บทที่ 1964.1 ซูอวิ้นมาเยือน (1)

พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า

เหมียวอี้ได้ยินแล้วเหม่อ รีบหลบเลี่ยงคนอื่นที่อยู่ข้างกาย เดินไปยังที่ลับตาคน แล้วเขย่าระฆังดาราถามว่า : เจ้าล้อเล่นใช่มั้ย?

หยางชิ่ง : ข้าน้อยมิบังอาจ

เจ้าคงไม่คิดว่าตรงหน้ากำลังวุ่นว่ายนิดหน่อย แล้วสามารถอาศัยกำลังพลเล็กน้อยของข้าโจมตีทัพใต้ได้หรอกใช่มั้ย?

เหมียวอี้พึมพำในใจ ในมือเขย่าระฆังดาราตอบ : โอกาสอะไร?

หยางชิ่ง : ก่อนหน้านี้ข้าน้อยเคยบอก ว่ารอดูความเปลี่ยนแปลงเงียบๆ ตอนหลังอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงที่เอื้อประโยชน์ต่อพวกเรา การเปลี่ยนแปลงมาถึงแล้ว!

เหมียวอี้อึ้งไปครู่หนึ่ง ลองนึกย้อนดูนิดหน่อย ไม่ผิดหรอก ก่อนหน้านี้หยางชิ่งเคยพูดจริงๆ บอกว่าต้องการเดิมพันสักตั้ง…จู่ๆ ในใจก็สั่นด้วยความกลัว ถามว่า : เจ้าเดาออกตั้งแต่แรกแล้วเหรอว่าจะเกิดเรื่องนี้? เรื่องไม้ไม่ผุเป็นแผนของเจ้าใช่มั้ย?

หยางชิ่ง : ข้าน้อยไม่มีความสามารถนี้ คงจะเป็นคนคนนั้นที่ลงมือ

คนคนนั้น? คนคนไหน? เหมียวอี้ครุ่นคิด แล้วก็เบิกตากว้าง ค่อยๆ ทำสีหน้าไตร่ตรอง แล้วสุดท้ายก็บอกว่า : กำลังพลเล็กน้อยแค่นี้โจมตีทัพใต้ เป็นเรื่องเพ้อฝัน

หยางชิ่ง : เป็นเรื่องเพ้อฝันจริงๆ แต่ขอเพียงให้ทัพใต้รู้สึกว่านายท่านจะทำอย่างนี้จริงๆ ก็พอแล้ว…

หลังจากทั้งสองติดต่อกันเสร็จแล้ว เหมียวอี้ก็รีบกลับไปที่บ้านของเหิงอู๋เต้า เผชิญหน้ากับทุกคนที่ทยอยกันลุกขึ้น พร้อมกล่าวเสียงต่ำว่า “เรียกรวมแม่ทัพทุกคนไปประชุมที่จวนผู้สำเร็จราชการ!”

คนกลุ่มหนึ่งรีบออกจากบ้านของเหิงอู๋เต้า

ใช้เวลาไม่นาน แม่ทัพนับหมื่นก็เหาะมาจากที่ต่างๆ ของดาวจันทร์อี่ แล้วรีบเดินเข้าจวนผู้สำเร็จราชการ รวมตัวกันบนลานกว้างอย่างหนาแน่น

สมาชิกมันกันครบแล้ว เหมียวอี้ที่สวมเกราะรบอีกครั้งเดินออกจากตำหนักใหญ่ หยุดยืนอยู่บนบันได กวาดสายตามองเบื้องล่างอย่างเครียดขรึมจริงจัง

กลุ่มคนที่หนาแน่นได้แต่มองเขาตาปริบๆ ไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรอีก ได้ยินว่าแก้ไขวิกฤติได้แล้วไม่ใช่เหรอ?

“ทุกคน ที่เรียกทุกคนมาตอนนี้ ก็เพราะจะประกาศเรื่องหนึ่งให้ทุกคนรู้!”

เหมียวอี้ประกาศเสียงดัง มองปฏิกิริยาของทุกคน แล้วพูดเสียงดังต่อว่า “คนส่วนใหญ่อาจจะไม่รู้ว่าข้างนอกเกิดเรื่องอะไรขึ้น ข้าจะบอกให้ ไม้ไม่ผุ! ทุกคนเคยได้ยินเรื่องไม้ไม่ผุหรือเปล่า? คาดว่าคงเคยได้ยินมาหมดแล้ว ได้ยินว่าไม้ไม่ผุปรากฏขึ้น อยู่ข้างๆ บ้านพวกเรานี่เอง ตอนนี้ในอาณาเขตทัพใต้คึกคักมาก อำนาจแต่ละฝ่ายกำลังแก่งแย่งกัน ข้าเองก็จะไม่หลบซ่อนอีกแล้ว ข้าเองก็เตรียมตัวจะเข้าไปประสมโรงด้วยเหมือนกัน!”

เบื้องล่างฮือฮาทันที คนส่วนใหญ่บ้างก็ตกตะลึงก็การปรากฏตัวของไม้ไม่ผุ บ้างก็อกสั่นขวัญแขวนกับการที่เหมียวอี้บอกว่าจะเข้าไปประสมโรง

เหมียวอี้มองปฏิกิริยาของทุกคน แล้วพูดระงับเสียงฮือฮาอีกครั้ง “ทุกคนอาจจะรู้สึกว่าข้าใจใหญ่เกินไป ผิดแล้ว ข้าไม่ไปแย่งไม้ไม่ผุหรอก ผู้สำเร็จราชการคนนี้รู้จักประมาณชัดเจน ของนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเรา แย่งมาแล้วก็อาจจะก่อหายนะถึงชีวิต เช่นนั้นพวกเราจะเข้าไปประสมโรงทำไมล่ะ? ก็เพื่อนบ้านไร้เหตุผลน่ะสิ ทุกคนคงรู้เรื่องที่อีกฝ่ายเตรียมจะโจมตีพวกเราแล้ว แม้ตอนนี้เรื่องไม้ไม่ผุจะทำให้พวกเขาไม่มีเวลามาสนใจพวกเรา แต่ถ้าเรื่องไม้ไม่ผุผ่านไปเมื่อไร เกรงว่าพวกเราคงหนีไม่พ้นหายนะถึงชีวิต ข้าไม่ใช่คนที่นั่งรอความตาย! ในเมื่อเขาไร้ศีลธรรมก่อน ก็อย่ามาโทษว่าข้าขาดคุณธรรมแล้วกัน ในเมื่อจะยื่นหัวหรือหดหัวก็หนีไม่พ้นดาบ เช่นนั้นเขาเองก็เลิกคิดไปเลยว่าจะอยู่สบาย พอเกิดเรื่องไม้ไม่ผุขึ้น ทัพใต้ก็ปั่นป่วนวุ่นวาย เป็นโอกาสดีให้พวกเราลงมือ ข้าเตรียมจะระดมทัพใหญ่รุกโจมตีก่อน  โจมตีทัพใต้…”

เหวินเจ๋อที่อยู่ข้างๆ พูดไม่ออก ขณะมองเหมียวอี้พูดอย่างมั่นอกมั่นใจ เขาก็เริ่มรู้สึกอยากตายแล้ว เขารู้สึกว่าตัวเองคือหนึ่งในคนที่ได้รับความอยุติธรรมที่สุด ตอนย้ายออกจากกองทัพองครักษ์ยังแอบดีใจที่ถูกปล่อยออกมาข้างนอก แต่ใครจะคิดว่าพวกอ๋องสวรรค์จะระดมทัพใหญ่เตรียมโจมตี จู่ๆ มีเรื่องมาแก้ไขสถานการณ์วิกฤติ เขาก็เพิ่งจะโล่งใจ แต่ผู้สำเร็จราชการท่านนี้กลับไม่กลัวว่าเรื่องราวจะใหญ่โต อยู่ดีไม่ว่าดี ไม่น่าเชื่อว่าต้องการจะรุกโจมตีทัพใต้ก่อน ตัวเองจะไปทวงความยุติธรรมจากที่ไหนได้?

ไม่ว่าทุกคนจะว่าอย่างไร เหมียวอี้ก็จะทำอย่างนี้ ทั้งยังจะทำอย่างสง่าผ่าเผยด้วย

เรียกรวมแม่ทัพทุกคน พอถ่ายทอดคำสั่ง ทัพใหญ่หลายสิบล้านที่ประจำตามจุดต่างๆ ของแดนรัตติกาลก็เริ่มระดมพลขนาดใหญ่…

จวนอ๋องสวรรค์ฮ่าว สมาชิกกำลังรวมตัวกันวิเคราะห์สถานการณ์กองทัพอยู่ในตำหนักใหญ่ คนหลายร้อยรวมตัวกันอยู่ในโถงแห่งหนึ่ง บ้างก็ล้อมปรึกษากันตรงหน้าแผนที่ดาว บ้างก็รับข่าวจากที่ต่างๆ

ตรงหน้าฮ่าวเต๋อฟางก็มีแผนที่ดาวแผ่นหนึ่งกางอยู่เช่นกัน กำลังจ้องแผนที่ดาวพลางครุ่นคิดถึงข่าวที่ส่งมาจากที่ต่างๆ

ซูอวิ้นกำลังคอยรับข่าวอยู่ในตำหนักใหญ่ จู่ๆ นางก็ทำสีหน้าจริงจัง แล้วรีบเดินมาข้างกายฮ่าวเต๋อฟาง ถ่ายทอดเสียงบอกว่า “ท่านอ๋อง หนิวโหย่วเต๋อกำลังจะก่อเรื่อง…”

เหมียวอี้ไม่ได้หลบซ่อน แต่ประกาศถ่ายทอดคำสั่ง ท่ามกลางกำลังพลหลายสิบล้าน มีสายลับของทัพใต้อยู่บ้างก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยสักนิด

ฮ่าวเต๋อฟางที่เอามือลูบหนวดเงียบๆ พลันเลิกคิ้ว แล้วกล่าวเสียงต่ำว่า “เขากล้าเหรอ!”

ซูอวิ้นยิ้มเจื่อน “เขาระดมกำลังพลเตรียมบุกโจมตีแล้วค่ะ!”

ฮ่าวเต๋อฟางสีหน้าบึ้งตึงลง คนอื่นอาจจะไม่กล้า แต่สำหรับหนิวโหย่วเต๋อนั้นพูดยากจริงๆ มิหนำซ้ำอีกฝ่ายก็พูดไว้ไม่ผิด จะซ้ายหรือจะขวาก็หนีไม่พ้นดาบอยู่ดี ไม่สู้ชิงลงมือก่อนเพื่อความได้เปรียบ ทำแบบนี้ก็ไม่แปลก โดยเฉพาะในเวลาแบบนี้

“ช่างเลือกเวลาลงมือได้ดีจริงๆ!” ฮ่าวเต๋อฟางแอบกัดฟัน สายตาจ้องบนแผนที่ดาว สงสัยไม่อยากตายดี ทำไมเหตุการณ์เรื่องไม้ไม่ผุถึงเกิดบนอาณาเขตทัพใต้ ตอนนี้อำนาจแต่ละฝ่ายล้วนกำลังวิ่งมาที่ฝั่งตน ต่างก็กำลังก่อความวุ่นวายที่อาณาเขตตน

ซูอวิ้นโน้มน้าวว่า “ท่านอ๋อง ยังต้องรีบเตรียมตัวนะคะ! ในมือหนิวโหย่วเต๋อมีทัพใหญ่ห้าสิบล้าน กำลังพลที่ตั้งฐานอยู่แถวนั้นต้านไม่ไหวเลย ถ้าเคลื่อนกำลังพลธรรมดา เกรงว่าต่อให้เป็นกำลังพลสองร้อยล้านก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา แถมหนิวโหย่วเต๋อยังชำนาญการศึกด้วย! ด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน ไม่รู้ว่าประมุขชิงจะฉวยโอกาสทำให้ทัพใต้กลายเป็นเหมือนทัพตะวันออกหรือเปล่า ทุกคนล้วนกำลังสนใจไม้ไม่ผุ ถ้าเกิดเรื่องขึ้นมา เกรงอ๋องท่านอื่นคงไม่มีสมาธิมาช่วยเหลือท่านอ๋อง”

ฮ่าวเต๋อฟางขมวดคิ้วด้วยความสับสน เถิงเฟยกับเฉิงไท่เจ๋อก็เป็นบทเรียนให้เห็นแล้ว สิ่งที่เขากังวลที่สุดก็คือ จอมพลเบื้องล่างจะฉวยโอกาสตอนสถานการณ์วุ่นวายก่อเรื่องหรือเปล่า

หลังจากเงียบไปพักหนึ่ง ก็กล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “ถ่ายทอดคำสั่งลงไปก่อน ระดมกำลังพลที่อยู่ใกล้แดนรัตติกาล ให้เตรียมพร้อมป้องกัน!”

พระตำหนักอุทยาน ใต้ชายคาของตำหนักหลัก ประมุขชิงหันกลับมาถามอย่างงุนงง “หนิวโหย่วเต๋อต้องการจะบุกโจมตีฮ่าวเต๋อฟางเหรอ?”

โพ่จวินพยักหน้า “จากข่าวที่เหวินเจ๋อส่งกลับมาเป็นอย่างนี้ขอรับ หนิวโหย่วเต๋อระดมกำลังพลขนาดใหญ่แล้ว ต้องการจะเทรังออกมาบุกโจมตี!”

ประมุขชิงขมวดคิ้วพักหนึ่ง แล้วจู่ๆ ก็กล่าวกลั้วหัวเราะ “เจ้าหนุ่มนี่มองขาดแล้วว่าฮ่าวเต๋อฟางเอาตัวไม่รอด ต้องการจะใช้กลยุทธ์ตีชิงตามไฟ มีกำลังพลไม่กี่สิบล้านแต่กล้าโจมตีทัพใต้ ใจกล้าไม่เบา คนทั่วไปไม่กล้าทำอย่างนี้เลย เพียงแต่บางครั้ง ใจกล้าสักหน่อยก็ไม่ใช่เรื่องแย่อะไร!”

ซ่างกวนชิงที่อยู่ข้างๆ วางระฆังดารา “ฝ่าบาท ทัพใต้รายงานขึ้นมา ฟ้องว่าจวนผู้สำเร็จราชการแดนรัตติกาลก่อความวุ่นวาย ขอให้ฝ่าบาทยับยั้งและลงโทษอยากหนัก!”

ประมุขชิงแสยะยิ้ม “บอกฮ่าวเต๋อฟาง ว่าข้าจะสืบเรื่องนี้อย่างเข้มงวด!” ส่วนจะสืบได้ผลลัพธ์ชัดเจนเมื่อไร นั่นก็ไม่รู้แล้ว ก่อนหน้านี้พวกตาแก่ยังปัดความรับผิดชอบอยู่เลย นึกไม่ถึงว่ากรรมจะตามสนองเร็วขนาดนี้ ตอนนี้ถึงคราวที่เขาจะเอาคืนฮ่าวเต๋อฟางแล้ว

“ขอรับ!” ซ่างกวนชิงเอ่ยรับด้วยรอยยิ้ม ย่อมรู้ถึงเจตนาของประมุขชิงอยู่แล้ว

ประมุขชิงบอกโพ่จวินกับอู๋ฉวี่อีกว่า “ให้กำลังพลที่ส่งไปสนับสนุนแสดงท่าทีสักหน่อย กดดันฮ่าวเต๋อฟาง!”

ทำแบบนี้ ไม่ว่าฮ่าวเต๋อฟางจะล้มเลิกการแย่งชิงไม้ไม่ผุ หรือจะล้มเลิกการโจมตีกำลังพลห้าสิบล้านของแดนรัตติกาล เขาก็ล้วนไม่ขาดทุน

“แล้วก็ถามหนิวโหย่วเต๋อด้วยว่า เรื่องไม้ไม่ผุเป็นแผนของเขาใช่หรือไม่! ทำไมข้ารู้สึกว่าเวลาที่เกิดเรื่องนี้เอื้อประโยชน์ต่อเจ้าลูกลิงนั่นเกินไป?” ประมุขชิงพูดเสริมอีก

…………………….