“โลกเซียนเสวียนเทียนมิใช่สถานที่ที่สามารถเข้าไปง่าย ๆ เมื่อใดก็ได้ มีเพียงผู้แข็งแกร่งระดับเจ้านภาที่มีอัญเทพฟ้าถึงจะสามารถเปิดทางเข้าไปสู่โลกเซียนเสวียนเทียนได้”

หลัวซิวยืนอยู่ท่ามกลางผู้คน และได้ยินคนพูดเช่นนี้

ไม่ว่าผู้ใดก็ตามที่เข้าไปในโลกเซียนเสวียนเทียนแล้ว ผลการการฝึกตนก็จะถูกกดอัดลงไปที่แดนมหาจักรพรรดิยุทธ์ เพราะฉะนั้นผู้ที่มีสิทธิ์เข้าไปในโลกเซียนเสวียนเทียนนั้น อย่างน้อยผลการฝึกตนก็ต้องอยู่ไม่ต่ำกว่ามหาจักรพรรดิยุทธ์

ดังนั้นการเข้าไปโลกเซียนเสวียนเทียนในครั้งนี้ หลัวซิวเข้าไปภายในคนเดียว มิได้พาจินเฟยเทียนและถังหยุนเข้าไปด้วยแต่อย่างใด แม้ผลการฝึกตนของมนุษย์และอสูรทั้งสองนั่นจะบรรลุถึงแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์แล้วก็ตาม แต่ทว่าท้ายที่สุดศักยภาพของพวกเขาก็ยังไม่เพียงพออยู่เล็กน้อย การปฏิบัติการคนเดียวจึงดีและสะดวกกว่า

“โครมม!”

สำนักเต๋าเสวียนเทียนที่ลอยอยู่กลางอากาศสุดขอบฟ้าสั่นสะเทือน เห็นเพียงรอบกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เสวียนเหมินมีรัศมีเทวไหลทะลักออกมา ใช้พลังเทพที่ไร้ขอบเขตกระตุ้นพลานุภาพของอัญเทพฟ้าชิ้นนี้

ภายในชั่วพริบตาเดียว ก็มีพลังออร่าสุดน่ากลัวที่ยิ่งใหญ่จนมิอาจคาดเดาได้ระเบิดไหลเชี่ยวออกมาดั่งกระแสน้ำ ประตูหินโบราณที่ดูเรียบง่ายค่อย ๆ เปิดออก ปรากฏการณ์พิสดารที่อยู่ภายในประตูโบราณปรากฏ ทุกสรรพสิ่งบนห้วงอวกาศ ความว่างเปล่าที่ไร้ขอบเขต อสูรพิลึกนับพันล้านและสภาพการณ์ต่าง ๆ ทยอยปรากฏขึ้นติด ๆ กัน

“ตู้มม!”

ลำแสงหนึ่งพุ่งออกมาจากประตูโบราณนั่น ชั้นบรรยากาศที่ลำแสงดังกล่าวเคลื่อนผ่านได้ทรุดลง เปิดออกเป็นเส้นทางหนึ่งที่มุ่งหน้าตรงไปยังห้วงดาราอันลึกลับ

ในขณะเดียวกัน ผู้แข็งแกร่งระดับเจ้านภาคนอื่น ๆ ที่คอยปกปักรักษาแดนศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ในโลกเสวียนเทียนก็ต่างพากันลงมือเช่นกัน เปิดทางเข้าสู่โลกเซียนเสวียนเทียนเหนือนภา ส่งศิษย์ในสำนักของตนเข้าไปฝึกฝนเก็บเกี่ยวประสบการณ์และตามหาสมบัติต่าง ๆ ในโลกเซียนเสวียนเทียน

ชั่วขณะหนึ่ง แดนศักดิ์สิทธิ์ทุกแห่งในโลกเสวียนเทียนล้วนคืนสภาพพลานุภาพของอัญเทพฟ้า เผยให้เห็นพลังอันยิ่งใหญ่ลึกซึ้งที่ไม่มีสิ่งใดสามารถเปรียบเทียบได้ ทั่วอากาศที่ว่างเปล่าล้วนเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังออร่าที่ยิ่งใหญ่จนมิอาจคาดเดาได้ของเทพฟ้า เหตุการณ์ดูโอ่อ่ายิ่งใหญ่เป็นอย่างมาก

หลัวซิวก็มองดูจนสงบใจไว้ไม่อยู่เช่นกัน พลานุภาพของอัญเทพฟ้าเหล่านี้ต่างทรงพลังอย่างมาก เพียงเสี้ยวเดียวก็สามารถกำจัดนักยุทธ์อย่างพวกเขาไปได้นับไม่ถ้วนแล้ว

“นี่สินะเทพฟ้า ผู้ที่ชี้ขาดทุกสรรพสิ่งในพิภพกลาง!”หลัวซิวหยีตาลงเล็กน้อย เขาเข้าใจดีมาก ๆ ว่าศักยภาพในตอนนี้ของตนไม่อ่อนก็จริง แต่เมื่อเปรียบเทียบกับเทพฟ้าแล้ว มันก็ยังแตกต่างราวกับฟ้ากับเหวอยู่ดี

ชิ่ว! ชิ่ว! ชิ่ว!

เงาดำแต่ละร่างทยอยบินทะยานขึ้นสู่ฟ้า หลัวซิวมองเห็นเงาดำที่ถี่ยิบของคนนับไม่ถ้วนปรากฏอยู่กลางแผ่นฟ้าที่ว่างเปล่า คนเหล่านั้นล้วนร่วงลงบนทางเหนือนภาอันว่างเปล่าที่เกิดขึ้นโดยอัญเทพฟ้า เดินตรงไปตามเส้นทาง บินสู่ห้วงดาราที่ไกลโพ้น

“ไป!”

ซุ๋นหวู่หยา ซุ๋นซินเหลียนและผู้อาวุโสเทพมารคนอื่น ๆ ก็ต่างพากันลุกตัวขึ้น บินตรงไปทางสำนักเต๋าเสวียนเทียนที่เป็นทางเหนือนภาทะลุสู่โลกเซียนเสวียนเทียน

หลัวซิวก็รีบบินขึ้นไปเช่นกัน เคลื่อนที่อยู่บนเส้นทางที่ทะลุสู่โลกเซียนเสวียนเทียนอย่างรวดเร็ว หลังจากผ่านไปพักหนึ่ง ก็มองเห็นแสงแวววาวปรากฏขึ้นตรงสุดเส้นทาง

เงาร่างของคนจำนวนมากจมหายเข้าไปในแสงแวววาวนั่นและหายตัวไปในทันที เห็นได้ชัดเจนเลยว่าตำแหน่งของแสงดังกล่าว เป็นตำแหน่งของโลกเซียนเสวียนเทียน

ผ่านไปไม่นานนัก หลัวซิวก็พุ่งเข้าไปในแสงเช่นกัน ก่อนจะสัมผัสได้ถึงมิติที่วุ่นวายกลับตาลปัตรในชั่วพริบตาเดียว หลังจากที่สัมผัสได้ว่าเท้าทั้งสองข้างร่วงลงพื้นแล้ว สิ่งแรกที่เขาทำคือปล่อยตัวสำนึกของตนแผ่กระจายออกไปสำรวจเหตุการณ์บริเวณรอบ ๆ

โลกเซียนเสวียนเทียนพันปีเปิดหนึ่งครั้ง ผู้แข็งแกร่งระดับเทพมารจำนวนไม่น้อยในโลกเสวียนเทียนต่างมีชีวิตคงอยู่มานานหลายหมื่นปีแล้ว มากกว่านั้นยังมีเทพฟ้าที่มีชีวิตมานานหลายแสนปีด้วย พวกเขาเคยเข้ามาในโลกเซียนเสวียนเทียนหลายครั้ง และคุ้นเคยกับทุกอย่างในโลกใบนี้ตั้งนานแล้ว

ส่วนหลัวซิวนั่นเพิ่งมาถึงที่นี่เป็นครั้งแรก จึงต้องระแวดระวังเป็นธรรมดาอยู่แล้ว เนื่องจากที่นี่ไม่ได้มีเพียงผู้อาวุโสระดับเทพมาร แม้แต่ผู้แข็งแกร่งระดับเทพฟ้าก็เข้ามาแสวงหาโอกาสในโลกเซียนเสวียนเทียนเช่นกัน

ต่อให้ผลการฝึกตนจะถูกกดอัดอยู่ในระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์เหมือนกัน แต่ทว่ารากฐานของผู้แข็งแกร่งระดับเทพฟ้ากลับมีมากมายมหาศาล เมื่ออยู่ในแดนเดียวกัน พวกเขาต้องแข็งแกร่งกว่าคนอื่น ๆ หลายเท่ามากแน่นอน

โลกเซียนเสวียนเทียนมิใช่พิภพหนึ่งแต่อย่างใด แต่เป็นโลกใบเล็กที่เหมือนแดนปริศนา พื้นที่ภายในกว้างใหญ่ไพศาลอย่างไร้ขอบเขต