ภาค 10 ขี่วายุทะลายคลื่นหมื่นลี้ บทที่ 942 คดีล้างสำนัก

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

เยี่ยนจ้าวเกอมองแส้ปัดในมือของอาหู่

อาหู่ก็มองแส้ปัดด้วยความประหลาดใจเช่นกัน จากนั้นเขาก็เงยหน้ามองเยี่ยนจ้าวเกออย่างงงงัน

“เมื่อครู่ แส้ปัดนั่นสั่นใช่หรือไม่” เยี่ยนจ้าวเกอถาม

อาหู่พยักหน้า “ขอรับคุณชาย”

เขาชี้ทางตะวันออก “ไม่ใช่แค่แส้ปัดเท่านั้นที่สั่น เมื่อครู่เส้นขาวที่ชี้ทางเส้นนั้นก็ส่ายไหวเบาๆ แต่แค่พริบตาเดียวก็กลับคืนสู่สภาพเดิม”

“มีบางอย่างส่งผลต่อแส้ปัด” เยี่ยนจ้าวเกอลูบคางของตัวเอง “ไม่น่าจะใช่ที่อยู่แห่งนั้น ไม่อย่างนั้นเส้นสีขาวควรเปลี่ยนทิศทาง”

อาหู่แยกเขี้ยว “คุณชาย จะใช่แส้ปัดอีกครึ่งนั่นหรือไม่”

เยี่ยนจ้าวเกอตอบ “เป็นไปได้ แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นแส้ปัด บางทีอาจเป็นเบาะแสบางอย่างก็ได้”

ถ้าหากเป็นแส้ปัดอีกครึ่งหนึ่ง เช่นนั้นแส้ปัดครึ่งที่ตนมีอยู่ก็ควรจะมีปฏิกิริยามากกว่านี้ถึงจะถูก

ชายหนุ่มใคร่ครวญในใจเล็กน้อย ก่อนจะกล่าวว่า “หยุดที่เทือกเขาเสียงระรัวนี่ก่อน มองหารอบๆ ดู ลับคมไม่เสียเวลาตัดฟืน พวกเรายังมีเวลา”

เทือกเขาเสียงระรัวอยู่ใต้การปกครองของเขตตะวันอาคเนย์เหมือนกับทะเลหวงเจีย เทือกเขาอาทิตย์หยก และหมู่เกาะอาทิตย์ตก

อาณาเขตของที่แห่งนี้เล็กกว่าทะเลหวงเจียไปบ้าง แต่ก็มีขุมกำลังที่แข็งแกร่งเคลื่อนไหวและเจริญเติบโตขึ้นที่นี่

เยี่ยนจ้าวเกอเป็นมังกรร้ายข้ามทะเล อีกทั้งยังไม่มีความตั้งใจจะอำพรางร่องรอย จึงดึงดูดความสนใจของขุมกำลังท้องถิ่นอย่างรวดเร็ว

กระนั้นเยี่ยนจ้าวเกอกลับไม่สนใจ หันมาติดต่อกับอีกฝ่ายอย่างเปิดเผย เพื่อสืบหาข่าวสารของที่นี่

ตอนนี้เขานับว่ามีชื่อเสียงในเขตตะวันอาคเนย์ ครั้งนี้ที่ข้ามเขตมาเพราะเพียงผ่านทาง ไม่ได้คิดจะรั้งอยู่นาน

เมื่อพิจารณาว่าเยี่ยนจ้าวเกอมีชื่อเสียงสั่นสะท้าน ทั้งยังมีความสัมพันธ์กับเขาโถงทองอย่างแน่นแฟ้น แม้แต่ขุมกำลังในเทือกเขาเสียงระรัวก็ยินดีคบหากับเขา

มีคนบางส่วนที่หมายตาของวิเศษบนตัวเยี่ยนจ้าวเกอ แต่ก็ต้องรู้จักประมาณตน

เมื่อคนอื่นๆ ที่อยู่บนโลกซ้อนโลกพอไม่เคยสัมผัสเยี่ยนจ้าวเกอด้วยตัวเองมาก่อน จะมากจะน้อยก็ดูแคลนเขาที่เป็นแค่จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะสำแดง

แต่ว่าในเขตตพวันอาคเนย์ คนเช่นนี้มีอยู่ค่อนข้างน้อย

สำหรับคนประเภทนี้ ชื่อเสียงในตอนแรกสุดของเขากว่างเฉิง เป็นเด็กหนุ่มผู้นี้สร้างขึ้น

ไม่อาจมองข้ามคนผู้นี้เพราะอายุและพลังฝึกปรือเป็นอันขาด

บวกกับคนส่วนใหญ่คิดว่า กงจักรมหาประกายกาฬที่เป็นอาวุธเซียน ตามเหตุผลสมควรเก็บรักษาไว้ที่เขากว่างเฉิง คอยคุ้มครองสำนัก คงไม่ถูกเยี่ยนจ้าวเกอพกไปทั่วทุกที่

ในสถานการณ์เช่นนี้ ต่อให้มีคนขวัญกล้าเทียมฟ้าคิดเสี่ยงอันตราย ก็รู้สึกว่าไม่คุ้มค่า

การส่งข่าวสารของขุมกำลังในท้องถิ่น ย่อมเร็วและสะดวกกว่าแขกทที่เพิ่งมาเหยียบเทือกเขาเสียงระรัวอย่างเยี่ยนจ้าวเกอและอาหู่

ไม่ทันไรก็มีข่าวมากมายถูกส่งกลับมา

หลังจากเยี่ยนจ้าวเกอสะสางตรวจสอบ ก็มีเรื่องหนึ่งที่ดึงดูดความสนใจของเขา

ก่อนหน้าที่ตนจะมาถึงเทือกเขาเสียงระรัวไม่นาน ที่นี่เกิดคดีล้างสำนักขึ้น

ผู้ที่ถูกล้างสำนัก เป็นขุมกำลังที่ตีนเขาทิศใต้ของเทือกเขาเสียงระรัว มีชื่อว่าตระกูลเซี่ย หรือตระกูลเซี่ยแห่งยอดเขาสดับอัสนี

ข่าวว่าตระกูลเซี่ยแห่งยอดเขาสดับอัสนีไม่ใช่ขุมกำลังที่เกิดบนโลกซ้อนโลก แต่มาจากโลกเบื้องล่างใบหนึ่งเหมือนกับเขากว่างเฉิง และสำนักตะวันซ้อนจากโลกยมทะยาน

ประมุขตระกูลเซี่ยเดิมทีเป็นจอมยุทธ์พเนจรคนหนึ่งจากโลกเบื้องล่าง เขาหลงไหลในวรยุทธ์ มีจิตใจทะเยอทะยาน

หลังจากที่อยู่เหนือทุกคนในโลกเบื้องล่าง เขาก็ไม่ได้พอใจ แต่ตั้งใจฝึกฝนต่อ สุดท้ายทลายนภา เห็นเทวะสำแดงสำเร็จ

หลังจากเลื่อนสู่ระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะสำแดงแล้ว ประมุขตระกูลเซี่ยก็ลอยขึ้นมายังฟ้าดินใบใหม่อย่างโลกซ้อนโลก และลงหลักปักฐานที่นี่

ต่อมาเขาตบแต่งผู้อาวุโสสตรีของขุมกำลังใหญ่ขุมหนึ่งในเทือกเขาเสียงระรัว อาศัยขุมกำลังนั้นนั้นตั้งรกราก สุดท้ายสร้างรากฐานของตระกูลเซี่ยแห่งยอดเขาสดับอัสนีเช่นทุกวันนี้ได้

มาถึงปัจจุบันก็มีลูกหลานหลายรุ่นแล้ว

กระนั้นหลายปีก่อนหน้านี้ ในการต่อสู้กันระหว่างขุมกำลังใหญ่บนเทือกเขาเสียงระรัว เล่ากันว่าที่พึ่งของตระกูลเซี่ยแห่งยอดเขาสดับอัสนีได้ล่มสลายลง

แม้แต่ยอดฝีมือของตระกูลเซี่ยซึ่งเป็นประมุขตระกูลคนแรกก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ตระกูลเซี่ยแห่งยอดเขาสดับอัสนีถึงคราวตกอับ

ระยะนี้ตระกูลเซี่ยกำลังตามหาที่พึ่งใหม่ แต่ไม่รอให้สถานการณ์สงบลง ก็พลันประสบภัยพิบัติ

และภัยพิบัตินี้เป็นต้นเหตุของความพินาศ

ขุมกำลังที่ทำลายตระกูลเซี่ยมีชื่อว่าเขาสามขา ไม่ใช่ขุมกำลังในท้องถิ่นของเทือกเขาเสียงระรัว แต่เคลื่อนไหวอยู่ในที่ราบสูงยอดขจีซึ่งอยู่ติดกับเทือกเขาเสียงระรัว

ขุมกำลังนี้เป็นมังกรแกร่งข้ามเขตแดนเหมือนกับเยี่ยนจ้าวเกอ

มีขุมกำลังในท้องที่ของเทือกเขาเสียงระรัวสอบถาม เขาสามขาบอกว่า ลูกศิษย์ตระกูลเซี่ยสังหารลูกศิษย์ในสำนักของพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงแก้แค้น ทว่าเขาสามขาไม่คิดจะสอดขาเข้ามาในเทือกเขาเสียงระรัว

ในความจริงแล้ว หลังจากพวกเขาทำลายตระกูลเซี่ยเสร็จก็จากไปทันที ไม่ได้ก้าวก่ายเรื่องอื่นๆ ของเทือกเขาเสียงระรัว

ภายในของเทือกเขาเสียงระรัวเกิดความสับสนวุ่นวาย ในตอนนี้จึงยังไม่มีเวลาไปสืบสาวต่อ

ทว่าสิ่งที่ทำให้เยี่ยนจ้าวเกอรู้สึกสนใจก็คือ หลังจากเขาสามขาล้างตระกูลเซี่ยแล้ว ทิศทางที่พวกเขาจากไปคือทิศตะวันออก

แต่ว่าที่ราบสูงยอดขจีอยู่ทางทิศเหนือของเทือกเขาเสียงระรัว

การมุ่งหน้าไปทางตะวันออก เท่ากับการเดินทางไปยังทะเลรกร้าง

‘ที่ราบสูงยอดขจี ภูเขาสามขาหรือ’ เยี่ยนจ้าวเกอให้ความสนใจ แต่ภายนอกไม่แสดงท่าที

เขาพอเคยได้ยินชื่อเขาสามขามาบ้าง เพราะขุมกำลังนี้มีความพิเศษอยู่ในเขตตะวันอาคเนย์อยู่หลายส่วน

คล้ายกับราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋อง แต่ก็ไม่เหมือนเสียทีเดียว

เบื้องหลังหลังของเขาสามขา มีเงาของยอดฝีมือคนอื่นอยู่เช่นกัน แต่ก็ไม่ได้เป็นมังกรร้ายข้ามทะเล บุกเขตตะวันอาคเนย์เช่นราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋อง

แต่เป็นยอดฝีมือคนหนึ่งได้สั่งสอนชี้แนะไว้ในตอนที่เขาเดินทางอยู่บนเขตตะวันอาคเนย์ ทำให้เขาสามขาเติบโตจากสำนักที่ค่อนข้างธรรมดาสำนักหนึ่ง เป็นผู้ทรงอำนาจบนที่ราบสูงยอดขจี และมีชื่อเสียงในเขตตะวันอาคเนย์

กระนั้น หากกล่าวโดยรวมแล้ว เขาสามขาที่ตั้งแต่อดีตเป็นต้นมาอาศัยอยู่ในเขตตะวันอาคเนย์ ก็ยังมีข้อแตกต่างจากราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องอยู่

เขาโถงทองไม่ได้เฝ้าระวังเขาสามขาเท่ากับราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋อง

เยี่ยนจ้าวเกอผ่านยอดเขาสดับอัสนีเหมือนตั้งใจเหมือนไม่ตั้งใจ แต่ก็ไม่ได้รั้งอยู่ เพียงแต่ผ่านทางธรรมดา

ทว่าในตอนที่ผ่านเทือกเขาสดับอัสนี แส้ปัดหักครึ่งก็สั่นไหวเบาๆ อีกครั้ง ต่อมาก็กลันคืนสู่ความปกติ

เขาสบตากับอาหู่ ต่างฝ่ายต่างมีสีหน้าเข้าใจ

“คุณชาย ดูเหมือนเดิมทีแส้ปัดอีกครึ่งหนึ่งจะเป็นของตระกูลเซี่ยแห่งยอดเขาสดับอัสนี” อาหู่ว่า “เพียงแต่ไม่ทราบว่าไฉนความลับจึงหลุดออกไป จนเขาสามขาที่อยู่บนที่ราบสูงยอดขจีล่วงรู้ ดังนั้นจึงล้างตระกูลเซี่ย แล้วชิงแส้ปัดไป”

“พวกเขาไปทางตะวันออก คงจะพบว่าที่อยู่ของคนรุ่นก่อนกำลังจะเปิด จึงรุดไปที่ทะเลรกร้าง”

สาเหตุที่เหลือร่องรอยบนยอดเขาสดับอัสนี อาจจะเป็นเพราะปกติตระกูลเซี่ยมีการบูชาเซ่นไหว้แส้ปัดหักครึ่งอันนั้น

เยี่ยนจ้าวเกอกล่าว “อืม สมควรเป็นเช่นนั้น”

คนทั้งสองไม่กล่าวมากความ นั่งบนหลังพ่านพ่าน มุ่งหน้าไปยังตะวันออก

แม้เยี่ยนจ้าวเกอจะไม่ได้ถามเรื่องเขาสามขาและตระกูลเซี่ยมากนัก แต่การไปยังทิศตะวันออกหลังจากผ่านเทือกเขาเสียงระรัวของผู้มาเยือนจากภายนอกสองกลุ่ม ก็ยังดึงดูดความสนใจของขุมกำลังในท้องถิ่นอยู่ดี

เยี่ยนจ้าวเกอไม่มีความเห็นอะไรในเรื่องนี้ สิ่งที่เขาสนใจยังอยู่ที่ทะเลรกร้างทางตะวันออกดังเดิม