บทที่ 1815 ภารกิจ (1)

เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า

เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1815 ภารกิจ (1)

กระบี่หนักแทงทะลุอก หลวี่เหวยโวยวายอย่างบ้าคลั่ง เห็นได้ชัดว่าเลือดเนื้อในตัวเขากำลังบิดเบี้ยว เหมือนกำลังจะทะลักออกมากลืนกินลู่ฝาน

ลู่ฝานก็สัมผัสถึงพลังพลุ่งพล่านในตัวหลวี่เหวย พลังกัดกร่อนรุนแรงมาก

เหมือนหลวี่เหวยสามารถควบคุมการไหลเวียนของเลือดตัวเองได้ ถึงโดนกระบี่แทงทะลุก็ไม่มีเลือดไหลออกมาสักหยด

แรงดูดส่งผ่านมาจากกระบี่หนักไร้คม ไอ้หมอนี่ยังคิดตอบโต้อีก!

ลู่ฝานเตะเขาอีกทีอย่างไม่เกรงใจ

ฝ่าเท้าแฝงด้วยพลังน่ากลัวมาก ปราณชี่รวมตัวกัน ส่งเสียงดังออกมา

ตูม!

พื้นด้านล่างตัวหลวี่เหวยระเบิดจนเป็นหลุม เปลวไฟโลหิตรอบตัวกระจายออกไปหมด อานุภาพของเปลวไฟลดลงไปไม่น้อย

ตัวของหลวี่เหวยกลายเป็นประกายแสงอีกครั้ง

ลู่ฝานมองประกายแสงแล้วยื่นฝ่ามือออกมา

“ฟ้าดินกระจาย!”

พลังฟ้าดินทั้งหมดถอยห่างออกไป

ประกายแสงที่กำลังจะรวมตัวกันหยุดลงทั้งหมด

ภายในห้อง คุณชายเฟิงเทียนหัวเราะร่า “ในบรรดาผู้ฝึกชั่วร้ายอย่างเรา มีอัจฉริยะระดับนี้ด้วย กระบวนท่านี้เทียบกับเขตวิถีได้เลย!”

ผู้อาวุโสซู่มั่นและคนอื่นตาเป็นประกาย

พวกเขาไม่ใช่คนไร้ประสบการณ์ เมื่อลู่ฝานใช้กระบวนท่านี้ออกมา พวกเขารู้เลยว่าชายหนุ่มคนนี้อนาคตไกล

ผู้อาวุโสที่มีเครามองผู้อาวุโสซู่มั่นด้วยรอยยิ้ม “ผู้อาวุโสซู่มั่น ไปหาเด็กมีความสามารถแบบนี้มาจากไหนกัน เขาเคยไปฝึกฝนในสระปีศาจหรือเปล่า”

ผู้อาวุโสซู่มั่นพูดด้วยรอยยิ้ม “ฉันก็เจอโดยบังเอิญเหมือนกัน เด็กคนนี้มาประเทศฉิงเทียนครั้งแรก จะเข้าไปในสระปีศาจได้ยังไงกันล่ะ”

คุณชายเฟิงเทียนหันมาพูดว่า “ให้รายชื่อเขาเข้าไปในสระปีศาจระดับสูงของสำนักเรา ถ้าเขาทำภารกิจสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี พาเขากลับสำนักด้วย”

ผู้อาวุโสซู่มั่นยิ้มจนตาเป็นสระอิ ผู้อาวุโสทั้งสิบคนคำนับแล้วขานรับ

หน้าประตูเปลวไฟโลหิต ลู่ฝานเอื้อมมือคว้าประกายแสงทั้งหมดลงมา

ลู่ฝานกำมันไว้ในมือ เขาสัมผัสถึงพลังชีวิตมหาศาลด้านใน รวมถึงพลังที่พลุ่งพล่านด้วย

นี่คือพลังของหลวี่เหวยเหรอ

ลู่ฝานบีบมันจนแตกโดยไม่เกรงใจ ในเวลาเดียวกันก็พูดในใจว่า “ไอ้เก้า ดูสิว่าแกกินมันได้หรือเปล่า”

เจดีย์เสวียนเก้ามังกรหัวเราะร่าแล้วพูดว่า “เจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ ฉันไม่เคยกินคนทั้งตัวมาก่อนเลย แต่ฉันยินดีลองดูสักครั้ง!”

เมื่อพูดเช่นนี้ เจดีย์เสวียนเก้ามังกรเริ่มดูดพลังรอบๆ ที่โดนลู่ฝานบีบจนกระจาย

ไม่นานพลังทั้งหมดโดนเจดีย์เสวียนเก้ามังกรกวาดจนเกลี้ยง

ลู่ฝานกวาดตามองรอบๆ ไม่เห็นประกายแสงรอบตัวอีกแล้ว

ลู่ฝานขมวดคิ้วเบาๆ ลู่ฝานไม่รู้สึกเลยว่าตัวเองฆ่าหลวี่เหวยไปแล้ว

วิญญาณล่ะ วิญญาณของหลวี่เหวยอยู่ไหน

ส่งเสียงหึออกมาเบาๆ เปลวไฟปรากฏขึ้นบนตัวลู่ฝานอีกครั้ง

ทันใดนั้นผู้อาวุโสทั้งสิบคนดูออกทันทีว่าเปลวไฟที่ลู่ฝานปล่อยออกมาไม่ใช่แค่พลังธาตุไฟ ยังมีพลังเปลวไฟโลหิตแฝงอยู่ด้วย

ใช่แล้ว ถ้าคนอื่นโดนเปลวไฟโลหิตแผดเผา เกือบเอาชีวิตไม่รอดกันทั้งนั้น

แต่สำหรับลู่ฝาน ไม่ใช่แค่ไม่เป็นอะไร เขายังรู้ว่าเปลวไฟโลหิตรวมตัวขึ้นได้ยังไง

คนที่เชี่ยวชาญพลังธาตุไฟอย่างเขา ใช้เวลาไม่นานก็รู้วิธีใช้เปลวไฟโลหิตแล้ว

ไม่ใช่แค่นั้น เขายังพยายามดูดเปลวไฟโลหิตเข้ามาในตัวด้วย

การทำแบบนี้ ถ้าเป็นคนอื่นเรียกได้ว่ารนหาที่ตาย

แต่คนที่มีเต๋าแห่งชีวิต ไม่กลัวว่าร่างกายจะเสียหายอย่างลู่ฝาน ไม่สนใจเปลวไฟโลหิตอะไรนั่นเลยสักนิด

เขาเป็นเพียงคนเดียวที่เดินออกมาจากเปลวไฟโลหิต

เปลวไฟทะลักออกจากตัวลู่ฝาน ทะเลเพลิงรอบตัวน่ากลัวเพิ่มขึ้นอีก

ลู่ฝานไม่ได้ระบายอารมณ์ และไม่ได้ทดสอบเปลวไฟโลหิตที่ตัวเองเพิ่งได้มาใหม่ แต่กำลังโจมตีอย่างครอบคลุมโดยไม่มีความแตกต่าง

ถ้าหลวี่เหวยใช้วิชาพิเศษอะไรเพื่อซ่อนตัว ลู่ฝานมั่นใจว่ากระบวนท่านี้ต้องทำให้เขาโผล่ออกมาแน่นอน!

น่าเสียดาย รออยู่นานก็ไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรเลย

เปลวไฟโลหิตรอบตัวค่อยๆ หายไป ประตูเริ่มโปร่งแสง

ลู่ฝานไม่ได้รอต่ออีก เขาพูดเสียงเบาว่า “หลวี่เหวย นายซ่อนเก่งจริงๆ แต่ครั้งหน้าฉันไม่มีทางให้โอกาสนายซ่อนตัวแน่นอน”

พูดพลาง จู่ๆ ลู่ฝานโจมตีด้วยหมัด

ด้านหน้าเขาไม่มีอะไรแท้ๆ แต่เมื่อซัดหมัดออกมา มิติรอบๆ ยังกระเพื่อมเป็นระลอก

เศษพลังกระจายออกไป พื้นดินได้รับความเสียหายอีกครั้ง

เมื่อทำสิ่งเหล่านี้เสร็จ ลู่ฝานเดินมาหน้าประตูเปลวไฟโลหิต เขายื่นมือออกมาผลักประตูเบาๆ

จู่ๆ มีแสงสว่างขึ้นในประตูแล้วกระชากเขาเข้าไปทันที

ต่อมาเปลวไฟโลหิตแผดเผาจนหมด ประตูหายไปอย่างไร้ร่องรอย

ทุกอย่างกลับสู่ความสงบ การทดสอบสิ้นสุดลงแล้ว

หลังจากลู่ฝานออกไป ประกายแสงเล็กๆ โผล่ขึ้นมาจากใต้ดิน

จากนั้นประกายแสงเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว พลังฟ้าดินนับไม่ถ้วนเริ่มรวมตัวกัน

ไม่นานตัวของหลวี่เหวยปรากฏขึ้นอีกครั้ง แต่ตอนนี้หลวี่เหวยดูน่าสยองขวัญมาก บนตัวไม่มีจุดไหนสมบูรณ์เลย

เลือดออกเจ็ดทวาร หลวี่เหวยกินยาเป็นอันดับแรก จากนั้นเขาล้มลงบนพื้น เพราะยังไงสำหรับเขา การทดสอบได้สิ้นสุดลงแล้ว

แม้การกินยาเป็นการละเมิดกฎ แต่ถ้าไม่กินก็ตาย ตอนนี้หลวี่เหวยกล้าทุ่มสุดตัว

ภายในห้อง คุณชายเฟิงเทียนส่ายหน้าพูดว่า “ช่างทำให้ฉันปวดใจจริงๆ กว่าฉันจะพนันกับคนอื่นได้ คิดไม่ถึงว่าผลจะเป็นแบบนี้”

คุณชายเฟิงเทียนสะบัดมือปัดม่านแสงตรงหน้าแล้วพูดอย่างเฉยเมยว่า “ไปพาหลวี่เหวยกลับมา ถึงขนาดนี้ยังไม่ตายอีก ถือว่าเขาดวงแข็ง ให้อยู่ต่อยังพอมีประโยชน์!”

คุณชายเฟิงเทียนพูดจบก็เดินออกไป ผู้อาวุโสซู่มั่นพูดเสียงดังว่า “คุณชายเฟิงไม่อยากเจอเงามืดแล้วเหรอ”

คุณชายเฟิงเทียนพูดโดยไม่หันกลับมาว่า “ตอนนี้ไม่อยากเจอ คนน่าสนใจขนาดนี้ต้องค่อยๆ เล่นด้วย พวกนายให้เขาทำภารกิจไปก่อน ให้เขาอยู่ที่สระปีศาจระดับต่ำที่ประเทศฉิงเทียน ให้เขาใช้สระก่อนได้ ถ้าภารกิจสำเร็จ หลังกลับถึงสำนัก ฉันค่อยให้เขาเข้าไปในสระปีศาจระดับสูง ทำทุกอย่างตามกฎ อยากได้เท่าไรก็ต้องจ่ายเท่านั้น นี่คือเต๋าสูงสุดของโลกใบนี้”

เมื่อพูดจบ คุณชายเฟิงเทียนหายไปทันที

ผู้อาวุโสทั้งสิบคนที่อยู่ในนี้ก็ไม่มีใครรู้ว่าคุณชายเฟิงเทียนไปได้ยังไง

ผู้อาวุโสซู่มั่นขมวดคิ้วมองเจียวเม่ยเนียงที่ยังอยู่ในห้องอีกสองคน สะบัดมือปล่อยแสงออกมาฆ่าพวกเธอทันที

สีหน้าไม่เปลี่ยนเลยสักนิด ผู้อาวุโสซู่มั่นพูดว่า “ไปกันเถอะ เราไปเจอเงามืดที่ผ่านการทดสอบครั้งนี้กันดีกว่า!”

ผู้อาวุโสทั้งสิบคนหัวเราะออกมา จากนั้นทั้งสิบคนกลายเป็นลำแสงออกไป หลังจากพวกเขาออกไป ห้องนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ไม่นานทุกอย่างกลับสู่ความว่างเปล่า

การตกแต่งและสิ่งของทั้งหมดที่เคยอยู่ที่นี่ เกิดจากการรวมตัวของพลัง

วิชาระดับนี้เรียกได้ว่าน่าทึ่งมาก จู่ๆ ผู้อาวุโสทั้งสิบคนมาถึงในตำหนักใหญ่

รอบตัวดำขลับเหมือนหมึก มีเพียงลูกไฟสีขาวลอยอยู่กลางอากาศ ส่องสว่างทุกสิ่งทุกอย่าง

ดอกบัวสีดำสิบดอกเคลื่อนไหวอยู่ในตำหนัก ผู้อาวุโสทั้งสิบคนนั่งอยู่บนดอกบัวสีดำตามลำดับ

พวกเขาเพิ่งนั่งลง กลางตำหนักมีประตูบานหนึ่งค่อยๆ ปรากฏออกมา

เปลวไฟสีแดงรวมตัวเป็นรูปร่าง ผู้อาวุโสซู่มั่นมองภาพนี้ด้วยรอยยิ้ม มีความสุขเป็นอย่างมาก

จู่ๆ ประตูเปิดออก เงาใครคนหนึ่งเดินออกมา ถ้าไม่ใช่ลู่ฝานจะเป็นใครได้อีก

เมื่อเห็นลู่ฝานปรากฏตัวออกมา ผู้อาวุโสซู่มั่นพูดเสียงดังว่า “เงามืด ยินดีด้วยที่นายผ่านการทดสอบทั้งหมดแล้ว!”

ลู่ฝานเงยหน้ามองผู้อาวุโสซู่มั่น ฉีกยิ้มแล้วพูดว่า “หมายความว่าต่อไปไม่มีการทดสอบแบบนี้อีกแล้วใช่ไหม ฉันขอถามหน่อยได้ไหม ผ่านการทดสอบแบบนี้แล้วได้อะไรเหรอ”

ผู้อาวุโสทั้งสิบคนหัวเราะพร้อมกัน

ผู้อาวุโสซู่มั่นหัวเราะเบาๆ แล้วพูดว่า “ได้อยู่แล้ว อีกทั้งยังเป็นสิ่งที่นายคาดไม่ถึงด้วย!”