ตอนที่ 2500

War sovereign Soaring The Heavens

ตอนที่ 2,500 : ฟงชิงหยาง จักรพรรดิสวรรค์ จี้เมี่ยเทียน?

 

ถึงแม้ตอนที่ฉงเฉวียนและโฉดคลุมทองยังอยู่ข้างกายต้วนหลิงเทียน ทั้งคู่จะเปรียบตัวเองเป็นดั่งข้ารับใช้

 

แต่เป็นธรรมดาว่าต้วนหลิงเทียนไม่ได้มองทั้งคู่เป็นแค่ข้ารับใช้

 

ทว่าสถานะของทั้งคู่ในใจต้วนหลิงเทียน ยังมีความแตกต่างกันอยู่บ้าง…

 

เพราะฉงเฉวียนได้ติดตามต้วนหลิงเทียนมาตั้งแต่ยังเยาว์ กระทั่งคอยดูแลทั้งเสียสละให้ต้วนหลิงเทียนไม่น้อย จากนั้นยังติดตามดูแลรับใช้ครอบครัวต้วนหลิงเทียนอย่างดี…

 

ด้วยเหตุนี้ถึงแม้ภายหลังพลังสามารถของฉงเฉวียนจะถูกเขาทิ้งไปไกล แต่เขาก็ไม่ได้มองฉงเฉวียนเป็นคนนอกแต่อย่างใด อีกฝ่ายเสมือนคนในครอบครัวของเขาคนหนึ่ง…

 

ทว่าตอนนี้ต้วนหลิงเทียนจำต้องเฝ้ามองฉงเฉวียนที่เป็นเหมือนคนในครอบครัวมานาน ต้องตกตายลงต่อหน้าต่อตา!

 

“อวิ๋น! ชิง! เหยียน!”

 

สายตาที่ต้วนหลิงเทียนใช้มองอวิ๋นชิงเหยียนบัดนี้ทำราวกับจะเข่นฆ่าผู้คนให้ตาย เผยให้รู้ว่าโกรธแค้นอวิ๋นชิงเหยียนขนาดไหน

 

“พอได้แล้ว!!”

 

เมื่อเค่อเอ๋อตะคอกคำออกมาอีกครั้ง น้ำเสียงของนางยังเย็นลงปานจะแช่แข็งผู้คน

 

เป็นธรรมดาที่เค่อเอ๋อจะรู้ความสำคัญของฉงเฉวียนในใจชายคนรักของนาง

 

ด้วยเหตุนี้นางย่อมล่วงรู้อารมณ์ทั้งหัวอกชายคนรักเป็นอย่างดี จึงอดไม่ไดที่จะปวดใจแทน เร่งหันไปตะคอกคำกับอวิ๋นชิงเหยียนอย่างสุดจะทน!

 

ด้วยกลัวว่าอวิ๋นชิงเหยียนจะคิดเข่นฆ่าผู้อื่นในยอดสมบัติสวรรค์เชิงพื้นที่ๆเป็นดั่งคุกอีกครั้ง!!

 

“ปล่อยทุกคนไปเสีย แล้วข้าจะกลับไปกับเจ้า!”

 

เมื่อเค่อเอ๋อกล่าวออกมาอีกครั้ง เสียงของนางยังอ่อนลงไม่น้อย เห็นได้ชัดว่านางได้ทำการตัดสินใจอย่างยากลำบาก

 

“เปี่ยวเม่ยในที่สุดเจ้าก็คิดได้แล้ว…”

 

อวิ๋นชิงเหยียนโค้งคิ้วขึ้นมองกล่าวกับเค่อเอ๋อ ใบหน้าเริ่มปรากฏรอยยิ้มแห่งชัยชนะคลี่กางขึ้นมา

 

มันลงแรงไปมากมิใช่เพื่อต้องการผลลัพธ์เช่นนี้หรือไร?

 

“เค่อเอ๋อ!”

 

สีหน้าต้วนหลิงเทียนที่แต่เดิมก็ซีดลงอยู่แล้วคราวนี้ยิ่งซีดลงหนักข้อ แววตายังฉายชัดถึงความกังวลทั้งสับสน

 

ถึงแม้เขาจะไม่อยากให้ครอบครัวและสหายต้องประสบเภทภัย

 

อย่างไรก็ตามเขาไม่อยากให้เค่อเอ๋อต้องจากไป!

 

“ปล่อยทุกคนเสีย!”

 

เค่อเอ๋อมองจ้องอวิ๋นชิงเหยียนด้วยสายตาเยียบเย็น และกล่าวย้ำคำเดิมอีกครั้ง

 

เหล่าผู้คนที่อวิ๋นชิงเหยียนจับตัวมาไม่ได้มีความสำคัญกับต้วนหลิงเทียนคนเดียว ยังมีความสำคัญกับนางเช่นกัน

 

เพราะนั่นก็เสมือนครอบครัวทั้งสหายของนาง!

 

นางย่อมไม่มีวันปล่อยให้ทุกคนเกิดเรื่อง!

 

“ข้าย่อมปล่อยพวกมัน…แต่ไม่ใช่ตอนนี้”

 

อวิ๋นชิงเหยียนกล่าว

 

“หากเจ้าไม่ปล่อยทุกคน ข้าก็ไม่มีวันกลับไปพร้อมเจ้า!”

 

เค่อเอ๋อกล่าวออกเสียงเย็น

 

“เปี่ยวเม่ย…”

 

อวิ๋นชิงเหยียนกกล่าวออกเสียงเบา “เดิมทีข้าคิดกักขังคนรอบตัวต้วนหลิงเทียนรวมถึงตัวมันเพื่อใช้บีบเจ้าให้ตามข้ากลับไป…ทว่าตอนนี้ข้าเพียงสามารถปล่อยต้วนหลิงเทียนได้คนเดียวเท่านั้น แต่สำหรับคนอื่นๆข้ายังไม่อาจปล่อยพวกมันได้ตอนนี้”

 

“หากเจ้ากล้าขังพี่เทียน…ต่อให้ตายข้าก็ไม่คิดกลับไปกับเจ้า!”

 

เค่อเอ๋อกล่าวคำขาด

 

“เปี่ยวเม่ย ความอดทนของข้าเองก็มีจำกัด”

 

อวิ๋นชิงเหยียนขมวดคิ้ว กล่าวออกด้วยน้ำเสียงคล้ายสิ้นความอดทนเต็มที “ข้าจะให้โอกาสสุดท้ายแก่เจ้า…สำหรับต้วนหลิงเทียนนั่นข้ารับปากว่าข้าจะไม่ลงมือหรือขังมัน หากเจ้ากลับไปกับข้า!”

 

“ข้าจะให้เวลาเจ้าคิดแค่ 10 ลมหายใจเท่านั้น…หากกครบ 10 ลมหายใจแล้วหากเจ้ายังตัดสินใจไม่ได้ ข้าจะฆ่าทุกคนในยอดสมบัติสวรรค์เชิงพื้นที่ชิ้นนี้ทิ้งทันที!”

 

กล่าวถึงท้ายประโยคน้ำเสียงของอวิ๋นชิงเหยียนก็เต็มไปด้วยเจตนาฆ่าฟัน

 

วูบ วูบ

 

พอได้ยินคำพูดของอวิ๋นชิงเหยียน ไม่ว่าจะเป็นต้วนหลิงเทียนหรือเค่อเอ๋อก็หน้าเปลี่ยนสีไปอีกครั้ง

 

หากอวิ๋นชิงเหยียนเพียงคิดเข่นฆ่าต้วนหลิงเทียน หรือคิดจับกุมตัวเค่อเอ๋อไปด้วยกำลัง ทั้งต้วนหลิงเทียนและเค่อเอ๋อย่อมไม่มีวันยอมจำนนแน่นอน!

 

หากฆ่าต้วนหลิงเทียน เค่อเอ๋อก็เลือกหนทางตาย

 

และหากอวิ๋นชิงเหยียนคิดใช้กำลังพาตัวเค่อเอ๋อไป ต้วนหลิงเทียนก็ไม่พ้นดิ้นรนจนเลือดหยดสุดท้ายเหือดแห้ง…

 

ด้วยเหตุนี้แม้มันจะพาตัวเค่อเอ๋อไปได้ แต่เกิดต้วนหลิงเทียนตกตายขึ้นมา เค่อเอ๋อก็ไม่คิดอยู่ต่อ

 

ดังนั้นสำหรับอวิ๋นชิงเหยียนแล้วมันเป็นเกมที่ยากลำบากนัก เพราะมันไม่ต้องการให้เค่อเอ๋อตาย

 

ทว่าตอนนี้อวิ๋นชิงเหยียนได้พบวิธีโกงเกมเรียบร้อย

 

หากเค่อเอ๋อไม่ให้ความร่วมมือ มันจะฆ่าต้วนหรูเฟิง หานเฉวี่ยไน่ และคนอื่นๆที่จับมาขังไว้ให้หมด! และนั่นไม่ใช่อะไรที่ทั้งต้วนหลิงเทียนและเค่อเอ๋ออยากจะเห็นแม้แต่น้อย…!

 

“พี่เทียน”

 

หลังจากที่ผ่านไปราวๆ 3 ลมหายใจ เค่อเอ๋อก็หันไปมองต้วนหลิงเทียน ในแววตาของนางฉายชัดถึงความเจ็บปวดทั้งทรมานสุดแสน

 

“เค่อเอ๋อ!!”

 

เห็นซึ้งถึงความเจ็บปวดในแววตาของเค่อเอ๋อ กระทั่งสัมผัสได้ถึงความมุ่งมั่นประการหนึ่งจากนาง ต้วนหลิงเทียนก็รู้เป็นธรรมชาติว่าเค่อเอ๋อได้ตัดสินใจเลือกแล้ว จังหวะนี้ในใจเขาอดไม่ได้ที่จะบังเกิดความไม่ยินยอมทั้งทดท้อถึงขีดสุด!

 

เวลานี้เขาต้องการหยุดเค่อเอ๋อไม่ให้ไปกับอวิ๋นชิงเหยียน

 

แต่ถ้าเขาทำแบบนั้น ก็เสมือนเขาได้ส่งครอบครัวและสหายทั้งหมดไปสู่ปรโลกทางอ้อม…

 

ในใจของเขาสับสนนัก

 

‘ข้าต้องทำอย่างไร?’

 

‘ข้าควรทำอย่างไรดี!?’

 

 

จังหวะนี้ต้วนหลิงเทียนไม่อาจเลือกได้จริงๆ

 

ด้านหนึ่ง ก็ต้องละทิ้งภรรยาอย่างเค่อเอ๋อ และปล่อยให้นางถูกพาตัวไป…

 

ส่วนอีกด้านก็ตกตายไปด้วยกัน ไม่คำนึงถึงครอบครัวและสหาย…

 

“พี่เทียนขอท่านอย่าได้เป็นห่วง ข้าไม่เป็นไร…”

 

เค่อเอ๋อไหนเลยจะไม่รู้ถึงความสับสนทั้งเจ็บปวดในใจของต้วนหลิงเทียน เมื่อเห็นต้วนหลิงเทียนเรียกหา นางก็ได้แต่กล่าวปลอบใจเขาออกไป “ข้าจากไปครานี้ กล่าวไปก็คือการกลับไปยังบ้านเกิดของข้า…ถึงแม้ข้าจะไม่ได้กลับไปตอนนี้ แต่ไม่ช้าก็เร็วข้าก็ต้องกลับไปอยู่ดี”

 

“เพียงแค่ข้าจำต้องกลับไปเร็วกว่าที่คิด…และมิได้กลับไปพร้อมท่าน”

 

เค่อเอ๋อกล่าว

 

“เค่อเอ๋อ…”

 

ถึงแม้จะเดาได้แต่แรกว่าเค่อเอ๋อจะเลือกทางไหน แต่พอได้ฟังความจริงจากปากเค่อเอ๋อ ในใจต้วนหลิงเทียนก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเจ็บปวดราวถูกร้อยมีดกรีดเฉือน!

 

สุดท้ายก็เป็นเขาผิดคำสัญญา

 

เพราะเขาเคยลั่นวาจาไว้แล้ว ว่าต่อให้ต้องตายก็ไม่มีวันยอมให้ใครมาพรากเค่อเอ๋อไปจากเขา…

 

แต่วันนี้เขากำลังจะผิดสัญญาแล้ว

 

“อวิ๋นชิงเหยียน!”

 

เค่อเอ๋อย่อมไม่อาจทนมองใบหน้าเจ็บปวดทรมานใจของต้วนหลิงเทียนได้ไหว จึงหันไปมองกล่าวกับอวิ๋นชิงเหยียน และทันทีที่หันมาใบหน้านางก็ไม่เหลือความรักความห่วงใยอีกต่อไป กลับกลายเป็นเย็นชาไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ

 

“ในมือข้ามีลูกแก้ววิญญาณของพี่เทียนอยู่…หากข้าพบว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้นกับพี่เทียน ข้าก็ไม่คิดอยู่ต่อ!”

 

แม้อวิ๋นชิงเหยียนเองจะเดาเรื่องนี้ได้แต่แรก และมันก็ไม่คิดจะฆ่าต้วนหลิงเทียน ถึงแม้ต้วนหลิงเทียนจะแย่งชิงสตรีที่มันหมายครอบครองไปก็ตาม…

 

อย่างไรก็ตามพอเค่อเอ๋อพูดเรื่องนี้ออกมาตรงๆ ในใจของมันก็อดไม่ได้ที่จะบังเกิดโทสะเอ่อล้นออกมา

 

ครู่ต่อมาสองตาที่ใช้มองต้วนหลิงเทียนของมันก็ทอประกายเย็นเยียบ!

 

“มันอย่างไรก็เป็นแค่มดปลวกสวะในระนาบโลกียะโสโครก…ตราบใดที่วันหน้าเปี่ยวเม่ยไม่คิดกลับมาหามัน ข้ายังไม่อยากจะฆ่ามันให้แปดเปื้อนมือ!”

 

อวิ๋นชิงเหยียนกล่าวออกเสียงเบา ในวาจายังเต็มไปด้วยความดูแคลนรังเกียจต้วนหลิงเทียนถึงที่สุด!

 

หลังจากนั้นไม่ทันที่เค่อเอ๋อจะได้ตอบสนองอะไร มันก็มองกล่าววกับต้วนหลิงเทียนอีกครั้งด้วยรอยยิ้มเย็นชา “ต้วนหลิงเทียน…เจ้าใช่กล่าวไว้ว่าวันนี้หากข้าไม่ฆ่าเจ้า วันหน้าเจ้าจะทำให้ข้าเสียใจใช่หรือไม่?”

 

“ตอนนี้ข้าจะบอกให้เจ้าฟัง…ตัวข้า อวิ๋นชิงเหยียน ไม่เคยกระทำสิ่งใดแล้วต้องมารู้สึกเสียใจภายหลังสักครั้ง!”

 

กล่าวถึงจุดนี้อวิ๋นชิงเหยียนก็หยุดลง ก่อนที่จะก้มลงไปตบหน้าต้วนหลิงเทียนดังฉาด จนใบหน้าต้วนหลิงเทียนปรากฏรอยมือแดงฉาน ยังรู้สึกแสบร้อนนัก!

 

“อวิ๋นชิงเหยียน!”

 

เมื่อต้วนหลิงเทียนถูกยัดเยียดความอัปยศอดสู สองตาของเขาก็ถลึงมองอวิ๋นชิงเหยียนด้วยความคับแค้น ยังโมโหจนร่างที่บาดเจ็บสาหัสสั่นระริก!

 

“วันนี้ข้าไม่เพียงแต่จะพาตัวภรรยาของเจ้าไป ยังจะพาครอบครัวและคนของเจ้าทั้งหมดไปจากเจ้า…”

 

“ข้าล่ะอยากจะรู้นัก! ว่าต้วนหลิงเทียนเจ้า…จะอาศัยความสามารถอันใดมาทำให้ข้าเสียใจ!”

 

เมื่อเห็นว่าใบหน้าของต้วนหลิงเทียนเริ่มบิดเบี้ยวไปด้วยโทสะหลังได้รับความอัปยศอดสู บนหน้าอวิ๋นชิงเหยียนก็เริ่มคลี่กางรอยยิ้มสดใสพึงใจออกมา

 

“จริงสิ…”

 

ทันใดนั้นคล้ายอวิ๋นชิงเหยียนนึกอะไรได้ออก สองตาของมันทอประกายเรืองวูบ มุมปากยกยิ้มแสยะกล่าวออกเสียงเรียบ “มีอีกเรื่องที่ข้าต้องบอกเจ้า…ฟงชิงหยาง คนที่เจ้านับถือเป็นอาจารย์ ในตอนนี้มันเป็นถึงจักรพรรดิสวรรค์ของหนึ่งในเก้าเก้า 81 แดนสวรรค์ ที่เรียกว่า จี้เมี่ยเทียน พลังฝีมือของมันยังนับว่าร้ายกาจไม่เบา กระทั่งในระนาบเทวโลกทั้งมวลมันยังนับว่าร้ายกาจเป็นอันดับต้นๆ…”

 

“หืม?”

 

ได้ยินคำพูดของอวิ๋นชิงเหยียน ต้วนหลิงเทียนแต่เดิมที่มีโมโหจนแทบคลั่ง ก็อดไม่ได้ที่จะตกใจ

 

ฟงชิงหยาง จักรพรรดิสวรรค์ของจี้เมี่ยเทียน?

 

ในอดีตนั้นความรู้ของเขาเกี่ยวกับตัวฟงชิงหยางได้ถูกจำกัดเอาไว้แต่ เรื่องราวที่เกิดขึ้นในระนาบเซียนแห่งนี้เท่านั้น

 

เขารู้แค่เมื่อแสนปีที่แล้ววฟงชิงหยางคือผู้สืบทอดนามหมอกพิรุณ และเป็นผู้นำ 7 ทวาราเที่ยงแท้ในยุคนั้น

 

ในอดีตยังเคยใช้พลังฝึกปรือครึ่งก้าวเซียนอมตะเข่นฆ่าสังหารได้กระทั่งเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์ และสู้ทัดเทียมได้กับเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์

 

ต่อมาก็ได้ทะยานสู่สวรรค์

 

ความสำเร็จของฟงชิงหยางหลังไปถึงระนาบเทวโลกแล้ว ไม่พ้นต้องยิ่งใหญ่และประสบผลเลิศล้ำแน่นอน เรื่องนี้ไม่ต้องสงสัยเลย…

 

อย่างน้อยๆต้วนหลิงเทียนก็คิดแบบนั้น

 

ทว่าถึงแม้ต้วนหลิงเทียนจะคิดแบบนั้น แต่เขาก็ไม่เคยคิดเคยฝันมาก่อน

 

ว่าตอนนี้ฟงชิงหยาง ได้กลับกลายเป็นตัวตนระดับจักรพรรดิสวรรค์ไปแล้ว!

 

ถึงแม้ จี้เมี่ยเทียน จะเป็นเพียงหนึ่งในเก้าเก้า 81 แดนสวรรค์ แต่แดนสวรรค์ก็มีแค่ 81 แดนเท่านั้น สามารถกลายเป็นตัวตนชนชั้นจักรพรรดิสวรรค์ได้ ก็มากพอจะบอกให้รู้ว่าพลังฝีมือของฟงชิงหยางก็นับเป็นอันดับต้นๆในระนาบเทวโลกทั้งมวล!

 

‘ในเวลาแค่แสนปี…ผู้อาวุโสฟงชิงหยางได้กลายเป็นจักรพรรดิสวรรค์แห่งจี้เมี่ยเทียนแล้ว?’

 

ต้วนหลิงเทียนไม่อยากจะเชื่อเลย

 

เรียกว่าจังหวะนี้ต้วนหลิงเทียนคล้ายจะลืมเลือนสถานการณ์ที่เป็นอยู่อย่างสิ้นเชิง

 

เพราะเรื่องที่อวิ๋นชิงเหยียนบอกมา มันทำให้เขาตกใจจนไม่ทันได้คิด…

 

“เจ้ามาบอกเรื่องนี้กับข้าทำไม”

 

หลังจากนั้นไม่นานพอต้วนหลิงเทียนสงบใจลงได้ เขาก็ฉุกคิดถึงเรื่องนี้และกล่าวถามออกไป

 

ขณะเดียวกันในใจเขาก็เริ่มสั่นไหวขึ้นมา…

 

อวิ๋นชิงเหยียนไม่เพียงรู้ว่าเขายึดถือฟงชิงหยางเป็นดั่งอาจารย์ กระทั่งมันยังรู้ว่าฟงชิงหยางเป็นถึงจักรพรรดิสวรรค์แห่งจี้เมี่ยเทียน 1 ในเก้าเก้า 81 แดนสวรรค์! ทว่ามันกลับทำกับเขาถึงขนาดนี้…

 

หรือมันไม่กลัวฟงชิงหยาง?

 

“ที่ข้าพูดถึงเรื่องนี้ เพียงเพราะอยากจะบอกกับเจ้าว่า…”

 

อวิ๋นชิงเหยียนกล่าวออกเสียงเรียบ “ฟงชิงหยางอะไรนั่น ในสายตาข้ามันไม่อาจนับเป็นตัวอะไรได้เลย!”

 

“นอกจากนี้ ข้ายังได้ส่งคนไปหามันแล้ว…หากไม่มีอะไรผิดพลาด บัดนี้คงไร้ซึ่งจักรพรรดิสวรรค์ในจี้เมี่ยเทียน!”