หลังจากที่จัดแจงทุกอย่างเสร็จสรรพ หลัวซิวก็เดินออกไปจากเขาสุดหล้า แล้วมุ่งหน้าตรงไปยังตำแหน่งที่ตั้งของหอไตร

“หมื่นจักรวาลไร้รูปของข้าสามารถวิวัฒนาการเป็นพลังอมตะต่าง ๆ ได้ก็จริง แต่ทว่าพลังอมตะบางอย่างกลับมีการเชื่อมโยงถึงกันโดยแก่นแท้ โดยทั่วไปแค่แบ่งออกเป็นทักษะยุทธ์ร่างเนื้ออมตะ ท่าเวทย์อมตะและเคล็ดวิชาวิญญาณอมตะ!”

“ในบรรดาพลังอมตะทั้งหมดนี้ รายละเอียดยิบย่อยสามารถแบ่งออกได้เป็นวิชากลั่นร่าง วิชาชาสยบ วิชาพิฆาตและวิชาผนึกอื่น ๆ อีกมากมาย……”

ความลึกลับและมหัศจรรย์ของพลังอมตะที่หลากหลายอยู่ที่การไหลเวียนระหว่างจิต จู่ ๆ หลัวซิวก็เดินถึงหอไตรโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัวแล้ว

โลกเสวียนเทียนจัดอยู่ในพิภพกลาง ผู้แข็งแกร่งที่สุดอย่างจ้าวนภาก็อยู่แค่เทพฟ้าขั้นสูง ไม่มีทางมีผู้ที่อยู่ระดับราชาเทพปรากฏ

จากข้อจำกัดของสภาพแวดล้อมฟ้าดิน แม้ปริมาณพลังอมตะในโลกเสวียนเทียนจะมีเยอะมาก ๆ แท้จริงแล้วก็ล้วนเป็นพลังที่เทพฟ้าสร้างขึ้น

แต่ทว่าเนื่องจากศักยภาพที่แตกต่างกันของเทพฟ้าแต่ละองค์ ทำให้อนุภาคของพลังอมตะที่สร้างขึ้นมาแตกต่างกัน

ตัวอย่างเช่นพลังอมตะที่เทพสงครามเอกภพสร้างขึ้น สามารถกดอัดพลังอมตะที่เทพฟ้าส่วนมากสร้างขึ้นได้แน่นอน

ประวัติที่สืบทอดต่อกันมาของสำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนเหมินยาวนาน ถือกำเนิดผู้แข็งแกร่งระดับเทพฟ้ามาไม่น้อย พลังอมตะที่ทิ้งไว้มีทั้งหมด 43 พลัง ทั้งหมดถูกจัดรวมอยู่ภายในหอไตร

หลัวซิวกวาดตามองดูอย่างคร่าว ๆ หนึ่งรอบ ก่อนจะพบว่าในบรรดาพลังอมตะทั้ง 43 พลังนี้ มีพลังอมตะ 34 พลังล้วนสร้างขึ้นโดยผู้แข็งแกร่งเทพฟ้าขั้นปฐมภูมิ

ในบรรดาพลังอมตะ 9 พลังที่เหลือ มี 6 พลังที่ถูกสร้างขึ้นโดยผู้แข็งแกร่งเทพฟ้าช่วงกลาง มี 2 พลังถูกสร้างขึ้นโดยผู้แข็งแกร่งเทพฟ้าช่วงปลาย มีเพียงพลังอมตะเดียวเท่านั้นที่สร้างขึ้นโดยผู้แข็งแกร่งเทพฟ้าขั้นสูง

แท้จริงแล้วเจ้าศักดิ์สิทธิ์แต่ละยุคในอดีตของสำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนเหมินล้วนเป็นเจ้านภา มีผลการฝึกตนอยู่ในระดับเทพฟ้าขั้นสูง แต่ทว่าแม้ผลการฝึกตนจะบรรลุถึงขั้นนี้ แต่ใช่ว่าพวกเขาจะสามารถสร้างพลังอมตะที่ทรงพลังมากพอออกมาได้

อย่างไรก็ตามการสร้างพลังอมตะและการฝึกพลังอมตะเป็นสิ่งที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง ใช่ว่าเจ้ามีผลการฝึกตนแล้วจะสามารถฝึกพลังอมตะได้ ยังต้องมีความสามารถในการตระหนักรู้ที่ยอดเยี่ยมมาก ๆ มีการตระหนักรู้และโอกาสที่สูงกว่าคนทั่วไป

ซุ๋นหวู่หยาเป็นผู้อาวุโสของสำนักศักดิ์สิทธิ์ บัญชาอมตะที่เขาประทานให้หลัวซิว สามารถเลือกพลังอมตะจากพลังอมตะทั้งหมด 43 พลังได้แค่พลังเดียวเท่านั้น

นี่จึงทำให้หลัวซิวรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย พลังอมตะทั่วไปที่สร้างโดยเทพฟ้าขั้นปฐมภูมิไม่ค่อยมีประโยชน์อะไรต่อเขามากนัก เขาสามารถตระหนักแก่นแท้ของพลังอมตะเหล่านั้นได้อย่างง่ายดาย มีเพียงพลังอมตะของผู้แข็งแกร่งระดับเจ้านภาเท่านั้นถึงสามารถทำให้เขาตระหนักรู้ได้ และปรับปรุงให้พลังอมตะหมื่นจักรวาลไร้รูปสมบูรณ์ขึ้นอีกก้าวหนึ่ง

“บัญชาอมตะไม่มีประโยชน์อะไรต่อข้า แต่สำหรับลูกศิษย์คนอื่น ๆ ในสำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนเหมินแล้ว มันกลับเป็นสมบัติที่ประเมินค่าไม่ได้!”

หลัวซิวหยีตาลง มีแผนบางอย่างผุดขึ้นมาในหัวเขา

สำนักเขาของสำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนเหมินกว้างใหญ่ไพศาลอย่างไร้ขอบเขต แม้จะมีศิษย์เยอะมาก ๆ แต่ก็ยังเป็นพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลที่มีจำนวนประชากรน้อยอยู่ดี

ในสำนักเขาสำนักศักดิ์สิทธิ์มีเขาทิพย์ลูกหนึ่งที่ค่อนข้างพิเศษ การก่อสร้างของที่แห่งนั้นมีคูเมืองหนึ่งคูเมือง ยิ่งเป็นเขตการค้าก็คึกคักมากที่สุดด้วย ในทุก ๆ วันจะมีศิษย์ในสำนักศักดิ์สิทธิ์จำนวนมากไปที่นั่น นำสมบัติที่ตัวเองได้รับมาออกมาขาย จากนั้นค่อยแลกกับสมบัติที่ตนต้องการ

และแผนของหลัวซิวก็คือนำบัญชาอมตะนี้ไปขายที่คูเมืองแห่งนั้น เชื่อว่าต้องมีศิษย์ในสำนักหรือศิษย์ใจกลางจำนวนมากที่ยินดีซื้อมันไปในราคาที่สูงมากแน่นอน

อย่างไรก็ตามแม้ศิษย์ใจกลางจะมีสิทธิ์ฝึกพลังอมตะ แต่จะได้รับบัญชาอมตะเป็นของขวัญก็ต่อเมื่อกราบไหว้ผู้อาวุโสสักคนเป็นอาจารย์ หลังจากที่เลือกพลังอมตะใดพลังหนึ่งแล้ว ต่อไปหากต้องการโอกาสในการฝึกพลังอมตะอื่น ๆ อีก ก็ต้องช่วงชิงโดยการพึ่งพาตนเอง

มีคนฝึกฝนสั่งสมประสบการณ์อยู่ข้างนอกถึงได้รับโอกาส และมีคนสะสมคุณูปการอยู่ภายในสำนักศักดิ์สิทธิ์ ทำภารกิจในสำนักเพื่อแลกโอกาสในการฝึกพลังอมตะ

ไม่ว่าจะเป็นวิธีใด ก็ไม่มีวิธีใดเร็วและดีกว่าการได้รับบัญชาอมตะ แค่ถือของดังกล่าวมุ่งหน้าตรงไปยังหอไตร ก็จะสามารถเลือกพลังอมตะหนึ่งพลังจากทั้งหมด 43 พลังได้

น้อยมากที่จะมีบัญชาอมตะปรากฏอยู่ในเขตการค้าของคูเมือง มีปรากฏบ้างเป็นบางครั้ง ทุกครั้งที่ปรากฏล้วนก่อให้เกิดความฮือฮาไม่น้อย