หน้าถ้ำเขาทิพย์ มีจอมยุทธ์จำนวนมากเข้าคิวขอกลั่นยา ก่อตัวเป็นแถวยาวจากไหล่เขาถึงตีนเขา

ในเวลานี้ เมฆมงคลบินมาจากระยะไกล บนเมฆมงคลมีรถม้าที่สวยงาม สาวใช้สองคนที่ถือนพปฎลมหาเศวตฉัตร และมังกรทองตัวหนึ่งดึงรถม้าอยู่บนท้องฟ้าเหนือเขาทิพย์นี้

เห็นเพียงชายอ้วนคนหนึ่งนั่งอยู่บนรถม้าสีทอง ดวงตาของเขาหรี่ลงสีหน้าของเขาเคร่งขรึม

“จูเฟยเฉียว!”

ศิษย์หลายคนทั้งนอกสำนักและในสำนักรู้ว่าเขาเป็นใคร และในสายตาของพวกเขามีความหวาดกลัวแสดงออกมา

จูเฟยเฉียวมีชื่อเสียงมากในสำนัก ไม่เพียงแต่เป็นปรมาจารย์กลั่นยาระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้น 9 เท่านั้น ที่สำคัญกว่านั้นผลการฝึกฝนของเขาได้มาถึงแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้น 7 และเขาสามารถผ่านชั้นเจ็ดของหอเหวิ้นเต้าได้ แข็งแกร่งมาก

ว่ากันว่ามีครั้งหนึ่งที่ จูเฟยเฉียวฝึกฝนอยู่ภายนอก ต่อสู้กับเทพมารคนหนึ่งด้วยผลการฝึกฝนแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้น 7 ในที่สุดก็ถอยกลับโดยไม่มีผู้ชนะ

“แม่นางน้อย ให้ชายหนุ่มที่อยู่ในถ้ำออกมา ท่านปู่จูอยากดูว่าใครกันที่กล้าแย่งการค้าขายของข้าในพื้นที่ของข้า!”

จูเฟยเฉียว ชายอ้วนคนนี้ไม่เกรงใจเลย และดูเหมือนคนพาลอีกด้วย

สีหน้าของคนจำนวนมากดูไม่ดี ทุกคนต่างสามารถดูออกได้ว่า จูเฟยเฉียวมาที่นี่เพื่อหาเรื่อง และเป้าหมายคือปรมาจารย์นักกลั่นยาที่สกุลหลัว

สำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนเหมินไม่ได้ห้ามเหล่าศิษย์ต่อสู้กันในที่ส่วนตัว โดยทั่วไปแล้วหากไม่ต่อสู้กันรุนแรงเกินไปหรือตาย ผู้อาวุโสรักษากฎของสำนักจะเพิกเฉย เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการแข่งขันและส่งเสริมให้เหล่าศิษย์ฝึกฝนอย่างขยันขันแข็งมากขึ้น

เวลาต่อสู่กันจะไม่มีใครสนใจ แถมยังเต็มใจที่จะดูการต่อสู้เพื่อดูว่าผู้ใดแข็งแกร่งกว่าผู้ใดอ่อนแอกว่า แต่ก็ไม่ใช่เรื่องดีสำหรับผู้ที่มาขอกลั่นยา เพราะถ้าปรมาจารย์หลัวถูกจูเฟยเฉียวอ้วนคนนี้กดขี่ จะต้องไปหาคนอ้วนใจดำคนนี้เพื่อขอกลั่นยาให้หรือ?

เวลาที่ ถังหยุนเข้าร่วม สำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนเหมินก็ไม่สั้น นางรู้จัก จูเฟยเฉียวที่มีชื่อเสียงไม่น้อยอยู่แล้ว สีหน้ามีความหวาดกลัวเป็นอย่างมาก

“แม่นางน้อย เจ้าไม่ได้ยินที่ข้าพูดหรือ?”

เมื่อเห็น ถังหยุนยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น ใบหน้าอ้วนของ จูเฟยเฉียวกระตุก ความเย็นชาปรากฏขึ้นในดวงตาเล็กของเขา

ชายอ้วนคนนี้มีรูปลักษณ์ที่แย่มาก แต่ความแข็งแกร่งของเขานั้นแข็งแกร่งมาก ภายใต้การข่มขู่จากลมปราณ ทำให้สีหน้าถังหยุนเปลี่ยนไปในทันที นางก้าวถอยหลังหลายก้าว แผ่นหลังกระแทกกับประตูหินของถ้ำ และใบหน้าซีดเผือก

“ไอ้หนุ่มที่ใสใหม่ ไสหัวออกมาซะ!”

จูเฟยเฉียวส่งเสียงเย็นชาแล้วตะคอกด้วยห้วงยุทธ์เสียงส่งเข้าไปในถ้ำ

“ตึง!…”

ห้วงยุทธ์เสียงเป็นการโจมตีด้วยคลื่นเสียง ค่ายกลคุ้มกันรอบถ้าที่หลัวซิวสร้างขึ้น เปิดใช้งานทันที กลายเป็นม่านแสงขวางคลื่นเสียงไว้ เกิดเป็นม่านคลื่น

ในเวลาเดียวกัน หลัวซิวที่กำลังกลั่นยาอยู่ในถ้ำ รู้สึกถึงบางอย่างและได้รับผลกระทบ และยาที่กลั่นอยู่ในเตากลั่นยาก็ใช้ไม่ได้กลายเป็นสารตกค้างในทันที

“หาที่ตาย!”

สีหน้าหลัวซิวเย็นเฉียบทันที สิ่งที่เขาสนใจไม่ใช่ยาที่เสียไป แต่เป็นความเข้าใจใหม่เกี่ยวกับเทคนิคการกลั่นยาเมื่อครู่นี้ แต่ความรู้สึกนั้นถูกขัดจังหวะโดยคนอื่น

เห็นเพียงเขายื่นมือแล้วโบก เก็บเตากลั่นยา แล้วลุกขึ้นเดินไปที่ประตูถ้ำทันที

“โครม โครม…”

ประตูหินของถ้ำค่อยๆ เปิดออก และหลัวซิวก็ก้าวออกมา

ทันทีที่เขาปรากฏตัว ทุกสายตาจับจ้องมาที่เขา หลัวซิวมองเห็นชายร่างอ้วนที่ขับขี่เมฆมงคลอยู่กลางอากาศ นั่งอยู่บนรถม้าสีทอง เป็นภาพที่ฟุ่มเฟือยหรูหรา

“เจ้าบาดเจ็บหรือ?” หลัวซิวสังเกตว่าใบหน้าของถังหยุนซีดและลมปราณไม่เป็นระเบียบ

“ศิษย์พี่หลัว ข้าไม่เป็นอะไร…” ถังหยุนบอกหลัวซิวถึงการมาของจูเฟยเฉียวผ่านตัวสำนึกส่งเสียง