะ​เดินทาง​ไป​ยัง​ดินแดน​มหาเทพ​โดยเร็ว​ที่สุด