ตอนที่ 1355 ปรากฏการณ์อันวุ่นวาย

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

มู่เฉียนซีมีกระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ไว้ในครอบครอง คนของโลกทั้งสี่ทิศนั้นก็มิใช่ว่าปิดตัวต่อข่าวสารจึงล้วนแต่รู้กันทั่วทั้งหมด!

แต่ให้รู้แล้วอย่างไรเล่า? ผู้ใดจะกล้าไปแย่งชิง!

มิใช่ว่าพวกเขาไม่กล้าล่วงเกินหอหมอปีศาจ แต่ตำหนักเป่ยหานนั้นยิ่งเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่อาจจะไปล่วงเกินได้มากกว่า

มังกรเพลิงสีแดงฉานปรากฏขึ้น ทำให้เพลิงวิญญาณนั่นดูอ่อนซีดลงอย่างเห็นได้ชัด

ไป๋เหยียนเอ๋อร์กัดฟัน ก็แค่เพลิงลุกที่ดูดีเท่านั้น ยังไงมู่เฉียนซีก็จะต้องพ่ายแพ้!

“หึ หึ หึ! แน่นอนว่านางจะต้องพ่ายแพ้! ข้าได้นำนักปรุงยาที่เคยแข็งแกร่งที่สุดในนรกให้เจ้ากลืนกินเข้าไปแล้ว ถ้าหากว่าเจ้ายังพ่ายแพ้อีก ไร้ประโยชน์เช่นนั้นข้าไม่อภัยให้แน่” เสียงอันชั่วร้ายดังก้องอยู่ในหัวของไป๋เหยียนเอ๋อร์

ไป๋เหยียนเอ๋อร์กล่าว “ขอให้ท่านหมิงจีวางใจได้ ข้าจะต้องชนะอย่างแน่นอน! มู่เฉียนซีนั่นนับประสาอะไรกัน ไฉนเลยจะสามารถมาเทียบกับลูกสมุนของท่านหมิงจีที่เป็นนักปรุงยาผู้ฝึกบำเพ็ญมาแล้วเป็นหมื่นปีได้”

จากนั้นไป๋เหยียนเอ๋อร์ก็ได้นำสมุนไพรวิญญาณชนิดต่าง ๆ ออกมา

ของล้ำค่า…มันเป็นของล้ำค่าทั้งสิ้น!

ผู้อาวุโสเหล่านั้นของสำนักโอสถฯ ก็ล้วนแต่ตะลึงงัน “ธิดาศักดิ์สิทธิ์ของตำหนักตงจี๋ผู้นั้นจะทำอะไร? ของเหล่านี้สามารถที่จะสกัดยาลูกกลอนขั้นสวรรค์ระดับสูงสุดออกมาได้ แต่นางจะไปทำสำเร็จได้อย่างไร?”

ด้วยเพราะไป๋เหยียนเอ๋อร์นั้นอายุน้อยเกินไปนัก แม้ว่าระดับขั้นดูเหมือนว่าจะสูงเป็นอย่างมาก แต่ทว่าพวกเขายังไม่แก่เสียจนสายตาพร่ามัวที่จะมองไม่ออกว่าระดับขั้นนั้นมันลวงตายิ่งนัก

สิ่งที่ไป๋เหยียนเอ๋อร์นำออกมานั้นล้ำค่าอย่างมิอาจหาสิ่งใดเปรียบเทียบได้ ทว่าสมุนไพรวิญญาณที่มู่เฉียนซีนำออกมานั้นทำให้ดวงตาของพวกเขาเขม็งโตขึ้นมา

“โอ้ สวรรค์! มันคือหญ้าจิ่วหยางหยวนกับผลจิ่วหยางซวน”

สมุนไพรวิญญาณขั้นสวรรค์สองอย่างนี้ หากสามารถหามาได้ชนิดหนึ่งนั่นก็เป็นปาฏิหาริย์แล้ว แต่นี่กลับหาได้ครบทั้งสองชนิด

มิเพียงแค่เท่านั้นยังมีสมุนไพรวิญญาณแปลกประหลาดอีกเป็นร้อยพันชนิด ไม่มีชนิดใดที่ไม่เป็นของล้ำค่าหาได้ยากตลอดทุกช่วงยุคสมัย

คนเหล่านั้นของสำนักโอสถฯ กล่าวอย่างตกตะลึง “เด็กสาวผู้นี้จะทำอะไรกันแน่? สมุนไพรวิญญาณที่ล้ำค่าเช่นนั้น ถ้าหากมิสกัดยาลูกกลอนขั้นสวรรค์ขั้นสูงสุดละก็ มันจะเป็นการไม่คุ้มค่าเป็นอย่างมากแน่นอน!”

“นั่นน่ะสิ!”

“……”

พวกเขาจ้องเขม็งไปที่สมุนไพรวิญญาณเหล่านั้นของมู่เฉียนซี แต่ในใจนั้นกำลังเกิดโลหิตไหลริน

“นางเป็นระดับจักรพรรดิผู้หนึ่ง นั่นไม่อาจที่จะสกัดยาลูกกลอนขั้นสวรรค์ออกมาได้เลย ช่างสิ้นเปลืองไม่รู้จักคุณค่าเสียจริงเชียว!”

ถ้าหากมิใช่เพราะคำนึงถึงกฎของการแข่งขันในครั้งนี้ พวกเขาล้วนแต่อยากพุ่งเข้าไปห้ามปรามมิให้มู่เฉียนซีใช้สมุนไพรวิญญาณเหล่านั้นเสีย

แต่ทว่าก็ทำไม่ได้ จึงทำได้เพียงจ้องมองดูอยู่อย่างนั้น

มู่เฉียนซีเองก็มิได้สนใจสายตาอันเร่าร้อนเหล่านั้นของพวกเขาและได้โคจรพลังวิญญาณขึ้นมา ทุกคนล้วนแต่ตะลึงงัน!

“มหาจักรพรรดิแห่งภูตขั้นที่เก้าเต็มขั้น!”

“เหตุใดผู้นำตระกูลมู่ถึงได้กลายเป็นแข็งแกร่งขึ้นมาเช่นนั้น”

“ประมุขน้อยเฉียนซีได้กลายเป็นยอดฝีมือเต็มขั้นขั้นสูงสุดแล้ว โอ้สวรรค์!”

ไป๋เหยียนเอ๋อร์เองก็ไม่อยากที่จะเชื่อ นางกล่าวขึ้น “ผู้อาวุโสแห่งสำนักโอสถฯ ทุกท่าน มู่เฉียนซีนั้นทุจริต! พลังความสามารถของนางกลับสามารถฝืนเพิ่มขึ้นมาได้เช่นนั้นมันไม่ตรงกับกฎเลยแม้แต่น้อย”

ผู้อาวุโสสูงสุดแห่งสำนักโอสถฯ ตะลึงงัน องค์รัชทายาทเป่ยกงเคยกล่าวเอาไว้แล้วว่าในการแข่งขันปรุงยาครั้งนี้จะมีคนผู้หนึ่งที่สามารถเพิ่มพลังความสามารถขึ้นมาได้

สิ่งที่นางใช้ก็คือยาลูกกลอนชนิดพิเศษแบบหนึ่งที่เอาไว้ช่วยเหลือนักปรุงยา มันมิเพียงแต่ช่วยเพิ่มพลังวิญญาณขึ้นมาเท่านั้น ซ้ำแล้วนักปรุงยาผู้นั้นยังมีความสามารถที่แข็งแกร่งอีกด้วย

ยาลูกกลอนชนิดนี้มีแค่เพียงองค์รัชทายาทเป่ยกงเท่านั้นที่มี พวกเขาสำนักโอสถฯ เองก็ต้องประจบประแจงองค์รัชทายาทเป่ยกงเพื่อยาลูกกลอนชนิดนี้

มู่เฉียนซีทำทุจริต ด้วยการใส่ไฟของไป๋เหยียนเอ๋อร์คนผู้อื่นเองก็เริ่มที่จะไม่พอใจขึ้นแล้ว

ผู้อาวุโสหูผายมือแล้วกล่าว “ไปตรวจสอบแม่นางผู้นั้นเสียหน่อย!”

ความดีความชอบในเรื่องนี้ต้องยกให้แก่องค์รัชทายาทเป่ยกง

คนผู้นั้นกลับมากล่าวรายงาน “รายงานท่านผู้อาวุโสหู กลิ่นอายของแม่นางผู้นั้นสงบนิ่งไม่มีการระเบิดพลังใด ดังนั้นแล้วจึงถือว่ามิได้ใช้ยาลูกกลอนที่ผิดกฎไป ที่นางใช้ก็คือยาลูกกลอนสำหรับช่วยนักปรุงยา นับว่าไม่เป็นการผิดกฎ”

เป็นดั่งที่คิดเอาไว้จริง ๆ ผู้อาวุโสหูยิ้มออกมา

ไป๋เหยียนเอ๋อร์กล่าวโต้ “นั่นเป็นไปไม่ได้! พวกเราไม่เคยได้ยินว่ามียาลูกกลอนเช่นนี้มาก่อน พวกท่านกำลังปกป้องมู่เฉียนซี”

ผู้อาวุโสหูกล่าวตอบ “ที่พวกเจ้าไม่รู้ก็เพราะว่าพวกเจ้าหาความรู้ไว้ไม่มากพอ สำนักโอสถฯ ของเราเป็นถึงสำนักนิกายระดับสี่จึงไม่จำเป็นต้องกล่าวเท็จ! ถ้าหากเจ้ามีความสามารถขึ้นไปยังแดนเทียนซวนแล้วก็จะรู้ได้ว่าสิ่งที่เราพูดไปนั้นเป็นความจริงอย่างแน่แท้”

“งานแข่งขันปรุงยาครั้งใหญ่นี้แข่งขันกันที่การปรุงยา! ขอให้พวกเจ้าจงจำเอาไว้!”

สำนักโอสถฯ ใช้อำนาจของตน จึงทำให้เหล่าผู้คนพวกนั้นต้องยอมจำนน

ไป๋เหยียนเอ๋อร์ไม่พอใจเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่อาจที่จะกล่าวปฏิเสธได้

พลังความสามารถของมู่เฉียนซีเพิ่มขึ้นแล้วอย่างไรเล่า นางจะไม่แพ้อย่างแน่นอน

ไม่นานนักปรุงยาทุกคนก็ได้เริ่มปรุงยา

คนของสำนักโอสถฯ ก็ได้ปล่อยนางไปเฉย ๆ เช่นนั้น มันช่างเหนือความคาดหมายของมู่เฉียนซีนัก สิ่งที่นางต้องทำต่อจากนี้ก็คือสกัดยาลูกกลอนอย่างเต็มกำลัง

มู่เฉียนซีกำลังทุ่มเทสมาธิไปกับการสกัดยา ในสายตาของนักปรุงยาทั้งหลาย วิธีการและความทุ่มเทของนางทำให้นางกลายเป็นดวงดาราดวงเด่นที่สุดในสนามไป

ทันทีที่เห็นนางปรุงยาก็ราวกับเหมือนโดนความทุ่มเทตั้งใจนั้นทำให้เสพติดเข้าไปก็มิปาน ไม่อาจที่จะละสายตามองไปทางอื่นใดได้เลย

แน่นอนว่าจิ่วเยี่ยที่เฝ้าดูมู่เฉียนซีอยู่นั้นก็มองเห็นว่าคนเหล่านี้กำลังจ้องมองมู่เฉียนซี ทันใดนั้นเขาก็นึกอยากที่จะทำให้ทั้งลานนี้กลายเป็นค่ำคืนอันมืดมิดที่มองไม่เห็นแม้แต่มือของตนเอง และทำให้ทุกคนในที่นี้กลายเป็นซากความตายไป

แค่มีเขาเพียงผู้เดียวมองดูอยู่ก็พอแล้ว ซีช่างทำให้ผู้คนหลงใหลเสียจริง อีกทั้งยังเจิดจ้าได้ถึงเพียงนี้

แต่ในที่สุดแล้วจิ่วเยี่ยก็มิได้ลงมือเหมือนดั่งในความคิด

จะทำให้เรื่องที่ซีอยากจะทำต้องพังลงไม่ได้

ผู้อาวุโสหูมองไปยังมู่เฉียนซีแล้วกล่าวพึมพำ “ไม่เสียทีที่เป็นผู้ที่องค์รัชทายาทเป่ยกงชอบพลอ ทั่วทั้งสำนักโอสถฯ ของข้าก็คงจะไม่มีผู้ใดสามารถเทียบได้กับเด็กสาวผู้นี้แล้ว นี่ช่างเป็นของล้ำค่าแห่งฟ้าดิน เป็นนักปรุงยาที่สมบูรณ์แบบโดยกำเนิด”

ทางด้านไป๋เหยียนเอ๋อร์ก็พยายามอย่างหนัก พลังจิตอันน่ากลัวนั้นได้กระแทกไปทั่วทั้งลานประลอง ความรวดเร็วในการปรุงยานั้นเร็วเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังชำนาญอย่างยิ่งอีกด้วย

ผู้อาวุโสหูสัมผัสได้ถึงพลังจิตอันเย็นยะเยือกนั้น “เกิดอะไรขึ้นกับแม่นางผู้นั้น? พลังจิตที่แข็งแกร่งอีกทั้งยังเย็นยะเยือกเช่นนั้น!”

“ผู้อาวุโสหู พวกเราสัมผัสได้ว่านางมิได้ใช้ยาลูกกลอนอันใดที่เป็นการฝ่าฝืนกฎ คาดว่าคงจะเป็นพรสวรรค์ที่เป็นพิเศษกระมัง!”

เมื่อเวลาค่อย ๆ ผ่านไป เมฆดำครึ้มก่อตัวแล้วสลายไปแล้วก็วนเวียนเช่นนั้นอีก ปรากฏการณ์เช่นนี้แสดงว่ายาลูกกลอนขั้นสวรรค์กำลังจะกำเนิดขึ้นแล้ว

แต่มันเป็นแค่เพียงยาลูกกลอนขั้นสวรรค์ธรรมดา ๆ เท่านั้น ผู้อาวุโสแต่ละท่านของสำนักโอสถฯ จึงมิได้สนใจ ราวกับว่าเป็นเรื่องที่พวกเขาคุ้นชินแล้ว

เกิดลมพายุบ้าคลั่ง เมฆหมอกหนาทึบ อะไรที่ทุกคนว่าเป็น ปรากฏการณ์แปลกประหลาดนั้นพวกเขาเคยพบเห็นมาก่อนแล้ว

นักปรุงยาที่อยู่ในลานประลองทยอยทำสำเร็จกันไปทีละคน จำนวนนักปรุงยาที่เหลืออยู่ในสนามก็น้อยลงไปทุกที

ในตอนนี้เองก็พลันเกิดพายุหมุนสีดำขึ้น หนึ่งเส้น สองเส้น สามเส้น…

สีหน้าของแต่ละท่านจากสำนักโอสถฯ เปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก “นี่เป็นสมุนไพรวิญญาณขั้นสวรรค์ระดับเก้าอย่างแน่นอน อีกทั้งคุณภาพของมันจะต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน ปรากฏการณ์เช่นนี้ช่างแกร่งกล้านัก”

“นั่นเป็นยาลูกกลอนที่สาวน้อยแห่งตำหนักตงจี๋ผู้นั้นสกัดออกมา!”

พวกเขามองไปยังไป๋เหยียนเอ๋อร์อย่างตกตะลึง ในตอนนี้ยาลูกกลอนของไป๋เหยียนเอ๋อร์กำลังจะเป็นรูปเป็นร่างแล้ว

อันดับหนึ่งจะต้องเป็นของนางอย่างแน่นอน!

คนเหล่านั้นของตำหนักตงจี๋เองก็ตื่นเต้นขึ้นมา “ธิดาศักดิ์สิทธิ์ช่างเก่งกาจนัก! นางสามารถที่จะสกัดยาลูกกลอนขั้นสูงสุดที่ก่อให้เกิด ปรากฏการณ์เช่นนี้ขึ้นได้”

“ธิดาศักดิ์สิทธิ์ของพวกเราสิถึงจะใช่อัจฉริยะนักปรุงยาอันดับหนึ่ง มู่เฉียนซีอะไรนั่นไม่อาจที่จะเทียบกับธิดาศักดิ์สิทธิ์ของพวกเราได้เลย!”

ธิดาศักดิ์สิทธิ์จะต้องชนะแน่!”

ครืน! ลมพายุหมุนสีดำอันน่าสะพรึงกำลังทำลายล้างที่ด้านนอกของลานประลองอย่างบ้าคลั่ง มีบ้านเรือนจำนวนไม่น้อยถูกทำลายจนแหลกละเอียดเป็นผุยผง

ส่วนมู่เฉียนซีในตอนนี้มิได้สนใจเรื่องภายนอกใด ๆ ทั้งสิ้น นางกำลังตั้งใจทำอย่างเต็มความสามารถเพื่อสกัดยาหยินหยางอนันต์

ผลัดหยินเปลี่ยนหยาง ยาลูกกลอนหยินอยางอนันต์อันฝืนลิขิตฟ้านั้นยากที่จะสกัดกว่าที่นางได้คิดเอาไว้มากนัก

.