ตอนนี้ ผู้แข็งแกร่งเก้าคนของฝ่ายหลัก ยกเว้นหยางเฉิน โดนคัดออกจากการแข่งไปแล้วสามคน หันกลับมามองฝ่ายรองกับฝ่ายสาม ยังไม่มีใครออกจากการแข่งขัน
ในสถานการณ์แบบนี้ คนโง่ก็รู้ ฝ่ายหลักต้องโดนคัดออกจากการแข่งขันแน่นอน
“หัวหน้าสี่คิดยังไง”
หัวหน้าห้าหันไปมองหัวหน้าสี่ แล้วถามขึ้น
“ฝ่ายหลักต้องโดนคัดออกจากการแข่งแน่นอน ส่วนฝ่ายรองกับฝ่ายสาม ฝ่ายสามมีโอกาสชนะเยอะกว่า”
หัวหน้าสี่ยกนิ้วขึ้นมาห้านิ้ว “ฉันว่าภายในห้านาที คนของฝ่ายหลักทั้งสิบคน ต้องโดนคัดออกจากการแข่งทั้งหมด!”
หัวหน้าใหญ่กับหัวหน้าห้า ต่างมีสีหน้าตกใจ พวกเขาคิดไม่ถึงว่า หัวหน้าสี่แสดงท่าทีแบบนี้ต่อหน้าทุกคน ไม่กลัวเจียงสยงจะคิดแค้นเหรอ
หรือว่าหัวหน้าสี่ไปแสดงเจตนาดีกับฝ่ายสาม มาก่อนหน้านี้แล้ว
“หัวหน้าสาม ฉันขอแสดงความยินดีล่วงหน้า!”
จู่ๆ หัวหน้าสี่ลุกขึ้น แล้วหันไปประสานมือทำความเคารพ ให้หัวหน้าสาม
หัวหน้ายิ้มอย่างเบิกบาน “งั้นฉันขอรับคำอวยพรของหัวหน้าสี่เอาไว้แล้วกัน!”
คนของฝ่ายหลัก ต่างมีสีหน้าไม่สู้ดี ผลการต่อสู้ยังไม่ออกมา หัวหน้าสี่ก็รีบประจบฝ่ายสามแล้ว หน้าไม่อายจริงๆ
หัวหน้าใหญ่กับหัวหน้าห้ามองหน้ากัน ล้วนรู้ความหมายของกันและกัน
“หัวหน้าสาม ยินดีด้วย!”
“หัวหน้าสาม ยินดีด้วย!”
หัวหน้าใหญ่กับหัวหน้าห้า ต่างพูดอวยพร
“ฮ่าๆ ครับ! ขอบใจมาก!”
บนใบหน้าของหัวหน้าสาม มีรอยยิ้มอย่างเบิกบานใจ
สีหน้าของหัวหน้ารอง ไม่ค่อยดีเท่าไร จากสัญญาที่เขาทำกับหัวหน้าสามเอาไว้ก่อนหน้านี้ ฝ่ายสามช่วยให้ฝ่ายรอง ได้ตำแหน่งผู้สืบทอด
แต่ว่าตอนนี้ ฝ่ายสามกลับช่วงชิงสถานการณ์ได้เปรียบ ไปจากฝ่ายรอง
จากพละกำลังที่ผู้แข็งแกร่งฝ่ายสาม แสดงออกมาตอนนี้ ฝ่ายรองไม่มีโอกาสชนะเลย
“พวกนายยังมียางอายอยู่ไหม”
จู่ๆ หัวหน้ารองหันมาทางเวทีต่อสู้ แล้วตวาดอย่างโมโห “ฉันให้พวกนายขึ้นไปบนเวทีต่อสู้ เพื่อต่อสู้กับฝ่ายหลักและฝ่ายสามอย่างยุติธรรม แต่ดูพวกนายทำสิ ร่วมมือกันเล่นงานคนฝ่ายหลัก”
“ถึงฝ่ายหลักเป็นคู่ต่อสู้ของเรา ฉันก็ทำเรื่องไร้ยางอายแบบนี้ไม่ได้ พวกนายยังเป็นคนในวิถีบู๊อยู่หรือเปล่า”
ผู้แข็งแกร่งฝ่ายรองที่กำลังล้อมโจมตีฝ่ายหลัก ได้ยินคำพูดของหัวหน้ารอง แต่ละคนพากันอึ้ง
พวกเขาไม่ได้โง่ ในเมื่อหัวหน้ารองพูดเช่นนี้ ต้องมีความหมายอื่นแน่นอน
บนเวทีมีเพียงฝ่ายสามกับฝ่ายหลัก เป็นคู่ต่อสู้ หัวหน้ารองสื่อชัดเจนว่าไม่ให้พวกเขาร่วมมือกัน เล่นงานฝ่ายหลัก งั้นก็เท่ากับว่า หันมาเล่นงานฝ่ายสามงั้นเหรอ
เพียงพริบตา หัวหน้าผู้แข็งแกร่งฝ่ายรอง ตวาดอย่างโมโห “ลงมือ!”
พูดจบ เขากระโจนเข้าไปหาผู้แข็งแกร่งฝ่ายสามคนหนึ่ง ที่อยู่ใกล้เขาที่สุด
“พลั่ก!”
ผู้แข็งแกร่งฝ่ายสาม ยังไม่ทันได้ตั้งสติ ก็โดนหัวหน้าผู้แข็งแกร่งฝ่ายรอง ถีบจนตกเวทีต่อสู้
ขณะที่หัวหน้าผู้แข็งแกร่งฝ่ายรอง จัดการผู้แข็งแกร่งฝ่ายสาม ผู้แข็งแกร่งฝ่ายรองคนอื่นๆ ก็หันมาเล่นงานผู้แข็งแกร่งฝ่ายสาม
เพียงระยะเวลาสั้นๆ ไม่กี่วินาที มีผู้แข็งแกร่งฝ่ายสามจำนวนห้าคน ตกลงไปจากเวทีต่อสู้
“หัวหน้ารอง นี่หมายความว่ายังไง”
จู่ๆ สีหน้าของหัวหน้าสามเปลี่ยนไปทันที เขาถามอย่างโมโห
หัวหน้าฝ่ายอื่นก็มีสีหน้าอึ้งๆ ฝ่ายรองกับฝ่ายสาม กำลังไม่ถูกกันใช่ไหม
สีหน้าของหัวหน้าสาม เต็มไปด้วยความโมโห ผู้แข็งแกร่งฝ่ายสามทั้งสิบคน โดนฝ่ายรองโจมตีอย่างกะทันหัน จนถูกคัดออกไปห้าคน
ตอนนี้ ขนาดผู้แข็งแกร่งฝ่ายหลักที่อยู่บนเวที ยังมากกว่าฝ่ายสามถึงสองคน
ส่วนฝ่ายรอง ยังมีผู้แข็งแกร่งครบทั้งสิบคน
มองหัวหน้าสามที่กำลังโกรธเป็นอย่างมาก หัวหน้ารองยิ้มบางๆ “หัวหน้าสาม นายถามฉันว่าหมายความว่ายังไง คนอื่นได้ยิน เหมือนเรากำลังสมรู้ร่วมคิดกันนะ”
“นี่เป็นการแข่งขันที่ยุติธรรมระหว่างหกฝ่าย ถ้าคนฝ่ายรองกับฝ่ายสาม ร่วมมือกันเล่นงานฝ่ายหลัก ยังยุติธรรมอยู่ไหม”
จู่ๆ หัวหน้าสามถึงกับเป็นใบ้ พวกเขาแอบปรึกษากันดีแล้ว ว่าจะร่วมมือกันไล่เจียงสยง ออกจากตำแหน่งผู้นำ แถมยังสัญญากันไว้แล้วด้วย ฝ่ายสามจะช่วยให้ฝ่ายรอง ได้สิทธิ์การเลือกผู้สืบทอด
แต่ทว่าตอนนี้ ฝ่ายสามร้ายกาจเป็นอย่างมาก ทำเหมือนอยากจะกุมความได้เปรียบ ของการต่อสู้แบบกลุ่ม
จู่ๆ ฝ่ายรองสร้างความลำบากใจให้ฝ่ายสาม นี่จึงเป็นเรื่องปกติ
เมื่อคิดได้ หัวหน้าสามกลับใจเย็นลงมาก แต่เขารู้สึกเหมือนโดนหัวหน้ารองหลอก รู้สึกไม่พอใจมาก
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นหัวหน้ารองอย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจแล้วกัน!”
ในแววตาของหัวหน้าสาม เต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม
จากนั้น เขามองไปบนเวทีต่อสู้ แล้วสั่งว่า “ทำให้ฝ่ายรองถูกคัดออกก่อน!”
หัวหน้าสามออกคำสั่ง ผู้แข็งแกร่งฝ่ายสาม ที่เหลือห้าคน พากันพุ่งเข้าไปหาผู้แข็งแกร่งฝ่ายรอง
ถึงผู้แข็งแกร่งฝ่ายรอง ยังมีสิบคนเต็มๆ แต่ผู้แข็งแกร่งของฝ่ายสามทั้งห้าคน ล้วนเป็นผู้แข็งแกร่งแดนราชา แถมสองคนในนั้นอยู่ในแดนราชาขั้นกลางด้วย
ห้าต่อสิบคน ไม่เสียเปรียบเลยสักนิด
“เราจะทำยังไงดี”
ผู้แข็งแกร่งฝ่ายหลักคนหนึ่ง ทำตัวไม่ถูกขึ้นมาทันที
เมื่อกี้ยังโดนฝ่ายรองกับฝ่ายสาม ร่วมมือกันโจมตี อย่างน่าเวทนา จู่ๆ ฝ่ายรองกับฝ่ายสามต่างสู้กันเอง แถมยังทิ้งพวกเขาเอาไว้
“คนอายุน้อยต้องปฏิบัติตามกฎ!”
หัวหน้าผู้แข็งแกร่งฝ่ายหลัก พูดด้วยสีหน้าซื่อตรง
“ทำไมฉันรู้สึกคุ้นๆ ประโยคนี้”
“ฉันก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน!”
คนฝ่ายหลัก เริ่มคลายความกดดันไปเยอะ เริ่มมายืนดูการต่อสู้ข้างๆ
ด้านล่างเวทีเต็มไปด้วยเสียงวุ่นวาย!
“ฝ่ายสามโดนคัดออกอีกสองคน เหลือแค่สามคนสุดท้าย”
“ฝ่ายรองก็โดนคัดออกไปหกคน เหลือแค่สี่คนสุดท้าย”
“ดูการต่อสู้อันดุเดือดระหว่างฝ่ายรองกับฝ่ายสาม อย่าบอกนะว่าฝ่ายหลักจะชนะอย่างง่ายดาย”
……
คนตระกูลเจียง มองการต่อสู้บนเวที อย่างตกตะลึง
หัวหน้าแต่ละฝ่ายที่แสดงความยินดีกับชัยชนะของฝ่ายสามล่วงหน้า ตอนนี้สีหน้าไม่สู้ดีเป็นอย่างมาก รู้สึกเหมือนทำเรื่องที่น่าสะอิดสะเอียนลงไป
สีหน้าของหัวหน้ารองกับหัวหน้าสาม ก็อึมครึมสุดขีด เห็นคนฝ่ายตัวเอง ถูกคัดออกเรื่อยๆ พวกเขารู้สึกถึงอันตราย
ตอนนี้ฝ่ายหลัก ยังมีผู้แข็งแกร่งเจ็ดคน แต่พวกเขาสองฝ่ายรวมกัน ถึงมีเจ็ดคน
สิ่งที่ทำให้พวกเขาเป็นกังวลที่สุดก็คือ ผู้แข็งแกร่งของทั้งสองฝ่ายที่เหลืออยู่ พละกำลังพอๆ กัน จะตัดสินแพ้ชนะ เกรงว่าต้องมีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด เหลือแค่หนึ่งถึงสองคน และบอกให้สิ้นสุด
“ผู้นำ คุณรู้เหมือนหลับตาเห็นจริงๆ! ดูจากสถานการณ์ ผู้นำคนใหม่ น่าจะอยู่ฝ่ายหลัก”
จู่ๆ หัวหน้าสี่ยิ้ม แล้วเอ่ยขึ้น
“รู้เหมือนหลับตาเห็นเหรอ”
เจียงสยงอึ้งไป จึงเข้าใจความหมายของอีกฝ่าย เขายิ้มบางๆ “แค่คาดไม่ถึงเท่านั้น รู้เหมือนหลับตาเห็นที่ไหนกันล่ะ”
เขาคิดไม่ถึงจริงๆ ตามความคิดของเขา ให้หยางเฉินร่วมการต่อสู้แบบกลุ่ม มีหยางเฉินกดดันสถานการณ์ ฝ่ายหลักไม่มีทางแพ้
การที่ไม่ให้หยางเฉินลงมือก่อน เพราะอยากฝึกผู้แข็งแกร่งของฝ่ายหลัก เพราะในสังคมอันสงบเช่นนี้ เจอศัตรูได้ยากมาก
แต่สิ่งที่ทำให้เขาคิดไม่ถึงก็คือ ฝ่ายรองกับฝ่ายสาม ต่อสู้กันเอง ดูเหมือนคนของสองฝ่ายจะสู้กันจบแล้ว
“กรรมการ พักการต่อสู้!”
ขณะนั้น จู่ๆ หัวหน้ารองก็พูดเสียงดังขึ้นมา
กรรมการมองไปยังเจียงสยง ระหว่างที่สู้กัน ไม่มีการพักต่อสู้
“ผู้นำ ผมขอให้พักการต่อสู้!”
เมื่อเห็นกรรมการมองเจียงสยง หัวหน้ารองก็มองเจียงสยง ด้วยสีหน้าไม่สู้ดี
“หัวหน้ารอง ในเมื่อการต่อสู้เริ่มขึ้นแล้ว ต้องหาผู้แพ้ชนะ ถึงจะสิ้นสุดได้ ระหว่างต่อสู้ ไม่มีการพัก”
เจียงสยงหัวเราะ แล้วพูดขึ้น
“เราพูดกันแล้วว่าสามฝ่ายสู้กัน แต่ตอนนี้มีเพียงฝ่ายรองกับฝ่ายสามที่สู้กัน คนของฝ่ายหลักเอาแต่มอง นี่ไม่ยุติธรรมกับฝ่ายรองและฝ่ายสาม”
หัวหน้ารองพูดด้วยสีหน้าร้อนใจ