ตัวตนที่ยิ่งใหญ่… ได้ยินคำพูดแฟร์นัน บางความทรงจำในส่วนลึกของจิตใจบาร์ตันเริ่มพรั่งพรูออกมา
เป็นการยากที่บาร์ตันจะเก็บซ่อนความกลัวได้อีกต่อไป สองเท้าย่ำถอยหลังอย่างมิอาจควบคุม
ในภารกิจทางโบราณคดีเมื่อหลายปีก่อน ฝันร้ายทั้งหมดของบาร์ตันเริ่มขึ้นหลังจากได้เห็นคำนิยามที่คล้ายคลึงกัน!
ขณะบาร์ตันกำลังสั่นเทาและต้องการหันหลังวิ่งหนี ปาเชโก้·ดอน รองหัวหน้าแผนกกฎระเบียบถือโอกาสซักถามแฟร์นัน
“ในเมื่อคุณสัมผัสถึงเจตจำนงของตัวตนอันยิ่งใหญ่ ทำไมถึงไม่ลองประนีประนอมกับกลุ่มคนจากยุคสมัยที่สี่ที่คอยสะกดรอยตามคุณ?”
ลมหายใจแฟร์นันหนักขึ้นกะทันหัน ราวกับมีหมอกสีขาวพวยพุ่งออกมา
โทนเสียงของมันสูงขึ้น
“พวกมันไม่ได้ศรัทธาจากก้นบึ้งหัวใจ ยังมีการยับยั้งไว้บางส่วน!”
เมื่อแฟร์นันกล่าวจบ บ้านที่พังไปครึ่งหลังถูกเติมเต็มด้วยหมอกสีขาวจาง หมอกเหล่านี้บางมากจนแทบมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แผ่กลิ่นคาวเลือดโชยคลุ้ง
คล้ายกับบาร์ตันเริ่มเข้าใจบางสิ่ง แต่มันไม่มีอารมณ์ที่จะขบคิดให้แตกฉาน
มันเพียงต้องการหนีออกจากที่นี่ หนีให้พ้นจากอันตรายที่ใกล้ปะทุ
ปาเชโก้ยังคงเยือกเย็น มันจ้องหน้าแฟร์นัน ถามอย่างเป็นกันเอง
“คุณแวะไปที่บ้านของมิสเตอร์บาร์ตัน แถมยังเขียนจดหมายถึงกองทุน… ต้องการให้พวกเราช่วยอะไรกันแน่?”
ได้ยินเช่นนั้น บาร์ตันพลันผงะ
หากเป็นในสถานการณ์ปรกติ มันคงเข้าใจว่า ปาเชโก้กำลังถามแฟร์นันว่าต้องการความช่วยเหลือทางการเงินแบบใด!
แต่กับสถานการณ์ตรงหน้า ไม่ใช่ว่าพวกเราเหลือแค่สองตัวเลือกหรอกหรือ? หากไม่รีบแผ่นก็ต้องแจ้งตำรวจ หรือไม่ก็ชักอาวุธออกมา ยิงใส่แฟร์นันสักนัด หรือไม่ก็ฟาดไม้เท้าใส่สักป้าบ… บาร์ตันฉงนเกี่ยวกับวิธีการรับมือของปาเชโก้
ด้วยจมูกที่มีหมอกสีขาวปกคลุม แฟร์นันซึ่งดวงตาถูกย้อมไปด้วยแสงสีเทาไหลเวียน คล้ายกับมิอาจเพิกเฉยคำถามดังกล่าว สีหน้าแววตาเริ่มเผยความจดจ่อ น้ำเสียงองอาจขึงขัง:
“สองเรื่อง… เรื่องแรก นำวัตถุชิ้นนี้ไปที่ชานเมืองและนำกลับมาคืนในตอนเย็น”
กล่าวจบ แฟร์นันโยนขวดแก้วคอบางออกมา
ขวดแก้วดูแข็งมาก ราวกับต่อให้ตกกระแทกพื้นหรือหินก็ไม่แตก
ด้านในบรรจุหมอกบางๆ สีซีดกึ่งมายา
ทันใดนั้น บาร์ตันทราบได้ทันทีว่าปาเชโก้ รองหัวหน้าแผนกกฎระเบียบ ชะงักไปเล็กน้อยราวกับสัมผัสถึงความไม่ปรกติ
แฟร์นันไม่มัวใส่ใจท่าทีตอบสนองของทั้งคู่ เพียงกล่าวต่อไป
“เรื่องที่สอง ระหว่างการรวบรวมวัตถุโบราณ ช่วยฉันมองหาสิ่งที่คล้ายกับเจ้านี่”
กล่าวจบ มันนำกระดาษออกจากแขนและคลี่ออก
บนกระดาษแผ่นดังกล่าวมีภาพวาดของตะเกียงรูปทรงประหลาด คล้ายกับกาน้ำใบเล็กที่มีไส้ตะเกียงยื่นออกจากปาก
“…ไม่มีปัญหา” ปาเชโก้เงียบไปสองวินาที ก่อนจะตอบกลับด้วยเสียงที่ค่อนข้างเบา แตกต่างจากโทนเสียงก่อนหน้า
“ตัดสินใจได้ดี ฮะฮะ! นายไม่คิดบ้างหรือ ว่าการพบกันของพวกเราอาจไม่ใช่เรื่องบังเอิญ?” แฟร์นันทิ้งกระดาษทันที กระโดดไปยังด้านบนของบ้านที่พังไปครึ่งหลัง
ประหนึ่งลิงบาบูน มันปีนป่ายอย่างคล่องแคล่ว เพียงไม่นานก็หายไปจากการมองเห็นของบาร์ตันและปาเชโก้
“พวกเราควรทำยังไงต่อ…” บาร์ตันมองไปทางรองหัวหน้าแผนกกฎระเบียบด้านข้าง
ยังไม่ทันพูดจบ มันชะงักกะทันหัน เนื่องจากพบว่าปาเชโก้เอาแต่ยืนนิ่งด้วยลมหายใจหนักแน่น
นอกจากนั้น ผิวหนังปาเชโก้เริ่มมีขนหยิกสีดำงอกขึ้น กล้ามเนื้อบวมพองจนเสื้อขนสัตว์แน่นตึง
…สัตว์ประหลาด… สัตว์ประหลาด… รูม่านตาของบาร์ตันขยายออก ราวกับต้องการจะเห็นรูปลักษณ์ปัจจุบันของปาเชโก้ให้มากขึ้น
แต่เพียงพริบตา ความผิดปรกติบนตัวปาเชโก้พลันอันตรธานหาย มันถอนหายใจโล่งอก:
“พวกเราจะรอที่นี่”
“…ต้องหยิบมันขึ้นมาไหม?” บาร์ตันชี้ไปยังขวดแก้วและกระดาษบนพื้น
มุมปากปาเชโก้ขยับแผ่วเบา
“คุณจะหยิบก็ได้… แต่หลังจากนั้น คุณต้องรักษาระยะห่างกับผม”
บาร์ตันโพล่งขึ้น
“หมอกในขวดแก้วสร้างอิทธิพลกับร่างกายคุณ?”
“บนโลกใบนี้ สิ่งใดที่ยังไม่มั่นใจ อย่าลงมือทำส่งเดช” ปาเชโก้ยังคงตอบไม่ตรงคำถาม
คุยกับหมอนี่เหนื่อยชะมัด… บาร์ตันครุ่นคิดสักพัก ก้าวไปข้างหน้าเล็กน้อย หยุดลงใกล้กับขวดแก้วและกระดาษ
ทันทีที่ก้มตัวหยิบสิ่งของทั้งสอง แสงจางๆ สว่างขึ้นตรงหน้าบาร์ตัน
จากนั้น มันเห็นรองเท้าบูตคู่หนึ่ง
ข้างหนึ่งหัวแหลม อีกข้างหัวกลมแบบที่คนส่วนใหญ่นิยมสวม ดูราวกับเป็นรองเท้าของคนสองคน
หัวใจบาร์ตันพลันแน่นตึง มันรีบเหยียดตัวตรงมองไปข้างหน้า
อีกฝ่ายเป็นสตรี
สตรีคนดังกล่าวสวมกระโปรงยาวที่แบ่งครึ่งซีก ฝั่งหนึ่งเรียบง่าย ฝั่งหนึ่งซับซ้อน ฝั่งหนึ่งสีสันฉูดฉาด ฝั่งหนึ่งดำล้วน
เมื่อเห็นเดรสยาวที่ไม่สมมาตร ต่อมความหงุดหงิดภายในใจบาร์ตันพลันถูกกระตุ้น มันต้องการเข้าไปฉีกทำลายเสื้อผ้าอีกฝ่ายและมอบเดรสกับรองเท้าปรกติให้สวม
แรงกระตุ้นดังกล่าวปราศจากความปรารถนาที่เพศชายมีต่อเพศหญิง เป็นอารมณ์ที่ขับเคลื่อนด้วยความเกลียดชังและขยะแขยงทางรสนิยม
หลังจากฝืนข่มความอึดอัดที่ก่อตัวในใจ บาร์ตันเพ่งไปยังส่วนศีรษะของสตรี
หน้าตาน่ารัก จมูกโด่ง ริมฝีปากอวบอิ่ม ดวงตาสีเทาเข้มหายาก อายุราวยี่สิบถึงสามสิบ
บาร์ตันมิได้ประหลาดใจ เพียงรู้สึกว่ารูปลักษณ์ของอีกฝ่ายแปลกตาจนยากอธิบาย
ผ่านไปไม่กี่วินาที ในที่สุดมันก็เข้าใจต้นตอของความพิสดาร:
ใบหน้าของสตรีคนดังกล่าวปราศจากอารมณ์ ดูไม่เหมือนกับคนจริง แต่ใกล้เคียงหุ่นขี้ผึ้งมากกว่า
“แฟร์นันไปแล้ว” ปาเชโก้ รองหัวหน้าแผนกกฎระเบียบที่ดูเหมือนเคลื่อนไหวได้ช้าลง เปิดปากเป็นคนแรก
ดวงตาหญิงสาวเพ่งมองขวดแก้วและกระดาษในมือบาร์ตัน
“เขาบอกให้คุณทำอะไร”
“นำขวดใบนี้ไปที่ชานเมืองและกลับมาคืนในตอนเย็น นอกจากนั้น ช่วยเขาตามหาวัตถุที่ตรงกับในภาพบนกระดาษ”
สตรีคนดังกล่าวพยักหน้า
“ส่งขวดมาให้ฉัน”
กล่าวจบ คล้ายกับบาร์ตันได้ยินคำสั่งที่มิอาจขัดขืน รีบขว้างขวดแก้วไปหาอีกฝ่ายตามสัญชาตญาณ
“คุณคือทามาร่า?” ปาเชโก้ถือโอกาสถาม
สตรีคนดังกล่าวรับขวดแก้ว ก้มมองมันพลางกล่าว
“ฉันไม่คิดว่าจะมีใครจดจำพวกเราได้”
ปาเชโก้ยิ้ม
“อันที่จริง นับตั้งแต่ช่วงปลายยุคสมัยที่สี่จนถึงปัจจุบัน คนของตระกูลทามาร่ายังคงมีความเคลื่อนไหวอยู่ตลอด เพียงแต่มีจำนวนน้อยมาก… คุณเคยได้ยินชื่อชุมนุมสัมผัสวิญญาณไหม?”
“พวกเขาคือพวกเขา พวกเราคือพวกเรา” หลังจากสตรีตอบห้วนๆ ร่างของเธอจางลงและหายไปจากอากาศ
………………………………