ตอนที่ 1244: ภัยของศาลาเทพธิดาน้ำแข็ง
ตัวตนของข้าไม่สำคัญและเห็นได้ชัดว่าข้ามีวิธีที่จะกลับมาที่นี่ โมเทียนหยุนยิ้มเล็กน้อย เขาสบายใจอย่างมาก เขาโบกมือและวัตถุเซียนที่เสียหายทั้งสามก็ลอยออกมา จากนั้นเขาก็กำมือก่อนที่วัตถุเซียนเหล่านั้นจะกลายเป็นผุยผงและกลายเป็นหยดน้ำลงบนชั้นน้ำแข็งอยู่ข้าง ๆ ของเขา
ผู้พิทักษ์ซุยมีสายตาที่เฉียบแหลมอย่างมาก เพราะนางจ้องมองโมเทียนหยุนตาไม่กระพริบ อย่างไรก็ตามนางไม่ได้หยุดสิ่งที่เขาทำ
โมเทียนหยุนมองไปที่วัตถุเซียนทั้งสามที่ถูกทำลาย ชั้นน้ำแข็งที่ละลายลงไปจนมองเห็นด้วยตาเปล่าก่อนที่จะหยดลงบนอาวุธ อย่างไรก็ตามหยดน้ำที่กระทบกับผิวน้ำที่เย็นเฉียบนั้นก็ไม่ได้เป็นน้ำแข็ง พวกมันละลายผ่านชั้นน้ำแข็งราวกับว่ามันมีความร้อนเป็นอย่างมาก
พริบตาชั้นน้ำแข็งบาง ๆ ก็หายไปและแสงที่ถูกระงับเอาไว้ของสมบัติก็เริ่มสั่นไหว อย่างไรก็ตามมันก็เกิดแสงจ้าเป็นอย่างมาก
โมเทียนหยุนค่อย ๆ ยื่นมือของเขาออกมาอย่างช้า ๆ เพื่อที่จะจับไปยังวัตถุเซียนที่เสียหาย มือของเขาไม่มีพลังงานปรากฏออกมาเลยและดูเหมือนกับเป็นมือปกติ แต่ภายใต้มือของเขา วัตถุเซียนก็ค่อย ๆ ใกล้เขามาอย่างช้า ในเวลาเพียงไม่นาน ดาบมังกรศักดิ์สิทธิ์ของรุยจิน,ปิ่นเทพเพลิงของหงเหลียน,และมีดยาวของเฮยยู่กลับมาเป็นอย่างเดิมเหมือนเมื่อก่อน ทั้งสองชิ้นหลอมรวมเข้าด้วยกัน
ในเวลาเดียวกันพลังงานดั้งเดิมที่แผ่ออกมาจากวัตถุเซียนทั้งสามก็เต็มไปด้วยพลังมากกว่าเมื่อก่อน
ดวงตาของผู้พิทักษ์ซุยหรี่ลงทันใดเมื่อนางเห็นสิ่งเหล่านี้ ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ การทำลายวัตถุเซียนระดับต่ำจนเป็นชิ้น ๆ ต่อหน้าจอมยุทธระดับนาง แต่การซ่อมมันไม่ง่ายเลย โมเทียนหยุนใช่เวลาไม่กี่วินาทีในการซ่อมแซมวัตถุเซียนทั้งสามชิ้น ไม่มีทางที่นางจะทำอะไรแบบนั้นได้
ด้วยการซ่อมแซมวัตถุเซียน โมเทียนหยุนจึงชี้ไปยังสัตว์อสูรที่ถูกแช่แข็งทีละคคน พร้อมกับการระเบิดของก้อนน้ำแข็งติด ๆ กัน รุยจิน, หงเหลียน, และเฮยยู่ก็ลอยออกมาหลังจากที่น้ำแข็งระเบิดออก
อย่างไรก็ตามหงเหลียน, รุยจินและเฮยยู่ยังไม่ฟื้นตัวทันที ไม่เพียงแต่ความเย็นเท่านั้นที่ทำให้เขาถูกแช่แข็ง แต่มันยังทำให้พลังงานของพวกเขากลายเป็นน้ำแข็งและแม้แต่ชีพจรหรือกระทั่งวิญญาณของพวกเขา อย่างไรก็ตามเมื่อน้ำแข็งละลายลง ความเย็นก็ค่อย ๆ จางหายออกไปอย่างรวดเร็ว
ทั้งสามคนฟื้นขึ้นมาอย่างช้า ๆ และชีพจรก็เริ่มเต้นอย่างช้า ๆ วิญญาณของพวกเขาได้รับการปกป้องจากไข่มุกอยู่เสมอดังนั้นแม้ว่าพวกเขาจะถูกตัดขาดออกจากโลกภายนอก แต่พวกเขาก็ยังรู้สึกได้ถึงความเย็นที่ลดลงอย่างรวดเร็วอย่างชัดเจน
โดยไม่มีการลังเลพวกเขาทั้งสามเริ่มใช้พลังโคจรเพื่อกำจัดความเย็น พลังงานความเย็นที่หลงเหลืออยู่ก็ถูกกำจัดไปจนทำให้ทั้งสามเป็นอิสระในที่สุด
รุยจิน, หงเหลียนและเฮยยู่ลืมตาทันที พวกเขาเห็นชายผิวขาวคนหนึ่งยืนหันหลังให้กับพวกเขานั่นเป็นสิ่งที่พวกเขาเห็นครั้งแรกที่ลืมตานอกจากผู้พิทักษ์ซุย อาวุธพลังงานดั้งเดิมวางอยู่ตรงหน้าของพวกเขา
รุยจิน, หงเหลียนและเฮยยู่มองหน้ากัน ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความตกใจ พวกเขาไม่ใช่คนโง่ ดังนั้นพวกเขาจึงตระหนักได้ทันทีว่าคนผู้นี้คือคนที่พาพวกเขาหลบหนีออกมาอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามพวกเขาก็เต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อก็คือในยุคที่แม้แต่เซียนจักรพรรดิยังหายากก็ยังมีจอมยุทธคนหนึ่งที่เหนือกว่าเซียนจักรพรรดิขึ้นมาแถมยังมีชีวิต พวกเขาจะไม่ได้รับผลกระทบได้อย่างไรกับข่าวเช่นนี้
วัตถุเซียนทั้งสามด้านหน้าของโมเทียนหยุนลอยไปหาพวกเขาอย่างเร็ว ในขณะเดียวกันเสียงของโมเทียนหยุนก็ดังออกมา เก็บของและออกไปจากที่นี่ ค้าหาสถานที่เก็บตัวให้ดี อย่าโผล่ออกมาจนกว่าเจ้าจะกลายเป็นเซียนจักรพรรดิ ทวีปเทียนหยวนจะเข้าสู่สงครามในไม่ช้าและมันก็ยากที่จะคาดการณ์ได้ !
ขอรับ ผู้อาวุโส ! รุยจิน, หงเหลียนและเฮยยู่ค่อมคำนับโมเทียนหยุนอย่างสุภาพ ก่อนที่จะออกเดินทางไปพร้อมกับวัตถุเซียน แม้หลังจากที่ออกไปแล้ว พวกเขาก็ยังสงสัยอยู่ว่าชายคนนั้นเป็นใคร แต่ต่อหน้าผู้ที่มีพลังระดับเซียนจักรพรรดิทำให้พวกเขาไม่กล้าถาม นี่เป็นเพราะพวกเขาเข้าใจได้ว่าแม้ว่าเขาจะเป็นเซียนจักรพรรดิที่อ่อนแอที่สุด แต่เซียนราชาขั้นสูงสุดดั่งพวกเขาก็เหมือนกับมด
ผู้พิทักษ์ซุยไม่ได้มองไปที่ทั้งสามคนเลยแม้แต่น้อย สายตาของนางจับจ้องไปที่โมเทียนหยุนตลอดเวลา ในที่สุดนางก็พูดด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นว่า โมเทียนหยุน เจ้าเพิ่งช่วยชีวิตพวกเขางั้นหรือ ?
โมเทียนหยุนส่ายหัว ข้าต้องใช้ความพยายามอย่างมากที่จะลงมา แต่ไม่ใช่เพื่อช่วยพวกเขา อย่างไรก็ตามข้ามีข่าวบางอย่างเกี่ยวกับศาลาเทพธิดาน้ำแข็งซึ่งเจ้าน่าจะสนใจ
ผู้พิทักษ์ซุยหรี่ตาของนาง นางผ่อนลมหายใจเล็กน้อย นางออกจากโลกเซียนมากกว่าสามล้านปีแล้ว นางไม่เคยได้ยินข่าวคราวใด ๆ เลยตลอดเวลาที่ผ่านมา
ข่าวอะไร ? พูดมา ! ผู้พิทักษ์ซุยพูดเสียงเย็นชาอย่างกระตือรือร้น นางรู้ว่าโมเทียนหยุนอาจลงมาจากโลกเซียนและเขารู้ข่าวล่าสุด อย่างไรก็ตามนางรู้สึกถึงบางสิ่งที่ไม่ดีจากคำพูดของโมเทียนหยุน
โมเทียนหยุนพูด นี่อาจไม่ใช่ข่าวดีสำหรับเจ้า ในบรรดาผู้พิทักษ์ทั้งสี่ของศาลาเทพธิดาน้ำแข็ง พวกเขาได้ก้าวข้ามจากราชาเทพเข้าสู่ขอบเขตตั้งต้น ยกเว้นเจ้า ซุยหยุนหลาน ที่เจ้าไม่อาจก้าวหน้าใด ๆ ในการบ่มเพาะและมายังโลกด้านล่างเพื่อให้เทพธิดาหิมะกลับชาติมาเกิด
แล้วไง ? พรสวรรค์ของหวู่ฮ่าน,ปิงฉินและเค่อซร่างก็ไม่ได้แย่ไปกว่าข้า ในระยะเวลาที่ยาวนานแบบนี้ มันก็สมเหตุสมผลสำหรับพวกเขาที่จะไปถึงขอบเขตตั้งต้น ผู้พิทักษ์ซุยตอบอย่างเย็นชา ถ้านั่นเป็นข่าวร้ายของโมเทียนหยุน มันก็หมายความว่านางไม่จำเป็นต้องกังวล
แน่นอนว่ามันจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นหากว่ามันมีแค่นี้ อย่างไรก็ตามเจ้าอาจไม่คิดว่าหวู่ฮ่านจะเป็นคนทรยศและวางกับดักปิงฉินและเค่อซร่า ผู้อาวุโสสองจากสามคนตกตายและคนที่หนีรอดก็บาดเจ็บสาหัส ตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ ศาลาเทพธิดาน้ำแข็งอยู่ภายใต้การควบคุมของหวู่ฮ่านและหวู่ฮ่านก็ได้เข้าไปยังบริเวณต้องห้ามที่ซึ่งเทพธิดาน้ำแข็งกำลังรักษาอยู่ นางต้องการที่จะลงมือกับเทพธิดาน้ำแข็งที่กำลังบาดเจ็บสาหัส โมเทียนหยุนกล่าว
ผู้พิทักษ์ซุยก็ประหลาดใจอย่างมาก ข่าวของโมเทียนหยุนน่าตกตะลึงมากจนนางยากจะเชื่อ
เป็นไปไม่ได้ มันเป็นไปไม่ได้ แม้ว่าหวู่ฮ่านจะเข้าถึงขอบเขตตั้งต้น นางก็เป็นได้แค่ขั้นอสงไขยเท่านั้น และอาวุโสทั้งสามของศาลาเทพธิดาน้ำแข็งล้วนแต่มาถึงขั้นบรรพกาล แม้ว่าหวู่ฮ่านจะต่อกรกับสามผู้อาวุโสทั้งสาม นางจะสามารถสังหารคนทั้งสองได้อย่างไร ผู้พิทักษ์ซุยตะโกนออกมา นางคิดว่าความจริงที่โมเทียนหยุนพูดออกมาอาจจะเป็นการหลอกนาง แต่นางรู้สึกว่าโมเทียนหยุนคงไม่ใช้เล่ห์ชั่วร้ายเหล่านั้นเพื่อหลอกนาง
ด้วยความแข็งแกร่งของหวู่ฮ่าน มันเป็นไปไม่ได้จริง ๆ แต่มันจะแตกต่างออกไปหากว่ามีคนช่วย โมเทียนหยุนกล่าว
ใคร ? ใครช่วยหวู่ฮ่าน ? เสียงของผู้พิทักษ์ซุยเริ่มเปลี่ยนไปและจิตสังหารที่ท่วมท้นก็ไหลออกมาผ่านสายตาที่เย็นชา
หนานป้อเทียน ! โมเทียนหยุนพูดเน้นในแต่ละคำ
ผู้พิทักษ์ซุยตัวสั่นอยู่ด้านใน หนานป้อเทียน? หนานป้อเทียนแห่งโถงเทพจันทรา ?
ถูกต้อง เทพจันทราได้หายไป มีข่าวลือว่าเทพจันทราได้เสียชีวิตหลังจากที่ทะลวงไปยังขั้นจอมคนล้มเหลว โถงเทพจันทราได้อยู่ภายใต้การควบคุมของหนานป้อเทียนแล้วตอนนี้ ผู้อาวุโสประจำศาลาเทพธิดาน้ำแข็งต่างประสบภัยจากการโจมตีของเขา สองคนตายและอีกหนึ่งคนบาดเจ็บ นอกจากนั้นข้าก็รู้มาว่าหวู่ฮ่านมีความสัมพันธ์กับหนานป้อเทียน
ด้วยสิ่งนี้ในแววตาของผู้พิทักษ์ซุยก็เต็มไปด้วยความโศกเศร้าอย่างกะทันหัน ใบหน้าของนางยังซีดขาว คนจากศาลาเทพธิดาน้ำแข็งเป็นเพศหญิงและทุกคนต้องรักษาพรหมจรรย์ การที่ร่างกายต้องแปดเปื้อนมันเป็นเรื่องที่ไม่อาจยกโทษให้ได้ นี่เป็นกฏที่เข้มงวดอย่างมากสำหรับผู้พิทักษ์ทั้งสี่ หากหนึ่งในนั้นถูกแปดเปื้อนพวกนางทั้งสี่จะต้องถูกลงโทษ
ถ้าอย่างนั้นสถานการณ์ตอนนี้ของฝ่าบาทเป็นอย่างไร ? ผู้พิทักษ์ซุยถามอย่างเร่งด่วน นางเดาได้แล้วว่าคนที่เคลื่อนไหวลับหลังเทพธิดาน้ำแข็งน่าจะเป็นหนานป้อเทียนจากโถงเทพจันทรา แม้ว่าพื้นที่หวงห้ามของเทพธิดาน้ำแข็งจะได้รับการปกป้องจากค่ายกลที่ทรงพลังมาก หนานป้อเทียนเป็นขั้นบรรพกาล เขากล้าพอที่จะลงมือกับเทพธิดาน้ำแข็ง ดังนั้นเขาต้องเตรียมการบางอย่างไว้แล้ว
นั่นข้าไม่รู้ นี่คือทั้งหมดที่ข้ารู้ หากเจ้าไม่ต้องการให้เทพธิดาน้ำแข็งตกอยู่ในมือของหนานป้อเทียน มันจะเป็นการดีที่สุดคือเจ้าต้องไม่กลับไปยังโลกเซียน แม้ว่าเจ้าจะไปที่นั่น แต่เจ้าก็ไม่อาจไปที่ศาลาเทพธิดาน้ำแข็งได้ โมเทียนหยุนอธิบายอย่างโหดร้าย
ผู้พิทักษ์ซุยสงบลงอย่างรวดเร็ว มีแสงวาบอยู่ในดวงตาของนางขณะที่นางมองไปยังโมเทียนหยุนอย่างเพ่งพิศ โมเทียนหยุน ทำไมเจ้าถึงบอกเรื่องนี้กับข้า ? เจ้าติดต่อกับศาลาเทพธิดางั้นรึ ?
ใบหน้าของโมเทียนหยุนอึมครึมลงทันทีและเต็มไปด้วยความโกรธ เขาพูดอย่างหนักแน่น ข้าไม่ได้ติดต่อกับศาลาเทพธิดาน้ำแข็ง แต่หนานป้อเทียนมายุ่งเรื่องของข้า ดังนั้นข้าจึงต้องการที่จะขัดขวางแผนการของเขา
ผู้พิทักษ์ซุยเข้าใจสิ่งที่โมเทียนหยุนบอก มันไม่น่าแปลกใจที่เขาบอกความตั้งใจของเขาออกมาอย่างนี้ เขาเป็นศัตรูกับหนานป้อเทียน
โมเทียนหยุนพูดต่อ อีกอย่าง เจ้าไม่ได้รับอนุญาตให้แตะต้องเจี้ยนเฉินที่นี่หรือแทรกแซงทำให้เขาเกิดปัญหาใด ๆ
เจ้าคงไม่รู้ว่าเจี้ยนเฉินเป็นใคร การคงอยู่ของเขาเป็นภัยคุกคามต่อโลกเซียนของเรา ผู้พิทักษ์ซุยตอบอย่างเย็นชา นางไม่ต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงแผนการของนางในเรื่องนี้
โมเทียนหยุนมองนางด้วยความรังเกียจและพูดว่า ซุยหยุนหลาน ข้ารู้มากกว่าเจ้า อย่างไรก็ตามข้ารู้สึกว่าเจ้าควรจะคิดหาทางที่จะทำให้ศาลาเทพธิดาน้ำแข็งผ่านพ้นหายนะไปได้ และอย่าทำอะไรที่มันไร้ประโยชน์ ในเวลากัน ด้วยความข้องเกี่ยวของเจี้ยนเฉินและเทพธิดาหิมะ เขาอาจจะกลายเป็นคนสำคัญที่จะช่วยเหลือเจ้าในการผ่านพ้นปัญหาในคราวนี้
ฮึ่ม ฝ่าบาทเทพธิดาน้ำแข็งได้รับบาดเจ็บจากนิกายกระบี่สวรรค์ม่วงและนางบาดเจ็บสาหัสมาก ตอนนี้ที่เรากำลังเผชิญอยู่นั้นเกิดจากเหล่าอมตะเที่ยงแท้หรือไม่ ? เราไม่ต้องการให้ผู้สืบทอดของนิกายกระบี่สวรรค์ม่วงมายุ่งเกี่ยวกับผู้สืบทอดของเทพธิดาน้ำแข็งของเรา ผู้พิทักษ์ซุยตอบอย่างเย็นชา
อย่างนั้นก็เลือกเอาว่าศาลาเทพธิดาน้ำแข็งจะอยู่หรือตาย ข้าได้ส่งข้อความแล้ว ข้าหวังว่าเจ้าจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุด โมเทียนหยุนไม่พูดอะไรอีก เขาโบกมือก่อนที่จะหายตัวไปอย่างเงียบ ๆ