มู่เฉียนซีไม่อยากจะเสียเวลากับพวกเขา ไม่นานนักเข็มยาหลายเข็มก็พุ่งออกไป

“อาวุธลับ!”

“ระวัง!”

สีหน้าของศิษย์สำนักโอสถฯ เหล่านี้พลันเปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก ร่างสีม่วงเคลื่อนไหวไปพร้อมกันนั้นนางก็โรยผงพิษนานาชนิดออกมา

ค่อก ค่อก ค่อก!

“มีพิษ!”

“ศิษย์พี่ ไม่เป็นไร! ก็แค่พิษของนักปรุงยาชั้นต่ำ มันจะทำอะไรพวกเราได้”

สำหรับพิษของมู่เฉียนซีนั้นพวกเขาดูถูกดูแคลนมันเป็นอย่างมาก แต่เมื่อพวกเขารู้ตัวพลังวิญญาณในร่างกายของพวกเขาก็เป็นศูนย์เสียแล้ว

ตุบ ตุบ ตุบ! กระดูกในร่างของพวกเขาราวกับถูกดึงออกไปก็มิปาน ร่างของพวกเขาล้มละเนละนาดลงไปกับพื้น

“เจ้า…” พวกเขาจ้องมองมู่เฉียนซีด้วยความตกตะลึงพรึงเพริด

ประเมินค่าพิษของนักปรุงยาในดินแดนสี่ทิศต่ำเกินไปแล้ว ตอนนี้ต้องมาชดใช้ด้วยความเจ็บปวดอย่างทรมานแสนสาหัสเช่นนี้

“เป็นไปไม่ได้! นี่นางใช้พิษอะไรกันแน่ นึกไม่ถึงเลยว่ามันจะใช้ได้ผลกับพวกเรา!”

“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน พวกเราเป็นถึงศิษย์แห่งสำนักโอสถฯ จะมาถูกพิษของนักปรุงยาชั้นต่ำนี้เล่นงานได้อย่างไรกัน”

ไม่ว่าพวกเขาจะยอมรับความจริงนี้ไม่ได้เพียงใด แต่สุดท้ายแล้วมันก็คือความจริง!

“ยาแก้พิษ!” พวกเขานึกขึ้นมาได้ว่าได้เตรียมยาแก้พิษติดตัวมาด้วย

ทว่า มือคู่นั้นในตอนนี้กลับไม่มีเรี่ยวแรงเลยแม้แต่น้อย ไม่แม้กระทั่งจะหยิบเอายาแก้พิษออกมาได้

“ยาแก้พิษ รีบเอายาแก้พิษให้พวกข้าเดี๋ยวนี้!”

“ลอบโจมตี ใช้พิษ เจ้าไม่เหมาะสมที่จะเป็นนักปรุงยาเลย ไม่เหมาะที่จะเข้ามาในดินแดนโอสถ”

“……”

มู่เฉียนซีมองพวกเขาและยิ้มพลางกล่าว “ท่านนักปรุงยาแห่งสำนักโอสถฯ ทั้งหลาย! ตอนนี้พวกเจ้าไม่ได้อยู่ในถิ่นของตัวเอง ทางที่ดีควรรู้จักการขอร้องอ้อนวอนข้าสักหน่อยนะ ไม่งั้นหากข้าวางยาพิษฆ่าพวกเจ้า พวกเจ้าก็ต้องกลายเป็นปุ๋ยอยู่ที่นี่นะ”

พวกเขาโกรธจนกัดฟันกรอด ในเวลาเดียวกันนั้นศิษย์คนหนึ่งในกลุ่มก็กล่าวขึ้นว่า “เจ้าจะเอายังไงถึงจะยอมมอบยาแก้พิษให้พวกข้า”

มู่เฉียนซีกล่าว “ยาแก้พิษของข้าแพงมากนะ!”

“พวกข้าซื้อได้ หรือจะแลกกับยาลูกกลอนก็ย่อมได้”

“ข้าไม่ต้องการของเหล่านี้ แต่ข้าต้องการสมุนไพรวิญญาณของพวกเจ้ามากกว่า”

“มะ…ไม่ ไม่ได้!” กว่าพวกเขาจะมีสิทธิ์เข้ามาในดินแดนโอสถนั้นมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แม้ว่าในใจกลางพื้นที่แห่งนี้จะมีสมุนไพรวิญญาณมากมาย แต่เหล่าบรรดาศิษย์พี่ศิษย์น้องก็มีไม่น้อย และสมุนไพรวิญญาณที่พวกเขาจะได้รับนั้นก็มีจำกัด

หากเอาสมุนไพรวิญญาณทั้งหมดให้นาง จะต้องเป็นการสูญเสียอย่างหนักแน่นอน

มู่เฉียนซีเอาเข็มยาเข็มหนึ่งออกมาพลางกล่าว “หากเป็นเช่นนั้น พวกเจ้าก็คงต้องกลายเป็นปุ๋ยอยู่ที่นี่แล้วล่ะ”

แสงเย็นวาบผ่านดวงตาของมู่เฉียนซีทำให้พวกเขารู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง ดูเหมือนว่านางต้องการจะวางยาพิษให้พวกเขาตายจริง ๆ

และความหวาดกลัวนี้ก็ทำให้พวกเขาต้องยอมประนีประนอม

“ข้าให้แล้ว! ข้าให้แล้ว สมุนไพรวิญญาณที่เจ้าอยากได้ ข้ายอมให้แล้ว!”

“ข้าด้วย นี่ อยู่ในแหวนมิติของข้า!”

“……”

มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าว “เชื่อฟังอย่างนี้ก็ดีขึ้นมาหน่อย!”

มู่เฉียนซีรวบเอาแหวนมิติและสิ่งของที่คล้ายคลึงกันของพวกเขามาทุกอย่าง และกวาดเอาสมุนไพรวิญญาณของพวกเขามาจนหมดเกลี้ยง ทำให้พวกเขารู้สึกเจ็บช้ำใจเป็นอย่างมาก

แม้ว่าพวกแมลงหวี่แมลงวันเหล่านี้จะมาเกะกะขวางทางไปสักหน่อย แต่สิ่งที่นางได้รับมานั้นไม่เลวเลย!

เพื่อไม่ต้องออกแรงเก็บสมุนไพรวิญญาณเอง มู่เฉียนซียังคงหวังว่าจะมีพวกแมลงหวี่แมลงวันเข้ามาเกะกะขวางทางนางอีก เช่นนี้ก็จะช่วยนางได้มากเลยทีเดียว

“ของที่เจ้าอยากได้ พวกเราก็ให้เจ้าไปจนหมดสิ้นแล้ว ตอนนี้เจ้าจะมอบให้ยาแก้พิษให้แก่พวกเราได้รึยัง?”

แววตาของพวกเขาโหดร้ายขึ้น หากพวกเขาแก้พิษได้เมื่อไหร่ จะต้องทำให้หญิงสาวผู้นี้ได้เห็นดีแน่

มือของมู่เฉียนซีขยับขึ้น และเข็มยาก็พุ่งออกไป

ในที่สุดพวกเขาก็พบว่าตอนนี้พวกเขาสามารถขยับตัวได้แล้ว และแน่นอนว่าพวกเขาพุ่งเข้าหามู่เฉียนซีทันที

อยากแก้แค้นนาง แย่งชิงสมุนไพรวิญญาณกลับคืนมา และจะแย่งเอาสมุนไพรวิญญาณของนางมาด้วย

แต่พวกเขานึกไม่ถึงเลยว่าพวกเขาที่ถูกความโกรธแค้นครอบงำอยู่นั้นจะสามารถเพียงขยับตัวได้เท่านั้น แต่พลังวิญญาณไม่ได้ฟื้นฟูกลับมา

เมื่อพวกเขาได้สติ ก็พบว่ามันสายไปแล้ว!

และตอนนี้มู่เฉียนซีก็ลงมือแล้ว “มังกรวารีพิฆาต!”

ปัง ปัง ปัง! ร่างกายของพวกเขากระเด็นลอยออกไปราวกับพายุพัดกระโชกเข้าใส่หุ่นไล่กาก็มิปาน

อ๊า อ๊า เฮือก! พวกเขากรีดร้องด้วยความเจ็บปวด

และแน่นอนว่านี่ไม่ใช่จุดจบของความเจ็บปวดของพวกเขา เข็มยาหลายเข็มพุ่งออกไปแทงเข้าจุดเส้นลมปราณของพวกเขา

อ๊า! เสียงกรีดร้องราวกับหมูถูกเชือดดังสนั่นขึ้น

ศิษย์แห่งสำนักโอสถฯ เหล่านี้ล้วนแต่เป็นผู้ชายทั้งสิ้น แต่ตอนนี้กลับร้องห่มร้องไห้ขึ้นด้วยความเจ็บปวด

มู่เฉียนซีกล่าว “ข้าใช้พิษอ่อนโยนกับพวกเจ้า พวกเจ้ากลับไม่รู้จักดีชั่ว โดนรสชาติของพิษนี้เข้าไป เป็นยังไงล่ะ?”

“ชะ ช่วยด้วย ช่วยด้วย…”

“แก้พิษให้ข้าเถอะนะ ข้าขอร้อง…”

“……”

เหล่าบรรดาศิษย์ผู้เย่อหยิ่งของสำนักโอสถฯ แห่งดินแดนซวนเทียนผู้สูงส่งในตอนนี้น้ำตานองเข้าแล้ว ขอร้องอ้อนวอนให้มู่เฉียนซีแก้พิษให้อย่างน่าสงสาร

ชายรูปงามผู้หนึ่งร้องห่มร้องไห้ขอร้องอ้อนวอน มู่เฉียนยังไม่รู้สึกเห็นใจเลย นับประสาอะไรกับชายหน้าตาธรรมดาเหล่านี้

“ร้องไห้! ร้องไห้ไปมันก็ไม่มีประโยชน์ รอให้ประตูดินแดนโอสถเปิดก่อนเถอะ แล้วพวกเจ้าค่อยออกไปขอให้ผู้อาวุโสผู้เก่งกาจของสำนักโอสถฯ แก้พิษให้พวกเจ้า”

สีหน้าของพวกเขายิ่งซีดเผือดมากขึ้น ต้องรอนานถึงเพียงนั้นแล้วพวกเขายังจะมีชีวิตกลับออกไปได้อีกหรือไม่?

ในตอนนี้เองมีเสียงฝีเท้าดังใกล้เข้ามา

เมื่อเห็นศิษย์สำนักโอสถฯ กลุ่มนี้ร้องห่มร้องไห้อย่างน่าเวทนาเช่นนี้ พวกเขาก็ตกใจนิ่งอึ้งไป “ศิษย์น้อง นี่พวกเจ้าเป็นอะไรไป?”

“ศิษย์พี่หวง ช่วยด้วย! นาง นาง…” หนึ่งในกลุ่มคนนี้ร้องไห้พลางชี้ไปที่มู่เฉียนซี

ศิษย์พี่หวงผู้นั้นเห็นร่างในชุดม่วงเข้า แสงสลัวก็วาบผ่านดวงตาทันที “เป็นเจ้าหรอกเหรอ นึกไม่ถึงเลยว่าจะเป็นเจ้า”

เขาพุ่งออกไปด้วยความโกรธเกรี้ยว และกล่าวเสียงขรึมว่า “เราเจอกันอีกแล้วนะ ไม่นึกเลยว่าจะได้เจอเจ้าที่นี่”

ศิษย์พี่หวงยิ่งดูก็ยิ่งรู้สึกว่าหญิงสาวผู้นี้งดงามอย่างไร้ที่ติ งดงามยิ่งกว่าหญิงงามอันดับหนึ่งแห่งสำนักโอสถฯ เสียอีก

น่าเสียดายที่อารมณ์ร้ายไปหน่อย แต่ผู้หญิงที่อารมณ์ฉุนเฉียวก็ยิ่งมีเสน่ห์ไม่ใช่เหรอ

สายตาของฝ่ายตรงข้ามดูโหดร้ายมาก แสงเย็นวาบผ่านดวงตาของมู่เฉียนซี “ข้าไม่รู้จักเจ้า เจ้ารีบไสหัวไปให้พ้นหน้าข้าเถอะ!”

“นี่เจ้า ข้าไม่นึกเลยว่าเจ้าจะไม่รู้จักข้า!” ศิษย์พี่หวงโกรธเกรี้ยวขึ้นมาแล้ว

หญิงสาวผู้นี้เตะเขาลงทะเลสาบต่อหน้านักปรุงยามากมายเช่นนั้น ตอนนี้กลับมาบอกว่าไม่รู้จักเขา บัดซบยิ่งนัก!

“ศิษย์พี่ ช่วยข้าด้วย!”

“ศิษย์พี่ ข้าทนไม่ไหวแล้ว ข้าจะตายแล้ว!”

“……”

ศิษย์พี่หวงมองดูสภาพอันน่าสังเวชนั้นของเหล่าศิษย์น้องและกล่าวว่า “นี่เจ้าวางยาพิษพวกเขา!”

ในใจก็อดที่จะดูถูกคนพวกนี้ไม่ได้ ช่างไร้ประโยชน์เกินไปแล้ว!

ถูกหญิงสาวผู้หนึ่งวางยาพิษแถมยังแก้พิษไม่ได้อีก ช่างทำให้สำนักโอสถฯ ของพวกเขาอับอายขายหน้ายิ่งนัก!

มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเฉยเมยว่า “อยากแก้พิษ ก็เอาสมุนไพรวิญญาณของเจ้ามาให้ข้าสิ ข้าจะพิจารณาดู”

“ให้ข้าเอาสมุนไพรวิญญาณให้เจ้าอย่างนั้นเหรอ ไม่มีทาง! เจ้า น่ะสิที่ต้องเอายาแก้พิษมาให้ข้า และต้องมาเป็นเมีย คอยปรนนิบัติรับใช้ข้า แล้วข้าจะพาเจ้าไปเก็บสมุนไพรวิญญาณในใจกลางแดนโอสถแห่งนี้ หากมีสมุนไพรวิญญาณใดที่เจ้าต้องตา ขอเพียงแค่เจ้าทำให้ข้าพอใจได้ แล้วข้าจะให้รางวัลเจ้า” ศิษย์พี่หวงกล่าวกับมู่เฉียนซี

เมื่อได้ยินเช่นนี้ มู่เฉียนซีเองก็โกรธเกรี้ยวขึ้นแล้ว เป็นเมียคอยปรนนิบัติ!?

พลันนั้นมู่เฉียนซีก็ลงมืออย่างไม่เกรงใจ อย่างไรเสียจัดการคนกลุ่มแรกไปแล้ว จัดการอีกสักกลุ่มก็คงไม่เป็นไร

พลังของคนกลุ่มนี้แข็งแกร่งกว่าคนกลุ่มก่อนหน้านี้มาก สมุนไพรวิญญาณของพวกเขาจะต้องมีไม่น้อยแน่นอน มู่เฉียนซีลงมือแล้ว ในขณะที่ศิษย์พี่หวงยังไม่ทันได้ตั้งตัว นางก็พุ่งไปเตะเป้าเขาแล้ว

.

.