ในวินาทีนี้ ออเดรย์ฉุกคิดได้ว่า บางทีการ ‘แทรกแซงชะตากรรม’ อาจไม่ได้ทำเพื่อให้เธอเดินทางไปยังหมู่บ้านฮาร์ตลาร์คเพื่อสืบสวนประเพณีการบูชามังกรโดยตรง แต่เป็นการทำให้เธอฉุกคิดว่ามีบางสิ่งผิดปรกติ จึงต้องสร้างความขัดแย้งด้วยการใช้ ‘บุคลิกเสมือน’ เพื่อเปลี่ยนความคิดพี่ชายทั้งสองคน จนกระทั่งบุคลิกเสมือนดังกล่าวถูกตรวจพบโดยมังกรจิต เนื่องจากมีตราประทับของเมืองแห่งปาฏิหาริย์เลฟซิดอยู่
แม้จะอยู่ฝ่าย ‘วางกับดัก’ แต่ออเดรย์ก็อดผวาไม่ได้ เพราะต้องยอมรับว่า หากต้องการให้แผนนี้ประสบความสำเร็จ ผู้ลงมือต้องเข้าถึงจิตใจของเหยื่ออย่างถ่องแท้ และเมื่อตระหนักว่าตนถูกอ่านออกอย่างทะลุปรุโปร่ง จึงเป็นธรรมดาที่จะอกสั่นขวัญแขวน
ต้องไม่ลืมว่า ในเวลานั้น ครึ่งเทพลำดับ 4 อย่างออเดรย์มั่นใจว่าเหตุการณ์รอบตัวดำเนินไปตามความต้องการของตน ทุกสิ่งราบรื่นและเหมาะสมโดยที่มิอาจตระหนักถึงการถูกใช้เป็นเหยื่อล่อ
มังกรจิตขยับปีกยักษ์ซึ่งห่อหุ้มด้วยผิวหนัง สายตาก้มมองออเดรย์ในชุดคลุมสีเงินก่อนจะกล่าว
“ที่นี่คือวงกตความฝันซึ่งสร้างจากหลากหลายความฝัน ต่อให้ผู้วางกับดักจะลงมาเยือนด้วยตัวเอง ก็ต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะหาห้องนี้พบ และข้าจะไม่แช่อยู่ที่นี่นานนัก”
เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายเองก็ตระหนักถึงกับดัก แต่มองว่าคุ้มค่าที่จะเสี่ยง
วงกตความฝัน… เป็นพลังของนักสานฝัน หรือพลังใดพลังหนึ่งซึ่งเกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพ? ออเดรย์สลัดความคิดฟุ้งซ่าน ถามอีกฝ่ายอย่างใจเย็น
“อยากทราบเรื่องใด”
มังกรยักษ์สีเทาอ่อนพึมพำ
“ข้าชื่ออาริฮ็อก หนึ่งในสามมังกรโบราณที่ยังหลงเหลือ”
ความหมายก็คือ เขาเป็นหนึ่งในสามมหามังกรที่รอดชีวิตมาจากยุคสมัยที่สอง และปัจจุบันแทบไม่หลงเหลือมหามังกรอีกแล้ว มีเพียงลูกหลานที่ยังคอยสืบสายเลือดจากยุคสมัยเทพบรรพกาล? ออเดรย์พยักหน้าแผ่ว ไม่ขัดจังหวะคำพูดอีกฝ่าย
ด้านหลังหญิงสาว ท่ามกลางดินแดนอันรกร้างซึ่งมีวัชพืชสีเขียวเข้มปกคลุม ประตูไม้บานหนึ่งกำลังลอยเหนือพื้นโดยปราศจากการค้ำจุน
อาริฮ็อกไม่มัวยืดเยื้อ หลังจากแนะนำตัวเอง มันตั้งคำถาม
“เจ้าพบเลฟซิดที่ไหน”
ออเดรย์เตรียมคำตอบนี้ไว้นานแล้ว จึงตอบอย่างเยือกเย็น
“ในหนังสือนามว่า การเดินทางของกรอซาย กล่าวกันว่ามันถูกสร้างโดยราชามังกรแอนเคอร์เวล”
“กรอซาย…” อาริฮ็อกไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน หลังจากทวนกับตัวเอง มันถามต่อ “เป็นหนังสือแบบใด”
ออเดรย์เจ้าของผมสีทองพาดบ่า อธิบายกระชับ
“ภายในหนังสือมีโลกที่ใกล้เคียงความเป็นจริง หนังสือสามารถดูดบุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะสม หรือไม่ก็คนที่นำเลือดป้ายลงบนปก เข้าไปในโลกดังกล่าว และขังพวกเขาไว้ในโลกนั้น”
อาริฮ็อกเงียบไปสักพัก
“ในโลกของหนังสือมีทะเลจิตใต้สำนึกรวม?”
“ใช่” ออเดรย์ตอบด้วยความมั่นใจ “เมืองแห่งปาฏิหาริย์ที่ดิฉันเคยเห็น อยู่ในส่วนลึกของทะเลจิตใต้สำนึกรวมภายในหนังสือ”
อาริฮ็อกหายใจดังขึ้นเล็กน้อย
“คุณเห็นอะไรในเลฟซิดบ้าง”
ออเดรย์นึกทบทวนสักพักก่อนจะเล่า
“เมืองที่เต็มไปด้วยต้นเสาขนาดมหึมาและพระราชวังอันงดงาม… นอกจากนั้น ดิฉันยังมีโอกาสได้เข้าไปในตำหนักของราชามังกร ซึ่งความคิดของทุกสิ่งมีชีวิตจะสะท้อนออกมาเป็นเสียง ดิฉันเรียกที่นั่นว่าโถงแห่งความจริง… ลึกเข้าไปในโถงแห่งความจริง ด้านหลังบัลลังก์ของราชามังกรมีประตูทองแดงโบราณปริศนาตั้งอยู่ ดิฉันไม่ทราบว่ามันผนึกสิ่งใดไว้ แต่มั่นใจว่าอันตรายมาก จึงไม่กล้าเข้าใกล้”
ออเดรย์เล่าความจริงทั้งหมด แต่มิได้เอ่ยถึงมิสเตอร์เวิร์ล มิสเตอร์สตาร์ และข้อสันนิษฐานส่วนตัว
มังกรโบราณ อาริฮ็อกเงียบไปพักใหญ่ คล้ายกับกำลังไตร่ตรองในบางสิ่ง หรือไม่ก็วิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบันของเลฟซิด
ระหว่างนี้ ศีรษะของมันก้มต่ำลง ราวกับเตรียมนำร่างลงจากยอดเสายักษ์ที่สูงกว่าร้อยเมตร
ขณะออเดรย์กำลังประหม่ากับฉากไม่ชอบมาพากลตรงหน้าและเตรียมถามบางสิ่ง อาริฮ็อกเงยหน้าขึ้น
ดวงตาสีทองแนวตั้งของมันทวีความเย็นชามากขึ้นทุกขณะ จนกระทั่งเปล่งเสียงดังกังวานไปทั่วดินแดนอันรกร้าง
“เลฟซิด…”
ท่ามกลางเสียงคำรามประหนึ่งฟ้าร้อง ตัวตนของสิ่งที่อยู่ในความมืดมิดด้านหลังอาริฮ็อกพลันคมชัดขึ้นในทันที เผยให้เห็นเค้าโครงของบางสิ่งท่ามกลางบรรยากาศสว่างไสว
เสาหินยักษ์จำนวนมาก สูงหลายสิบถึงหลายร้อยเมตร บ้างเด่นตระหง่านตามลำพัง บ้างรวมกลุ่มกันเพื่อค้ำจุนตำหนักโบราณอันงดงาม
ทั้งเสาหินและตำหนักล้วนเป็นสีเทาอ่อน ตั้งอยู่บนฐานซึ่งมีลักษณะคล้ายเกาะ รูปลักษณ์ภาพรวมตรงตามคำอธิบายของ ‘เลฟซิด’ ที่ออเดรย์เพิ่งเล่าไป
ไม่สิ นี่ดูราวกับเป็นเมืองแห่งปาฏิหาริย์ของจริง
ในวินาทีนี้ ออเดรย์เพิ่งตระหนักว่า เสาหินที่อาริฮ็อกหมอบอยู่ตั้งแต่ต้น มีความสูงมากที่สุดและใหญ่ที่สุดในเลฟซิดแล้ว
หญิงสาวรู้สึกราวกับมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างเกิดขึ้นกับอาริฮ็อก
ขณะดวงตาสีเขียวของออเดรย์เริ่มขยับ เสียงด้ามจับโลหะของประตูด้านหลังพลันดังแว่ว
หรือว่า… ออเดรย์ข่มใจไม่ให้หันหลังกลับในทันที ทำเพียงเบี่ยงตัวไปด้านข้างและมองจากแนวเฉียง
ประตูไม้ซึ่งลอยเหนือพื้นโดยปราศจากสิ่งค้ำจุน เปิดออกเล็กน้อยพร้อมกับเผยให้เห็นรูปลักษณ์ของผู้มาเยือน
กระต่ายตัวใหญ่ ขนสีขาว กระดิกหูได้
เหนือสายหมอกสีเทา ภายในวังโบราณ ร่างหนึ่งซึ่งปกคลุมไปด้วยสายหมอกบนเก้าอี้เดอะฟูลหัวโต๊ะทองแดงยาว กำลังเฝ้ามองเหตุการณ์ผ่านดาวแดงตัวแทนมิสจัสติสอย่างเงียบงัน
…
กรุงเบ็คลันด์ เขตตะวันตก บ้านเลขที่ 9 ถนนเบลลอตโต้
เมื่อตระหนักว่าเส้นตายสองสัปดาห์กำลังขยับใกล้เข้ามา เวนเดลล์เริ่มเกิดอาการนอนไม่หลับจนต้องพึ่งยา
หลังจากตื่น มันจะกระสับกระส่ายอย่างหนัก หมดความอยากอาหารโดยสิ้นเชิง แต่เพื่อรักษาเรี่ยวแรง มันฝืนตัวเองกินอาหารซึ่งเพื่อนร่วมงานจัดหามาให้จนครบสามมื้อต่อวัน
มันไม่ทราบเลยว่า จะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองบ้างเมื่อเส้นตายการขึ้นศาลมาถึง มันมิอาจรับประกันได้ว่า ตนจะไม่เผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลงซึ่งมิอาจย้อนกลับ
ความกลัวต่อความไม่รู้ ทำให้เวนเดลล์ช็อกจนหายใจไม่ออกบ่อยครั้ง และนั่นสร้างความทรมานเป็นอย่างมาก
ในบางที เวนเดลล์ถึงกับคิดว่า ไม่ใช่เรื่องฉลาดนักที่จะต่อต้านการกลับไปเยือนยูโทเปียของตน
เมื่อพิจารณาจากประสบการณ์อันน้อยนิดของตนขณะอาศัยอยู่ที่นั่น หากกลับไปยังยูโทเปียด้วยความบริสุทธิ์ใจและช่วยเป็นพยานให้เทรซี่ในชั้นศาล มีโอกาสสูงที่มันจะได้กลับบ้านอย่างปลอดภัยเมื่อการขึ้นศาลจบลง
อย่างน้อยจนถึงปัจจุบัน เวนเดลล์ก็ไม่เคยได้ยินว่ามีใครตายหรือเป็นบ้าเพราะยูโทเปีย และผู้คนที่นั่นก็ค่อนข้างใจดี หากไม่นับเรื่องความพิสดารก็แทบไม่มีข้อเสีย
เราแค่ไปช่วย และพวกเขาก็จะขอบคุณเรา… คงไม่ทำอันตรายกับเราแน่… ยิ่งขบคิดมากเพียงใด เวนเดลล์ก็ยิ่งรู้สึกว่า แทนที่จะทุกข์ทรมานอยู่ในเบ็คลันด์ สู้มันไปเผชิญอันตรายในยูโทเปียคงสบายใจมากกว่า
แน่นอน มันไม่ได้คลางแคลงว่ามาตรการป้องกันของ MI9 จะหละหลวม เพียงแต่คิดว่า ในกรณีเลวร้ายที่สุด ตนก็แค่ได้ไปเข้าเฝ้าเทพวายุสลาตันเร็วกว่าปรกติเล็กน้อย
ฟู่ว… เวนเดลล์ถอนหายใจยาว นั่งบนเก้าอี้ หยิบนิยายขึ้นมาอ่านฆ่าเวลา
แต่ความกระสับกระส่ายทำให้มันอ่านไม่เข้าหัว หลังจากพลิกหน้าเร็วขึ้น ในที่สุดมันก็ปิดหนังสือ
เวนเดลล์หลับตาลงเพื่องีบหลับ
ท่ามกลางอาการสะลึมสะลือ เวนเดลล์พบว่าตนกำลังอยู่ในศาลของยูโทเปีย แต่ไม่ใช่ในฐานะพยาน หากแต่เป็นผู้ชม
มันได้เห็นเทรซี่ถูกตัดสินว่า การป้องกันตัวของเธอไม่ชอบธรรมเนื่องจากขาดพยานหลักฐานที่มีน้ำหนัก คดีจึงถูกโอนไปยังศาลอาญา จากนั้น มันได้เห็นสาวสวยระเบิดน้ำตาด้วยรอยยิ้มแสนเจ็บปวด
เวนเดลล์สะดุ้งตื่น จ้องมองโคมไฟแก๊สติดผนังตรงหน้าอย่างเงียบงัน ไม่ขยับเขยื้อนเป็นเวลานาน
หากปัญหาอยู่ที่เมืองยูโทเปีย ไม่ใช่ชาวยูโทเปีย การเพิกเฉยของเรากำลังทำลายชีวิตของหญิงสาวผู้น่าสงสาร… เวนเดลล์ถอนสายตากลับด้วยร่างกายสั่นเทา แต่มันยังมิอาจเอาชนะความกลัวภายในใจ
ถัดมา มันใช้สองมือพยุงโต๊ะเพื่อยืนขึ้น เดินไปทางประตู วางแผนจะเตร็ดเตร่ไปรอบๆ สำนักงาน MI9 เพื่อผ่อนคลาย
หลังออกจากห้องและเดินไปตามทางได้สักพัก ทันใดนั้น เวนเดลล์ได้ยินเพื่อนร่วมงานในห้องข้างๆ กำลังพูดคุยเกี่ยวกับยูโทเปีย
“นายได้ยินหรือยัง? คนล่าสุดที่ได้เข้าไปในยูโทเปียเป็นคนขับรถม้า เขาขับไปส่งนักธุรกิจจากยูโทเปียที่บริเวณท่าเรือ แต่ทันทีที่เลี้ยวเข้าไปในถนนเส้นหนึ่ง ก็ต้องพบว่าสภาพแวดล้อมรอบตัวแปลกตาไป”
“เราจำเป็นต้องเตือนคนขับรถม้าทุกคนในเบ็คลันด์เกี่ยวกับยูโทเปีย… อา คงต้องเปรียบเทียบยูโทเปียกับสายลับระดับสูง พวกเขาจะได้เห็นภาพชัดเจนขึ้น”
“วิธีเข้าออกยูโทเปียฟังดูสยองชะมัด”
“ใช่ บางครั้งฉันก็สงสัยว่า ทางเข้ายูโทเปียอาจเกิดขึ้นได้ทุกที่”
“ต้องมีข้อจำกัดบางอย่างแน่ ไม่มีทางที่จะทรงพลังอย่างที่เราจินตนาการ… ไม่อย่างนั้น การเข้าห้องน้ำของฉันก็ทำให้ไปโผล่ยูโทเปียได้เหมือนกัน”
“ถ้าคำนึงจากหลักการที่เบื้องบนสรุปมา… นั่นก็เป็นไปได้ในทางทฤษฎี”
“…”
ได้ยินเช่นนั้น เส้นเลือดบนหน้าผากเวนเดลล์กระตุกเล็กน้อย มันเริ่มรู้สึกว่า แม้แต่การอยู่ในสำนักงานใหญ่ MI9 ก็อาจไม่ปลอดภัย
เว้นเสียแต่ว่าจะมีครึ่งเทพคอยคุ้มกันเราตลอดเวลา ไม่อย่างนั้นคงมิอาจเลี่ยงชะตากรรมที่ต้องกลับสู่ยูโทเปียได้… บางที หลังจากล้างมือและเปิดประตูห้องน้ำ เราอาจไปโผล่ในโรงแรมดอกไอริชในยูโทเปีย… ไม่สิ ลำพังครึ่งเทพทั่วไปก็คงช่วยเราไม่ได้ พลังของเมืองยูโทเปียดูเหมือนจะเกินกว่าขีดจำกัดมนุษย์ไปไกล น่าจะใกล้เคียงกับทวยเทพ… เวนเดลล์เริ่มตื่นตระหนก ยากจะระงับความกลัวภายในจิตใจ
เมื่อถูกความหวาดผวาครอบงำ มันตัดสินใจกลับห้องและหยิบเอกสารการขึ้นศาลของยูโทเปียออกจากลิ้นชัก
ทันทีหลังจากนั้น เวนเดลล์เข้าไปในห้องน้ำ กระซิบด้วยอาการผวาขณะถือเอกสาร
“ฉันยินดีที่จะเป็นพยานในศาล… ฉันยินดีที่จะเป็นพยานในศาล…”
ทำอยู่หลายครั้งติดต่อกัน จากนั้น มันเหยียดแขนออกไปจับด้ามจับประตูห้องน้ำ
ทันใดนั้นเอง อีกาสีดำสนิทซึ่งดูคล้ายกับเงา บินเข้ามาจากช่องลมและลงจอดตรงมุมห้องน้ำในจุดที่ไม่มีใครสังเกตเห็น
วินาทีถัดมา เวนเดลล์บิดด้ามจับ ดึงกลับ เปิดประตูห้องน้ำ
ฉากตรงหน้าไม่ใช่ห้องนอนที่คุ้นเคย หากแต่เป็นห้องโถงที่แปลกตา