ตอนที่ 1785 กายหยาบเสน่ห์เก้าวัฏจักร

Alchemy Emperor of the Divine Dao

หลิงฮันรู้สึกประหลาดใจ เหตุใดจู่ๆจักรพรรดินีถึงได้ทำเช่นนี้?

แม้นางจะหยิ่งยโส แต่นางก็ไม่เคยจงใจสร้างปัญหามาก่อน

ยิ่งกว่านั้นที่ที่พวกเขาอยู่ก็ยังเป็นเรือรบของนิกายซู่หนู่ ที่ไม่รู้ว่ามีปรมาจารย์ที่ทรงพลังอยู่มากมายเพียงใด การจะจับกุมคนของนิกายซู่หนู่ไม่ใช่ว่าเปรียบเสมือนการรนหาที่ตายหรอกรึ?

“ภรรยาข้า พอได้แล้ว…” หลิงฮันดึงมือห้ามจักรพรรดินีเอาไว้

ทางด้านของธิดาโร๋วนั้น นางเกรี้ยวกราดเป็นอย่างมากเพราะรู้สึกเหมือนถูกดูหมิ่น

หากลองเปลี่ยนคนที่พูดเช่นนี้กับนางเป็นคนอื่น ไม่ใช่จักรพรรดินีที่มีกลิ่นอายอันน่ายำเกรงแล้วล่ะก็ นางคงไม่อยู่นิ่งเฉยแล้ว

“ขอเชิญพวกท่านกลับไป!” นางสะบัดมือด้วยความโกรธ

หลิงฮันและจักรพรรดินีเดินออกจากห้อง ฟู่เกาหยุนที่กำลังยืนรออยู่เมื่อเห็นทั้งสองคนเดินออกมาก็เอ่ยถาม “เป็นอย่างไรบ้าง?”

“ไม่มีปัญหาอะไร” หลิงฮันกล่าวด้วยท่าทีเรียบง่าย โดยไม่เอ่ยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่

ฟู่เกาหยุนโล่งอก เขาคิดจะเข้าไปในห้องอีกครั้งเพื่อกล่าวลาธิดาโร๋ว แต่ก็ถูกสตรีชุดขาวขวางเอาไว้ นางกล่าว “คุณหนูของข้าต้องการพักผ่อน ขอเชิญนายน้อยหยุนกลับไปก่อน”

ฟู่เกาหยุนรู้สึกสลดใจ เขาพยายามยับยั้งชั่งใจเอาไว้และหันหลังกลับไปพร้อมกับพวกหลิงฮัน

เพียงแต่ว่าการที่ฟู่เกาหยุนถูกเชิญให้ขึ้นเรือรบของนิกายซู่หนู่หลายต่อหลายครั้งนั้น ได้กลายเป็นจุดสนใจของผู้คนมากมาย พวกเขาแต่ละคนต่างอดคิดไม่ได้ว่า หรือธิดาโร๋วจะมองฟู่เกาหยุนด้วยความรู้สึกที่ต่างไปจากมองพวกเขา?

เมื่อกลับมายังเรือรบของตระกูลฟู่ หลิงฮันกับจักรพรรดินีก็เข้าห้องพักของตัวเอง โดยหลิงฮันรีบเอ่ยถาม “สตรีผู้นั้นมีอะไรรึ เหตุใดเจ้าถึงทำแบบนั้น?”

จักรพรรดินียิ้มและกล่าว “สามีข้า เจ้าต้องครอบครองนางให้ได้!”

หลิงฮันเหงื่อตกและรู้สึกกระอักกระอ่วน เขาไม่คาคคิดว่าภรรยาของตนจะเอ่ยปากบอกให้เขาไปยุ่งเกี่ยวกับสตรีอื่นเช่นนี้

“ทำไมกัน?” เขาเอ่ยถามต่อ เนื่องจากน้ำเสียงของจักรพรรดินีดูไม่เหมือนกำลังล้อเล่นเลยแม้แต่น้อย

“นางมีกายหยาบเสน่ห์เก้าวัฏจักร!” จักรพรรดินีกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “สิ่งนั้นคือแก่นกำเนิดนิรันดร์!”

แก่นกำเนิดนิรันดร์

หลิงฮันชะงักและเผยสีหน้าตกตะลึง แม้จะเป็นในดินแดนแห่งเซียน แก่นกำเนิดนิรันดร์ก็ไม่ใช่สิ่งที่จะพบเห็นได้ทั่วไป แต่มีอยู่น้อยนิด แม้จะมีคำร่ำลือว่าฟู่เสี่ยวอวิ๋นมีแก่นกำเนิดนิรันดร์ แต่หลิงฮันก็ไม่เห็นว่าศักยภาพของนางจะโดดเด่นขนาดนั้น

“เชื่อข้า!” จักรพรรดินีมั่นใจเป็นอย่างมาก “เรื่องนี้คือสิ่งที่สายเลือดของข้าเป็นคนบอก กายหยาบเสน่ห์เก้าวัฏจักรนั้นเป็นแก่นกำเนิดนิรันดร์สืบทอดที่พบเจอได้ยากยิ่ง ซึ่งโดยปกติแล้วอย่างมากก็จะพบเห็นได้แค่กายหยาบเสน่ห์แปดวัฏจักรเท่านั้น”

ก่อนหน้าที่จะเป็นกายหยาบเสน่ห์แปดวัฏจักรได้ ต้องเป็นกายหยาบเสน่ห์เจ็ดวัฏจักรเสียก่อน และก่อนจะเป็นกายหยาบเสน่ห์เจ็ดวัฏจักรได้ ก็ต้องเป็นกายหยาบเสน่ห์หกวัฏจักร

การสืบทอดแก่นกำเนิดนิรันดร์ในรูปแบบนี้จะใช้เวลายาวนานมาก และห้ามมีอะไรผิดพลาด หากการสืบทอดแก่นกำเนิดนิรันดร์มีการผิดพลาดแม้แต่นิดเดียว กายหยาบเสน่ห์เก้าวัฏจักรก็จะไม่ถือกำเนิดขึ้น

ยกตัวอย่างเช่นกู่ต้าวอี้ที่ต้องใช้เวลาถึงสิบชาติภพในการสร้างแก่นกำเนิดนิรันดร์ แต่ความยากลำบากในการสร้างแก่นกำเนิดนิรันดร์ของกู่ต้าวอี้นั้น หากเทียบกับกายหยาบเสน่ห์เก้าวัฏจักรแล้ว เรียกได้ว่าแตกต่างกันอย่างสุดขั้ว

เมื่อเป็นเช่นนี้ หลิงฮันจึงเข้าใจทันทีว่าเหตุใดเสน่ห์ของธิดาโร๋วถึงได้น่าสะพรึงกลัวขนาดนั้น ที่แท้นางก็มีแก่นกำเนิดนิรันดร์เป็นกายหยาบเสน่ห์เก้าวัฏจักร!

“ถึงจะบอกว่านางมีแก่นกำเนิดนิรันดร์ก็เถอะ…” หลิงฮันเกาหัว เขาไม่คิดว่าด้วยเรื่องเพียงแค่นี้เขาจะต้องนำนางมาเป็นภรรยา

“การบ่มเพาะพลังควบคู่ไปกับกายหยาบเสน่ห์เก้าวัฏจักร จะทำให้เจ้ารู้แจ้งและสัมผัสถึงอำนาจของสวรรค์และปฐพีได้ง่ายขึ้น บางทีในอนาคตกายหยาบวิถีหนึ่งเดียวแห่งเต๋าอาจจะเกิดขึ้นมาในร่างของเจ้าก็เป็นได้” จักรพรรดินีกล่าว

มันยอดเยี่ยมขนาดนั้นเลยรึ?

หลิงฮันครุ่นคิดแต่ก็ส่ายหัวและกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ข้าไม่สนใจ ข้ามั่นใจในศักยภาพของตนเองและไม่ต้องการการบ่มเพาะพลังคู่กับนาง!” เขาโอบกอดจักรพรรดิเข้ามาอยู่ในอ้อมแขนและจูบเข้าที่ริมฝีปากของนาง

“แต่พูดถึงการบ่มเพาะพลังคู่แล้ว พวกเราก็ไปบ่มเพาะพลังคู่กันดีกว่า!” หลิงฮันกอดรัดจักรพรรดินีและพานางเข้าสู่หอคอยทมิฬ

……

หลังจากเอ้อระเหยอยู่เป็นเวลานาน หลิงฮันก็ส่งต่อทักษะควบคุมเปลวเพลิงให้จักรพรรดินี

ภายใต้ต้นสังสารวัฏ หลิงฮันกับจักรพรรดินีทำการฝึกฝนและแลกเปลี่ยนความเข้าใจในทักษะต่อกัน ด้วยพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยมของทั้งสอง เวลาผ่านไปไม่นานก็เริ่มจับเคล็ดได้และใช้ทักษะได้อย่างเชี่ยวชาญ

เนื่องจากอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ภายในหอคอยทมิฬเป็นอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ที่พิเศษ พวกเขาจึงต้องออกมาด้านนอกเพื่อทดสอบทักษะ

เมื่อจักรพรรดินีลองโคจรทักษะ เหนือฝ่ามือของนางก็มีเปลวเพลิงปรากฏลอยออกมา ซึ่งเปลวเพลิงชนิดนี้เป็นเปลวเพลิงที่ถูกควบแน่นขึ้นมาจากจากอำนาจของสวรรค์และปฐพีด้วยทักษะระดับราชานิรันดร์

“ทรงพลังมาก!” จักรพรรดินีพยักหน้าและกล่าว “ทักษะนี้จะต้องเป็นทักษะที่ถูกจัดอยู่ในอันดับต้นๆแน่นอน”

หลิงฮันพยักหน้า แม้แต่เขาเองก็สัมผัสได้ถึงความน่าสะพรึงกลัวจากเปลวเพลิงเช่นกัน เขารู้สึกว่าเปลวเพลิงของจักรพรรดินีสามารถหล่อหลอมกายหยาบของเขาได้ หากใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งปี

เขาขยับมือขวาและโคจรทักษะขึ้นมาบนฝ่ามือเช่นกัน

สิ่งที่ต่างออกไปจากจักรพรรดินีคือ เพลิงที่ปรากฏออกมาไม่ใช่เพลิงจากสวรรค์และปฐพี แต่เป็นเพลิงที่อยู่ภายในร่างกายของเขา

เพลิงเก้าสวรรค์!

หลิงฮันควบคุมเปลวเพลิงในใจ และเปลี่ยนก้อนเปลวเพลิงให้กลายเป็นดาบ ตราประทับแห่งเต๋าที่ดูราวกับมีชีวิตบนเปลวเพลิงนั้น ถ้าหากมองให้ดีจะพบว่ามันคือตราประทับแห่งเต๋าแบบเดียวกันกับเพลิงเก้าสวรรค์ไม่มีผิดเพี้ยน

ราชานิรันดร์ที่สร้างทักษะนี้ขึ้นมา สมควรเป็นคนที่นำตราประทับแห่งเต๋าของเพลิงเก้าสวรรค์ไปประทับเอาไว้ในทักษะยุทธ

หลิงฮันกวัดแกว่งดาบเบาๆ ไม่ว่าสิ่งใดที่ถูกดาบฟาดฟัน สิ่งเหล่านั้นก็จะถูกหั่นขาดอย่างไม่อาจต้านทาน ภายใต้การควบคุมเพลิงด้วยทักษะระดับราชานิรันดร์ทักษะนี้ พลังอำนาจของเพลิงเก้าสวรรค์จึงดูดยกระดับขึ้นมาอีกหลายขั้น

“ณ ตอนนี้ข้ามีความมั่นใจว่าจะสามารถต่อกรกับนิรันดร์ระดับสี่นิพพานขั้นสูงสุดได้!” เขาหัวเราะด้วยความมั่นใจ

แน่นอนว่าคู่ต่อสู้ระดับสี่นิพพานที่ว่าจะต้องเป็นนิรันดร์สี่นิพพานทั่วไปเท่านั้น หากเป็นนิรันดร์สี่นิพพานที่ตัดผ่านนิพพานอย่างสมบูรณ์ พลังต่อสู้ของเขาคงด้อยกว่าเล็กน้อย แต่ถ้าหากเป็นคู่ต่อสู้ที่ตัดผ่านนิพพานด้วยวิธีตัดขาดสวรรค์และปฐพีล่ะก็ อย่าเพิ่งเอ่ยถึงการสู้ข้ามระดับไปสี่นิพพานเลย แค่สามนิพพานก็ยากเต็มกลืนแล้ว

เพียงแต่ถ้าหากถูกเพลิงเก้าสวรรค์โจมตีเข้าใส่ตรงๆล่ะก็ เกรงว่าต่อให้เป็นนิรันดร์ระดับแบ่งแยกวิญญาณก็ยังต้องบาดเจ็บสาหัส

และในเวลานี้เอง จู่ๆด้านนอกเรือรบก็เกิดเสียงเอะอะ