ตอนที่ 1241: ทาสโลหิตแห่งรังมรณะ
ค่ายกลหลอมโลหิต มันหลอมได้ทั้งเลือด, เนื้อและแก่นพลังวิญญาณของผู้คน แต่มีเพียงผู้ที่ฝึกฝนทักษะปีศาจชั้นฟ้าเท่านั้นที่จะสามารถดูดซับพลังด้วยการกลืนกินวิญญาณ แม้ว่าจะเป็นเซียนจักรพรรดิหากได้สัมผัสกับพลังกลืนกินวิญญาณขณะที่ต่อสู้ในทวีปเทียนหยวน วิญญาณของเขาก็จะถูกทำลาย แล้วใครเป็นคนที่วางค่ายกลนี้ล่ะ ? เซียนจักรพรรดิที่มีหินปีศาจชั้นฟ้าในอดีตงั้นหรือ ? ฮุสตันครุ่นคิดอย่างหนักกับความสงสัยที่มีอยู่เต็มไปหมด
ไม่ มีข่าวลือว่ามนุษย์โบราณที่แข็งแกร่ง โมเทียนหยวนได้รวบรวมศพของจอมยุทธจำนวนมากที่ตายอยู่บนสนามรบและสร้างรังมรณะ ค่ายกลหลอมโลหิตนี้เป็นเขาหรือไม่ที่สร้างมา? เขายังรู้แม้แต่การบ่มเพาะหินปีศาจชั้นฟ้าและยังได้ฝึกฝนทักษะปีศาจชั้นฟ้า นั่นเป็นเหตุผลที่เขารู้วิธีการสร้างค่ายกลกลั่นโลหิตของหินปีศาจชั้นฟ้า ? เขาใช้เลือด, เนื้อและวิญญาณเพื่อเพิ่มการบ่มเพาะของตัวเอง ? ฮุสตันจมลงไปกับความคิดของเขา แต่เขาก็ส่ายหัวหลังจากนั้นไม่นาน นั่นเป็นไปไม่ได้ ตามที่ข้ารู้พลังที่โมเทียนหยวนใช้ในการบ่มเพาะไม่ใช้การกลืนกินวิญญาณ เขาไม่ได้ฝึกทักษะปีศาจชั้นฟ้าเพราะมันให้โทษมากกว่าประโยชน์สำหรับเขา
ทันใดนั้นฮุสตันก็ต้องแปลกใจอีกครั้ง เขาตะโกนออกมา ดูเหมือนจะมีอีกค่ายกลหนึ่งที่อยู่ภายใต้ค่ายกลกลั่นโลหิต ฮุสตันเริ่มสังเกตค่ายกลลับอย่างระมัดระวัง ความรู้ด้านค่ายกลทั้งหมดของเขามาจากหินปีศาจชั้นฟ้า หากเขาไม่ได้เชี่ยวชาญค่ายกลอันนี้ เขาอาจะไม่พบค่ายกลลับที่อยู่ตรงนี้ แม้ว่าจะเป็นเซียนจักรพรรดิก็ตาม
ไม่นาน ฮุสตันก็อ้าปากค้าง เขาจำได้ว่ามีค่ายกลลับอยู่ในค่ายกลหลอมโลหิต มันเป็นหนึ่งในค่ายกลที่ถูกบันทึกไว้ในหินปีศาจชั้นฟ้า มันถูกเรียกว่ากระจกปีศาจชั้นฟ้า ซึ่งเป็นสุดยอดค่ายกลมายา
ฮุสตันพยายามที่จะสงบสติอารมณ์หลังจากที่เขาพบค่ายกลที่ถูกบันทึกเอาไว้ในหินปีศาจชั้นฟ้าที่รังมรณะ
ในตอนนี้ รังมรณะเริ่มที่จะสั่นอีกครั้ง อากาศที่เหนียวเหนอะและมีหมอกสีแดงผันพวนอยู่ด้านบน การแสดงออกของฮุสตันเปลี่ยนไปทันทีเมื่อเขาเห็นหมอก เพราะมันเป็นพลังสำหรับการบ่มเพาะทักาะปีศาจชั้นฟ้า พลังกลืนกินวิญญาณนั้นมีพลังมากกว่าพลังกลืนกินวิญญาณที่เขาบ่มเพาะเองมากกว่าหลายเท่า
ปัง ! ปัง ! ปัง !
เสียงอู้อี้ดังขึ้นท่ามกลางหมอกเลือด ผืนดินสั่นสะเทือน โครงกระดูกสีแดงเลือดขนาด 100 เมตรตัวหนึ่งถูกบดบังอยู่ท่ามกลางหมอก มันกำลังแผ่พลังกลืนกินวิญญาณที่ทรงพลังจากกระดูกทุกชิ้น โครงกระดูกเลือดตัวนี้แสดงให้เห็นถึงพลังที่ท่วมท้นมากพอที่จะทำให้โลกสั่นสะเทือน
นี่คือทาสโลหิต ที่เหนือว่าเซียนจักรพรรดิ ! ฮุสตันอุทานขณะที่เขาจ้องไปยังโครงกระดูก ความเหลือเชื่อถูกเขียนอยู่บนใบหน้าของเขา ในตอนนี้เขาได้นึกถึงที่เขาได้เรียนรู้จากหินปีศาจชั้นฟ้าเกี่ยวกับทาสโลหิต
ทาสโลหิตถูกสร้างมาจากซากศพนับไม่ถ้วนผ่านหินปีศาจชั้นฟ้า ก่อนที่จะได้รับการบำรุงด้วยเลือดและแก่นแท้ ความแข็งแกร่งของมันเทียบเท่ากับเวลาที่มันดำรงอยู่เช่นเดียวกับกระดูกและเลือดที่ชั่วร้ายร้ายและแก่นแท้ที่เอามาสร้างมัน
ทาสโลหิตเป็นผู้รับใช้ของผู้ฝึกทักษะปีศาจชั้นฟ้า มันมีทักาะลับที่บังคับให้มันทำตามคนที่ครอบครองหินปีศาจชั้นฟ้า พวกมันไม่มีวันหักหลังเจ้านายและพวกมันก็ทำตามคำสั่งทุกอย่าง พวกมันสามารถช่วยเจ้านายสู้และพลังกลืนกินวิญญาณจากทาสโลหิตก็สามารถดูดซับเพื่อเพิ่มการบ่มเพาะด้วยเช่นกัน
โครงกระดูกไม่ได้โจมตีฮุสตันและยืนอยู่ตรงหน้าแทน มันจ้องมาที่ฮุสตันด้วยเบ้าตาที่กลวงโบ๋ของมัน มันรู้สึกถึงผู้ที่บุกรุกแล้ว แต่ผู้บุกรุกนั้นครอบครองพลังงานแบบเดียวกับมัน นั้นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้มันไม่โจมตีฮุสตัน
ฮุสตันกลายเป็นเคร่งเครียดอย่างมาก ทาสโลหิตมันไม่อาจเกิดขึ้นมาเองได้ เขาไม่ต้องคิดเลยด้วยซ้ำว่าทาสโลหิตที่ทรงพลังขนาดนี้นั้นได้ปรากฏตัวขึ้นที่นี่เพราะคนอื่น และคนผู้นั้นก็รู้ทักษะลับต่าง ๆ ของหินปีศาจชั้นฟ้า
แต่โชคดีที่ทาสโลหิตไม่ได้โจมตีคนที่ฝึกทักษะปีศาจชั้นฟ้าคนอื่น ๆ ก่อนที่จะได้รับคำสั่งของเจ้านายมัน ไม่อย่างนั้นแม้แต่เซียนจักรพรรดิก็ไม่อาจหนีไปได้เมื่อเผชิญหน้ากับทาสโลหิตที่ทรงพลังและพวกเขาก็ไม่อาจหลบหนีได้สำเร็จ
ฮุสตันสังเกตทาสโลหิตและไม่นานเขาก็เปลี่ยนจากความตกตะลึงเป็นยินดี เขาตื่นเต้นและพูดว่า ข้า มันเป็นทาสโลหิตที่ไม่อาจโจมตีเจ้านายของหินปีศาจชั้นฟ้าจริง ๆ สายตาของฮุสตันเต็มไปด้วยความต้องการ โดยไม่มีการลังเล เขาเริ่มสร้างตราประทับให้กับทาสโลหิตทันที ตราประทับทาสโลหิตเป็นทักษะที่เขาได้เรียนรู้จากหินปีศาจชั้นฟ้า มันถูกใช้กับทาสโลหิตโดยเฉพาะ
ในเวลาไม่กี่วินาทีฮุสตันก็สร้างตราทาสโลหิตเสร็จและส่งมันออกมาด้วยการโบกมือของเขา มันพุ่งเข้าออกไปอย่างรวดเร็วราวกับแสงไปยังหว่างคิ้วของโครงกระดูก อย่างไรก็ตามไม่มีอะไรเกิดขึ้นหลังจากที่ผ่านไปสักพัก ไม่มีความเชื่อมโยงจากทาสตามที่หินปีศาจชั้นฟ้าบันทึกไว้ปรากฏขึ้น
ฮุสตันผิดหวังกับเรื่องนี้ เขาถอนหายใจเบา ๆ และพูดว่า ข้าอ่อนแอเกินไป เพราะงั้นข้าจึงไม่อาจประทับตราทาสโลหิตบนเซียนจักรพรรดิได้ ดูเหมือนว่าข้าสามารถทำได้ในอนาคตเท่านั้น ข้าสงสัยว่าใครกันที่ทิ้งทาสโลหิตที่ทรงพลังเช่นนี้ไว้
ฮุสตันไม่ได้สนใจทาสโลหิตอีกต่อไป ทาสโลหิตไม่อาจโจมตีผู้ที่ฝึกฝนทักษะปีศาจชั้นฟ้าด้วยความตั้งใจของมันเอง ดังนั้นมันจึงไม่ส่งผลใด ๆ กับเขาแม้ว่าเขาจะอยู่ที่นี่
ฮุสตันเปลี่ยนความสนใจของเขากลับมายังค่ายกลมายาที่ซ่อนอยู่ในค่ายกลหลอมโลหิต ภาพมายามีพลังมาก ด้วยความแข็งแกร่งในตอนนี้ของฮุสตันเองก็ไม่อาจสร้างพวกมันได้และไม่อาจทำลายลงได้ อย่างไรก็ตามเขารู้วิธีการเข้าไป
ฮุสตันยังคงไม่อยากเข้าไปในค่ายกลด้วยความลังเลเล็กน้อย เขาทำตามที่เขาได้เรียนรู้จากหินปีศาจชั้นฟ้าและเดินผ่านเข้าไปในค่ายกล
ฮุสตันระมัดระวังตัวมาก เขาตรวจสอบทุกก้าวหลายครั้งและจะเดินก็ต่อเมื่อยืนยันว่าถูกต้อง เขารู้ว่าเขาติดอยู่ในค่ายกลหากว่าเขาก้าวผิดไปแม้แต่ก้าวเดียวและมันก็ยากที่เขาจะออกมาได้
หลังจากที่ผ่านมาหลายก้าว ฮุสตันก็เดินผ่านค่ายกล ในตอนนี้เขารู้สึกว่ารอบ ๆ ตัวของเขาเปลี่ยนไป เขาได้มาถึงถ้ำใต้ดินโดยไม่รู้ตัว
รอบ ๆ ถ้ำมันกว้างประมาณ 10 เมตร ในสถานที่เหล่านี้เต็มไปด้วยพลังวิญญาณที่หนาแน่นและมีสระสี่เหลี่ยมกว้าง 2 เมตรอยู่กลางถ้ำ ในสระนั้นเต็มไปด้วยของเหลวสีแดงที่ดูเหมือนเลือด
ฮุสตันได้มองไปยังสระน้ำและเขาก็ตื่นเต้นทันที เขาตัวสั่นอย่างไม่อาจควบคุมได้ เขารับรู้ได้ว่าของเหลวมีเพียงสิ่งเดียว มันเป็นพลังกลืนกินวิญญาณที่ควบแน่นจนเป็นของเหลวเพราะความหนาแน่นของพลังกลืนกินวิญญาณภายในถ้ำ
ข้าเข้าใจแล้ว พลังกลืนกินวิญญาณที่ถูกควบแน่นจนกลายเป็นของเหลวนั้นมีจริง ๆ มันถูกเก็บไว้ที่นี่ รังมรณะนี้เป็นเหมือนกับดินแดนศักดิ์สิทธิ์สำหรับผู้ที่ฝึกวิชาปีศาจชั้นฟ้า แม้ว่าข้ายังไม่แน่ใจว่าใครเป็นคนสร้างที่นี่ แต่พลังกลืนกินวิญญาณที่นี่ได้ทำให้มันกลายเป็นของเหลวและทาสโลหิตที่อยู่ด้านบนก็ยังไม่มีเจ้านาย ผู้เชี่ยวชาญที่สร้างที่นี่คงจะตายอยู่ตรงนี้และไม่ได้ออกไปไหน”
ถ้าข้าบ่มเพาะที่นี่และดูดซับพลังกลืนกินวิญญาณในสระน้ำ พลังของข้าจะต้องพุ่งขึ้นสูงอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามข้าอาจจะกลายมาเป็นเซียนจักรพรรดิได้และนั่นก็อาจเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางการบ่มเพาะของข้า ข้าจะบ่มเพาะที่นี่สักหลายวัน ฮุสตันพึมพำก่อนที่จะนั่งลงข้างสระน้ำเล็ก ๆ และเขาก็เริ่มบ่มเพาะทักษะปีศาจชั้นฟ้า
อย่างไรก็ตามสิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือเมื่อตอนที่เขาผ่านกระจกปีศาจชั้นฟ้าและถูกส่งมายังถ้ำด้วยพลังของมิติ กระจกปีศาจชั้นฟ้าก็ระเบิดออกมาพร้อมกับเสียงที่ดังตูม
ที่บริเวณใกล้เคียงของค่ายกลที่ทรงพลังและลึกซึ้งยิ่งกว่าที่ฮุสตันไม่ได้ค้นพบได้ระเบิดอย่างต่อเนื่องจากการระเบิดของกระจกปีศาจชั้นฟ้าไปสู่ค่ายกลอื่น ๆ ในเวลาเดียวกัน
ตูม ! ตูม ! ตูม ! ตูม ! ตูม !
ค่ายกลนั้นทรงพลังอย่างมาก พร้อมกับเสียงที่ดังจากการระเบิดถูกปลดปล่อยออกมาจากการทำลายตัวเองจนทำให้รังมรณะสั่นไหวอย่างรุนแรง
ค่ายกลที่ระเบิดนั้นทรงพลังมากจริง ๆ ด้วยการที่กับดักถูกสร้างและดูดซับพลังงานดั้งเดิมในทวีปเทียนหยวนมาหลายปี ตอนนี้พลังงานดั้งเดิมได้ถูกปลดปล่อยออกมาและกระจายแรงไปรอบ ๆ ทันที แต่สถานที่ทั้งหมดยังคงถูกสร้างด้านในค่ายกลและอยู่ในม่านพลัง ดังนั้นม่านพลังที่ป้องกันจึงไม่อาจถูกทำลายได้ง่าย ๆ
พลังระเบิดกลับคืนสู่ความสงบอีกครั้ง ค่ายกลอีกอันหนึ่งที่ยิ่งใหญ่ก็ปรากฏออกมา ถ้าเจี้ยนเฉินมาอยู่ตอนนี้แน่นอนว่าเขาจะสามารถบอกได้เลยว่านี่คือค่ายกลเคลื่อนย้ายทางไกลแบบโบราณที่เขาเคยเห็นในโถงศักดิ์สิทธิ์ของนิกายใต้พิภพ
ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวนั้นค่ายกลในรังมรณะนั้นยิ่งใหญ่กว่าของนิกายใต้โลก
ในเวลานี้ลมพัดโหมอย่างรุนแรงในรังมรณะ มันดูดพลังงานดั้งเดิมมาจากทั่วทุกที่ทำให้ค่ายกลขนาดใหญ่เริ่มทำงานอีกครั้ง
ค่ายกลเริ่มเปล่งแสงสีขาวสว่างจ้าและค่อย ๆ หมุนอยู่บนอากาศที่ว่างเปล่าทำให้พลังงานมหาศาลบริสุทธิ์อย่างยิ่ง อย่างไรก็ตามมันได้ถูกขวางกั้นด้วยม่านพลังและค่ายกลด้านนอกรังมรณะ ทำให้คนด้านนอกไม่อาจรู้สึกได้
ทุกอย่างเชื่อมโยงกันกับช่วงเวลาที่ฮุสตันได้ผ่านค่ายกลมายาเข้าไปในถ้ำและเกิดการระเบิดด้วยค่ายกลขนาดใหญ่
ทันทีที่มีคนผ่านเข้าไปในกระจกปีศาจชั้นฟ้าไปยังถ้ำใต้ดินด้วยพลังมิติ ค่ายกลอื่น ๆ จะถูกใช้งาน การทำลายตัวเองของค่ายกลมายาได้ทำให้กับดักพลังงานถูกใช้และพลังงานดั้งเดิมก็ถูกใช้โดยค่ายกลเคลื่อนย้ายมิติขนาดใหญ่ ทุกอย่างถูกวางแผนมาเนิ่นนานแล้ว