บทที่781

ชายหญิงคู่รักแรกพบที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักที่ร้อนแรงทำกันไปทำกันมากว่าหนึ่งชั่วโมงในห้องครัว ในที่สุดก็ทำอาหารออกมาเต็มโต๊ะแล้ว

เซียวฉางควนวิ่งออกมาบอกเย่เฉินและพอลว่า : “เตรียมตัวๆ เราจะได้กินข้าวกันแล้ว”

พูดจบ ก็ถามพอลอีกว่า : “จริงสิ พอล คืนนี้อยากจะดื่มสักสองถ้วยสุราไหม?”

พอลยิ้มพร้อมทั้งหยิบของขวัญที่ถือมาด้วยออกมา พูดว่า : “คุณอาเซียว ผมก็นำเหล้าหมาวถาย 2ขวดที่เก็บสะสมกว่า 30 มาด้วยพอดี เหล้าหมาวถายนี้ไม่ใช่หมาวถายธรรมดาทั่วไปนะ มันเป็นคอลเลกชันที่ส่งออกเมื่อ 20 ปีก่อน ในตอนนั้นส่งออกไปขายที่อเมริกา และถูกนักสะสมเก็บสะสมไว้ที่อเมริกา เก็บเอาไว้อย่างดีจนถึงตอนนี้ ทุกขวดล้วนมีน้ำหนัก 1 กิโลกรัม”

เซียวฉางควนกล่าวอย่างตกใจว่า : “เหล้าเก่าแก่กว่า30ปีที่ก่อนหน้านี้อีก20ปี งั้นระยะห่างจนถึงตอนนี้รวมแล้วไม่ใช่กว่า 50ปีเหรอ ?”

“ใช่!” พอลยิ้มพร้อมพูดว่า : “น่าจะประมาณ 56 ปีแล้วมั้งครับ”

เซียวฉางควนพูดอุทานว่า : “ไอ้หยา เหล้าขวดนี้ล้ำค่ามาก เอามาให้ฉันก็เปลืองเปล่าๆ นายเก็บไว้ดื่มเองน่าจะดีกว่านะ”

พอลรีบเอ่ยพูดขึ้นว่า : “คุณอาเซียว คุณไม่ต้องเกรงใจกับผมอย่างนี้ เดิมทีตั้งใจจะเอามาเป็นของขวัญให้คุณอยู่แล้ว ถ้าคุณยินยอมล่ะก็ คืนนี้พวกเราก็จะนำมาดื่มกันสักขวด ถ้าหากคุณไม่ยินยอม เราก็เปลี่ยนเป็นเหล้าขวดอื่นกัน”

เมื่อเซียวฉางควนได้ยินประโยคนี้แล้ว ยิ้มพร้อมพูดว่า : “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นก็ขอบคุณนายมากนะ งั้นคืนนี้พวกเราก็มาดื่มกันก่อนสักขวด!”

พูดแล้ว เซียวฉางควนก็พูดกับเย่เฉินว่า : “เย่เฉิน คุณขึ้นไปเรียกชูหรันจากด้านบน ให้ลงมากินข้าวหน่อยนะ”

เย่เฉินพยักหน้าแล้ว พูดว่า : “งั้นเดี๋ยวผมขึ้นไปเรียกเธอครับ”

พูดแล้ว เย่เฉินก็ลุกขึ้นยืนเดินไปด้านบน ตอนที่มาถึงห้องนอน พบว่าเซียวชูหรันหันหลังให้กับประตู นอนอยู่บนเตียง

เขาก็เอ่ยปากพูดว่า : “ที่รัก ลงไปทานข้าว”

ระหว่างที่พูด เย่เฉินเพิ่งจะก้าวเข้ามาในห้องนอน ก็ได้ยินภรรยาพูดว่า : “ไอ้หยา คุณอย่าเพิ่งเข้ามา”

จากนั้น เซียวชูหรันก็ลุกขึ้นยืน หันหลังให้กับเย่เฉิน เหมือนว่าเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาแล้ว

เย่เฉินรีบเดินอ้อมไปตรงหน้าของเธอ เห็นดวงตาที่แดงก่ำทั้งสองข้างของเธอ พูดถามว่า : “ที่รัก ทำไมคุณถึงได้ร้องไห้อีกแล้วล่ะ?”

เซียวชูหรันส่ายหน้า พูดปฏิเสธอย่างดื้อรั้นว่า : “ฉันไม่ได้ร้องไห้ แค่รู้สึกระคายเคืองที่ตานิดหน่อย”

เย่เฉินพูดออกไปอย่างปวดใจว่า : “ยังจะมาเล่นลิ้น ตาก็แดงก่ำจนเป็นแบบนี้แล้ว ยังจะมาพูดอีกว่าไม่ได้ร้องไห้?”

พูดจบ เขาก็พูดถามด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลว่า : “เป็นเพราะเรื่องของแม่เหรอ?”

เซียวชูหรันเงียบขรึมไปชั่วขณะ พูดถอนหายใจยาว พยักหน้าพร้อมพูดว่า : “ตอนนี้ก็เกือบจะ 30 ชั่วโมงแล้ว ยังไม่มีข่าวคราวอะไรเลย ฉันกลัวว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับแม่จริงๆ”

พูดแล้ว น้ำตาของเธอก็คลอเบ้าและก็ไหลลงมาอีก : “และอีกอย่างที่บ้านเกิดเรื่องใหญ่โตขึ้นขนาดนี้ เดิมทีคิดว่าพ่อจะคิดเหมือนกับฉัน แต่คิดไม่ถึงว่าเขาจู่ ๆจะ……”

เมื่อเซียวชูหรันพูดมาถึงตรงนี้ ก็พูดต่อไปไม่ได้แล้ว ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ไว้ได้ ก็ร้องไห้ฮือๆออกมาเลย

เย่เฉินรีบยื่นมือออกไป ดึงเธอเข้ามากอดไว้ในอ้อมกอดของตัวเอง ตบๆที่หลังของเธอเบาๆไปพลาง พร้อมพูดปลอบใจที่ข้างหูของเธอไปพลางว่า : “ที่รัก ไม่ต้องร้องไห้นะ แม่ต้องไม่เป็นอะไรแน่นอน คุณวางใจได้ ผมรับประกันกับคุณเลย”

เซียวชูหรันพูดถามอย่างสะอึกสะอื้นว่า : “คุณจะเอาอะไรมารับประกันกับฉัน คุณก็ไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหน คุณไม่รู้เลยว่าสรุปแล้วเธอเจออะไรบ้าง คุณไม่รู้เลยว่าเธอเจออันตรายอะไรหรือเปล่า……”

เย่เฉินพูดอย่างจริงจังว่า : “คุณวางใจเถอะ ในเมื่อผมรับปากกับคุณแล้ว จะไม่มีทางให้เกิดอะไรขึ้นกับเธอแน่นอน ผมจะไปขอร้องพวกเพื่อนๆที่มีความสามารถเหล่านั้น ให้พวกเขาช่วยคิดหาวิธี”

เซียวชูหรันรีบเอ่ยถามว่า : “จริงเหรอคะ?คุณจะไปหาพวกเขา พวกเขายอมที่จะช่วยใช่ไหมคะ?”