บทที่ 1159 ในที่สุดเธอก็ยอมรับว่าเขาไม่อยู่แล้ว

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 1159 ในที่สุดเธอก็ยอมรับว่าเขาไม่อยู่แล้ว

ไชยันต์และรองผู้นำเดชาทั้งสองคน สุดท้ายแล้วก็ยังคงเช็คความมั่นใจจากในกล้องวงจรปิดนี้กับผู้นำระดับสูงสุดที่เลือกตั้งกันขึ้นมาใหม่ ว่าเป็นนายทหารนายหนึ่งจริงๆ

“เขาจะเป็นนายทหารได้อย่างไร? ผมไม่มีภาพความทรงจำนี้กับเขาเลย”

หลังจากที่เช็คให้แน่ใจแล้ว ไชยันต์จ้องมองไปยังบุคคลนี้แสดงให้เห็นว่าเขาไม่ได้มีความทรงจำกับคนๆนี้อยู่เลยซักนิดเดียว

แสนรักไม่ได้ส่งเสียงออกมา เพียงแค่เอาข้อมูลของบุคคลนี้ในคอมพิวเตอร์ออกมาดู เป็นผู้นำประเทศที่สง่าผ่าเผย มาถึงเขาตรงนี้แล้ว จะพลิกข้อมูลเขาออกมา ก็เหมือนกับหยิบของออกมาจากกระเป๋าแบบนั้น

ไชยันต์ : “……..”

รองผู้นำเดชาเองก็เหงื่อออกเช่นกัน

แต่เขาเทียบกับนายท่านแล้ว เจอหลายครั้งแล้วก็ไม่ได้ดูโอเวอร์ขนาดนั้นเช่นกัน

เปิดข้อมูลแล้ว ดูผ่านๆคร่าวๆ ประวัติมีความครบถ้วนมากจริงๆ แต่ไม่มีซักจุดเลยที่แสดงให้เห็นว่าเขาเคยเป็นทหารมาก่อน เขาสามารถขึ้นมาได้ ล้วนแต่เป็นการเลื่อนตำแหน่งขึ้นมาทีละขั้นๆทั้งนั้น

นี่ก็มีความน่าสนใจแล้ว

แสนรักจมอยู่กับความคิด

รองผู้นำเดชามองดูสถานการณ์อยู่ข้างๆเห็นว่าไม่ถูกต้องแล้ว จึงรีบเอ่ยถามขึ้น : “มีปัญหาอะไรใช่ไหม? ต้องตรวจสอบเขาเสียหน่อยใช่หรือเปล่า?”

“ไม่จำเป็น เรื่องนี้ไม่ต้องสนใจแล้ว ทุกคนตึงเครียดกันมานานขนาดนี้ ผ่อนคลายกันก่อนดีกว่า รองผู้นำเดชาคุณเองก็ไปอยู่กับลูกและภรรยาของคุณเถอะ”

“อา?”

รองผู้นำเดชาจ้องมองคุณชายเล็กคนนี้ คิดว่าตัวเองได้ยินผิดไป

ในช่วงโอกาสที่สำคัญนี้ ให้พวกเขาหยุดอย่างนั้นหรือ? เขากำลังทำอะไรกัน?

รองผู้นำเดชาคิดไม่ตก

แต่ความจริงก็คือ อีกไม่กี่วันต่อจากนี้ไป จากที่มีจดหมายแจ้งเหล่านั้นปรากฏขึ้นมาแล้ว ไม่นานจิตราและสมศรีก็ถูกควบคุมเอาไว้ทั้งคู่ สภาผู้แทนราษฎรก็วุ่นวายมากเช่นกัน

เตชินทร์เห็นสถานการณ์ที่ไวท์ พาเลซ จึงให้คนมาเรียกแสนรักไปจัดการเรื่องนี้

แต่ที่ทำให้ทุกคนตกตะลึงอีกครั้งก็คือ บุคคลที่รับผิดชอบดูแลสภาผู้แทนราษฎรที่เพิ่งดำรงตำแหน่ง หลังจากที่ได้ยินเรื่องนี้แล้ว ก็แบมือออกมา เขาบอกกับเลขาของเตชินทร์ ว่าเขาจะไม่จัดการเรื่องเหล่านี้อยู่แล้ว

เตชินทร์โมโหจนกระทืบเท้า

สุดท้ายแล้ว ก็ไม่มีวิธีอื่น จึงทำได้เพียงไปหาสุชาติเพียงเท่านั้น

ครั้งนี้หลังจากที่สุชาติได้ยินต้นสายปลายเห็นของเรื่องนี้แล้ว ภายใต้วิกฤตของประเทศ จึงไม่ได้ปฏิเสธ เข้าไปยังไวท์ พาเลซอีกครั้งอย่างตรงไปตรงมา

จากนั้น ในหนึ่งสัปดาห์ต่อมาที่สภาผู้แทนราษฎร เขาก็ทำให้องค์กรที่วุ่นวายเป็นระเบียบและมั่นคงลงได้ อีกทั้งจากความเข้าใจของเขา เขาก็สนับสนุนคนที่มีความสามารถอีกสองคนทางการทหารนี้อีกด้วย แทนตำแหน่งของจิตราและสมศรีทั้งสองคนก่อนหน้านี้ ระยะเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์สั้นๆ ก็ทำให้สภาผู้แทนราษฎรกลับมาสู่สถานการณ์ปกติได้แล้ว

หลังจากที่เตชินทร์เห็นผลลัพธ์นี้แล้ว ก็รู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก

แน่นอนว่าทางเดอะวิวซีทางนี้เองก็พอใจมากเช่นกัน

“แปลก ทำไมสองสามวันนี้แกถึงไม่ไปทำงาน? ไม่มีงานเหรอ?”

วันนี้ แสนรักกำลังนั่งอยู่ที่เดอะวิวซีตกปลาไปพลางดื่มชาไปอย่างเอื่อยๆ แสงดาวอุ้มหนูดาราเข้ามา หลังจากที่เห็นเขาแล้ว ก็อดที่จะขมวดคิ้วเอ่ยถามขึ้นมาไม่ได้

แสนรักหันไปมอง

เห็นว่าเป็นเธอ แก้วชาที่ยกขึ้นมาจะถึงปากแล้วนั้นก็หยุดชะงักลง

“พี่มาได้ยังไงน่ะ?”

“สูดอากาศ”

แสงดาวละสายตาออกมา แล้วมองไปยังทะเลที่กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา เธออุ้มลูกตัวน้อยอยู่ในอ้อมแขน ด้วยอาการเหม่อลอยอีกครั้ง

เธอถูกพากลับมาได้เป็นเวลาสิบวันแล้ว

เวลาสิบวัน จะว่านานก็ไม่นาน จะว่าสั้นก็ไม่สั้น อย่างน้อยที่สุด เธอก็เรียนรู้ที่จะอุ้มเด็กคนนี้ และเรียนรู้ที่จะป้อนนมด้วยเช่นกัน เปลี่ยนผ้าออมให้ ทำให้เธอรู้ว่านี่คือแม่ของเธอ

แต่ในขณะเดียวกันกับที่เธอเรียนรู้นี้ ทุกครั้งที่เธอเห็นใบหน้าเล็กๆที่เหมือนกับพ่อของเธอนั้น เธอก็รู้สึกทรมานขนาดนั้นอีก

ลูกสาวของเธอ สุดท้ายแล้วเธอก็ยังไม่สามารถพาพ่อของลูกกลับมาได้

“ผู้หญิงที่เพิ่งคลอด อย่าตากลมมากขนาดนั้นสิ กลับไปเถอะ” แสนรักไม่อยากให้เธอทำอะไรไปทั่ว เห็นว่าเธอยังอุ้มลูกยืนอยู่ตรงทางลมแล้ว ก็ยิ่งออกคำสั่งให้เธอกลับไปอย่างไม่ได้เกรงใจเลยแม้แต่นิดเดียว

แสงดาวจ้องมองเขาตั้งบนลงล่าง

แล้วซักพักหนึ่งก็หันหลังไป

“ใช่สิ ภาสดรถูกจับตัวไปแล้วที่บีเอส พี่รู้ใช่ไหม?”

“เหอะ….”

หญิงสาวหยุดลง “ต่อให้เขาตาย ก็ไม่ได้เกี่ยวกับฉัน!”

ผู้หญิงคนนี้ ไม่คิดว่าจะตัดขาดเยื่อใยจนไม่เหลือความเป็นมนุษย์เลย ทั้งๆที่คนเขาเลี้ยงเธอมานานขนาดนั้นที่มณฑลYหลังจากที่ถึงบีเอสแล้ว ได้มาร่วมความเป็นความตายกันอีกครั้ง น้ำเสียงและอาการที่แสดงออกของเธอ เหมือนกับนั่งก็คือศัตรูที่อยู่ร่วมโลกกันไม่ได้แบบนั้น

“แค่กๆๆดู…..”

แสนรักสำลักชา

จังหวะอะไรกัน?

ยั่วโมโหเธออีกแล้วอย่างนั้นหรือ?

เขายังไม่เข้าใจ ตอนนั้นที่ภาสดรพูดกับผู้หญิงคนนี้ในศูนย์การค้าบีเอส ไม่เพียงแค่ไม่ได้ทำให้เธอซาบซึ้งเท่านั้น แต่ทว่า หลังจากที่เธอฟื้นขึ้นมาแล้ว ก็รู้สึกได้ถึงความอับอายขายหน้าที่รุนแรงแบบหนึ่งอีกด้วย!

ใช่ คือความอับอายขายหน้า!

อีกทั้ง ที่มานั้นก็คือตัวเธอนั่นเอง

เนื่องจากว่าตอนที่อยู่ศูนย์การค้านั้น ไม่ว่าเธอจะไม่ยอมรับหลายต่อหลายครั้ง ตอนที่ผู้ชายคนนั้นพูดคำพูดที่น่าฟังกับเธอ เธอหัวใจเต้นแรงอย่างแตกต่างออกไปจริงๆ

ทำไมเธอเป็นแบบนี้?

เธอมีสามีและมีลูกแล้ว

อีกทั้ง สามีของเธอยังจะตายไปไม่นานอีกด้วย เธอจะเกิดความรู้สึกที่ไม่น่าให้อภัยแบบนั้นได้อย่างไรกัน?

แสงดาวไม่สามารถยกโทษให้ตัวเองได้

สำหรับภาสดรคนนี้ เธอก็ยิ่งแทบไม่อยากจะได้ยินชื่อเขาอีกแล้ว

แสงดาวอุ้มลูกกลับไปแล้ว

และไม่นาน เป็นเพราะหลังจากที่เธอกลับไปแล้ว ที่มอบหมายให้ทำความสะอาดเรด พาวิเลี่ยน ในที่สุดวันนี้ก็จัดเก็บเสร็จเรียบร้อยแล้ว คนรับใช้ทางนั้นก็มาหาเธอ