บทที่ 1167 ภรรยาควบคุมอย่างเข้มงวด

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 1167 ภรรยาควบคุมอย่างเข้มงวด

เมืองหลวง เดอะวิวซี

หลังจากที่แสนรักกลับมา ถึงแม้ว่าจะเตรียมตัวเอาไว้ดีแล้ว แต่ตอนที่เขามาถึงหน้าประตูบ้าน ผู้หญิงคนนั้นที่เหมือนเสือดาวตัวน้อยที่ถูกยั่วยุจนถึงขั้นสุดก็พุ่งออกมาจากทางด้านใน

หลังจากที่เขาสั่นอยู่พักหนึ่ง ก็ถอยหลังไปสองสามก้าว

รองผู้นำเดชาที่มองดูอยู่ทางด้านข้าง เหลือบมองจนหางตากระตุกขึ้น

เป็นเพราะว่านี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็น คุณชายเล็กที่ไม่กลัวฟ้ากลัวดินคนนี้ ต้องมามีท่าทางที่กลัวภรรยาตัวเองแบบนี้!

“ที่รัก คุณ….คุณฟังผมก่อน….”

“หุบปาก! ฉันจะบอกคุณให้นะแสนรัก วันนี้ถ้าฉันไม่ตีคุณให้ตาย ฉันก็ไม่ใช่เส้นหมี่!!”

หลังจากนั้น กำปั้นเล็กๆเหมือนกับหยดฝนก็กระหน่ำลงมา

คนที่อยู่ที่เดอะวิวซีก็ล้วนแต่แอบหันไปมองอีกทางด้านหนึ่ง จนกระทั่งคุณผู้หญิงของพวกเธอยังเขย่งปลายเท้าแล้วดึงหูของชายหนุ่ม แล้วลากเขาเข้าไป

ทุกคนถึงได้กลั้นเอาไว้ไม่อยู่ แต่ละคนก็หัวเราะออกมาเสียจนแทบจะหายใจไม่ทัน

แม้แต่ไชยันต์ที่ถูกเข็นออกมาด้วย หลังจากที่เห็นฉากนี้แล้ว มุมปากก็กระตุกขึ้นมาด้วยเช่นกัน ทนไม่ได้ที่จะมองตรงๆจึงเบนหน้าหนีไปด้วยเช่นกัน

สมควร!

เด็กเวรนี่!

สามีภรรยาเข้าไปแล้ว สายตาของไชยันต์ ในที่สุดก็มองไปยังร่างของคนที่มุดออกมาจากรถคนนั้น ผ่านไปไม่กี่เดือน ตอนที่เขาได้มาเห็นคนๆนี้ กลับเป็นใบหน้าที่แปลกหน้าไป ในอกนั้นเหมือนกับมีกระแสน้ำซัดสาดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว มองเขาอย่างสั่นเทา น้ำตาที่ร้อนรุ่มก็ไหลลงมาแบบนี้

“เร็วสิ รีบไปเรียกเขาเข้ามา”

เขาพูดรัวๆ ต้องการให้รองผู้นำเดชาที่อยู่ข้างๆรีบไปเรียกเขาเข้ามา

แต่เวลานี้ คนที่อยู่ด้านนอกจะเข้าไปได้อย่างไรกัน?

ถึงแม้ว่าเขากลับมาเมืองหลวงแล้ว แต่ที่เขาดันเอาไว้ก็ยังเป็นหน้าของคนอื่น และก็เป็นสถานะของคนอื่นด้วยเช่นกัน และช่วงเวลาที่สำคัญแบบนี้ เขาจะสามารถเข้าไปได้อย่างไร?

รองผู้นำเดชาทำได้เพียงเกลี้ยกล่อมด้วยน้ำตา : “นายท่าน คุณ…..อดทนอีกหน่อยนะครับ”

ประโยคเดียว ทำให้การป้องกันของคนสูงวัยคนนี้พังทลายลงโดยสิ้นเชิง

ภาสดรที่ยืนอยู่ทางด้านนอก ก็กำลังมองมาทางนี้อยู่ตลอดเช่นกัน เขาขอบตาแดง หน้าอกนั้นกระเพื่อมขึ้นลงอย่างรุนแรง

แต่ก็เหมือนกับที่รองผู้นำเดชาพูดเอาไว้ เขาเองก็ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้มากเกินไปเช่นกัน สิ่งเดียวที่เขาสามารถทำได้ก็คือถูกถือโอกาสพากลับมาด้วยในฐานะลูกชายของเพื่อนร่วมงานเท่านั้น

มองคนสูงวันคนนี้อยู่ไกลๆ

“คุณชายภาสดร ขึ้นรถเถอะครับ”

ภายในรถ รปภ.ของเดอะวิวซีที่ไปรับพวกเขากลับมา ก็พูดเร่งขึ้นมา

ภาสดรกัดฟัน และเตรียมตัวจะขึ้นรถ

แต่เวลานี้ จู่ๆก็มีร่างหนึ่งที่สาวเท้าเดินออกมาจากประตู เห็นเพียงแค่เขากำลังอุ้มทารกราวๆประมาณเกือบสามเดือนอยู่ และเดินมาทางนี้

“เดี๋ยวก่อน พวกคุณจะกลับตระกูลจรัลพฤกษ์หรือเปล่า? รอฉันด้วย ฉันจะไปส่งลูกของคุณนายน้อยของพวกเราไปที่เรด พาวิเลี่ยนด้วย”

ไม่คิดว่าจะเป็นพี่ภา

ดวงตาของภาสดรมองตรง เหมือนกับ มีอะไรบางอย่างที่กำลังระเบิดอยู่ในหัวของเขา เสียงอื้ออึงนี้ของเขา เขาก้มลงมองเด็กคนนี้ แล้วก็ไม่ได้เคลื่อนไหวใดๆอีกด้วยเช่นกัน

นี่คือ…..หนูดารา

พี่ภาเห็นท่าทางของเขาแล้ว ตอนที่ขึ้นรถจึงเอาเด็กส่งให้ที่มือของเขา

“คุณชายภาสดร พวกเราเข้าไปด้วยกันเถอะค่ะ อากาศหนาวเกินไป เด็กคงจะหนาวจนแข็งแย่แล้ว”

“…..ครับ”

เหมือนกับเป็นศตวรรษที่ยาวนาน ภาสดรอุ้มกอดเจ้าก้อนนุ่มๆนี้ และถึงได้ยินเสียงอืมของตัวเอง

หลังจากนั้น แขนทั้งสองข้างของเขาก็สั่นเทาเล็กน้อย เหมือนกับกำลังประคองสิ่งที่ล้ำค้าอยู่แบบนั้น อุ้มขึ้นรถไปด้วยความระมัดระวัง

นั่นคือความรู้สึกแบบไหนกัน?

ความจริงแล้วไม่สามารถอธิบายออกมาได้เลย

ก่อนหน้านี้เขาเคยนอนไม่หลับในช่วงกลางดึกอยู่นับครั้งไม่ถ้วน จินตนาการถึงความรู้สึกจากการอุ้มเจ้าหนูต้วน้อยคนนี้ เหมือนกับที่เขาเคยอุ้มสัตว์ตัวน้อย หรือสุนัขตัวน้อยในกองกำลังทหารของพวกเขา

แต่นั่นไม่เหมือนกัน

สิ่งเหล่านั้น จะมาเทียบกับเด็กคนหนึ่งได้อย่างไร?

ดังนั้น หลังจากที่ตื่นมาในทุกๆครั้ง เขาก็จะยิ่งรู้สึกแย่

จนกระทั่งตอนนี้ ในที่สุดเขาก็ได้อุ้มเธอแล้ว เด็กทารกที่ขาวและนุ่มขนาดนั้น ทั้งร่างกายของเธอนั้นนุ่มนิ่มไปหมด และยังส่งกลิ่นนมอ่อนๆอีกด้วย เธอนอนอยู่ในมือของเขา ก็เหมือนกับกลายมาเป็นโลกทั้งใบของเขาไปแล้ว

“คุณชายภาสดร เธอหนักเก้าโลแล้วนะคะ ทานได้แล้ว ยังไม่ครบสามเดือนเลย ครั้งนึงก็ดื่มนมได้ถึง120มล.เลย”

พี่ภานั่งอยู่ข้างๆเขา เห็นเขามองเด็กคนนี้อยู่ตลอด เหมือนกับหยั่งรากลงไปแล้ว เธอจึงเริ่มพูดถึงชีวิตประจำวันของเด็กคนนี้ขึ้นมา

ความสนใจของภาสดรนั้นถูกดึงดูดขึ้นมาทันที

“จริงเหรอครับ?” เขาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครืออีกครั้ง

พี่ภาพยักหน้าลง : “ค่ะ เธอยังสามารถพูดคุยกับคุณได้ด้วยนะ น่ารักมากเลย เด็กคนนี้น่ะ คุณพูดประโยคนึง เธอก็จะตอบคุณประโยคนึง กระโดดโลดเต้นดีอกดีใจ เหมือนกับคุณหนูใหญ่ตอนเด็กๆที่ร่าเริงมากเลยนะคะ”

พี่ภาเป็นคนรับใช้ที่เก่าแก่ของตระกูลหิรัญชา ในตอนนั้น เห็นการเติบโตทั้งของแสงดาวและแสนรัก

ดังนั้นตอนนี้เมื่อพูดถึงเด็กคนนี้ ก็อดที่จะพูดถึงแม่ของเธอตอนเด็กๆด้วยไม่ได้

ภาสดรไม่ได้ส่งเสียงออกมา

เพียงแต่เขาอุ้มเด็กคนนี้ ก็รู้สึกอดที่จะยื่นมือออกมาไม่ได้ อยากจะลูบใบหน้าเล็กๆของเธอ ให้เธอตื่นแล้วยิ้มให้กับเขา

แต่จนท้ายที่สุด หลังจากที่เขาเห็นว่าเธอหลับปุ๋ยขนาดนี้ จึงไม่ได้กวนเธอ เขาเก็บมือกลับมา จากนั้นรถก็มาถึงหน้าประตูเรด พาวิเลี่ยน เขายังคงรักษาท่าทางในการอุ้มเธอเอาไว้อยู่แบบนั้น