ในใจหม่าหลันถึงจะสิ้นหวัง แต่ที่สถานกักขัง เธอรู้ว่าต้องเชื่อฟังผู้คุม เลยรีบเดินตามทุกคนออกจากห้องขัง
พอถึงสนามกว้าง ผู้คุมบอกว่า “ไปวิ่งรอบสนามสามรอบก่อน จากนั้นก็เป็นกิจกรรมอิสระครึ่งชม. พอครึ่งชม.ผ่านไป มารวมตัวกันที่หน้าประตูสนามและกลับห้องขัง!”
ทุกคนรีบต่อแถว จางกุ้ยเฟินเป็นตัวเองในห้องขัง ดังนั้นเธอเป็คนจัดแถว เธอเหล่หม่าหลันหนึ่งทีพลางว่า “เธอไปยืนหน้าสุด ทุกคนด้านหลังต่างจ้องเธออยู่ ถ้าวิ่งไม่ดี ฉันตีเธอตายแน่!”
จากนั้นหมุนกลับไปมองคนอื่นพลางว่า “พวกเธอคอยพยุงคุณย่า วิ่งช้าๆ อย่าให้ท่านเหนื่อยล่ะ”
นายหญิงใหญ่เซียวหัวเราะร่วนพลางว่า “กุ้ยเฟินเธอนี่มีน้ำใจนะ ถึงฉันจะแก่แล้ว แต่ร่างกายยังดีอยู่ ไม่ต้องคอยพยุงฉันหรอก ฉันค่อยๆเดินตามพวกเธอข้างหลังก็ได้แล้ว”
จางกุ้ยเฟินพยักหน้า ก่อนตะคอกดังว่า “เตรียมตัว วิ่ง!”
หม่าหลันวิ่งอยู่หน้าสุด พอได้ยินคำนี้ ก็ทนความเจ็บปวดของร่างกาย และความอ่อนเพลียที่แทบไม่ได้กินอะไรมาสองวันสองคืนนี้ เริ่มวิ่งขึ้นมา จากนั้นทุกคนก็เริ่มวิ่งตามเธอ
หม่าหลันร่างกายอ่อนแอมาก เดิมก็เจ็บปวดราวกับจะแยกร่างอยู่แล้ว ดังนั้นพอเริ่มวิ่งได้สองก้าว ขาเธอก็อ่อนยวบ แทบจะล้มอยู่หลายครั้ง
ผู้หญิงด้านหลังถีบเอวเธอดื้อๆ ด่าว่า “ผู้หญิงแรดที่แย่งสามีคนอื่น วิ่งนิดเดียวก็ทำเหมือนจะเป็นจะตาย เธอยังทำอะไรได้อีกหรือไง?”
ผู้หญิงอีกคนหัวเราะเยาะใส่พลางว่า “ผู้หญิงร่านแบบนี้ยังจะแย่งสามีคนอื่นได้อีกแหน่ะ ถึงเธอจะวิ่งไม่เป็น แต่วิ่งไปขึ้นเตียงคนอื่นได้นี่นา!”
ทุกคนหัวเราะเยาะพร้อมกัน หม่าหลันได้แต่ข่มกลั้นความอัปยศในใจส่วนลึก กัดฟันวิ่งไปข้างหน้าต่อ
ในตอนนี้เอง หม่าหลันเห็นผู้หญิงท่าทางน่ากลัวสามคนกำลังยืนอยู่มุมหนึ่งของสนาม สายตาจับจ้องมาทางเธอ เหมือนกำลังมองตัวเธออยู่
เธอพึ่งวิ่งผ่านสามคนนั้น หนึ่งในนั้นก็ยื่นมือออกมาคว้าไหล่เธอไว้
หม่าหลันโดนคว้าไหล่ ทั้งกลุ่มเลยต้องหยุดลง จางกุ้ยเฟินเดินขึ้นมาถามว่า “พวกคุณทั้งสามจะทำอะไร?”
ผู้หญิงสามคนนั้นหน้าตาดุร้ายมาก คนที่ยื่นมือมาดึงรั้งหม่าหลันไว้ บนหน้ามีแผลเป็นรอยมีดพาดยาวจากตาซ้ายจนถึงปลายคางด้านขวา รอยแผลเป็นนี้ทำให้ใบหน้าเธอแบ่งออกเป็นสองด้าน ดูน่ากลัวมาก
ถึงจางกุ้ยเฟินจะเป็นใหญ่ในห้องขังของตัวเอง แต่เธอก็เป็นแค่หญิงชาวบ้านธรรมดา ให้เธอตีหม่าหลัน เธอกล้าตี แต่ถ้าให้เธอหยิบมีดฟันคนอื่น เธอไม่กล้าแน่ๆ
ดังนั้นพอเธอเห็นใบหน้าอีกฝ่ายมีรอยมีด ก็รู้ทันทีว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดาแน่ ไม่ควรยุ่งเกี่ยวด้วยเลย
ผู้หญิงมีแผลเป็นคนนั้นบอกว่า “ฉันหาคนชื่อหม่าหลัน อยู่ห้องขังพวกเธอใช่ไหม? คนไหน?”
หม่าหลันพอได้ยินว่ามาหาเธอ ก็ตกใจตัวสั่น รีบโบกมือบอก “ฉันไม่รู้ ไม่เคยได้ยินว่าใครชื่อหม่าหลันเลย….”
นายหญิงใหญ่เซียวกลับชี้ไปที่หม่าหลันพลางว่า “พวกคุณอย่าไปฟังผู้หญิงร่านหน้าไม่อายคนนี้พูดจาเหลวไหล เธอนั่นแหละหม่าหลัน!”
เซียวเวยเวยพูดต่อ “ใช่ เธอนั่นแหละ! เธอก็คือหม่าหลัน! เป็นนักต้มตุ๋นด้วย!”
ผู้หญิงมีรอยแผลเป็นคนนั้นหันมามองหม่าหลัน และสะบัดมือตบเข้าหน้าหม่าหลันฉาดใหญ่
เห็นได้ชัดว่าผู้หญิงมีรอยแผลเป็นคนนี้เป็นมวย ทั้งตัวมีแต่กล้ามเนื้อ ดังนั้นตบฉาดนี้ของเธอแรงกว่าของจางกุ้ยเฟินมากนัก
ตบเดียวก็ทำหม่าหลันลงไปกองกับพื้นแล้ว
หม่าหลันโดนตบจนลองไปกองกับพื้น และไอกระอักฟันออกมาหนึ่งซี่ น่ากลัวจริงๆ
——-