ตอนที่ 1786 มาเพื่อท้าประลอง

Alchemy Emperor of the Divine Dao

หลิงฮันและจักรพรรดินีเดินออกมาดู และพบเห็นคนแปลกหน้ามากมายอยู่ด้านนอกห้องพักเรือ โดยที่คนแปลกหน้าแต่ละคนมีกลิ่นอายอันสูงส่งที่น่ายำเกรง

คนพวกนี้คือเหล่าผู้สืบทอดของขุมอำนาจสามดาว!

แต่ละคนคือราชาแห่งยุคที่ทรงพลังไม่แพ้ฟู่เกาหยุน

“ฟู่เกาหยุน… ดูเหมือนว่าผู้ติดตามของเจ้าสักคนจะแก้ไขทักษะโบราณให้กับธิดาโร๋วได้สินะ? หนึ่งในผู้ติดตามของข้ารู้สึกไม่พอใจกับเรื่องนั้นเป็นอย่างมาก เลยอยากขอท้าประลองแลกเปลี่ยนวรยุทธกับผู้ติดตามคนนั้นของเจ้า” รุ่นเยาว์ผู้หนึ่งกล่าว

หลิงฮันจำรุ่นเยาว์ผู้นี้ได้ อีกฝ่ายคือเชียนจ้าวเถี้ยน บุรุษคนแรกที่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี้เป็นคนป่าวประกาศว่าต้องการพบเจอธิดาโร๋ว

ฟู่เกาหยุนสะบัดมือพร้อมกับกล่าว “หลิงฮันคือน้องชายของข้า ไม่ใช่ผู้ติดตาม”

“ฮ่าๆๆ!” แน่นอนว่าทุกคนย่อมไม่เชื่อ หากผู้สืบทอดอย่างพวกเขาจะเป็นสหายกับใครสักคน สหายที่ว่าก็ต้องเป็นคนที่คู่ควรกับสถานะของพวกเขาด้วย แต่จากที่สอบถามสมาชิกตระกูลฟู่คนอื่นๆมา หลิงฮันเป็นเพียงตัวตนต่ำต้อยจากขุมอำนาจภายใต้การปกครองของตระกูลฟู่เท่านั้น

“เกาหยุน ในเมื่อทุกคนอยากพบเจอหลิงฮัน ทำไมไม่เรียกเขาออกมาเสียล่ะ?” ใครบางคนเอ่ยกล่าวกับฟู่เกาหยุน

คนผู้นั้นคือฟู่ไฉ่ เขาเองก็เป็นสมาชิกตระกูลฟู่เช่นกัน แต่เป็นตระกูลฟู่สาขาเดียวกันกับฟู่เซียวผิง ณ เวลานี้ไม่ว่าจะเป็นฟู่เซียวผิงหรือฟู่ปิงปิง ก็ล้วนแต่อยากจะทำให้หลิงฮันหายไป

ฟู่ไฉ่คือผู้นำกลุ่มผู้ติดตามของฟู่เซียวผิงสำหรับการเดินทางเข้าสู่เขตแดนลี้ลับเฉียนหลงในครั้งนี้ พลังบ่มเพาะของเขาคือระดับโลกียนิพพานสี่นิพพานขั้นสูงสุดที่ขัดเกลาพลังมานานกว่าสิบล้านปี ด้วยเหตุนี้พลังต่อสู้ของเขาจึงน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมาก

ใบหน้าของฟู่เกาหยุนกลายเป็นบูดบึ้ง แค่พวกคนนอกเหล่านี้ก็สร้างความรำคาญให้ข้ามากพอแล้ว แต่เจ้าที่เป็นคนใน นอกจากจะไม่ยื่นมือมาช่วยแล้ว ยังจะราดน้ำมันลงกองไฟอีก?

“ใครกันที่ต้องการท้าประลองข้า?” หลิงฮันที่ดูสถานการณ์อยู่ก้าวเดินออกมา หากเป็นการประลองแล้วล่ะก็ มีรึที่เขาจะหวาดกลัว?

“เจ้าคือหลิงฮัน?” สายตาของใครหลายคนจดจ้องมายังหลิงฮัน

การที่คนเหล่านี้รู้เรื่องที่เกิดขึ้นวันก่อน เกรงว่าอาจจะเป็นเพราะตัวของธิดาโร๋วเองที่เป็นคนปล่อยข่าว เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว ทั้งๆที่หลิงฮันกับฟู่เกาหยุนไม่ได้พูดถึงเรื่องนั้นเลยแม้แต่น้อย คนพวกนี้จะรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นและเพ่งเล็งมาที่หลิงฮันได้อย่างไร?

หลิงฮันยืนอย่างองอาจและกล่าว “โอ้ นี่พวกเจ้าอยากพบเจอข้า ถึงขนาดยอมต่อแถวกันมาเลยรึ?”

พวกข้าน่ะรึต่อแถวเพื่อพบเจ้า?

ทุกคนที่ได้ยินเช่นนั้นก็เกรี้ยวกราดขึ้นมาทันที เจ้าคิดว่าพวกข้าเป็นใคร? ราชาแห่งยุคและผู้สืบทอดขุมอำนาจสามดาวเช่นพวกข้านั้น อย่าว่าแต่เจ้าเลย ต่อให้เป็นฟู่เกาหยุนก็ยังไม่มีคุณสมบัติพอให้พวกข้ามาต่อแถวเพื่อพบเจอ

“เป็นคนที่บ้าอะไรอย่างนี้!” ใครบางคนเค้นเสียงสบถอย่างเย็นชา

“คนแบบนี้ต้องสั่งสอนให้จำเสียบ้าง”

เหล่าผู้สืบทอดจากขุมอำนาจต่างๆ สั่งการให้ผู้ติดตามของตนเองทำการท้าประลองหลิงฮัน เพราะด้วยสถานะของพวกเขาแล้ว ย่อมไม่สมควรลงมือด้วยตัวเอง

“ฮึ่ม ที่นี่คือเรือรบของตระกูลฟู่ พวกเจ้ามีสิทธิอะไรที่คิดจะทำอะไรก็ทำตามใจชอบ?” ฟู่เกาหยุนกล่าวด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ นี่คนเหล่านี้เห็นเขาเป็นเพียงอากาศธาตุรึไงกัน?

ฮ่าๆ แค่ประลองเอง ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย“ ฟู่ไฉ่กล่าวด้วยรอยยิ้ม

“ถูกแล้ว!” สมาชิกตระกูลฟู่อีกสองคนเห็นพ้องและกล่าวส่งเสริม พวกเขาคือตัวแทนผู้นำการเดินทางครั้งนี้ของฟู่ทงไห่และฟู่ปิงปิง

เมื่อเสียงเป็นสามต่อหนึ่ง ต่อให้ฟู่เกาหยุนจะมีตำแหน่งเป็นผู้สืบทอดตระกูลฟู่ แต่เขาก็ไม่อาจขัดแย้งได้

หลิงฮันหัวเราะและกล่าว “ข้ายินดีจะประลองด้วยอย่างไม่ขัดข้อง แต่ข้าก็ไม่คิดจะเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ หากจะประลองกับข้าก็จงนำแร่โลหะกึ่งนิรันดร์มาเป็นของเดิมพัน หรือถ้าไม่เช่นนั้นก็ไสหัวไป”

นี่เป็นโอกาสดีที่จะหาผลประโยชน์ใส่ตัว

ทางด้านของพวกเชียนจ้าวเถี้ยนและคนอื่นๆไม่รู้สึกหวาดหวั่น ถึงแม้พวกเขาจะไม่ได้ลงมือด้วยตัวเอง แต่ผู้ติดตามของพวกเขาก็มีพลังบ่มเพาะอยู่ในระดับสี่นิพพานขั้นสูงสุดมาเป็นเวลานาน และมีพลังต่อสู้ที่แข็งแกร่งไม่แพ้พวกเขา

“ถ้าเช่นนั้นก็เข้าไปประลองในสังเวียนพิรุณเร้นลับ” รุ่นเยาว์ผู้หนึ่งโยนกล่องขนาดเล็กออกมาวาง กล่องใบนี้มีขนาดเล็กพอๆกับกระดานหมากรุกเท่านั้น แต่กลับมีรูปทรงเหมือนกับลานประลอง

กล่องใบนี้คืออุปกรณ์มิติในรูปแบบลานประลองที่ตัวตนทรงพลังเป็นคนสร้างขึ้นมา โดยที่สามารถต้านทานคลื่นพลังจากการปะทะกันของนิรันดร์ระดับโลกียนิพพานได้ กล่าวได้ว่ามันคือสถานที่สำหรับแลกเปลี่ยนกระบวนท่าที่ดีที่สุด

“ทางข้าขอเป็นคนจัดการตัวบ้าบิ่นนั่นเป็นคนแรก” เชียนจ้าวเถี้ยนยิ้มอย่างเย็นชา ก่อนจะหันหลังและกล่าว “ผู้อาวุโสหยวน ข้าขอรบกวนท่านด้วย” ที่ด้านหลังของเขา ชายวันกลางคนผู้หนึ่งพยักหน้าด้วยสีหน้านิ่งเฉย

ชื่อของชายวัยกลางคนคือเชียนจ้าวหยวน เขาคือผู้อาวุโสของเชียนจ้าวเถี้ยน และเป็นจอมยุทธที่บรรลุพลังระดับสี่นิพพานมากว่าหมื่นล้านปีแล้ว ในระดับโลกียนิพพานนั้นต่อให้เป็นเชียนจ้าวเถี้ยนก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา

ร่างของเชียนจ้าวหยวนพุ่งทะยานไปยังแผ่นกระดานลานประลอง เมื่อร่างของเขาสัมผัสกับแผ่นกระดาน ร่างกายก็หดย่อตัวลงอย่างรวดเร็วและลงไปยืนอยู่บนแผ่นกระดานลานประลอง ร่างที่ถูกย่อเล็กลงหลายหมื่นเท่าของเขาในตอนนี้ ทำให้ดูเหมือนกับเป็นมดตัวหนึ่งที่ยืนอยู่บนกระดาน

“หลิงฮัน ถึงคราวของเจ้าแล้ว!” เชียนจ้าวเถี้ยนมองไปยังหลิงฮันด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ ในตอนแรกเขาเป็นคนกล่าวขอพบกับธิดาโร๋วเองแท้ๆ แต่กลับกลายเป็นว่าผู้ที่ได้เข้าพบนางดันเป็นหลิงฮันกับฟู่เกาหยุน

หลิงฮันหัวเราะ “ไหนล่ะของเดิมพัน?”

“ฮึ่ม!” เชียนจ้าวเถี้ยนสะบัดมือ แร่โลหะกึ่งนิรันดร์หลายชิ้นถูกโยนลงไปยังกระดานลานประลองและถูกย่อขนาดเล็กลง

หลิงฮันยังไม่ขยับตัวลงไปยังลานประลองแต่เลือกที่จะกล่าวต่อ “มีใครที่ต้องการท้าประลองข้าอีก ก็รีบๆนำของเดิมพันออกมา เพราะหลังจากนี้ข้าจะไม่รับคำท้าแล้ว!”

“เจ้าคิดว่าจะรอดพ้นการประลองในครั้งแรกไปได้รึ?” เชียนจ้าวเถี้ยนกล่าวอย่างโหดเหี้ยม

“ไม่ต้องเป็นกังวล ต่อให้ข้าถูกทุบตีจนตายปางตาย ข้าก็จะฝืนตัวเองประลองรอบต่อๆไปแน่นอน” หลิงฮันจงใจกล่าวออกไป เพราะไม่เช่นนั้นหลังจากที่คนอื่นๆได้เห็นพลังต่อสู้ของเขาแล้ว ใครกันจะกล้าเดิมพันต่อ?

คนจำนวนหนึ่งมองหลิงฮันด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์ ก่อนจะโยนแร่โลหะกิ่งนิรันดร์ออกมาพร้อมกัน

“หมดแล้วรึ? ยังมีใครต้องการท้าประลองอีกรึเปล่า?” เขาหันมองคนอื่นๆรอบทิศทาง เพื่อรับผลประโยชน์ให้มากขึ้น

แต่น่าเสียดายที่หลังจากนี้ก็ไม่มีใครคิดจะท้าประลองอีกเลย เนื่องจากทุกคนต่างคิดว่าเพียงแค่ถูกทุบตีจากการประลองสี่ถึงห้าครั้งหลิงฮันก็คงปางตายแล้ว จึงไม่จำเป็นที่จะต้องเสียเวลาท้าประลองเพิ่มอีก