ตอนที่ 1394 บีบให้หมิงจีออกมา

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

สีหน้าของมู่เหล่าดำคล้ำด้วยความโกรธ หึ! เอาชนะได้อย่างนั้นเหรอ เห็นว่าเขาตาบอดมองไม่ออกรึอย่างไร!

โชคดีที่เขาเตรียมแผนสองเอาไว้แล้ว!

มู่เหล่ามองไปที่ร่างในชุดม่วงที่อยู่บนแท่นประลองนั้น พรสวรรค์ของสาวน้อยผู้นี้แข็งแกร่งมากจริง ๆ สมกับที่เป็น…

ตูม เปรี้ยง เปรี้ยง! การโจมตีอย่างต่อเนื่องของมู่เฉียนซีไม่ใช่สิ่งที่ไป๋เหยียนเอ๋อร์ผู้นี้จะสามารถต้านทานได้

เปลวไฟบนแท่นประลองเจิดจ้ายิ่งกว่าแสงแห่งธรรมเสียอีก

บัวอัคคีอันน่าสะพรึงกลัวนั้นหมุนเป็นวังวนก่อนจะพุ่งตกลงมา!

ตูม เปรี้ยง เปรี้ยง!

เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว สะเทือนไปทั้งฟ้าดิน ร่างของไป๋เหยียนเอ๋อร์ถูกบัวอัคคีดอกนี้กลืนกินแล้ว

อ๊า! เสียงกรีดร้องอันโหยหวนดังออกมาจากเปลวไฟ

และแท่นประลองนี้ ในตอนนี้ก็ถูกเปลวไฟโจมตีจนเกิดเป็นหลุมขนาดใหญ่ขึ้นแล้ว

ทุกคนต่างตกตะลึงพรึงเพริดขึ้น “นี่รู้แพ้รู้ชนะหรือยัง?”

“บัวอัคคีน่ากลัวปานนั้น ธิดาศักดิ์สิทธิ์แห่งตำหนักตงจี๋ก็เป็นแค่คนไร้ประโยชน์คนหนึ่ง จะต้านทานไหวได้ยังไงกันล่ะ?”

และในตอนนี้เอง ภายในเปลวไฟนั้นก็ได้มีลูกบอลแสงสีดำลูกหนึ่งปรากฏขึ้น

ลูกบอลแสงนี้ราวกับเป็นระเบิดหิมะ มันเริ่มใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ!

และร่างของไป๋เหยียนเอ๋อร์ที่อยู่ในลูกบอลแสงสีดำนั้นกลับไม่ได้รับความเสียหายอะไรเลย

ในตอนนี้ร่างของไป๋เหยียนเอ๋อร์มีกลิ่นอายที่ชั่วร้ายมากขึ้น ใบหน้านั้นเผยรอยยิ้มแปลกประหลาดออกมา

“มู่เฉียนซี เจ้าเก่งกาจยิ่งนัก! นึกไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะบีบให้ข้าออกมาจนได้ เจ้าพูดถูก เจ้าโง่นั่นไม่คู่ควรที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของเจ้า”

ในที่สุดหมิงจีก็ปรากฏตัวออกมาแล้ว!

“ในที่สุดเจ้าก็ออกมาสักที!” แสงเย็นวาบผ่านดวงตาของมู่เฉียนซี

ตอนนี้ต่างหากเล่า ที่เป็นการต่อสู้อันดุเดือดอย่างแท้จริง!

การเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันของไป๋เหยียนเอ๋อร์ทำให้ทุกคนประหลาดใจเป็นอย่างมาก

“ธิดาศักดิ์สิทธิ์ตำหนักตงจี๋เป็นอะไรไป?”

“ช่างให้ความรู้สึกต่างจากเมื่อครู่ยิ่งนัก ดูแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก!”

“……”

จื่อโยวขมวดคิ้วขึ้นแล้ว หมิงจีคือศัตรูเก่าของพวกเขา

แม้ว่าตอนนี้หมิงจีจะได้รับบาดเจ็บสาหัส และอยู่ในร่างของสวะไร้ประโยชน์ แต่ก็ยากที่จะรับมือได้

หากคนงามได้รับบาดเจ็บแล้วละก็ เยี่ยไม่มีทางปล่อยเขาไปเป็นแน่ คนงาม เจ้าต้องเอาชนะให้ได้นะ!

“มังกรเพลิง ต่อไปต้องพึ่งเจ้าแล้วล่ะ” รับมือกับหมิงจี มู่เฉียนซีจำเป็นต้องระมัดระวังให้มาก

มังกรเพลิงกล่าว “นายท่าน เจ้านี่อ่อนแอกว่าพิฆาตวิญญาณมาก มีข้าอยู่ นายท่านไม่มีทางแพ้แน่นอนขอรับ”

ว่าแล้วมังกรเพลิงสีแดงฉานก็พุ่งทะยานออกไป มู่เฉียนซีโคจรพลังวิญญาณขึ้นและต่อสู้ประมือกับร่างในชุดดำนั้น

เปลวไฟกับพลังแห่งนรกสีดำต่อสู้กันไปมา ยากที่จะแยกออกจากกันได้!

“มังกรน้ำแข็งท้าสวรรค์!”

“ทักษะโยวหลัว!”

สิ่งที่มู่เฉียนซีพึ่งพานั้นไม่ใช่แค่กระบี่มังกรเพลิงแน่นอน

ทักษะวิญญาณพลังธาตุวารี และยังมีทักษะโยวหลัวด้วย!

ทว่า หมิงจีไม่ใช่ไป๋เหยียนเอ๋อร์ นางมีชีวิตมานานหลายปีเช่นนั้น ประสบการณ์ในการต่อสู้ย่อมมากกว่ามู่เฉียนซีอยู่แล้ว

พลังแห่งนรกสีดำมืดพุ่งออกมาอย่างรวดเร็วราวกับภูตผี กักขังพื้นที่บริเวณรอบตัวมู่เฉียนซีเอาไว้

กลิ่นอายชั่วร้ายนี้พัดกระโชกมาครอบคลุมไปทั่วบริเวณ

“ฝีมืออ่อนหัดเช่นนี้ของเจ้า ใช้กับเจ้าโง่นั่นได้ผล แต่มันใช้กับข้าไม่ได้ผลหรอกนะ!”

“โล่วิญญาณน้ำแข็ง!”

“โล่วิญญาณน้ำแข็ง!”

เผชิญหน้ากับการโจมตีฆ่าสังหารจากทั่วทุกทิศเช่นนี้ มู่เฉียนซีรีบใช้เกราะป้องกัน

แกร่ก ฉ่า!

กำแพงน้ำแข็งแตกสลายอย่างบ้าคลั่ง มู่เฉียนซีรีบหลบหลีกอย่างรวดเร็ว

เผชิญหน้ากับหมิงจีตัวต่อตัวเช่นนี้มันไม่ง่ายเลยจริง ๆ!

“นี่ไม่ใช่ธิดาศักดิ์สิทธิ์แห่งตำหนักตงจี๋แล้วกระมัง!”

“นี่นับว่าขี้โกงแล้วหรือไม่?”

“……”

ไป๋อู๋ห่ายกล่าว “บุตรสาวของข้าก็แค่ได้รับสืบทอดมาจากผู้แข็งแกร่ง พลังก็เลยแข็งแกร่งขึ้นก็เท่านั้น พวกเจ้าหยุดพูดจาเหลวไหลเดี๋ยวนี้นะ”

ทุกคนต่างหมดคำพูดแล้ว ได้รับสืบทอดมาจากผู้แข็งแกร่งแค่ชั่วพริบตาเดียวก็เก่งกาจ จากสวะไร้ประโยชน์กลายเป็นยอดฝีมือเลยอย่างนั้นเหรอ

พวกเขาอายุมากแล้วก็จริง แต่สมองก็ไม่ได้เลอะเลือนสักหน่อย

“มังกรน้ำแข็งท้าสวรรค์!”

“บัวแดงพิฆาต!”

“……”

ตูม เปรี้ยง เปรี้ยง!

มู่เฉียนซีที่ถูกยับยั้งในตอนนี้ก็ไม่ได้ล้มเลิกที่จะตอบโต้ นางมียาลูกกลอนฟื้นฟูพลังวิญญาณมากพอ มีพลังวิญญาณเพียงพอ ดังนั้นจึงใช้ทักษะวิญญาณไม่ยั้ง

“สุดท้ายแล้วเจ้าก็ต้องลงเอยด้วยการดิ้นรนที่ไร้ประโยชน์เหล่านี้ มันไม่มีความหมายหรอกนะ!”

พลังของหมิงจียิ่งยับยั้งมู่เฉียนซีมากขึ้นเรื่อย ๆ “ตอนนี้ข้าแตะต้องหวงจิ่วเยี่ยไม่ได้ แต่ฆ่าคนที่เขาสนใจเช่นเจ้าไปก่อนก็ไม่เลว! ช่วยไม่ได้ ก็ใครใช้ให้เขาบีบให้ข้ามาอยู่ในจุดนี้กันเล่า”

รอบบริเวณเต็มไปด้วยจิตสังหารอันแรงกล้า สุดท้ายมู่เฉียนซีก็ไม่หลบหลีก ก่อนจะถูกพลังแห่งนรกสีดำมืดนั้นพัวพันเข้ามา

บรรยากาศโดยรอบควบแน่นมากขึ้นจนร่างของมู่เฉียนซีไม่สามารถขยับได้

ในตอนนี้หมิงจีเคลื่อนตัวเข้าไปใกล้มู่เฉียนซีแล้วและกล่าวว่า “เจ้าโง่นั่นบอกว่าหากฆ่าเจ้ามันจะง่ายเกินไป ทรมานเจ้าก่อนจะดีกว่า เจ้า…”

“ตำหนักเป่ยหานของข้า ยอมแพ้!” น้ำเสียงอันตื่นตระหนกตะโกนดังขึ้น

กู้ไป๋อีฟื้นขึ้นมาก็เห็นมู่เฉียนซีกำลังตกอยู่ในอันตรายเช่นนี้ เขาไม่อาจคิดมากได้

ไป๋อู๋ห่ายยิ้มพลางกล่าว “กู้ไป๋อี เจ้าก็มีวันที่ร้อนใจด้วยเหรอ! เจ้าจะบอกว่ายอมแพ้ไม่ได้นะ ต้องให้เจ้าตัวผู้ที่อยู่บนแท่นประลองนั่นเป็นคนพูดยอมแพ้เอง”

ชั่วครู่หนึ่ง หมิงจีก็ยื่นมือไปหมายจะบีบคอมู่เฉียนซี ต้องการให้นางพูดคำว่ายอมแพ้ไม่ออก จากนั้นก็ค่อย ๆ ทรมานนางอย่างช้า ๆ

แต่หมิงจีกลับคิดไม่ถึงว่าก่อนที่มือนางจะสัมผัสคอมู่เฉียนซี นางก็รู้สึกว่าร่างกายไม่ฟังคำสั่งของนางเลย

ชั่วพริบตาเดียวมือคู่นั้นของนางก็เหลือเพียงแค่กระดูก ส่วนอื่นกลับหายไปอย่างแปลกประหลาด

หมิงจีตกตะลึงขึ้น “หวงจิ่วเยี่ย หวงจิ่วเยี่ยมาแล้ว…”

นางรีบถอยออกห่างทันที จากนั้นหันไปกล่าวกับหัวหน้าแคว้นเทพฟ้านอินว่า “ท่านผู้ตัดสิน มู่เฉียนซีทำผิดกฎ! มีคนแอบช่วยนางอย่างลับ ๆ!”

หัวหน้าแคว้นเทพฟ้านอินกล่าวอย่างเฉยเมยว่า “ข้าไม่เห็นว่าจะมีใครช่วยนางเลย!”

“นั่นก็เป็นเพราะว่าเจ้าไม่แข็งแกร่งพออย่างไรเล่า! ต้องเป็นหวงจิ่วเยี่ยแน่ ๆ เขาต้องมาแน่นอน มิเช่นนั้นมือของข้าจะ…”

เมื่อนางก้มมองดูมือตัวเอง ไม่เพียงแต่มือจะเปลี่ยนเป็นกระดูกขาวเท่านั้น แต่ยังเริ่มพลันเปลี่ยนเป็นสีดำอีกด้วย!

ส่วนมืออีกข้าง บริเวณคอ สองขา และลำตัวก็ได้กลายเป็นกระดูกสีดำแล้วด้วยเช่นกัน หมิงจีส่งเสียงกรีดร้องขึ้น อ๊ายย!

“เป็นเช่นนี้ไปได้ยังไง มันเป็นเช่นนี้ไปได้ยังไง?”

มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าวว่า “หมิงจี ในเมื่อร่างของไป๋เหยียนเอ๋อร์มีประโยชน์ต่อเจ้า ข้าก็จะทำลายร่างนี้ไปให้สิ้น ดูสิว่าเจ้าจะทำเช่นไร”

“พิษ! นี่เจ้าวางยาพิษข้า!”

หลังจากที่ตื่นตระหนกตกใจ ในตอนนี้หมิงจีจึงได้รู้ว่านี่ไม่ใช่ฝีมือของหวงจิ่วเยี่ย

จื่อโยวยืนพึมพำเสียงเบากับตัวเองว่า “นี่คนงามกำลังแก้แค้นให้เยี่ย! หากเยี่ยรู้ต้องดีใจมากแน่ ๆ”

มู่เฉียนซีกล่าว “ใช่! ข้าวางยาพิษตั้งแต่ข้าย่างกรายเหยียบบนแท่นประลองนี้แล้วล่ะ เพียงแต่เจ้ากับไป๋เหยียนเอ๋อร์ไม่รู้ก็เท่านั้น”

ในตอนนี้ทุกคนต่างก็ได้รู้ว่าแล้วพรสวรรค์ในการต่อสู้ของมู่เฉียนซีนั้นวิปริตมาก แต่สิ่งที่วิปริตมากไปกว่านั้นก็คือฝีมือการปรุงยา

ในฐานะที่เป็นหนึ่งในเจ้าของหอหมอปีศาจ วิชาพิษเพียงเล็กน้อยก็สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้

หมิงจีกลัดกลุ้มใจมาก ควบคุมสถานการณ์ไม่ดีจนเกิดปัญหาขึ้นแล้ว!

นึกไม่ถึงเลยว่าจะมีนักพิษมาวางยาพิษต่อหน้าโดยที่นางไม่รู้ตัวเช่นนี้

ร่างกายนี้ไม่สามารถใช้ได้แล้ว แต่หมิงจีกลับหัวเราะขึ้นอย่างบ้าคลั่ง “มู่เฉียนซี เจ้าคิดว่าทำลายร่างสวะไร้ประโยชน์นี้แล้วข้าจะทำอะไรเจ้าไม่ได้อย่างนั้นเหรอ ต่อให้ไม่มีร่าง ข้าก็ยังฆ่าเจ้าได้”

ว่าแล้วพลังแห่งนรกสีดำมืดก็ได้ห่อหุ้มกระดูกสีดำนั้นไว้ เงาดำปรากฏขึ้นกลางอากาศ พลังจิตอันน่าสะพรึงกลัวแผ่ซ่านออกมายับยั้ง แม้แต่ค่ายกลแท่นประลองนี้ก็ไม่สามารถต้านทานได้!

พรวด พรวด พรวด!

คนดูจำนวนมากไม่สามารถรับแรงกดดันจากพลังจิตนี้ได้ แม้แต่หัวหน้าแคว้นเทพฟ้านอินเองก็มีสีหน้าที่ซีดเผือดขึ้นแล้ว และมู่เฉียนซีที่ถูกพลังจิตนี้โจมตียังจะมีทางรอดอีกเหรอ

.

.