ตอนที่ 1235: สงครามระหว่าง 2 ฝ่าย (3)

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1235: สงครามระหว่าง 2 ฝ่าย (3)

เต๋าเจิ้งเทียนเริ่มหน้าซีดขาวจากสิ่งที่เจี้ยนเฉินพูด จิตสังหารภายในจิตใจของเขาพุ่งพรวดจนมันไปถึงขีดจำกัดของเขา เขาตะโกนออกมา ” ผู้คุมกฎแห่งเผ่าเต่า ข้าสาบานต่อสวรรค์ได้เลยว่าข้าจะทำลายเจ้าไม่ให้เหลือเศษซาก เจ้าจะต้องเสียใจที่มีชีวิตอยู่ ข้าจะทำให้เจ้าชดใช้อย่างสาสมสำหรับสิ่งที่เจ้าทำลงไปในวันนี้”

“ฮ่าๆๆ ข้าไม่เคยเสียใจในสิ่งที่ข้าทำเลย เต๋าเจิ้งเทียน เจ้าอาจจะแข็งแกร่งกว่าข้าตอนนี้ แต่เจ้ายังไม่มีสิทธิ์ที่จะทำลายข้าด้วยความแข็งแกร่งของเจ้า” เจี้ยนเฉินยิ้มเยาะเย้ย เขาแกว่งยุทธภัณฑ์จักรพรรดิทันทีด้วยความเร็วแสง ยิงเกลียวแสง 5 สายออกไป มันคือปราณกระบี่ดำ

ภายในช่วงเวลาเดียว เต๋าเจิ้งเทียนหลบปราณกระบี่ 5 สายของเจี้ยนเฉิน แม้ว่าปราณกระบี่จะพลาดการโจมตีเขาไป แต่มันก็ยังพุ่งต่อไปโดยไม่ลดความเร็วลงแม้แต่นิดเดียว พวกมันไล่ตามไปที่เซียนผู้คุมกฎทั้ง 5 ของตระกูลเต๋าที่ตอนนี้กำลังหนีอยู่ และถูกแทงเข้าที่ร่างกายและหายไป

” อ๊าก ! ”

เซียนผู้คุมกฎทั้ง 5 ต่างกรีดร้องขณะที่ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยว ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังทุกข์ทนทรมาน อย่างไรก็ตามพวกเขาหยุดร้อง หลังจากนั้นไม่นาน ความเงียบของพวกเขา ดวงตาของพวกเขามืดบอดเนื่องจากปราณกระบี่ได้เข้าไปถึงวิญญาณของพวกเขาและค่อย ๆ ทำลายดวงวิญญาณของพวกเขา

แม้ว่าเต๋าเจิ้งเทียนจะมุ่งเน้นความสนใจไปที่เจี้ยนเฉิน แต่เขารู้อย่างชัดเจนกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นรอบ ๆ เขามองดูปราณกระบี่ของเจี้ยนเฉินซึ่งโจมตีเซียนผู้คุมกฎทั้ง 5 มันเป็นไปไม่ได้สำหรับเขาเลยที่จะไม่เข้าใจว่าปราณกระบี่ของเจี้ยนเฉินไม่ได้เล็งมาที่เขาแต่เป็นเซียนผู้คุมกฎของตระกูลของเขาแทน

เต๋าเจิ้งเทียนคำรามด้วยความโกรธออกมาทันที เขาเริ่มโจมตีวงกว้างไปที่เจี้ยนเฉินด้วยหอกของเขา เนื่องจากความโกรธแค้นที่มีต่อเจี้ยนเฉินได้ถึงขีดจำกัดแล้ว แม้ว่าตระกูลของเขาจะใหญ่ แต่เขาก็เป็น 1 ในตระกูลที่แข็งแกร่งที่สุดในทวีปของศาลาเทพเจ้าแห่งท้องทะเล พวกเขามีแค่เซียนผู้คุมกฎอยู่รอบ ๆ มากมาย มันจะกลายเป็นการสูญเสียมากเกินไปถ้าต้องสูญเสียเซียนผู้คุมกฎภายในการโจมตีแค่ครั้งเดียว

หอกของเต๋าเจี้ยงเทียนและยุทธภัณฑ์จักรพรรดิของเจี้ยนเฉินเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วเมื่อพวกเขากวัดแกว่งพวกมัน อาวุธทั้งสองปะทะกันครั้งแล้วครั้งเล่า ปะทุด้วยแรงระเบิดที่อันตราย กระแสพลังและปราณกระบี่ที่เหลืออยู่ถูกส่งไปในทิศทางต่าง ๆ นา ๆ ทำให้เกิดหลุมขนาดใหญ่ขณะที่พวกมันกระทบพื้น

บาดแผลเล็กน้อยได้ปรากฏบนร่างกายของเจี้ยนเฉิน ทำให้เสื้อผ้าของเขาถูกย้อมไปด้วยเลือด แม้ว่าเขาจะบาดเจ็บแต่พลังในการต่อสู้ของเขาไม่ได้ลดลงเลย และมันยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิมแทนถ้าเขายิ่งสู้ ในเวลาเดียวกัน เขาโคจรพลังบรรพกาลภายในร่างกายของเขาอย่างรวดเร็วซึ่งไม่เพียงแต่ทำให้อาการของเขาคงที่ในเวลาอันสั้นแล้ว แต่มันยังทำให้บาดแผลของเขาสมานตัวเร็วด้วย

เจี้ยนเฉินไม่ใช่ศัตรูของเต๋าเจิ้งเทียนก็จริง แต่มันเป็นไปไม่ได้โดยพื้นฐานสำหรับเต๋าเจิ้งเทียนที่จะฆ่าเขา การทำให้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือถึงตายนั้นเป็นไปไม่ได้ในเวลาอันสั้น

ในตอนนี้แสงของแสงสีทองได้ส่องออกมา เถี่ยต้าแกว่งขวานของเขาผ่านอากาศ กวาดมันไปทางเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 3 ก่อนที่มันจะชนเป้าหมาย เจตจำนงค์ในการต่อสู้ได้ซ่อนอยู่ภายในการปะทะกับวิญญาณของเซียนราชาเหมือนกับค้อนสงครามขนาดใหญ่ สั่นสะเทือนความกล้าของเขาในการต่อสู้และทำให้เขามึนงงไปชั่วขณะ

ในตอนนี้ แสงสีทองได้หายไปพร้อมกับไฟกระพริบ ขวานได้ผ่าหัวของเซียนราชาและทำลายวิญญาณของเขา แม้แต่ร่างกายก็ยังถูกฟันเป็น 2 ส่วน เลือดของเขาฟุ้งกระจายไปในอากาศเหมือนสายฝน

เถี่ยต้ารวบแหวนมิติของเซียนราชาก่อนที่จะเคลื่อนออกไปทันที ด้วยประกายไฟของแสงสีทอง เขาได้หายตัวไปและปรากฏตัวต่อหน้านูบิส

ศัตรูของนูบิสเป็นเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 4 เขาครอบครองความแข็งแกร่งในขั้นเดียวกับนูบิส แต่เนื่องจากนูบิสเป็นสัตว์อสูรโบราณจึงแทบจะไม่มีใครเลยที่ฝีมือเท่าเขาในระดับการฝึกฝนเดียวกัน แม้ว่ามันจะยากมากสำหรับเขาในการฆ่าใครสักคนเช่นนั้นในเวลาอันสั้น แต่เขาก็ทำให้ศัตรูได้รับบาดเจ็บสาหัสด้วยพิษของเขา

เขาถูกวางยาโดยพิษงูของอสรพิษทองริ้วเงิน ซึ่งมีพิษร้ายแรงอย่างยิ่ง ยิ่งทวีคูณด้วยความแข็งแกร่งของนูบิส ในฐานะเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 4 แล้ว พิษงูนั้นทรงพลังเหลือคณา แม้แต่เซียนราชาก็อาจจะทนทุกข์กับความตายถ้าพวกเขาถูกวางยาและไม่ทำอะไรสักอย่างให้เร็วทันเวลา

“สหายตัวโต ข้าสามารถฆ่าเขาได้ เขาคงอยู่ได้ไม่นานนักหรอก ดังนั้นแล้วไม่ต้องเป็นห่วงข้า ไปช่วยคนอื่น ๆ เถอะ” นูบิสทราบอย่างชัดเจนถึงสิ่งที่เถี่ยต้าต้องการจะทำเมื่อเขาเห็นเถี่ยต้ามาถึงข้าง ๆ เขา

“นูบิส เจี้ยนเฉินพูดว่าเราต้องกำจัดเซียนราชาในเวลาอันสั้นและรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่งั้นแล้วเราจะไม่มีทางเลือกทันทีที่เต๋าเจิ้งเทียนดึงโถงศักดิ์สิทธิ์ของเขาออกมา ให้ข้าฆ่าเขาเถอะ แล้วเจ้าจะได้ไปช่วยเจี้ยนเฉินจัดการเต๋าเจิ้งเทียน” เถี่ยต้าพูดเสียงต่ำ

” ก็ได้ ข้าจะปล่อยคนนี้ให้เจ้าจัดการ สหายตัวโต ข้าจะไปช่วยเจี้ยนเฉินแทน” นูบิสจบลงด้วยการปฏิบัติตามที่เถี่ยต้าพูด เขามอบศัตรูของเขาให้กับเถี่ยต้าและไปช่วยเหลือเจี้ยนเฉินจัดการเต๋าเจิ้ยงเทียนทันที

ตระกูลเต๋ามีเซียนราชาอยู่ทั้งหมด 2 คน คนแรกคือเต๋าเจิ้งเทียน ในขณะที่คนที่สองคือเต๋าหลิน ในการต่อสู้กับนูบิส เต๋าหลินได้ถูกยาพิษเรียบร้อยแล้ว ทำให้ความแข็งแกร่งของเขาลดลงและจากนั้นก็ต้องประสบกับการโจมตีเล็ก ๆ น้อย ๆ จาก นูบิส อีกด้วย เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสและเมื่อเขาเสียเปรียบ ศัตรูของเขาก็มาเปลี่ยนไปอีกจากนูบิส ผู้ที่แข็งแกร่งกว่าเขาเพียงเล็กน้อย เป็นเถี่ยต้า ซึ่งทำให้เขายิ่งหดหู่

แม้ว่าเขาจะไม่เคยปะทะกับเถี่ยต้ามาก่อน แต่เขาเคยเป็นพยานรู้เห็นการที่เถี่ยต้าฆ่าเซียนราชาไป 2 คนอย่างง่ายดาย ไม่แน่ว่าตัวเต๋าเจิ้งเทียนเองก็ยังไม่อาจจะเอาชนะได้ ดังนั้นแล้วจะเป็นไปได้อย่างไรสำหรับเขาที่รอดชีวิตมาภายใต้การเผชิญหน้ากับเถี่ยต้า ในขณะที่เขากำลังได้รับบาดเจ็บสาหัส

ในตอนนั้น ความกลัวของเต๋าหลินที่มีต่อเถี่ยต้าได้ขึ้นถึงขีดจำกัดแล้ว เขาไม่สนใจที่จะต่อสู้กับเถี่ยต้าอีกต่อไป ดังนั้นเขาจึงหันหลังและหนีอย่างรวดเร็วเท่าที่จะทำได้

เถี่ยต้าแปลกใจเล็กน้อยเมื่อเต๋าหลินหนีไป อย่างไรก็ตาม เขาก็ยิ้มกับสิ่งที่เกิดต่อหน้า ” เจ้าหนีข้าไม่พ้นหรอก ความลึกลับของสงคราม เคลื่อนสวรรค์ ! ” ด้วยการใช้สิ่งนี้ เถี่ยต้าหายตัวเป็นประกายแสงสีทอง เขาปรากฎตัวอีกครั้งในระยะทางที่ห่างไกลกว่า 1,000 เมตร ไม่เพียงแต่จะนำหน้าเต๋าหลินที่กำลังหนีแล้ว แต่เขายังปรากฏตัวต่อหน้าเขาเพื่อหยุดเขาไว้

เต๋าหลินแปลกใจว่าทำไมเถี่ยต้ามาปรากฏตัวต่อหน้าเขาอย่างกับว่าเคลื่อนย้ายภายในพริบตา ความไม่เชื่อปรากฏในหน้าของเขา แต่ก่อนที่เขาจะทำอะไรได้ แสงประกายสีทองก็ปรากฏอยู่ในตาของเขา เขาเห็นขวานของเถี่ยต้าแกว่งไปที่เขาขณะที่มันเปล่งแสงอย่างไม่หยุดหย่อน ในตอนที่เขาจะหลบการโจมตี เจตจำนงในการต่อสู้ก็ได้โจมตีเข้ากับวิญญาณของเขาเหมือนกับค้อน ทำให้เขารู้สึกถึงสายฟ้าที่ประทุขึ้นมาในหัว ไม่เพียงแต่ทำให้ความกล้าทั้งหมดของเขาสั่นคลอน แต่มันยังกระแทกเขาจนถึงจุดที่ทำให้เขาตกตะลึงจนพูดไม่ออก

เจตจำนงในการต่อสู้จากขวานถูกปล่อยออกมาโดยเถี่ยต้า เขาไม่ได้ใช้ความแข็งแกร่งทั้งหมดของเขา เต๋าหลินแข็งแกร่งกว่าเซียนราชาที่เถี่ยต้าฆ่าไปก่อนหน้านี้ ดังนั้นวิญญาณของเขาก็แข็งแกร่งกว่าเช่นกัน จากผลที่เกิดขึ้นแล้ว เห็นได้ชัดว่าเขามีความต้านทานที่ดีกว่า

ขณะที่ขวานของเถี่ยต้ากำลังฟาดลงไปที่เขา เต๋าหลินขยับตัวทันที ขณะที่เขาจ้องมองไปที่ขวานที่อยู่ต่อหน้าเขา เขารีบใช้ตรีสูรแทงไปข้างหน้าเขาอย่างไม่คิด

ดิ้ง !

ตรีสูรได้ป้องกันการโจมตีของเถี่ยต้า ก่อให้เกิดแรงมหาศาลพัดเต๋าหลินกระเด็นออกไปตกลงกับพื้นอย่างแรง ทั่วร่างกายของเขาแนบชิดลงกับพื้นขณะที่เลือดของเขาไหลออกมา

เถี่ยต้าไม่ได้วางแผนจะให้เต๋าหลินหนี เขาไล่ตามอีกฝ่ายไปในทันทีพร้อมกับขวานทอง

” เต๋าหลิน ! ” เต๋าเจิ้งเทียนสัมผัสได้ว่าชีวิตของเต๋าหลินอยู่ในอันตราย ดังนั้นเขาจึงคำรามอย่างโกรธเคืองในอากาศ เขาผลักเจี้ยนเฉินออกไปด้วยการโจมตีเต็มที่ ก่อนที่จะพุ่งเข้าไปหาเต๋าหลินเพื่อช่วยเขา

เต๋าหลินเป็นเซียนระดับราชาของตระกูลเต๋าและได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเต๋าเจิ้งเทียน ซึ่งเต๋าเจิ้งเทียน สามารถมองเซียนราชาของตระกูลอื่นลำบากได้ แต่สำหรับเต๋าหลินแล้ว เขาเป็นคนตระกูลเต๋าซึ่งเขาปล่อยให้เป็นแบบนั้นไม่ได้

นูบิสพุ่งเข้าจากที่ไกลด้วยท่าทางโกรธเพื่อปัดการเข้ามาของเต๋าเจิ้งเทียน เขายิ้มเยาะเย้ย “เต๋าเจิ้งเทียน เจ้าทำให้ข้า นูบิส ผู้ยิ่งใหญ่ ได้เข้าใจถึงความแข็งแกร่งของเจ้าหน่อย” ด้วยคำพูดเช่นนั้น นูบิสปล่อยหมอกพิษสีเทาออกมาขณะที่มือของเขาเปลี่ยนเป็นกรงเล็บที่ทรงพลัง พวกมันค่อนข้างเหมือนกับกรงเล็บมังกรของรุยจิน จากนั้นก็ข่วนเข้าไปที่หน้าอกของเต๋าเจิ้งเทียน

พลังงานมากมายพุ่งออกจากเต๋าเจิ้งเทียนก่อให้เกิดม่านพลังหนา 3 นิ้วรอบ ๆ เขา มันป้องกันหมอกพิษของ นูบิส ขณะที่กรงเล็บของเขาเริ่มช้าลงอย่างผิดปกติเมื่อมันสัมผัสกับม่านพลัง

“ไสหัวไปซะ ! ” เต๋าเจิ้งเทียนคำรามด้วยความโกรธ เหวี่ยงฝ่ามือของเขาไปที่นูบิส มันทำให้นูบิสกระเด็นออกไปไกลและทำให้เขากระอักเลือดออกมา จากนั้นเต๋าเจิ้งเทียนก็ยิงลำแสงเข้าไปในตัวของเต๋าหลินอย่างรวดเร็วเพื่อช่วยชีวิตเขา

เถี่ยต้าเข้าใจเจตนาของเต๋าเจิ้งเทียน ในที่สุดเขาก็เริ่มเครียดเล็ก ๆ ขณะที่เขาจับขวานของเขาด้วย 2 มือ แสงสีทองเปล่งประกายออกมาและเริ่มรวมตัวกันรอบ ๆ ขวานขณะที่เจตจำนงในการต่อสู้ผุดขึ้นอย่างฉับพลัน

“ความลึกลับของสงคราม กระหน่ำมิติ ! ” เถี่ยต้าพึมพำขณะที่เขาเหวี่ยงขวานเหนือหัวของเขา ลำแสงทับซ้อนสีทองหายเข้าไปในความว่างเปล่า

เต๋าเจิ้งเทียนรีบไปหาเต๋าหลินโดยไม่ได้สนใจอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ในตอนนี้ท่าทางของเขาก็เปลี่ยนไปทันที ในขณะที่เขาอยู่ห่าง 3 เมตร ลำแสงสีทองปรากฏออกมาจากที่ไหนไม่รู้และพุ่งไปที่เขาด้วยความเร็วแสง ในเวลาเดียวกัน เจตจำนงในการต่อสู้ก็ประทุขึ้นทันที พุ่งเข้ากระแทกที่วิญญาณของเขาเหมือนกับค้อนขนาดใหญ่

เจตจำนงในการต่อสู้มีพลังอำนาจหลายเท่าซึ่งมากกว่าที่เต๋าหลินเผชิญเมื่อปราศจากการคุ้มกัน เต๋าเจิ้งเทียน จึงพลาดในการให้ความสนใจ อย่างไรก็ตามเขาก็ยังเป็นเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 8 อยู่ดี ดังนั้นทั้งความแข็งแกร่งของวิญญาณเขาและพลังของเขา เต๋าหลินเทียบเขาไม่ได้เลย เขาสัมผัสได้ในช่วงเวลาหนึ่งโดยที่ไม่ลังเลแม้แต่นิดเดียว เขาแทงเข้าที่มันสุดแรงเท่าที่เขาจะทำได้และการโจมตีของเขาก็เข้าปะทะกับขวานของ เถี่ยต้า

ตู้ม !

เสียงปะทะเริ่มปะทุขึ้นในอากาศ แม้ว่าเต๋าเจิ้งเทียนจะปัดขวานของเถี่ยต้าด้วยการโจมตีที่เร่งรีบของเขา แต่มันก็ทำให้เขาถอยกลับอย่างควบคุมไม่ได้ด้วยพลังงานที่ร้ายแรง ซึ่งสถานการณ์ตอนนี้เขาอยู่ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่เป็นอย่างมาก