ศิษย์นอกสำนักและศิษย์ในสำนักของสำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนเหมินรวมกันแล้วมีศิษย์แดนมหาจักรพรรดิยุทธ์หลายพันคน แม้แต่ศิษย์หลักรุ่นเยาว์หลายคนก็ยังเป็นแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์ แต่คนเหล่านี้มีความคิดที่ว่าฐานะตัวเองสูงส่ง ดูถูกเหยียดหยามในการไปศิษย์ในสำนักกลั่นยาให้

“ฮึ่ม เป็นเพียงคนมาใหม่ก็กล้าแย่งการค้ากับท่านปู่จูหรือ?”

ด้านการค้าของหลัวซิวกำลังดัง นักกลั่นยาคนหนึ่งจากศิษย์ในสำนักนั่งนิ่งต่อไปไม่ได้

นักกลั่นยาคนนี้ชื่อ จูเฟยเฉียวชื่อไม่เลว แต่รูปร่างเขาอ้วนและชอบหาเรื่องคนอื่นมาก

คนนี้กราบเข้ามา สำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนเหมินเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ตอนนี้ผลการฝึกตนของเขาก็เป็นแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์เป็น และทดสอบผ่านหอเหวิ้นเต้าชั้นเจ็ด ในตอนนั้นเขาก็มีชื่อเสียงเล็กน้อยแล้ว

และที่สำคัญกว่านั้น จูเฟยเฉียวยังเป็นปรมาจารย์กลั่นยาระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้น 9 คนหนึ่ง ซึ่งสามารถกล่าวได้ว่าเป็นคนดังสำหรับศิษย์ในสำนักและศิษย์นอกสำนักแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์แล้ว

เพียงแต่ว่า จูเฟยเฉียวคนนี้มีนิสัยแปลก ๆ เมื่อเขาอารมณ์ดี เขาจะกลั่นยาให้ผู้อื่น หากอารมณ์ไม่ดี เขาจะไม่สนใจ และแม้ว่าเขาจะกลั่นยาให้ผู้อื่นเมื่อเขาอารมณ์ดี แต่ค่าตอบแทนก็สูงมาก อย่างมากที่สุดก็มากกว่าการแลกเปลี่ยนยากับสำนักอีกเล็กน้อย

ถึงกระนั้นก็ยังมีศิษย์อีกมากที่มาหาเขาเพื่อให้เขากลั่นยาให้ พูดได้เลยว่าพวกเขาทำเงินได้มากมายในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา

จู่ ๆ หลัวซิวก็กระโดดออกมา แม้ว่าเขาจะรับยาเซียนเป็นค่าตอบแทน ราคาก็ไม่ต่ำ แต่เป็นที่ยอมรับจากศิษย์แดนมหาจักรพรรดิยุทธ์มากขึ้นเพราะสำหรับศิษย์แดนมหาจักรพรรดิยุทธ์แล้ว สรรพคุณของยาเซียนนั้นด้อยกว่าเม็ดยาระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์มาก

จูเฟยเฉียวรู้สึกว่าตำแหน่งของเขาถูกยั่วยุ เขาออกจากถ้ำทันทีด้วยโทสะแล้วตรงไปที่ถ้ำของหลัวซิว

ทุกวันนี้มีคนจำนวนมากที่มาหาหลัวซิวเพื่อกลั่นยา ผู้ที่สามารถฝึกฝนจนถึงแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์ นอกจากความสามารถของตนเองแล้วยังมีโอกาสมากมาย มีคนหลายคนมียาเซียนอยู่ในมือ

ผลการฝึกตนของแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์ ไม่ได้ใช้ยาเซียน ถ้าเอาออกไปขาย ราคาต่ำไปก็เสียดาย คนส่วนใหญ่จะเก็บไว้กับตัวแล้วยังช่วยอะไรไม่ได้อีก

ส่วนบางคนที่บอกว่าจะรอจนกว่าจะถึงระดับเทพมารก่อน นั่นน่ะพูดเล่นๆ กันทั้งนั้น เพราะนอกจากจำนวนน้อยมากที่มีพรสวรรค์เก่งกาจไม่เหมือนคนแล้ว ยังไม่มีใครกล้าพูดว่าตัวเองจะถึงระดับเทพมารอย่างแน่นอนในอนาคต

ความเร็วในการกลั่นยาของหลัวซิวค่อนข้างเร็ว แต่คนเดียวก็ทำอะไรได้ไม่มาก ดังนั้น ถังหยุนจึงอาสาช่วยเขา รับยาวิเศษอยู่ที่หน้าประตูถ้ำแล้วส่งไปในถ้ำ หลังจากที่หลัวซิวกลั่นยาเสร็จแล้ว นางก็หยิบยาออกมาส่งให้นายจ้าง

หลายวันมานี้ยุ่งมาก ในพริบตาหลัวซิวก็ได้รับยาเซียนมายี่สิบหกชนิด

แม้จะบอกว่าเขารวบรวมยาเซียนเพื่อแลกเปลี่ยนม้วนหยกนั้น แต่หลัวซิวก็ไม่รีบที่จะไปแลกเปลี่ยน เพราะทุกวันนี้การจดจ่ออยู่กับการกลั่นยา ทำให้เขารู้สึกว่าทักษะการกลั่นยาของเขายังมีช่องว่างให้พัฒนา

หากต้องการบรรลุเป็นนักยาเซียนจะฝึกฝนเทคนิคการกลั่นยาในปัจจุบันให้สมบูรณ์ที่สุด ยิ่งกว่านั้น ยิ่งรวบรวมยาเซียนได้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งดี เมื่อถึงเวลาทำความเข้าใจม้วนหยกเบื้องต้นของนักยาเซียนจำเป็นต้องฝึกฝนกลั่นยา และหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ยาเซียนจะสูญเปล่า

ประสบการณ์การกลั่นยาของเขาดำเนินไปอย่างราบรื่น เพราะเขาสืบทอดความทรงจำของปรมาจารย์นักกลั่นยาระดับ 9 และตอนนี้เขาต้องการที่จะเป็นนักยาเซียน เช่นเดียวกับนักกลั่นยาคนอื่นๆ เขาต้องผ่านความล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อสรุปประสบการณ์ เพื่อเรียนรู้บทเรียน จึงจะมีโอกาสที่จะหาจุดหัวเลี้ยวหัวต่อสำหรับการบรรลุ