ไม่อาจทราบได้ว่าบุรุษชุดดำหายไปที่ใด ทว่าสิ่งที่มั่นใจได้ก็คือจะไม่มีคนจากนิกายราตรีทมิฬบุกเข้ามาสร้างปัญหาที่ดินแดนมหาเทพในอนาคตอันใกล้
ข่ายอาคมโลหิตสังหารของฉินอวี้โม่มีอำนาจมากพอที่จะทำให้นิกายราตรีทมิฬหวาดหวั่นเป็นการชั่วคราว
เพราะถึงอย่างไร เมื่อเดินทางมายังดินแดนที่มีระดับต่ำกว่า พลังของพวกเขาจะถูกยับยั้งไว้พอสมควรและผู้ที่พลังถูกยับยั้งเหล่านั้นจะไม่สามารถหลบหนีจากวงล้อมของข่ายอาคมโลหิตสังหารได้ เพราะเหตุนั้น นิกายราตรีทมิฬจึงจะไม่ลงมือทำสิ่งใดในช่วงเวลาอันใกล้นี้
อย่างไรก็ตาม ในฐานะขุมกำลังอันดับต้น ๆ ของโลกแห่งเทพ เกรงว่าอีกไม่นานนิกายราตรีทมิฬจะค้นพบวิธีการใหม่เพื่อรับมือกับสถานการณ์นี้ เพราะเหตุนั้น ฉินอวี้โม่และทุกคนจะต้องสะสางวิกฤตในดินแดนมหาเทพให้ได้ก่อนที่นิกายราตรีทมิฬจะลงมืออีกครั้ง นี่คือทางออกที่เหมาะสมที่สุด
“เราจะทำลายหลุมดำมิติได้อย่างไร ?”
เมื่อออกจากคฤหาสน์เฟิงหัว ทุกคนก็ต้องปวดหัวอีกครั้งเมื่อมองไปยังหลุมดำมิติที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ
ความเร็วในการขยายตัวของหลุมดำมิติเหนือความคาดหมายของพวกเขาไปมาก หากไม่สามารถหยุดยั้งกระบวนการนี้ได้ วันแห่งการล่มสลายของดินแดนมหาเทพก็คงจะอยู่อีกไม่ไกล…
“ออกไปจากที่นี่กันก่อนเถอะ เราควรศึกษาตำราโบราณเพื่อค้นหาว่ามีบันทึกเกี่ยวกับหลุมดำมิติบ้างหรือไม่”
ฉินอวี้โม่วางข่ายอาคมขึ้นรอบบริเวณ หากมีใครบุกรุกเข้ามาในครานี้ นางจะตรวจจับได้ในทันที หลังจากกล่าวกับทุกคน นางและคนอื่น ๆ ก็กลับไปยังเมืองราชวงศ์
ในเมืองราชวงศ์แห่งมณฑลกลางมีตำราเก่าแก่โบราณอยู่มากมาย ทว่ามีบันทึกเกี่ยวกับหลุมดำมิติเพียงน้อยนิดเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ฉินอวี้โม่และทุกคนก็ยังพยายามค้นหาในห้องสมุดของเมืองเพื่อดูว่ามีตำราที่บันทึกข้อมูลเกี่ยวกับหลุมดำประหลาดที่สามารถกลืนกินทั้งดินแดนหรือไม่
เวลาครึ่งเดือนผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ตลอดช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ขุมกำลังใหญ่และตระกูลต่าง ๆ ล้วนส่งบันทึกและตำราทั้งหมดที่มีเกี่ยวกับหลุมดำมิติในตำนานมาที่เมืองราชวงศ์
ฉินอวี้โม่และทุกคนรวมตัวกันในจุดเดียวเพื่อศึกษาตำราทั้งหมด
เนื้อหาในตำราเหล่านี้ล้วนระบุรายละเอียดยิบย่อยผสมปนเปกันไป ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับการวิวัฒนาการและกระบวนการเกิดของหลุมดำมิติ รวมถึงบันทึกเกี่ยวกับหลุมดำมิติที่เคยกลืนกินดินแดนอื่นในอดีต ทว่าไม่มีตำราใดระบุถึงวิธีการทำลายมันแม้แต่เล่มเดียว
หลุมดำมิติถือเป็นสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดในทุกดินแดนและยากที่จะทำลายได้ หากมิใช่เพราะเหตุนี้ ยอดฝีมือผู้เก่งกาจในอดีตก็คงทำลายมันสำเร็จไปนานแล้ว มิใช่เพียงใช้พลังเพื่อปิดผนึกมันไว้
หลังจากอ่านตำราจำนวนมากทว่าก็ไม่พบสิ่งที่ต้องการ ทุกคนจึงผิดหวังกันไม่น้อย
อย่างไรก็ตาม ฉินอวี้โม่รู้สึกว่ามันไม่ผิดจากที่คาดไว้ หากหาวิธีแก้ไขปัญหาได้ง่าย ๆ พวกนางก็คงไม่ต้องตกอยู่ในสภาวะจนปัญญากันเช่นนี้
เวลานี้ ฉินอวี้โม่กำลังจัดแจงสัมภาระต่าง ๆ ในเรือนที่พักเมื่ออุปกรณ์สื่อสารส่องสว่างวาบขึ้นมา
ทันทีที่เชื่อมต่อสาย เสียงของหานโม่ฉือก็ดังขึ้นมา
“โม่เอ๋อร์…”
เสียงของเขาเปี่ยมไปด้วยความถวิลหาที่ชัดเจนจนรู้สึกได้ ในช่วงเวลานี้ แม้จะมองไม่เห็นใบหน้าของกันและกัน ฉินอวี้โม่ก็รู้สึกราวกับรับรู้ได้ถึงแววตาที่โหยหาและเปี่ยมไปด้วยความรักความเอาใจใส่ของหานโม่ฉือที่กำลังจับจ้องตรงเข้ามา
“โม่ฉือ เจ้าอยู่ที่ใด ?”
ฉินอวี้โม่เอ่ยถามด้วยความกังวล นางทราบดีว่าบุรุษคนรักเดินทางไปที่โลกปีศาจและนั่นเป็นเหตุผลที่ไม่สามารถติดต่อเขาได้ก่อนหน้านี้
จู่ ๆ เมื่อหานโม่ฉือติดต่อมาอย่างกะทันหัน นางจึงคิดว่าเขาอาจกลับมาที่ดินแดนมหาเทพแล้ว
“โม่เอ๋อร์ ฟังข้านะ ข้ายังกลับไปไม่ได้และยังอยู่ที่โลกปีศาจ ข้ารู้ว่าเจ้ากำลังเผชิญกับปัญหาบางอย่างจึงติดต่อไปเพื่อช่วยเหลือเจ้า”
ณ โลกปีศาจ ภายในปราสาทที่ทำจากหินสีดำวาว หานโม่ฉือกำลังนั่งอยู่ที่นั่นพร้อมด้วยตำราในมือ หน้าที่เขาเปิดออกในตอนนี้ระบุข้อมูลเกี่ยวกับหลุมดำมิติ รวมถึงวิธีการทำลายมัน
เขาทราบถึงสถานการณ์วิกฤตที่เกิดขึ้นกับดินแดนมหาเทพในช่วงที่ผ่านมา แม้เป็นเรื่องยากที่จะหาทางสืบข้อมูลภายในโลกปีศาจเนื่องจากการที่มีศัตรูอยู่ในทุกหนแห่ง แต่พวกเขาก็สามารถสืบเรื่องนี้ได้มากพอสมควร
เมื่อไม่กี่วันก่อน ในที่สุดเขาก็พบเบาะแสที่เป็นประโยชน์
การใช้อุปกรณ์สื่อสารข้ามดินแดนไปหาฉินอวี้โม่เช่นนี้มิใช่เรื่องง่ายนักซึ่งต้องใช้พลังของเขาเป็นปริมาณมากและจะคงอยู่ได้เพียงหนึ่งก้านธูปเท่านั้น หานโม่ฉือจึงต้องรีบสรุปให้กระชับที่สุด
“การทำลายหลุมดำมิติต้องใช้วิธีการพิเศษ อันที่จริงหลุมดำนั่นถือเป็นสิ่งมีชีวิตประเภทหนึ่ง การทำลายมันจะต้องหลอมโอสถที่มีชื่อว่า ‘โอสถกร่อนวิญญาณ’ และโยนเข้าไปในนั้น ในขณะที่เวลาผ่านไป โอสถกร่อนวิญญาณจะกัดกร่อนหลุมดำมิติไปอย่างต่อเนื่อง และเมื่อถึงเวลา หลุมดำมิติก็จะหายไปในที่สุด”
วิธีการนี้ถูกบันทึกไว้ในตำราในมือของเขา อย่างไรก็ตาม กระบวนการทำลายหลุมดำมิติโดยใช้โอสถกร่อนวิญญาณก็จำเป็นต้องใช้ระยะเวลาที่นานพอสมควรและไม่มีทางสำเร็จภายในค่ำคืนเดียว
นอกจากนี้ บรรดาสมุนไพรซึ่งเป็นวัตถุดิบสำหรับการหลอมโอสถกร่อนวิญญาณก็มิใช่สิ่งที่จะตามหาได้ง่าย ๆ อย่างน้อยที่สุดมันก็มีหลายชนิดที่ไม่สามารถค้นหาได้ในดินแดนมหาเทพ
“ข้ามีวัตถุดิบหลายชนิดอยู่ที่นี่และจะให้คนส่งไปให้เจ้า สำหรับวัตถุดิบที่เหลือ ข้าเชื่อว่าเจ้าจะหาทางเองได้”
หานโม่ฉือได้รวบรวมวัตถุดิบสำหรับหลอมโอสถส่วนหนึ่งซึ่งปรากฏเพียงในโลกปีศาจไว้แล้วและจะส่งคนไปที่ดินแดนมหาเทพเพื่อนำพวกมันไปมอบให้กับฉินอวี้โม่ อย่างไรก็ตาม สำหรับวัตถุดิบส่วนที่เหลือ มันก็เป็นหน้าที่ของฉินอวี้โม่และคนอื่น ๆ
“เข้าใจแล้ว”
ฉินอวี้โม่จดรายละเอียดทั้งหมดอย่างรวดเร็วก่อนเอ่ยถามอย่างเป็นกังวล “โม่ฉือ สถานการณ์ทางนั้นเป็นอย่างไรบ้าง ?”
นางตระหนักถึงความน่าสะพรึงกลัวของโลกปีศาจเป็นอย่างดีและทราบว่าความกดดันที่หานโม่ฉือต้องเผชิญนั้นหนักหนากว่าสิ่งที่นางเผชิญมากนัก
“ไม่ต้องห่วง ตอนนี้ยังไม่เกิดเรื่องใด พวกเขารับรู้ถึงการกลับมาของข้าแล้ว แต่ข้ามีพลังอำนาจอยู่และพวกเขาก็ทำอะไรข้าไม่ได้”
หานโม่ฉือซ่อนความเหนื่อยล้าในน้ำเสียงและไม่ต้องการให้ฉินอวี้โม่ต้องกังวลใจ
อันที่จริง สถานการณ์ที่เกิดขึ้นมิได้สวยหรูดังที่กล่าวออกไป คนของโลกปีศาจทราบแล้วว่าเขากลับมาและพยายามโจมตีอย่างไม่หยุดหย่อน หากมิใช่เพราะพวกเขาก็เป็นกระต่ายเจ้าเล่ห์ที่มีสามรัง อีกฝ่ายก็คงทราบแล้วว่าพวกเขาซ่อนตัวอยู่ที่ใดและหานโม่ฉือคงจะตกอยู่ในอันตรายไปนานแล้ว
* 狡兔三窟 กระต่ายเจ้าเล่ห์มีสามรัง หมายถึง คนเจ้าเล่ห์ที่มีที่หลบซ่อนตัวมากมาย มีทางหนีที่ไล่รับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ
อย่างไรก็ตาม เขาไม่จำเป็นต้องให้ฉินอวี้โม่รับรู้ปัญหาเหล่านั้น ในเมื่อมิใช่เรื่องใหญ่และสามารถจัดการเองได้ เขาก็ไม่จำเป็นต้องทำให้นางเป็นกังวล
ฉินอวี้โม่ไม่เอ่ยถามให้มากความ นางทราบดีว่าหานโม่ฉือไม่ต้องการให้ตนเป็นห่วง สิ่งเดียวที่นางทำได้ในตอนนี้คือการพัฒนาตนเองให้แกร่งกล้ามากขึ้นโดยเร็วและจะได้ไปที่โลกปีศาจเพื่อฝ่าฟันอุปสรรคขวากหนามเคียงข้างกับเขา
“ครานี้ข้าใช้วิธีการพิเศษเพื่อติดต่อกับเจ้าในช่วงสั้น ๆ คงอีกนานกว่าที่ข้าจะติดต่อเจ้าได้อีกครั้ง ระวังตัวไว้และรักษาตัวให้ปลอดภัยล่ะ”
หลังจากที่กำชับทิ้งท้าย เสียงของหานโม่ฉือก็ค่อย ๆ เบาบางจนหายไป
ในความจริง เขาก็ต้องการอาศัยอยู่กับฉินอวี้โม่และบุตรน้อยทั้งสอง เพียงแต่ทราบดีว่าการอยู่กับพวกนางในตอนนี้มีแต่จะทำให้พวกนางตกอยู่ในอันตรายไปด้วย การแยกจากกันเพียงสั้น ๆ นี้ก็เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างยาวนานในอนาคตและเชื่อว่าวันที่ครอบครัวจะได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาคงจะห่างไปอีกไม่ไกล…
ฉินอวี้โม่จับจ้องไปที่อุปกรณ์สื่อสารเป็นเวลานานก่อนเรียกสติจากภวังค์ได้อีกครั้งก็ต่อเมื่อฉินอี้เฟยและเสี่ยวโร่วเข้ามาขัดจังหวะ
“พี่ใหญ่ ข้ามีเรื่องอยากจะบอกท่าน”
ทันทีที่พบหน้าฉินอี้เฟย นางก็นึกถึงสูตรของการหลอมโอสถที่จดไว้
“มีข่าวจากโม่ฉือว่าการหลอมโอสถกร่อนวิญญาณจะทำลายหลุมดำมิติได้ พี่ใหญ่..ท่านรู้จักโอสถกร่อนวิญญาณหรือไม่ ?”
ในดินแดนมหาเทพแห่งนี้ พี่ชายคนนี้ของนางคงจะเป็นเพียงผู้เดียวที่สามารถหลอมโอสถกร่อนวิญญาณได้
“โอสถกร่อนวิญญาณเป็นโอสถระดับสูง วัตถุดิบที่ใช้ย่อมหาได้ไม่ง่าย แต่หากรวบรวมวัตถุดิบทั้งหมดมาได้ การหลอมมันก็ไม่ยากเกินมือ”
ฉินอี้เฟยไตร่ตรองครู่หนึ่งก่อนให้คำตอบ