ค้อนขนาดใหญ่สีทองนี้มีพลังมหาศาลของเทพมาร นอกจากนี้ยังเป็นอาวุธที่หล่อหลอมโดยเทพมารอีกด้วย แต่กลับแข็งแกร่งกว่าสมบัติแห่งเทพมารทั้งหมดที่หลัวซิวเคยเห็นในโลกแสงดาว

เห็นได้ชัดว่าเทพมารในโลกเสวียนเทียนมีวิธีการหลอมอาวุธที่ดีกว่า และอาวุธที่สร้างก็มีพลังมากกว่าเช่นกัน

“สมบัติแห่งเทพมาร!?”

สีหน้าหลายคนเปลี่ยนไปกะทันหัน แม้ว่าจะมีเทพมารมากมายในโลกเสวียนเทียน แต่สมบัติแห่งเทพมารก็ยังเป็นสิ่งล้ำค่ามีเพียงบางคนที่มีภูมิหลังที่ยอดเยี่ยมหรือความโชคดีเท่านั้นที่จะได้มา

“ไอ้หนุ่มกลัวแล้วใช่ไหใ? แต่มันสายเกินไปแล้วที่เจ้าจะขอความเมตตาในตอนนี้ ข้าบอกแล้วว่าจะจัดการเจ้าด้วยสามกระบวนท่า ก็จะไม่มีกระบวนท่าที่สี่!”

หลังจากนำไพ่ตายสมบัติแห่งเทพมารออกมา ความมั่นใจของ จูเฟยเฉียวเพิ่มสูงขึ้น ดวงตาของเขาดูดุร้ายพร้อมพูดอย่างโหดเหี้ยม “กล้าแย่งการค้าขายกับข้า วันนี้ข้าไม่ตบตีเจ้าจนห้องไห้ฉี่แตกงั้นตั้งแต่นี้ต่อไปข้าจะใช้นามสกุลของเจ้า!”

“เจ้าน่าตาน่าเกลียดเกินไป เจ้าอย่าดูถูกนามสกุลของข้าเลย”

“เจ้าอยากตาย!”

จูเฟยเฉียวโกรธจัด ค้อนขนาดใหญ่สีทองเปลี่ยนไปทันที กลายเป็นค้อนขนาดยักษ์ เสียงดังก้องไปทั่ว แล้วทุบไปยังหลัวซิวอย่างดุเดือด

แม้ว่าผลการฝึกฝนของ จูเฟยเฉียวจะไม่ถึงระดับเทพมาร แต่เขาก็สามารถกระตุ้นพลังของสมบัติแห่งเทพมารได้ประมาณเจ็ดสิบหรือแปดสิบเปอร์เซ็น ซึ่งไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย

“สมบัติแห่งเทพมาร ข้าก็มี!”

หลัวซิวไม่หวาดกลัว แสงศักดิ์สิทธิ์พุ่งออกมาจากจุดตันเถียนของเขา เผยให้เห็นเตากลั่นยาขนาดใหญ่ แทรกซึมไปด้วยลมปราณเทพมาร

เขาไม่ต้องการใช้วิธีไพ่ตายของตัวเอง ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ใช้หอกยุทธ์มังกรดำ วิชาลับพลังแปรเสวียนเทียนและกฎแห่งกาลเวลา

ภายใต้การกระตุ้นของเขา เตาเทพเปลี่ยนเป็นขนาดของภูเขา ลอยขึ้นไปในอากาศอย่างรวดเร็วชนกับค้อนขนาดใหญ่สีทอง

โครม!

ผลที่ตามมาสั่นสะเทือนและเสียงของการปะทะกันระหว่างสมบัติแห่งเทพมารทั้งสองชิ้น สามารถกล่าวได้ว่าเป็นการทำลายล้างโลก ผู้คนในสำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนเหมินต่างได้ยินอย่างชัดเจน

พลังของสมบัติแห่งเทพมารกระจายออกไป ราวกับว่าเทพมารฟื้นคืนชีพ รบกวนเหล่าผู้อาวุโสเทพมารในตำหนักเขาทิพย์

“เป็นศิษย์ในสำนักสองคนต่อสู้กันหรือ?”

“รุ่นเยาวร์สองคนนี้โชคดีจริงๆ ผลการฝึกตนของพวกเขาไม่สูง แต่มีสมบัติแห่งเทพมารอยู่ในมือ”

ศิษย์ในสำนักไม่ค่อยได้รับความสนใจจากผู้อาวุโสเทพมาร แต่จูเฟยเฉียวในวันนี้ก็โมโหขาดสติไป ดังนั้นเขาจึงใช้สมบัติแห่งเทพมารและกลายเป็นจุดสนใจในทันที

“สามกระบวนท่าแล้ว ถึงเวลาโจมตีของข้าแล้ว!”

หลัวซิวก้าวขึ้นไปในอากาศ ออร่าของเขาเพิ่มขึ้นอย่างดุเดือด เขาใช้เตาเทพต่อต้านค้อนขนาดใหญ่สีทอง สมบัติแห่งเทพมารสองชิ้นต่อสู้กัน

เขาใช้กฎปริภูมิและมาตรงหน้า จูเฟยเฉียวในทันที นิ้วมือสองนิ้วของมือขวาประชิดกันพร้อมชี้ไปในอากาศ

“บูม!”

ปราณกระบี่สีดำกระโจนออกมา เห็นเพียงหลังจากที่ปราณกระบี่นี้ปรากฏขึ้น มันก็ขยายตัวใหญ่ขึ้นอย่างต่อเนื่อง ราวกับว่ามันได้กลายเป็นกระบี่ใหญ่ตระหง่าน กวาดล้างอนัตตาทำให้ชิ้นส่วนเทวกาลจำนวนนับไม่ถ้วนล้อมรอบปราณกระบี่

สีหน้าของ จูเฟยเฉียวเปลี่ยนไปอย่างมาก เขารู้สึกว่าพื้นที่รอบๆ ตัวเขาถูกล็อค และเขาทำได้เพียงมองดูกระบี่สีดำขนาดใหญ่ที่พุ่งเข้าหาเขา

นี่เป็นวิชาพลังอมตะวิชาหนึ่งเช่นกัน หลัวซิวใช้กฎความตายและกฎปริภูมิ พัฒนามาจากหมื่นจักรวาลไร้รูป

“อ๊าก!…”

จูเฟยเฉียวร้องออกมาอย่างเจ็บปวดแล้วถูกฟันออกไปทันที ร่างอ้วนของเขากลายเป็นจุดดำบนท้องฟ้าอันไกลโพ้น ไม่รู้ว่าเขาถูกฟันไปไกลแค่ไหน

สำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนเหมินไม่ได้ห้ามการต่อสู้ของศิษย์ แต่ห้ามฆ่ากัน ดังนั้นแม้ว่าชายอ้วนคนนี้จะหยิ่งยโสจนอยากจะฆ่าเขา แต่ก็ไม่ได้ฆ่าเขาในสำนัก