ภาค 10 ขี่วายุทะลายคลื่นหมื่นลี้ บทที่ 939 ชีวิตนี้เป็นของตระกูลเยี่ยนตลอดกาล

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

ถึงแม้จะทราบว่าเยี่ยนจ้าวเกอกับฟู่ถิงร่วมทางกันไปถึงอาณาเขตของโถงเซียน แต่ว่าครั้งนี้จักรพรรดิแพรไม่ได้เรียกเยี่ยนจ้าวเกอให้เข้าพบ

หลังจากการต่อสู้ครั้งใหญ่ เยี่ยนจ้าวเกอก็กลับเขตตะวันอาคเนย์พร้อมกับพวกมู่จวิน

การเชิญสองพ่อลูกไปเป็นแขกก่อนหน้านี้ ต้องผิดนัดเพราะจักรพรรดิแพรเป็นต้นเหตุเอง

ตอนนี้จักรพรรดิแพรคล้ายไม่ต้องการจะพบกันอีก

ฟู่ถิงกลับส่งสหายร่วมสำนักจากยอดเขาอัศจรรย์มาเพื่อแสดงคำขอโทษ

จักรพรรดิแพรไม่ได้รับบาดเจ็บในการต่อสู้ ในตอนนั้นเขาไม่ได้คิดจะสู้กันถึงตายกับทวนพระอังคารจริงๆ

ดังนั้นหลังจากทวนพระอังคารถอยไปแล้ว การต่อสู้ก็เป็นอันจบลง

จักรพรรดิแพรไม่ได้รั้งอยู่บนโลกซ้อนโลกนานนัก ไม่ทันไรก็ผละไป รุดไปยังมิติต่างแดน

อีกฝ่ายแม้ไม่ได้บอกกล่าวอย่างแน่ชัด แต่ก็เป็นกลายพิสูจน์การคาดการณ์ของเยี่ยนจ้าวเกออ้อมๆ

ที่จักรพรรดิแพรรั้งอยู่หลังการต่อสู้ชั่วคราว เป็นเพราะฟู่ถิงจริงๆ

ตอนนี้ฟู่ถิงกำลังเข้าฌานบนผาบัวแดงในยอดเขาอัศจรรย์

และเป็นเพราะไหว้วานให้ผู้คนนำคำพูดมา ฟู่ถิงจึงไม่ได้อธิบายสภาพการณ์ในตอนนี้ของนางอย่างละเอียดนัก

เยี่ยนจ้าวเกอเองก็ไม่แน่ใจ ว่าจักรพรรดิแพรงามได้แก้ไขผลที่ตามมาหลังจากบุตรีของตนไปถึงโถงเซียนหรือไม่

ดูจากสภาพการณ์ในปัจจุบัน เหมือนจะไม่ค่อยน่ายินดีนัก

กระนั้นก็ถือว่าถูกต้อง หากแก้ไขได้ง่ายๆ ก่อนหน้านี้ พวกเฉาเจี๋ยและหลิวเจิงกู่ก็ไม่จำเป็นต้องเตือนเยี่ยนจ้าวเกอซ้ำแล้วซ้ำอีก

ลูกศิษย์จากยอดเขาอัศจรรย์ที่อยู่ตรงหน้า แม้จะรับคำสั่งฟู่ถิงมาอธิบาย แต่ความจริงแล้วก็ยังไม่เข้าใจสถานการณ์ที่แท้จริงนัก

เหตุผลที่เขามาที่นี่ หลักๆ เป็นเพราะต้องการอธิบายเรื่องที่ก่อนหน้านี้จักรพรรดิแพรผิดนัด อีกทั้งยังไร้การชดเชย

และเขาพอจะมองออกว่า ลูกศิษย์ยอดเขาอัศจรรย์ผู้นี้จริงๆ แล้วก็รู้สึกงุนงงอยู่บ้าง

ด้วยตำแหน่งของจักรพรรดิแพร การจะพบหรือไม่พบจอมยุทธ์ที่แม้แต่ขั้นสะพานเซียนก็ยังไม่ได้ปีนสองคน คล้ายกลับเป็นเรื่องที่ทำได้ตามใจชอบ

ยากจะเข้าใจว่าไฉนฟู่ถิงถึงได้ส่งคนมาอธิบาย

กระนั้นเขาก็ยังรักษามารยาท ไม่ได้แสดงความหยิ่งยโสในวาจาและท่าที

เยี่ยนจ้าวเกอย่อมไม่อาจอธิบายเรื่องโถงเซียนกับเขาได้ หลังจากต้อนรับเสร็จก็ส่งคนกลับไป

ชายหน่มมองดูหยวนเจิ้งเฟิง ฟู่เอินซู ฟางจุ่น เหล่ายอดฝีมือระดับสูงของเขากว่างเฉิง จากนั้นก็ถอนใจอย่างไร้เสียง

เขาไม่อาจพูดเรื่องโถงเซียนกับลูกศิษย์จากยอดเขาอัศจรรย์คนเมื่อครู่ได้ แต่จะพูดกับพวกเดียวกันก็ไม่ได้อีก

สำหรับตำแหน่งของตนหลังจากสถานบำเพ็ญหลีเฮิ่นน้อยถูกทำลาย เยี่ยนจ้าวเกอได้แต่ใช้การหาทางกลับมาอย่างยากลำบาก หลังจากติดอยู่ในกระแสปั่นป่วนของมิติมาอธิบาย

ศาสนาพุทธกลายเป็นข้ออ้างที่ไม่เลว ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกัน พวกหยวนเจิ้งเฟิงก็ทราบแต่แรกแล้ว

เยี่ยนจ้าวเกอบอกลาพวกหยวนเจิ้งเฟิงแล้ว ก็กลับไปยังที่พักของตนเอง ก่อนจะเอ่ยถามอาหู่ว่า “ท่านพ่อกำลังเข้าฌานหรือ”

เป็นเพราะว่าร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกอยู่ที่สำนัก เยี่ยนจ้าวเกอไม่เพียงแต่ทราบว่าเฟิงอวิ๋นเซิงเลื่อนจากขั้นบรรลุธรรมสู่ระดับศักดิ์สิทธิ์ และได้ออกเดินทางเท่านั้น ขณะเดียวกันก็รู้แล้วว่าเยี่ยนตี๋ที่พลัดหลงกับตนในตอนที่สถานบำเพ็ญหลีเฮิ่นน้อยถูกทำลาย ได้กลับถึงเขากว่างเฉิงบนโลกซ้อนโลกก่อนหน้าเขาก้าวหนึ่ง

เมื่อคำนวณเวลาดูแล้ว เยี่ยนตี๋น่รจะไม่ได้หลุดไปอยู่บนอาณาเขตของโถงเซียนหรือศาสนาพุทธ

แต่ว่าหลังจากเยี่ยนตี๋กลับมา เขาก็เข้าฌานฝึกฝนทันที

การกระทำที่เร่งร้อนเช่นนี้ ไม่ค่อยเกิดขึ้นกับตัวเยี่ยนตี๋บ่อยนัก

เขาถ่ายทอดคำสั่งไว้ก่อนจะเข้าฌาน ดังนั้นไม่น่าจะเป็นเรื่องร้ายแรงอะไร เยี่ยนจ้าวเกอจึงวางใจ

อาหู่เกาศีรษะ ตอบว่า “ท่านประมุขตระกูลยังคงเข้าฌานขอรับ”

เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้า จากนั้นก็มองอาหู่ เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “อวิ๋นเซิงกับศิษย์พี่สวีเลื่อนจากขั้นบรรลุธรรมเป็นระดับศักดิ์สิทธิ์ติดต่อกัน เจ้าเองก็ต้องพยายามมากขึ้น”

พูดถึงด้านคุณสมบัติและสติปัญญา เจ้าตัวโตที่อยู่ตรงหน้าเขานี้ไม่ด้อยกว่าพวกสวีเฟยหรือถังหย่งฮ่าวเลย

ก่อนหน้านี้สวีเฟอาศัยอยู่ในโลกผืนสมุทรมานาน มีเวลาในการฝึกปรือค่อนข้างมาก

ส่วนอาหู่อยู่ข้างกายเยี่ยนจ้าวเกอ ทั้งยังมีทรัพยากรทุกชนิดเปี่ยมล้น หลายปีมานี้ก็ฝึกฝนในสภาพแวดล้อมอันโดดเด่นของโลกซ้อนโลก ไม่ได้ถูกสวีเฟยสลัดทิ้งไว้ด้านหลังมากนัก

แม้จะมีอายุราวสี่สิบปีแล้ว ทั้งยังไม่ได้ก้าวสู่ขั้นบรรลุธรรม กระนั้นเขาก็มีพลังฝึกปรืออยู่ในระดับมหาปรมาจารย์ขั้นเก้า ขั้นรูปญาณระยะท้าย บัดนี้ได้ก่อหอสักการะขึ้นมาแล้ว

พูดถึงด้านอายุ สำหรับโลกซ้อนโลกก็ยังถือว่าอ่อนเยาว์

ถึงจะเทียบกับพวกฟู่ถิง หลงฮั่นหัว จวงเซิน และเฉิงโม่ไม่ได้ ทว่าคนเหล่านั้นล้วนฝึกฝนและเติบโตในสภาพแวดล้อมอันโดดเด่นของโลกซ้อนโลกตั้งแต่ยังเด็ก ทว่าอาหู่เพิ่งมาถึงโลกซ้อนโลกได้ไม่กี่ปีเท่านั้น

เฟิงอวิ๋นเซิงเป็นสตรีแห่งจันทรา มีมงกุฎจันทราคอยช่วยเหลือ เป็นข้อยกเว้น ย่อมเทียบไม่ได้

ถ้าหากว่าอยู่ในโลกแปดพิภพ ความเร็วเช่นนี้ นอกจากเยี่ยนจ้าวเกอสองพ่อลูก ก็ไม่มีใคอื่นแล้ว

แน่นอนว่าสิ่งที่ทำให้คนจำนวนมากไร้คำพูดก็คือ มหาปรมาจารย์ขั้นรูปญาณเช่นนี้ ยังคงติดตามเยี่ยนจ้าวเกอ ยอมเป็นคนรับใช้

มองดูแล้ว ระดับพลังฝึกปรือของเยี่ยนจ้าวเกอสูงส่งกว่าอาหู่ไม่น้อย จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะสำแดงที่ยิ่งใหญ่ มีคนรับใช้เป็นมหาปรมาจารย์คนหนึ่งไม่ใช่เรื่องผิดปกติ

กระนั้นความจริงแล้วอย่าว่าแต่โลกแปดพิภพไม่มีทางมี ในโลกซ้อนโลกก็มีให้เห็นน้อยเช่นกัน

จอมยุทธ์ที่อยู่ในระดับมหาปรมาจารย์ขั้นรูปญาณ ทั้งยังมีศักยภาพในการเลื่อนจากขั้นบรรลุธรรมเป็นระดับศักดิ์สิทธิ์ ล้วนมีความภาคภูมิใจเป็นของตัวเองทั้งสิ้น

จอมยุทธ์สามารถเห็นผู้ที่ถ่อมตนได้บ่อย แต่ผู้ที่ต่ำต้อยมีให้เห็นน้อยยิ่ง

แม้จะมีบ้างที่ยอมเป็นผู้รับใช้ ก็มักจะเป็นคนที่ไร้ความหวังในการพัฒนา เป็นอาทิตย์ใกล้ลาลับฟ้า

คนที่อายุน้อย มีอนาคตกว้างไกลเช่นอาหู่ แต่กลับยอมเป็นผู้รับใช้ให้แก่คนอื่นนั้นแทบจะไม่มี

คนที่คุ้นเคยกับเยี่ยนจ้าวเกอและเขา อย่าว่าแต่พวกมู่จวิน เจิ้งหมิง และเฉินจื้อเหลียงแห่งเขาโถงทองที่ประหลาดใจ หลายปีมานี้คนในเขากว่างเฉิงล้วนประหลาดใจที่ถึงแม้อาหู่จะมีฝีมือรุดหน้า แต่ก็ยังคงเหมือนเดิม

ถึงอย่างไรเยี่ยนจ้าวเกอกับเยี่ยนตี๋สองพ่อลูก ก็ไม่มีความตั้งใจจะจำกัดอาหู่

แต่ว่าเจ้าตัวโตผู้นี้ กลับเชื่อมั่นในการกระทำของตัวเอง เหมือนกับในอดีตมาโดยตลอด

เรื่องราวแปรผันมากมาย แต่ในใจของอาหู่ หวงหู่ถิงผู้นี้คล้ายจำได้แค่ว่า ประมุขตระกูลช่วยเหลือเขากับปู่ของเขา ดังนั้นไม่ว่าเขาจะกลายเป็นอะไร ไปถึงระดับที่สูงกว่าสักเพียงไร ชีวิตนี้ของเขาก็เป็นของตระกูลเยี่ยนตลอดกาล

“คุณชาย ข้ารู้สึกว่าตัวเองห่างจากระดับบรรลุธรรมไม่ไกลแล้ว” อาหู่หัวเราะแหะๆ

เยี่ยนจ้าวเกอกลอกตา “เจ้าตั้งใจให้มากกว่านี้อีกหน่อย ฮานหลงเอ๋อร์กำลังจะไล่ตามทันแล้ว”

อาหู่พลันแยกเขี้ยวยิงฟัน “เด็กน้อยนั่น…”

เขาพลันนึกอะไรได้ กล่าวว่า “จริงด้วยคุณชาย มีเรื่องหนึ่ง ตอนเสี่ยวสือจวินเดินทางอยู่ด้านนอกนั่น เขาได้รับวาสนาส่วนหนึ่ง รู้สึกไม่มีประโยชน์ต่อตนเอง จึงแจ้งสำนัก ท่านประมุขตระกูลเข้าฌาน ท่านเจ้าสำนักคนเก่ากับท่านผู้อาวุโสฟางต่างบอกมาว่ารอท่านกลับมา ค่อยมอบให้ท่าน”

“อืม อาจารย์ปู่กับอาจารย์ลุงรองบอกข้าคร่าวๆ แล้ว” เยี่ยนจ้าวเกอปั้นสีหน้าจริงจัง “ได้ยินว่าอาจจะเกี่ยวข้องกับการสืบทอดสายเอกพิสุทธิ์ใช่หรือไม่”

ตอนยังอยู่ในโลกแปดพิภพ เขากว่างเฉิงก็นับว่าเป็นผู้สืบทอดสายเอกพิสุทธิ์ที่เกือบจะเป็นสายหลักเช่นกัน

เฒ่าเบิกฟ้าชิวหยวน บูรพาจารย์ผู้ก่อตั้งสำนักได้สร้างวิชาเอกพิสุทธิ์ จากนั้นมันก็กลายเป็นรากฐานของเขากว่างเฉิงมาหลายปี

ยอดวิชาแปดพิภพ วิชาลับของสำนัก ก็เกิดขึ้นจากสาเหตุนี้เช่นกัน

แต่ว่าในตอนนี้ เรื่องที่เกี่ยวข้องกับการสืบทอดสายเอกพิสุทธิ์ ในเขากว่างเฉิงก็มีการรับรู้ร่วมกันแล้ว ขอแค่เยี่ยนจ้าวเกอมีเวลา ก็จะให้เขาจัดการทันที

อาหู่ว่า “เหมือนจะเป็นเบาะแสของที่อยู่ซึ่งคนรุ่นก่อนได้ทิ้งเอาไว้แห่งหนึ่ง ในนี้มีความบังเอิญและวาสนาอยู่หลายส่วน หากยากยิ่ง ทุกๆ ระยะเวลาหนึ่ง ที่อยู่จะปรากฏขึ้นเอง คนด้านนอกค่อยหาพบ”

“คำนวนเวลาดูแล้ว คงเป็นราวๆ สองปีกระมัง ตอนนี้ในสำนักก็ไม่อาจยืนยัน”

ขณะที่พูด อาหู่ก็ส่งของชิ้นหนึ่งมาให้

เยี่ยนจ้าวเกอรับมาดู กลับเป็นแส้ปัดเก่าโทรมอันหนึ่ง

………………..