บทที่ 1160 แม่หม้าย

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 1160 แม่หม้าย

“คุณนายน้อย บ้านทางนั้นจัดเก็บเสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ ตอนนี้จะย้ายเข้าไปเลยไหมคะ?”

“อืม”

เธอพยักหน้าลง แล้วตอบรับ

น้าแจ๋วเองก็อยู่ข้างๆด้วยเช่นกัน หลังจากที่เห็นแล้ว ก็รู้สึกเป็นกังวลอยู่เล็กน้อย : “คุณแสงดาวคะ คุณ…จะรอให้คุณผู้หญิงกลับมาก่อนแล้วค่อยปรึกษากันดีไหมคะ? คุณคนเดียวพาลูกที่ยังเล็กขนาดนี้ไปด้วย นี่…..”

“ไม่เป็นไรหรอก ถึงอย่างไรก็ต้องย้ายไปอยู่แล้ว”

แสงดาวตอบกลับนิ่งๆ หลังจากนั้นก็เริ่มเก็บข้าวของ

สภาพของเธอแบบนี้ ความจริงแล้ว ตั้งแต่คืนนั้นที่เธอฟื้นขึ้นมา ก็เป็นแบบนี้แล้ว

แรกเริ่ม เส้นหมี่กับแสนรักก็ยังเป็นกังวลว่าเธอจะเอะอะโวยวายขึ้นมา แต่หลังจากที่เธอฟื้นขึ้นมา เห็นสถานที่ที่ตัวเองอยู่อย่างชัดเจนแล้ว ก็เหม่อลอยไปอยู่พักหนึ่ง เธอก็ไปดูลูกแล้ว

หลังจากนั้น เธอก็เป็นแบบนี้ตลอด

ไม่เอะอะโวยวาย

แต่ก็มองไม่เห็นความมีชีวิตชีวาอีกเลยเช่นกัน

แสงดาวพาหนูดาราย้ายไปที่เรด พาวิเลี่ยนแล้ว รอให้จัดเก็บเสร็จแล้ว ถึงได้เปลี่ยนเป็นชุดสีเรียบๆสะอาดตา หลังจากนั้นก็ถือกระดาษหอมและของบรรณาการออกจากบ้านไป

“คุณนายน้อย ต้องการให้ผมไปส่งไหมครับ?”

นอกคฤหาสน์ ไม่รู้ว่ารปภ.ของเดอะวิวซีสองคนมาตั้งแต่เมื่อไหร่นั้น หลังจากที่เห็นเธอออกมาแล้ว ก็รีบเอ่ยถามขึ้น

แต่แสงดาวกลับส่ายหน้า : “ไม่ต้อง ฉันอยากจะไปคุยกับเขาตามลำพัง”

หลังจากนั้น เธอก็ขับรถออกไปเอง

เมืองที่มีช่วงฤดูหนาวที่สุดมาถึงแล้ว อากาศหนาวเสียจนทั้งสองข้างทางนั้นคนน้อยมาก ใบไม้เฉาและเหลืองถูกลมพัดจนเกิดเสียง ฝนตกต่อเนื่อง หนาวเข้ากระดูก…..

จู่ๆแสงดาวก็รู้สึกว่าแม้แต่เลือดของตัวเองนั้นก็แทบจะแข็งไปแล้วอย่างไรอย่างนั้น

โดยเฉพาะยิ่งเธอขับไปทางด้านหน้า และยิ่งใกล้สุสานนั้น ความรู้สึกนี้ก็ยิ่งรุนแรงขึ้น

นี่เป็นครั้งแรกที่เธอมาไหว้เขา

เธอไม่เคยยอมรับว่าเขาตายแล้ว เธอปฏิเสธที่จะเข้าร่วมงานศพของเขา ปฏิเสธวันที่ฝังศพเขา เฝ้าศพเขา และเธอก็ปฏิเสธที่จะสลักชื่อแม่หม้ายของเธอลงบนป้ายหลุมศพ

ทุกสิ่งทุกอย่าง เธอล้วนแต่ปฏิเสธไปหมด

แต่วันนี้เธอกลับมาแล้ว

แสงดาวถือของในมือ เดินมายังหน้าหลุมศพอย่างไม่มั่นคงนัก ป้ายหลุมศพใหม่ ยังไม่มีหญ้ารกร้างขึ้นที่หลุมฝังศพ หลังจากที่เธอมาแล้วก็ไม่ส่ามารถยืนหยัดได้อีกแล้วเช่นกัน จ้องมองคนที่สวมชุดทหารและยิ้มอย่างสดใสอ่อนโยนบนป้ายหลุมศพ ของที่ถืออยู่ในมือก็ล่วงหล่นลงที่พื้น

“ในที่สุดคุณก็ไม่ต้องเจอฉันอีกแล้ว นี่เป็นไปตามที่คุณปรารถนาแล้ว”

เธอจับตรงหน้าอกของตัวเองแล้วค่อยๆไหลลงตรงหน้าหลุมศพเขา

“คุณผิดแล้วล่ะ เขาไม่ได้สมหวังดังที่ต้องการหรอก สิ่งที่เขาปรารถนามากที่สุดก็คือ หวังที่จะให้พ่อกับแม่มีชีวิตอยู่และแข็งแรง กลับไปใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวกันครบสามคนอย่างมีความสุข ไม่ใช่เหมือนกับตอนนี้ ที่พวกเขาสามคนทั้งครอบครัวมานอนอยู่ที่นี่”

ทันใดนั้นเองที่สุสานแห่งนี้ ก็มีอีกคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้น

หลังจากที่เขาเห็นผู้หญิงคนนี้พิงอยู่ตรงหน้าป้ายหลุมศพแล้ว ก็เดินกางร่มเข้ามา เขาก็ยืนมองพิจารณาจากบนลงล่างอยู่ไม่ไกลจากหลุมศพที่เรียงขนานกันอยู่สามแห่งพลางเอ่ยพูดขึ้นอย่างเย็นชา

แสงดาวได้ยินแล้ว ทันใดนั้นเองใบหน้าที่ยังเต็มไปด้วยความโศกเศร้าก็ซีดขาวเหมือนกระดาษอีกครั้ง!

“วิยศ? คุณ….คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”

“แปลกมากใช่ไหม? นี่คือน้องสาวของผม น้องเขย ที่คุณพิงอยู่นั่น หลานชายของผม พวกเขาตายแล้ว ในฐานะที่ผมเป็นญาติที่ใกล้ชิดที่สุด ผมมากวาดทำความสะอาดสุสานให้พวกเขาทุกวันมันทำไมงั้นเหรอ?”

วิยศเอ่ยพูดขึ้นด้วยใบหน้าที่ไร้ความรู้สึก

คำพูดนั้นกลับเป็นเหมือนกับมีด ทุกๆคำทิ่มแทงลงบนหัวใจของแสงดาว เจ็บปวดเสียจนเธอหายใจไม่ออก

ครอบครัวสามคนก่อนหน้านี้

ครอบครัวสามคนในตอนนี้

สายตาของแสงดาวมองไปยังหลุมศพอีกสองหลุมทางด้านหนึ่ง ชั่วขณะหนึ่งเมื่อเธอมีปฏิกิริยาตอบสนองแล้ว สองที่นั้นเป็นไชกุและยังมีมินตราภรรยาของเขาอีกด้วย

ทันใดนั้นเองเธอก็สั่นไปทั้งตัว

“ไม่….ไม่ใช่แบบนี้นะ ไม่ใช่…..”

“อะไรไม่ใช่? คุณจะปฏิเสธว่าทุกอย่างนี่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพวกคุณตระกูลหิรัญชาเลยอย่างนั้นเหรอ? ผมจะบอกคุณเรื่องนึงนะ คุณรู้ไหมว่าตอนที่น้องสาวผมกำลังจะกระโดดตึก เธอพูดอะไรกับลูกชาย?”

“……..”

“เธอบอกว่า ถ้าหากลูกชายของเธอข้องเกี่ยวกับคนตระกูลหิรัญชาแม้แต่นิดเดียว เช่นนั้นแล้ว เธออยู่ในที่ที่ต่ำลงแล้ว ก็จะไม่ปกป้องคุ้มครองเขาได้เช่นกัน คุณได้ยินชัดไหม? เพราะว่าคนเป็นแม่ไม่ได้ปกป้องอีกแล้ว เพราะฉะนั้น สุดท้ายแล้วม็อกโกถึงได้ตายอยู่ในป่าเขานั้นไง”

ผู้ชายคนนี้ ก็เหมือนกับงูพิษ ท้ายที่สุดก็ชี้ไปที่หลุมศพนั้นที่แสงดาวพิงอยู่ และพูดคำพูดแบบนี้ออกมา

แสงดาวเสียงหายไปแล้ว

มีเพียงแค่ดวงตาดวงโตที่เต็มไปด้วยน้ำตา จ้องมองคนๆนี้นิ่ง ทั้งร่างกายของเธอสั่นเทาไปหมด ตรงหน้าอกเหมือนกับถูกอะไรกดเอาไว้ ขาวซีดเหมือนกับคนตายแบบนั้น

แต่เพียงหนึ่งเดียวกลับไม่สามารถเอ่ยพูดออกมาได้แม้แต่คำเดียวเช่นกัน

คนเราก็คงจะเป็นแบบนี้

ตอนที่ถูกกระตุ้นจนถึงขีดสุด เมื่อความเจ็บปวดและความเศร้าเสียใจไปจนถึงขั้นสูงสุดแล้ว ที่เหลือก็มีเพียงแค่สมรรถนะทั้งหมดของร่างกายหยุดลงเท่านั้น

แสนรักได้ยินข่าวแล้วก็รีบมาที่สุสานอย่างรวดเร็ว แต่แสงดาวนั้นหายไปแล้ว

ที่ทิ้งเอาไว้นั้น ก็มีเพียงแค่วิยศที่ถูกบีบคอหักเพียงเท่านั้น

“คนล่ะ?”

“ได้ยินคนที่ดูแลที่นี่บอกว่า ถูกผู้ชายวัยรุ่นใส่แว่นตาคนหนึ่งอุ้มไปแล้วครับ พวกเรากำลังหาเขาอยู่”

รปภ.เดอะวิวซีที่มาก่อนแล้ว หลังจากที่ได้ยินเจ้านายเอ่ยถามแล้ว ก็รีบเอากล้องวงจรปิดที่ได้รับมาจากสำนักงานของสุสานเมื่อครู่นี้มา

แสนรักหยิบมาดู

วาริช?

เขารู้สึกประหลาดใจมาก……