เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1763

เมื่อเสี่ยวลิ่วจื่อได้ยินคำพูดของลู่ฝาน เขาก้มหน้างุด เขาแทบจะเอาหัวมุดลงไปในดินแล้ว

ลู่ฝานหัวเราะเบาๆ แล้วมองเขา จากนั้นพูดกับโครงกระดูกว่า “ในเมื่อเป็นลูกน้องนาย งั้นนายจัดการเองเถอะ”

เมื่อเสี่ยวลิ่วจื่อได้ยินก็ตัวสั่นทันที รีบเงยหน้ามองลู่ฝานแล้วพูดว่า “ท่านเทวทูต เขาไม่ใช่คนในวิถีมารของพวกเรา ท่านอย่าโดนเขาหลอกเด็ดขาด เขาคือองค์ชายประเทศฉิงเทียน บนตัวมีพลังมหาศาล ขัดแย้งกับผู้ฝึกชั่วร้ายตั้งแต่เด็ก เขา……”

โครงกระดูกขี้เกียจฟังเสี่ยวลิ่วจื่อพูดแล้ว เขาเตะลงบนหน้าเสี่ยวลิ่วจื่อทันที

กระดูกทิ้งรอยลึกไว้บนแก้มเสี่ยวลิ่วจื่อ เห็นได้ชัดว่าโครงกระดูกโมโหแล้ว ตอนเตะออกไปเกือบสะบัดขาตัวเองจนหลุดตามไปด้วย

เสี่ยวลิ่วจื่อไม่กล้าหลบ เพราะเขารู้สึกถึงพลังแห่งวิถีอยู่รอบตัวเขา เหมือนอะไรแหลมคมจ่ออยู่ด้านหลัง แค่เขาทำตัวผิดปกติเล็กน้อย พลังแห่งวิถีจะฆ่าเขาทันที

“น่าโมโหชะมัด เสี่ยวลิ่วจื่อ นายอยู่กับฉันมา 15 ปีแล้ว 15 ปีเต็มๆ ฉันดูไม่ออกเลยว่านายเป็นคนเนรคุณ”

โครงกระดูกโกรธจนกระดูกทั้งตัวส่งเสียงกรอบแกรบ

ถ้าไม่ใช่เพราะโครงกระดูกไม่มีเนื้อ พลังได้รับความเสียหายรุนแรง ตอนนี้เขาคงพุ่งเข้าไปบีบคอเสี่ยวลิ่วจื่อแล้ว

ลู่ฝานพูดว่า “สหายหนานกงจะฆ่าเขาไหม”

โครงกระดูกครุ่นคิดครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ตอนนี้ยังไม่ฆ่า บอกมาว่าใครเป็นคนส่งพวกนายมา พวกนายรู้ได้ยังไงว่าฉันกลับมาที่ประเทศฉิงเทียน”

เสี่ยวลิ่วจื่อก้มหน้าหมอบลงบนพื้น ไม่พูดอะไรสักคำ

ลู่ฝานพูดเสียงดังว่า “ลืมกฎของผู้ฝึกชั่วร้ายแล้วเหรอ มอบความจริงใจของนายออกมา!”

ประโยคเดียวทำให้เสี่ยวลิ่วจื่อสั่นไปทั้งตัว

เขาเงยหน้าขึ้นด้วยสีหน้าสับสน มองลู่ฝานแล้วพูดว่า “ท่านเทวทูตน่าจะรู้นะ!”

ลู่ฝานยิ้มแล้วพูดว่า “นายกำลังสงสัยในตัวฉันเหรอ”

เมื่อพูดเช่นนี้ ประกายแวบขึ้นมานัยน์ตาลู่ฝาน

วิชาชิงวิญญาณ!

สีหน้าเสี่ยวลิ่วจื่อเปลี่ยนไปทันที เหงื่อเม็ดใหญ่ไหลลงข้างแก้ม

ร่างกายสูงใหญ่หรือไม่ ไม่เกี่ยวข้องกับจิตวิญญาณ จิตญาณของเสี่ยวลิ่วจื่อแข็งแกร่งกว่านักบู๊แดนปราณดินนิดหน่อยเท่านั้น

จิตวิญญาณของลู่ฝานผ่านการทำให้แข็งแกร่งจากวิถีแห่งชีวิตอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้แข็งแกร่งสุดๆ นักบู๊แดนปราณฟ้าไม่สามารถต้านทานได้แน่นอน

ลู่ฝานจ้องตาเสี่ยวลิ่วจื่อแล้วใช้วิชาดับวิญญาณออกมาอีกครั้ง

ถ้าเสี่ยวลิ่วจื่อยังไม่พูดความจริงออกมา ลู่ฝานไม่ถือสาที่จะทำให้เขากลายเป็นหิน

เสี่ยวลิ่วจื่อทนได้ไม่ถึงสิบลมหายใจ เขาตะโกนออกมาว่า “ฉันพูดแล้วๆ!”

เขาแข็งทื่อไปแล้วครึ่งซีก ถ้ายังไม่ยอมต้องตายแน่ๆ

ลู่ฝานเก็บพลังวิญญาณแล้วพูดว่า “พูดสิ่งที่นายรู้ออกมาให้หมด ห้ามตกหล่นแม้แต่ตัวเดียว”

เสี่ยวลิ่วจื่อปากสั่นหงึกๆ ผ่านไปนานจึงพูดว่า “เตี้ยนเซี่ยหนาน…..หนานกงฉวน”

โครงกระดูกอึ้งทันที จากนั้นพูดเสียงดังว่า “ใครนะ นายบอกว่าใครนะ”

เสี่ยวลิ่วจื่อก้มหน้าพูดว่า “องค์ชายสี่ เตี้ยนเซี่ยหนานกงฉวน!”

โครงกระดูกส่ายหน้าไม่หยุด “เป็นไปไม่ได้! ฉันไม่เชื่อ คนทรยศสมควรตายแบบนาย ใกล้ตายแล้วยังกล้าใส่ร้ายน้องสี่ น่าโมโหชะมัด!”

โครงกระดูกพุ่งเข้าไปซัดหน้าเสี่ยวลิ่วจื่อทันที

ลู่ฝานขมวดคิ้วเบาๆ แต่ไม่ได้ห้ามโครงกระดูก

รออยู่นาน เห็นโครงกระดูกซัดจนกระดูกทั้งตัวจะแยกออกจากกันแล้ว ลู่ฝานพูดว่า “สหายหนานกง ใจเย็นๆ ฟังเขาพูดให้จบก่อนเถอะ”

โครงกระดูกหยุดลง ตอนนี้ใบหน้าเสี่ยวลิ่วจื่อเต็มไปด้วยบาดแผล