เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1749

ความอาฆาตรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ลู่ฝานกำหมัดแน่น

กัดฟันมองธิดาเทพแห่งไฟ ตอนนี้ลู่ฝานทำได้แค่เดิมพันดูสักครั้ง

“ท่านธิดาเทพ วิชาของฉันเป็นวิชาที่ทำลายอนาคตตัวเอง เมื่อฝึกแล้วต้องทิ้งวิถีทั้งหมดก่อนหน้านี้ จากนั้นวิทยายุทธจะหยุดอยู่ที่เดิม ไม่สามารถก้าวหน้าได้อีก!”

ลู่ฝานกัดฟันพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำ

เขาไม่เชื่อหรอกว่าคนที่แสวงหาพลังขั้นสุดขนาดนี้จะยอมฝึกวิชาที่ทำลายอนาคต

เมื่อธิดาเทพแห่งไฟได้ยินก็ลุกขึ้นพูดว่า “หา วิชานี้มีฤทธิ์ร้ายแรงขนาดนี้เลยเหรอ”

ลู่ฝานมองออกได้ว่าธิดาเทพแห่งไฟไม่ค่อยเชื่อ

สูดหายใจลึก ลู่ฝานพูดเสียงดังว่า “ถ้าท่านธิดาเทพไม่เชื่อ ก็ลองดูดีๆ ว่าเต๋าอันยิ่งใหญ่แห่งฟ้าดินจงใจออกห่างฉัน ขับไล่ฉัน ท่านธิดาเทพเป็นคนรู้จักกฎธรรมชาติ น่าจะเห็นการเคลื่อนไหวของวิถีแห่งสวรรค์!”

เมื่อพูดเช่นนี้ ลู่ฝานเอาสองมือไพล่หลัง เอาฝ่ามือปิดแหวนเจ้าบ้านบนนิ้วตัวเอง

ธิดาเทพแห่งไฟขมวดคิ้วเบาๆ เดินมาห่างจากลู่ฝานประมาณ 10 ก้าวแล้วเพ่งมองลู่ฝาน

นัยน์ตาธิดาเทพแห่งไฟเป็นประกายลุกโชนทันที

ลู่ฝานสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าการเคลื่อนไหวของวิถีแห่งสวรรค์รอบๆ ลอยอยู่ในพลังฟ้าดิน

ลู่ฝานรีบถอนแหวนเจ้าบ้านของตัวเองออก กำเอาไว้ในมือแน่น

ตอนเขาเอาน้ำยางต้นวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ซ่อมแซมสวรรค์ที่ประเทศตันเซิ่ง หินอู๋หมิงดันพลังวิถีนับไม่ถ้วนออกมา ทำให้เขารักษาชีวิตเอาไว้ได้

หลังจากหินอู๋หมิงเข้ามาในแหวนของเขา ลู่ฝานรู้สึกว่าพลังวิถีแห่งฟ้าดินไม่ยอมเข้าใกล้เขาเท่าไร เว้นเสียแต่ตอนที่เขาจะใช้พลังแห่งวิถี จะมาเองโดยอัตโนมัติ ไม่งั้นวิถีแห่งสวรรค์พวกนั้นจะไม่เข้าใกล้เขาเลย

ตอนนี้เขากำแหวนไว้ในมือ เพราะต้องการทำให้สิ่งนี้แข็งแกร่งขึ้น

เมื่อธิดาเทพแห่งไฟมองดู เป็นไปตามคาด วิถีแห่งสวรรค์รอบๆ ไม่กล้าเข้าใกล้ลู่ฝานเลยสักนิด

เมื่อพลังแห่งวิถีทั้งหมดมาตรงหน้าลู่ฝาน จะพากันอ้อมไปด้านข้างทั้งหมด

ธิดาเทพแห่งไฟไม่เคยเห็นเหตุการณ์ประหลาดแบบนี้มาก่อน

ตอนนี้ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ไม่งั้นคงยากที่จะอธิบายทุกสิ่งทุกอย่าง

เมื่อเห็นประกายนัยน์ตาธิดาเทพแห่งไฟหายไป ลู่ฝานสวมแหวนไว้เหมือนเดิม ถอนหายใจแล้วพูดว่า “นี่คือความทุกข์ของฉัน ฉันไม่สามารถทำความเข้าใจวิถีแห่งสวรรค์ได้อีกแล้ว”

คำพูดนี่คือการหลอกลวงชัดๆ ไม่ยอมเข้าใกล้ ไม่ได้หมายความว่าใช้ไม่ได้ ไม่ได้หมายความว่าทำความเข้าใจไม่ได้

แต่ลู่ฝานเชื่อว่าธิดาเทพแห่งไฟเชื่อแน่นอน เพราะในสายตาของธิดาเทพแห่งไฟ เขาเป็นคนที่เพิ่งเข้าสู่วิถี แต่ไม่สามารถใช้พลังแห่งวิถีได้

ธิดาเทพแห่งไฟไม่มีทางรู้ว่าบนตัวลู่ฝานมีเต๋าอันยิ่งใหญ่ มีพลังเต๋ายิ่งใหญ่ไหลเวียนอยู่ในเลือด แค่เขาจะใช้ สามารถเรียกเต๋าอันยิ่งใหญ่ได้ตลอดเวลา แย่สุดก็เก็บแหวนไว้ก่อนชั่วคราว

สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย ธิดาเทพแห่งไฟพูดว่า “แบบนี้ก็น่าเสียดายน่ะสิ”

ได้ยินคำพูดของธิดาเทพแห่งไฟ ลู่ฝานถึงกับโล่งอก ในที่สุดก็หลอกสำเร็จแล้ว!

ธิดาเทพแห่งไฟเก็บเล็บตัวเองกลับมาแล้วโบกมือใส่ลู่ฝาน “นายไปเถอะ หลังจากถึงประเทศฉิงเทียน ต้องค้นหาข่าวให้เต็มที่ ถ้าได้เบาะแสของลู่ฝานให้รีบกลับมารายงานทันที หรือไม่ก็ส่งคนกลับมารายงาน”

ลู่ฝานขานรับแล้วคำนับ จากนั้นรีบเดินออกไป

ธิดาเทพแห่งไฟมองด้านหลังลู่ฝานแล้วส่ายหน้าพูดว่า “รูปลักษณ์ภายนอกไม่เลว วิทยายุทธก็พอใช้ได้ ทำไมถึงฝึกวิชาโชคร้ายแบบนี้ ทำให้ฉันกลัวจนไม่กล้ากินเขาเลย!”

เธอพูดเน้นเสียงตรงคำว่ากิน

องครักษ์ปีศาจที่อยู่รอบๆ สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย พวกเขาต่างรู้ว่าคำว่า “กิน” หมายถึงอะไร

พวกเขากลับคิดว่ายังดีที่เด็กคนเมื่อกี้ฝึกวิชาโชคร้าย ไม่งั้นคงไม่รู้ว่าวันนี้จะรอดออกไปหรือเปล่า