บทที่ 968 จับฉลากคู่ต่อสู้

The king of War

“ผมเห็นด้วย!”

“ผมเห็นด้วย!”

“ผมก็เห็นด้วย!”

หัวหน้าสามคนที่เหลือ ต่างพูดตอบรับ

ในแววตาของหัวหน้าฝ่ายแต่ละคน เต็มไปด้วยความคาดหวัง

วิธีการเลือกผู้สืบทอดแบบนี้ มีเป็นครั้งแรก ในประวัติศาสตร์ของตระกูลเจียง ไม่เคยมีตัวอย่างแบบนี้เกิดขึ้นมาก่อน

เมื่อก่อน ผู้นำเป็นคนแต่งตั้งผู้สืบทอด ไม่ก็ทั้งหกฝ่ายในตระกูลเจียง ปรึกษาหารือกัน ตัดสินว่าใครจะเป็นผู้สืบทอด

แต่ครั้งนี้ กลับให้โอกาสกับทุกฝ่าย

“ผู้นำ การต่อสู้แบบเดี่ยว แบบคู่ รวมถึงแบบกลุ่มที่คุณว่า คงมีคำอธิบายการต่อสู้อย่างชัดเจนใช่ไหม”

หัวหน้ารองถามขึ้น

เจียงสยงพยักหน้า “มีแน่นอน! ใช้วิธีจับฉลาก เลือกฝ่ายต่อสู้ ทั้งหกฝ่ายของตระกูลเจียง ต่อสู้ทั้งหมดสามรอบ ผู้แพ้ถูกคัดออก คะแนนสะสมไม่เพิ่มไม่ลด ผู้ชนะเพิ่มหนึ่งคะแนน ส่วนสามฝ่ายที่เหลือ แต่ละฝ่าย ต่างต้องแข่งกับสองฝ่ายอื่นๆ ผู้ชนะได้หนึ่งคะแนน คะแนนผู้แพ้ไม่เพิ่มไม่ลด จนตัดสินผู้ชนะการสู้แบบเดี่ยว”

“การต่อสู้แบบคู่ก็เหมือนกัน คะแนนผู้แพ้ไม่เพิ่มไม่ลด แต่ผู้ชนะได้เพิ่มสองคะแนน”

“การต่อสู้แบบกลุ่ม แต่ละฝ่ายส่งคนมาสิบคน ผู้แพ้คะแนนไม่เพิ่มไม่ลด แต่ผู้ชนะได้เพิ่มสิบคะแนน!”

“วิธีนี้ เพื่อดูระดับโดยภาพรวม ของสุดยอดผู้แข็งแกร่งตระกูลเจียง ดังนั้น ผู้แข่งขันที่ออกมาต่อสู้แต่ละท่าน ต่อสู้ได้เพียงประเภทเดียวเท่านั้น”

เจียงสยงกวาดตามองทุกคน จากนั้นจึงถามว่า “ทุกท่านมีความเห็นอย่างไร”

ครั้งนี้ ทั้งห้าฝ่ายพากันเงียบ ไม่มีใครตอบทันที

การแข่งขันต่อสู้ที่เจียงสยงพูดขึ้น ยังมีกฎเกณฑ์ ฟังดูยุติธรรมมาก ทำให้พวกเขาไม่สามารถมีปัญหาได้

แต่ผู้แข่งขันที่จะออกมาสู้แต่ละท่าน ต่อสู้ได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น นั่นแสดงว่า แต่ละฝ่ายต้องส่งผู้แข็งแกร่งทั้งหมดสิบแปดคน

ผลการแข่งขันต่อสู้ทุกรอบ ล้วนสำคัญทั้งหมด

เมื่อเป็นเช่นนี้ ไม่ว่าฝ่ายไหน ถ้าอยากให้ผู้สืบทอดตระกูล อยู่ในฝ่ายพวกเขา ก็ต้องทุ่มสุดตัว

เว้นเสียแต่พวกเขาจะเอาผู้แข็งแกร่ง ที่แอบบ่มเพาะออกมาร่วมการแข่งขัน ถึงจะมีโอกาสชนะมากที่สุด

“เป็นไง ทุกคนมีปัญหาอะไรกับวิธีการเลือกของฉันหรือเปล่า อย่าบอกนะว่า พวกนายหวังจะให้เป็นเหมือนเมื่อก่อน ให้ผู้นำแต่งตั้งผู้สืบทอดตระกูล”

เจียงสยงเห็นทุกคนไม่พูด จึงถามอย่างยียวน

“ผมเห็นด้วย!”

หัวหน้าใหญ่พูดเป็นคนแรก

หัวหน้าสี่คนที่เหลือ มองหน้ากันไปมา จากนั้นจึงพากันเห็นด้วย

“โอเค ในเมื่อทุกท่านเห็นด้วย งั้นตอนนี้ก็เลิกประชุม ทุกท่านสามารถเรียกรวมผู้แข็งแกร่งของแต่ละฝ่าย อีกหนึ่งชั่วโมง การแข่งขันต่อสู้จะเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ!”

เจียงสยงโบกมือ แล้วพูดเสียงก้องกังวาน

เมื่อคนทั้งห้าฝ่ายออกไป เจียงหลงเฟยมองพ่อตัวเอง ด้วยสีหน้าสับสน จากนั้นจึงถามว่า “พ่อ ทำไมพ่อถึงใช้วิธีนี้มาเลือกผู้สืบทอดล่ะครับ”

“เราเป็นฝ่ายหลัก ตำแหน่งผู้สืบทอด เดิมทีเราควรเป็นคนตัดสินอยู่แล้ว แต่พ่อกลับให้โอกาสนี้กับทั้งห้าฝ่าย นี่ไม่ยุติธรรมกับฝ่ายหลักอย่างเรานะครับ!”

ถ้าทำตามกฎเก่า เขาเป็นคนที่มีโอกาสเป็นผู้สืบทอดที่สุด

เจียงสยงจ้องเจียงหลงเฟย แล้วถามเสียงขรึม “แกไร้ความมั่นใจในฝ่ายหลักของเราขนาดนั้นเลยเหรอ”

เจียงหลงเฟยอึ้งไป จากนั้นจึงส่ายหน้า “พ่อก็รู้ ผมไม่ได้หมายความแบบนั้น แค่……”

เขายังไม่ทันพูดตบ ก็โดนเจียงสยงพูดตัดบท “ในเมื่อไม่ได้หมายความเช่นนี้ งั้นก็รอดูละกัน ตำแหน่งผู้สืบทอด จะต้องอยู่กับฝ่ายหลักอย่างเราเท่านั้น!”

ตอนนี้เจียงสยงท่าทีแข็งกร้าวตั้งแต่หัวจรดเท้า

เจียงหลงเฟยที่อยากถามอีกมากมาย หลังสัมผัสได้ถึงความมั่นใจของเจียงสยง เขาจึงไม่พูดอะไรมาก คำนับเบาๆ “เข้าใจแล้วครับพ่อ!”

อีกด้านหนึ่ง ห้าฝ่ายของตระกูลเจียง ต่างก็เรียกรวมสายเลือดโดยตรงของตัวเอง มาประชุมหารือกัน

ภายในห้องประชุมฝ่ายรอง หัวหน้ารองนั่งอยู่ข้างหน้า สีหน้าเต็มไปด้วยความหนักใจ

“พ่อ นี่เป็นกลอุบายของผู้นำชัดๆ พวกเราอย่าโดนหลอกนะ!”

ร่างของชายวัยกลางคน มองหัวหน้ารอง แล้วเอ่ยขึ้น

“ถึงเป็นกลอุบาย พวกเราคงทำได้แค่ให้เขาคิดบัญชี”

หัวหน้ารองกัดฟัน “อีกอย่าง ฝ่ายรองของเราเคยกลัวฝ่ายหลักตั้งแต่เมื่อไหร่”

“แต่……”

ลูกชายของหัวหน้ารองยังไม่ทันได้พูดจบ ก็โดนหัวหน้ารองพูดตัดบท “ออกคำสั่งออกไป ให้พวกเขามาที่ตระกูลเจียง ภายในหนึ่งชั่วโมง”

“ครับ!”

ภาพเช่นเดียวกัน เกิดขึ้นในสี่ฝ่ายอื่นๆ

ทันใดนั้น ผู้แข็งแกร่งจำนวนมาก ได้รับข่าวให้กลับตระกูล ต่างพากันกลับตระกูล

“หัวหน้าฝ่าย ครั้งนี้เป็นโอกาสสุดท้ายของเราจริงเหรอ”

ห้องประชุมฝ่ายสาม ผู้อาวุโสอายุประมาณหกสิบปี มองหัวหน้าสาม แล้วถามขึ้น

หัวหน้าสามสีหน้าโหดเหี้ยม ดวงตาทั้งสองข้างฉายแววอาฆาต “ความตายก่อนความอับอาย! ฝ่ายสามต้องได้ตำแหน่งผู้สืบทอดตระกูล!”

“แล้วฝั่งฝ่ายรองจะทำยังไงครับ”

ผู้อาวุโสถามขึ้น

หัวหน้าสามแสยะยิ้ม “ฝ่ายรองเหรอ มาถึงขนาดนี้แล้ว นายยังหวังกับข้อตกลงระหว่างฝ่ายรองกับฝ่ายสามอีกเหรอ”

“ก่อนหน้านี้ฉันรับปากหัวหน้ารอง เมื่อโค่นล้มเจียงสยงได้ จะให้คนของฝ่ายรอง เป็นผู้นำตระกูลคนใหม่ แต่ตอนนี้กฎเปลี่ยนไปแล้ว ข้อตกลงระหว่างฉันกับหัวหน้ารอง ก็สิ้นสุดลงเช่นกัน!”

เวลาหนึ่งชั่วโมงผ่านไปอย่างรวดเร็ว ภายในคฤหาสน์ตระกูลเจียง เตรียมเวทีต่อสู้เอาไว้เรียบร้อยแล้ว

ตอนนี้ รอบๆ เวทีต่อสู้ เต็มไปด้วยผู้คน

รวมไปถึงสายเลือดโดยตรงของหกฝ่ายด้วย ต่างพากันนั่งล้อมรอบเวทีทั้งสี่ด้าน

สิ่งที่ทำให้ทุกคนตกใจก็คือ ในแต่ละฝ่าย ล้วนมีท่วงท่าที่แข็งแกร่งปกคลุมอยู่ แถมคนพวกนี้ ล้วนเป็นคนแปลกหน้า

ขนาดฝ่ายหลัก ก็มีผู้แข็งแกร่งที่ดูแข็งแกร่งมากหลายคน

“ในเมื่อทุกคนมารวมกันแล้ว งั้นเริ่มการแข่งขันต่อสู้ตอนนี้เลย เป็นไง”

เจียงสยงพูดเสียงกังวาน

“ได้ เริ่มเลย!”

แต่ละฝ่ายต่างพูดขึ้นมา

ฝั่งฝ่ายหลัก ข้างเจียงสยง มีหยางเฉินอยู่

“เดี๋ยวครับคุณหยาง……”

จู่ๆ เจียงสยงกระซิบข้างหูหยางเฉิน

“โอเค!”

เมื่อได้ยินคำพูดของเจียงสยง ในแววตาของหยางเฉิน ฉายแวววูบวาบ

จู่ๆ เขารู้สึกชื่นชมเจียงสยง คนแบบนี้ ไม่อยู่ในชายแดนเหนือ น่าเสียดายจริงๆ

“หลงเฟย แกไปจับสลาก!”

เจียงสยงหันไปสั่งเจียงหลงเฟย

“ครับ!”

เจียงหลงเฟยเดินขึ้นไปข้างหน้าก่อน อีกห้าฝ่ายที่เหลือ ต่างส่งคนออกไปจับสลาก

ไม่นาน ผลการจับสลากก็ออกมา

“ฝ่ายหลักVSฝ่ายสาม!”

“ฝ่ายหนึ่งVSฝ่ายห้า!”

“ฝ่ายรองVSฝ่ายสี่!”

กรรมการประกาศคู่ต่อสู้ต่อหน้าทุกคน “ต่อไป เชิญผู้เข้าแข่งขันของฝ่ายหลักและฝ่ายสาม ขึ้นมาบนเวที!”

แววตาของหัวหน้าสามเป็นประกายเย็นยะเยือก สั่งยอดฝีมือข้างตัวเองว่า “การต่อสู้เดี่ยว นายไปสู้ ต้องชนะเท่านั้น!”

“ครับ!”

ยอดฝีมือฝ่ายรองรีบตอบรับ

เจียงสยงมองคนอายุน้อยคนหนึ่ง “รอบนี้ นายไปสู้!”

“ผมเหรอ”

คนอายุน้อยที่โดนเจียงสยงเรียก สีหน้าตกใจ

“นายนั่นแหละ รีบขึ้นไปบนเวที แพ้ชนะไม่เป็นไร แค่คนไม่เป็นอะไรก็พอ!”

เจียงสยงพูดเนิบๆ