ภาค 10 ขี่วายุทะลายคลื่นหมื่นลี้ บทที่ 976 พวกท่านลงมือพร้อมกันแล้วอย่างไร

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

นักพรตตงเฉวียนขยับสองมือ ญาณจริงแท้กลายเป็นรูปยันต์แปดทิศสีทอง ปรากฏขึ้นกลางฝ่ามือ

รูปยันต์แปดทิศสองรูปกดดันใส่เยี่ยนจ้าวเกอ มิติบริเวณจุดตัดปรากฏสภาวะบิดเบี้ยว

การเปลี่ยนแปลงที่ทำให้สรรพสิ่งแหลกสลายเพราะการบิดเบี้ยว แต่ก็เกิดขึ้นใหม่อย่างรวดเร็วนี้ ราวกับมีการแปรเปลี่ยนไร้สิ้นสุด

ขณะที่หนึ่งดับสิ้นหนึ่งเกิดใหม่ พลังอันแข็งแกร่งก็บังเกิด ซัดใส่เยี่ยนจ้าวเกอ

แต่เยี่ยนจ้าวเกอเหลือบแลยังไม่เหลือบแล ยกฝ่ามือขึ้นครอบท้องฟ้า ใช้รอยตราพลิกนภาฟาดลงอย่างสะเทือนเลือนลั่น

มาถึงตอนนี้ เยี่ยนจ้าวเกอไม่ได้ใช้ฝ่ามือนภากว่าเฉิงปิดบังความลี้ลับของรอยตราพลิกนภามานานแล้ว

ภายใต้หนึ่งฝ่ามือ ก็คือรอยตราพลิกนภา วรยุทธ์สายหยกพิสุทธิ์สายตรงที่แท้จริง

ใช้แข็งปะทะแข็ง กำลังจะกระแทกนักพรตตงเฉวียนให้กระเด็นออกไปด้านหลัง

นักพรตตงเฉวียนเห็นดังนั้นก็เปลี่ยนแปลงสภาวะฝ่ามือ

ฝ่ามือยันต์แปดทิศวนฟ้านอกจากความยิ่งใหญ่ของพลังแล้ว แก่นแท้ของมันอยู่ที่การเปลี่ยนแปลงกระบวนท่า

เขาควงสองฝ่ามือเป็นวงกลม โอบกอดความว่างเปล่า รูปยันต์แปดทิศสองรูปพลันรวมกันเป็นหนึ่ง กลายเป็นรูปยันต์แปดทิศที่มีขนาดใหญ่กว่าเดิมรูปหนึ่ง

ตรีลักษณ์ทั้งหกสิบสี่รูปแบบตอนนี้ปรากฏขึ้นอย่างพร้อมเพรียง ไหลเวียนอยู่ในความว่างเปล่า

แม้จะเป็นเยี่ยนจ้าวเกอก็รู้สึกได้ ว่าตอนนี้รอยตราพลิกนภาที่แข็งแกร่งของตัวเองเหมือนกับกำลังถูกฉุดดึงไปยังทิศทางอื่น ไม่ได้พุ่งไปหาร่างของนักพรตตงเฉวียนอีก

ถึงแม้ว่าคัมภีร์พลิกฟ้าจะเหนือกว่าทัศนะยันต์แปดทิศสยบมังกร และรอยตราพลิกนภาจะเหนือกว่าฝ่ามือยันต์แปดทิศวนฟ้า แต่ว่าทั้งสองฝ่ายมีความแตกต่างของระดับมากเกินไป

หากเปลี่ยนเป็นยอดฝีมือในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นหก ขั้นเทวะสำแดงระยะท้ายที่ฝึกฝนคัมภีร์พลิกฟ้าคนอื่น เมื่อใช้รอยตราพลิกนภา ก็ได้แต่ถูกนักพรตตงเฉวียนหยิบยืมพลังป้องกันพลัง แก้ไขสภาวะโจมตี

เยี่ยนจ้าวเกอกลับแค่หัวเราะเหอะๆ

ฝ่ามือหนึ่งที่ฟาดออกขณะกระตุ้นรอยตราพลิกนภา หลอมความลี้ลับของฝ่ามือหยินหยางขั้วกำเนิดเข้าไปด้วย

หยินหยางเปลี่ยนแปลง สรรพสิ่งคืนสู่อนัตตา

รูปยันต์แปดทิศสีทองที่เกิดจากญาณจริงแท้ของนักพรตตงเฉวียนพลันหดยุบสู่ตรงกลางเป็นจุดเดียว

ยันต์แปดทิศกลายเป็นสี่ลักษณ์ สี่ลักษณ์กลับคืนสู่หยินหยางอีกครั้ง จากนั้นก็ถูกรูปไท่จี๋ที่กลางฝ่ามือของเยี่ยนจ้าวเกอกลืนกิน

ข้างใต้ฝ่ามือของเยี่ยนจ้าวเกอกลายเป็นหลุมสุญญากาศ ดูดนักพรตตงเฉวียนไว้ ได้แต่ต้องฝืนรับฝ่ามือนี้ของเขา!

นักพรตตงเฉวียนสีหน้าเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ หลบหลีกยังไม่อาจหลบหลีก ได้แต่เปลี่ยนฝ่ามือเป็นหมัด

เขาถึงแม้จะอยากกำจัดเยี่ยนจ้าวเกอ แต่ก็ไม่กล้าดูแคลนแม้แต่น้อย

ตอนแรกคิดจะใช้ฝ่ามือยันต์แปดทิศวนฟ้าซึ่งเปลี่ยนแปลงได้อย่างแยบคาย ขึ้นชื่อในเรื่องการต่อสู้ตะลุมบอน รับมือเยี่ยนจ้าวเกอ เพื่อทำความเข้าใจความแข็งแกร่งของชายหนุ่ม

แต่ว่าความดุดันของเยี่ยนจ้าวเกอเหนือกว่าจินตนาการของเขา แค่กระบวนท่าแรกก็เล่นงานจนเขายากจะต้านทานแล้ว!

ด้วยความจนปัญญา นักพรตตงเฉวียนไม่กล้าออมแรงอีก รีบเปลี่ยนเป็นหมัดมหาวิญญาณสยบมังกรที่ขึ้นชื่อในเรื่องการปะทะซึ่งหน้ามากกว่า

จิตสังหารเด็ดขาด นักพรตตงเฉวียนร่างเอนต่ำลง จากนั้นค่อยระเบิดพลังออกมาอย่างรุนแรง ต่อยหมัดใส่เยี่ยนจ้าวเกอ

ฉายา ‘เฒ่าสยบมังกร’ ของเขาได้มาจากกระบวนท่าฝ่ามือมหาวิญญาณสยบมังกร

ชื่อนี้สร้างความเกลียดชังให้แก่เผ่ามังกร ในอดีตเคยมียอดฝีมือเผ่ามังกรที่อยู่ในขั้นสะพานเซียนมาหาเรื่องเขามหาวิญญาณ แต่สุดท้ายก็ต้องกล้ำกลืนความเจ็บปวดเพราะอานุภาพสยบมังกรนั้น

หมัดที่ดุดันพอถูกต่อยออก ก็ทำให้คนที่ชมดูการต่อสู้เกิดความรู้สึกหลอน

เหมือนกับเขามหาวิญญาณอันสูงชันที่อยู่ข้างใต้กำลังถูกสภาวะหมัดของนักพรตตงเฉวียนเหนี่ยวนำ กลายเป็นสว่านพุ่งใส่ใจกลางฝ่ามือของเยี่ยนจ้าวเกอพร้อมกัน

ฟ้าดินสั่นไหว ไม่ใช่แค่เขามหาวิญญาณเท่านั้น ขุนเขาสูงใหญ่ที่อยู่รอบๆ ก็กำลังพลิกหมุน ลอยขึ้นจากดิน แล้วตกลงเหมือนกับห่าฝนพายุคลั่ง

เทือกเขาสันติภาพครึ่งหนึ่งเหมือนกับมีชีวิตตขึ้นมา พลิกม้วนขึ้นฟ้า จากนั้นก็ร่วงหล่นลง

‘มีการถ่ายทอดจริงแท้อยู่’ เยี่ยนจ้าวเกอใบหน้าไม่แปรเปลี่ยน กดรอยตราพลิกนภาลง พลันสะกดการเปลี่ยนแปลงของฟ้าดินตรงหน้า

แผ่นดินและขุนเขาที่พลิกม้วนสู่ฟากฟ้า สงบราบคาบดุจเดิมในทันที

รูปไท่จี๋กลางฝ่ามือของเขาปรากฏสภาวะโกลาหล ทำลายแสงและความมืด หมัดบดขยี้แสงสว่างที่บ้าคลั่งรุนแรงต่อยลง กระแทกนักพรตตงเฉวียนกระเด็นออกไป!

ยอดฝีมือระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นแปด ขั้นสะพานเซียนระยะกลางถูกเยี่ยนจ้าวเกอเล่นงานจนกระอักเลือด กระเด็นถอยหลังภายในไม่กี่กระบวนท่า

นักพรตตงเฉวียนแม้จะแตกตื่น แต่กลับไม่สูญเสียความเยือกเย็น

แม้นจะถูกเยี่ยนจ้าวเกอเล่นงานได้รับบาดเจ็บ แต่ว่าก็อาศัยแรงกระแทกเพิ่มความเร็วถอยหลัง คิดจะรักษาระยะห่างจากชายหนุ่มเพื่อตั้งตัวใหม่อีกครั้ง

ผู้ใดหาทราบไม่ว่าเยี่ยนจ้าวเกอกลับคล้ายไม่จำเป็นต้องพักหายใจ

หลังจากหมัดอันบ้าคลั่งที่สามารถทำลายฟ้าทำลายดินได้ เขาก็ไม่ได้หยุดชะงักแม้แต่น้อย ไล่ตามไปถึงเบื้องหน้านักพรตตงเฉวียน แล้วฟาดฝ่ามือมาอีกครั้ง!

นักพรตตงเฉวียนตกตะลึงพรึงเพริด รีบร้อนเรียกแส้หางมังกรอันเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงของตัวเองออกมา

ปลายแส้ที่ทำจากเหล็กสีดำซึ่งมีขนาดยักษ์ใหญ่เหมือนหางมังกรแบ่งเป็นยี่สิบท่อน แต่ละท่อนดำเมี่ยม สลักตราอาคม เต็มไปด้วยปราณมาร

แต่ไม่รอเขาบังคับพลังที่อยู่ด้านใน ก็เห็นเยี่ยนจ้าวเกอในมือเพิ่มกระบองไม้ไผ่สีเขียวขี้ม้ามาท่อนหนึ่ง จากนั้นก็ฟาดใส่แส้หางมังกร

กระบองไม้ไผ่นั้นไม่มีความรู้สึกทรงพลังใดให้บรรยายถึง และไม่ได้มีปราณวิญญาณเต็มเปี่ยม

เหมือนกับกิ่งไม้ไผ่ที่เยี่ยนจ้าวเกอหักออกมาในตอนเดินผ่านสถานที่แห่งหนึ่ง

นักพรตตงเฉวียนแปลกใจว่าในการต่อสู้โรมรันที่รุนแรงเช่นนี้ ไฉนจู่ๆ เยี่ยนจ้าวเกอจึงหยิบของที่แปลกประหลาดสุดแสนเช่นนี้ออกมาได้

จากนั้นเขาก็เห็นด้วยความตกตะลึงว่า หลังจากกระบองไม้ไผ่ที่ธรรมดานั้นกระทบถูกแส้หางมังกร มันกลับไม่ได้หักและไม่ได้รับความเสียหายโดยสิ้นเชิง

กลับเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงของตนพอถูกกระบองไม้ไผ่ท่อนนั้นตีใส่ ปราณมารเข้มข้นก็พลันหายไป พลังอ่อนแอลงในชั่วพริบตา!

ทั่วทั้งเขามหาวิญญาณอ้าปากตาค้าง

จอมยุทธ์ท้องถิ่นในเทือกเขาสันติภาพล้วนอ้าปากตาค้าง

จ้าวเจิน ประมุขพรรคกระบี่คลื่นม่วงที่ใจเย็นมาโดยตลอดใบหน้าฉายแววแตกตื่น ในดวงตาเต็มไปด้วยความสงสัย

หยวนเสี่ยนเฉิงจากเนินต้นจักพพรรดิม่านตาหดตัว ‘ข่าวที่ลูกศิษย์ของจักรพรรดิเอกภพส่งมาเป็นความจริงหรือนี่! แต่ว่านั่นคืออะไรกัน’

คนที่มุงดูอยู่ตื่นตระหนก ทว่านักพรตตงเฉวียนที่สู้กับเยี่ยนจ้าวเกออยู่ในตอนนี้ไม่มีเวลาคิดมากความ

แส้หางมังกรเข้าใกล้ไม่ได้ เขาก็ได้แต่เผชิญกับฝ่ามือเหล็กที่เหมือนกับครอบอยู่บนท้องฟ้าของเยี่ยนจ้าวเกอ!

แสงวิเศษบนเขามหาวิญญาณพุ่งขึ้นฟ้า ค่ายกลคุ้มครองสำนักทำงานด้วยความรุนแรงอย่างไม่เคยมีมาก่อน

รูปยันต์แปดทิศสีทองขนาดยักษ์โผล่ขึ้นด้านบนภูเขา ครอบคลุมยอดเขา

แต่ว่าดวงอาทิตย์สีทองที่ลอยอยู่เหนือศีรษะของเยี่ยนจ้าวเกอ ตอนนี้ปล่อยแสงอาทิตย์อันร้อนเร่าออกไป ยันต์แปดทิศสีทองจึงพลันสูญเสียสีสัน

เยี่ยนจ้าวเกอฟาดฝ่ามือใส่ศีรษะของนักพรตตงเฉวียนต่อ

“มีความสามารถ!” จ้าวเจินมือกระบี่คลื่นม่วงเห็นดังนั้นก็ส่ายหน้า เริ่มบรรเลงเพลงกระบี่ พาให้แสงสีม่วงสายหนึ่งพุ่งออกมาจากเอว

ประกายกระบี่พอปรากฏ ก็สาดใส่เยี่ยนจ้าวเกอชนิดครอบฟ้าครอบดิน

ปราณกระบี่สีม่วงหลายสายไร้ขอบเขตและไร้สิ้นสุด เหมือนกับคลื่นทะเลอันยิ่งใหญ่ก็ไม่ปาน

อาณาเขตของปราณกระบี่เปลี่ยนจากผู้มาเยือนเป็นผู้ปกครอง ครอบคลุมขุนเขารอบๆ เขามหาวิญญาณบนเทือกเขาสันติภาพ เปลี่ยนเทือกเขาที่เชื่อมต่อกันให้กลายเป็นทะเลสีม่วงกว้างใหญ่ไพศาล

เยี่ยนจ้าวเกอหัวเราะร่า “แม้เผชิญคนเป็นหมื่นเป็นพัน ข้าก็พร้อมหักหาญชิงชัย พวกท่านลงมือพร้อมกันแล้วอย่างไร”

ระหว่างที่หัวเราะอยู่นั้น เยี่ยนจ้าวเกอฝ่ามือไม่หยุดลง ยังคงพุ่งใส่นักพรตตงเฉวียน ประกายกระบี่วาววับสายหนึ่งสาดออกมาจากในมืออีกข้างหนึ่ง ปะทะกับปราณกระบี่ที่ยิ่งใหญ่ของจ้าวเจิน

ประกายกระบี่นั้นเหมือนกับกระแสเวลาไร้สิ้นสุด ใช้สภาวะแยกทะเล ผ่ากลางมหาสมุทรสีม่วง

ในมือของเยี่ยนจ้าวเกอมีกระบี่ยาวเล่มหนึ่งเพิ่มขึ้นมา เป็นกระบี่ประกายฟ้าเมฆาเคลื่อน อาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูง

ประกายกระบี่แข็งแกร่งดุจดั่งมังกรตื่น เคลื่อนไหวขึ้นลงอยู่ในมหาสมุทรปราณกระบี่สีม่วงที่ยิ่งใหญ่

จากนั้นประกายกระบี่สีม่วงเข้มสายหนึ่งปรากฏก็ขึ้นในมหาสมุทรปราณกระบี่สีม่วงดุจห่านป่าตื่นคน ปะทะกับกระบี่ประกายฟ้าเมฆาเคลื่อน

ประกายกระบี่นั้นมาจากกระบี่ยาวเล่มหนึ่งในมือของจ้าวเจิน คุณสมบัติไม่ได้ด้อยกว่ากระบี่ประกายฟ้าเมฆาเคลื่อนแม้แต่น้อย กลับเป็นกระบี่ทะเลม่วง ของวิเศษคุ้มครองสำนักของพรรคกระบี่คลื่นม่วง

จ้าวเจินมีสภาวะกระบี่ตรงไปตรงมา โจมตีใส่เยี่ยนจ้าวเกอพร้อมกับเปลี่ยนแปลง

เยี่ยนจ้าวเกอสะบัดข้อมือ กระบี่ประกายฟ้าเมฆาเคลื่อนกลายเป็นมังกรเขียว ทะยานอยู่ในทะเลม่วง

แต่ว่าครู่ต่อมา ปราณมารไร้สิ้นสุดก็บังเกิดขึ้น!

ด้านในร่างมังกรเขียวที่เกิดจากประกายกระบี่มีประกายคมกริบนับไม่ถ้วนส่องแสง ก่อนจะทะลวงร่างออกมา!

มังกรเขียวเลือดอาบย้อมมหาสมุทร อานุภาพสังหารมังกรก่อเกิดเป็นความดุร้ายและจิตสังหารไร้สิ้นสุด ทำลายมหาสมุทรสีม่วงไปพร้อมกัน!