ในขณะที่ชี้แนะผู้อื่น ก็ทำให้เขาสามารถยืนยันและค้นพบความข้อบกพร่องต่าง ๆ ของตนเช่นกัน ได้รับการตระหนักรู้ต่าง ๆ ที่ตัวเองไม่เคยมีในอดีต ผลประโยชน์ที่ได้รับในครั้งนี้มีเยอะมาก

ท้ายที่สุดประสบการณ์ตลอดช่วงสิบปีที่เขาฝึกตนมา โดยเฉพาะช่วงแรกของการฝึก ผลการฝึกตนของเขาพุ่งพรวดมาก มีหลายครั้งมากที่ยังไม่ทันได้ตระหนักถึงแก่นแท้ของแดนนั้น ๆ เลย ตนก็ก้าวเลื่อนขึ้นไปถึงอีกแดนหนึ่งแล้ว

การที่ความเร็วของผลการฝึกตนและการเลื่อนขั้นรวดเร็วมาก ๆ นั้น ในสายตาคนอื่นมันต้องเป็นเรื่องดีอยู่แล้ว เนื่องจากหากความเร็วการฝึกตนในช่วงแรกยิงเร็ว เมื่อถึงช่วงปลายก็จะมีเวลาที่มากพอบรรลุไปถึงแดนที่สูงกว่า

แนวคิดแบบนี้ไม่ผิดแต่อย่างใด แต่ทว่าในขณะเดียวกันมันกลับเป็นแนวคิดที่ผิดพลาดด้วย

นั่นก็คือความเร็วในการฝึกตนช่วงแรกเร็วเกินไป ถึงแม้รากฐานของผลการฝึกตนจะไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ แต่จะขาดด้านการตระหนักรู้มาก ๆ ข้อบกพร่องในการตระหนักรู้แดนเหล่านี้จะยังไม่แสดงออกมาในช่วงแรก แต่จากการที่ผลการฝึกตนยิ่งสูง ข้อบกพร่องต่าง ๆ ก็จะยิ่งปะปนเข้าด้วยกัน จนกลายเป็นปัญหาใหญ่ พันธนาการการเลื่อนขั้นของนักยุทธ์ ยากที่จะไปบรรลุขึ้นไปถึงระดับที่สุดกว่าได้

เมื่อก่อนหลัวซิวก็ตระหนักถึงจุดนี้แล้ว แต่ทว่าจากการชี้แนะการฝึกตนของพวกเสี่ยวเจียงหมิง ทำให้เขาตระหนักถึงข้อบกพร่องบางอย่างที่อยู่บนตัวได้อย่างลึกซึ้ง

ด้วยเหตุนี้เขาจึงยุติความคิดที่จะยกระดับผลการฝึกตนของตัวเองต่อเสียเลย ในทางกลับกันเขาก็เริ่มสัมผัสรู้และทำความเข้าใจกับการตระหนักรู้ในแดนที่ตกขาดหายไป

ในช่วงเวลาที่ไม่รู้เนื้อไม่รู้ตัว ระยะเวลาหลายเดือนดูเหมือนจะไม่ยาว แต่ทว่าหลัวซิวที่อยู่ในแดนสูง เมื่อมองลงมาที่การตระหนักรู้ในแดนต่ำแล้ว เขาก็มองเห็นปัญหาทุกอย่างได้ชัดเจนเลย ข้อบกพร่องในอดีตถูกเติมเต็มอย่างต่อเนื่อง สัมผัสได้ว่าแดนยุทธ์ของตนยิ่งอยู่ยิ่งเข้าใกล้แดนบริบูรณ์แล้ว

วันนี้ ศิษย์ใจกลางนับร้อยในสำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนเหมินต่างไปรวมตัวกันอยู่ที่สนามจัตุรัสที่มีพื้นที่กว้างใหญ่แห่งหนึ่ง

เบิ่งมองขึ้นไปบนท้องฟ้า สำนักเต๋าเสวียนเทียนที่โบราณลอยอยู่บนฟ้า มีออร่าเทพฟ้าที่ยิ่งใหญ่จนคาดเดาไม่ได้แผ่ออกมา ทำให้ผู้อาวุโสระดับเทพมารจำนวนมากบนสนามต่างนั่งอยู่บนที่นั่งอย่างเคารพนอบน้อม

ทันใดนั้นเอง ก็มีเสียงที่น่าเกรงขามเสียงก้องกังวานขึ้นมา“ระยะเวลาการเปิดของโลกเซียนเสวียนเทียนอยู่ที่หนึ่งปี ขอเพียงเป็นศิษย์ใจกลางและผู้อาวุโสที่ผลการฝึกตนบรรลุถึงแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์ล้วนสามารถเข้าไปภายในได้ แต่โปรดจำไว้ว่าหลังจากที่เข้าไปแล้ว ต้องเฝ้าสังเกตการณ์และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ร่วมแรงร่วมใจกันต่อต้านศัตรู!”

เจ้าของเสียงดังกล่าวต้องเป็นเจ้าศักดิ์สิทธิ์ของสำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนเหมินอยู่แล้ว ซึ่งท่านคือผู้แข็งแกร่งเจ้านภาที่อยู่ในแดนเทพฟ้าขั้นสูง

ก่อนโลกเซียนเสวียนเทียนจะถูกเปิดออก หลัวซิวก็เคยไปสืบถามเรื่องราวบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับโลกเซียนเสวียนเทียนแล้ว

ทุก ๆ พันปีโลกเซียนเสวียนเทียนจะถูกเปิดออกหน่ึงครั้ง ไม่รู้ว่าโลกเซียนเสวียนเทียนถูกเปิดออกกี่ครั้งแล้ว ด้านในมีสมบัติที่นับไม่ถ้วน ราวกับเก็บไม่หมดยังไงอย่างนั้น

เล่ากันว่าสมบัติที่อยู่ในโลกเซียนเสวียนเทียน ล้วนแปรมาจากกฎพลังเทพของราชาเทพโบราณที่เป็นผู้บุกเบิกโลกเสวียนเทียน อีกทั้งโลกเซียนเสวียนเทียนยังสามารถดูดซับพลังงานในจักรวาลได้อัตโนมัติด้วย มีเพียงพลังงานบนตัวเพิ่มขึ้นถึงจุดอิ่มตัว หลังจากที่ก่อให้เกิดสมบัติที่นับไม่ถ้วนแล้ว โลกเซียนเสวียนเทียนถึงจะปรากฏออกมาให้เห็น

โลกเซียนเสวียนเทียน ตั้งอยู่บริเวณที่ใกล้กับอากาศว่างเปล่าอันไร้ขอบเขตในโลกเสวียนเทียน มีเพียงผู้แข็งแกร่งเจ้านภาเท่านั้นถึงจะสามารถสัมผัสตำแหน่งที่มันจะปรากฏได้ ใช้มหาอิทธิฤทธิ์เปิดทาง ส่งศิษย์ผู้แข็งแกร่งใต้สำนักเข้าไปฝึกฝนสั่งสมประสบการณ์ด้านใน

นอกจากนี้แล้ว ภายในโลกเซียนเสวียนเทียนยังมีกฎเหล็กหนึ่งข้อ นั่นก็คือไม่ว่าผลการฝึกตนของเจ้าจะสูงเพียงใด หลังจากที่เข้าไปแล้ว ผลการฝึกตนก็จะถูกกดอัดลงมาที่แดนมหาจักรพรรดิยุทธ์ ต่อให้เจ้าจะเป็นผู้แข็งแกร่งระดับเจ้านภา ผลการฝึกตนก็จะถูกกดอัดลงมาที่มหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้น 9 ขั้นสูง!

จากตำนานที่เล่าขานต่อกันมา นอกเสียจากว่าจะเป็นผู้แข็งแกร่งระดับราชาเทพ ถึงจะสามารถทำลายกฎเหล็กข้อนี้ได้ แต่ทว่าในพิภพกลางไม่มีทางมีผู้แข็งแกร่งราชาเทพปรากฏแน่นอน