“นี่มันเป็นไปได้อย่างไร! มันเก่งกาจขนาดนี้ได้อย่างไรกัน?”
“เจ้าฟ้าดินสี่ทลายนั้นเป็นตัวตนที่ปกครองฟ้าดิน! เจ้าฟ้าดินทั้งสองนั้นกลับไม่อาจต่อต้านพลังของยอดฝีมือเผ่าเทวานั้นได้หรือ?”
“ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมมันถึงบอกว่าเผ่าเทวาเป็นผู้ปกครองมหาพิภพถงเทียนคนก่อน ได้ดูมันตอนนี้แล้วคงเป็นเรื่องจริงแน่! พลังในระดับนี้มันน่าเกรงกลัวจนเกินไป!”
…
เจ้าฟ้าดินสี่ทลายนั้นเป็นตัวตนที่เปรียบเสมือนเทพเจ้าในจิตใจของคนทั้งหลาย ปกครองมหาพิภพถงเทียนไว้อย่างหนักแน่น
แต่ในเวลานี้ตัวตนระดับบรรพกาลของเผ่าเทวามันกลับได้บดขยี้ความเข้าใจนั้นของพวกเขาลงสิ้น
ในเวลาสั้นๆ นี้พวกเขาได้เชื่ออย่างสุดใจแล้วว่าเผ่าเทวามันคือเผ่าที่ถูกสวรรค์เลือกจริงๆ
ยี่ต้องกระอักเลือดออกมาจนต้องกล่าว “เจ้าเฒ่า อีกฝ่ายมันเก่งกาจจริงๆ อย่าได้ออมมือและใช้พลังที่แท้จริงของเราออกมาเถอะ”
โอสถบรรพกาลพยักหน้ารับก่อนจะขยับร่างกายจนเกิดเสียงกระดูกลั่นไปทั่วร่าง
สภาพชายแก่ร่างผอมแห้งในตอนแรกของโอสถบรรพกาลนั้นมันค่อยๆ เปลี่ยนกลายเป็นชายหนุ่มรูปงามผู้หนึ่ง
“ฮ่าๆๆ เจ้าเฒ่านี้ คิดเก็บสะสมกำลังและพลังงานไว้ ดูท่าเจ้าจะไม่มั่นใจเรื่องทุกข์ทลายที่ห้า” ยี่ยิ้มกว้าง
โอสถบรรพกาลนั้นหันกลับมามองด้วยคิ้วขมวดแน่น “ทุกข์ทลายที่ห้านั้นมันเป็นจุดที่เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย มีใครบ้างเล่าที่จะกล้าพูดว่ามั่นใจ? เดิมทีหลังจากประลองครั้งนี้บรรพกาลผู้นี้ก็คิดจะเก็บตัววิเคราะห์เต๋าและค่อยไปท้าทายมันหลังจากนั้น!”
เพราะแม้การประลองนี้มันจะให้ประโยชน์แก่เย่หยวนอย่างมากแต่มันก็ให้ประโยชน์แก่โอสถบรรพกาลเช่นกัน
ด้วยความสามารถพรสวรรค์ของโอสถบรรพกาลนั้นการจะบรรลุเต๋ามันคงมิใช่เรื่องยากเย็นเลย
“เจ้าเฒ่า ตาเจ้าแล้ว!” โอสถบรรพกาลหันไปบอกยี่
ยี่หัวเราะขึ้นมาพร้อมค่อยๆ หดร่างกายลง
ภายใต้สายตาของทุกผู้คนนั้นมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลผู้เลื่องชื่อได้กลายร่างเปลี่ยนเป็นสุนัขสีดำสนิท!
เจ้าสุนัขตัวนี้มันมีขนสีดำวาวสองหูใหญ่ตกลง แต่ดวงตาของมันนั้นกลับดุร้ายเปี่ยมพลัง
เป็นเวลานี้เองที่คนทั้งหลายได้รู้ว่าแท้จริงแล้วมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลนั้นเป็นอสูรเผ่าสุนัขดำ
แต่หลังจากกลับร่างมามหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลนั้นก็ยิ่งแสดงความดุร้ายออกมามากกว่าเก่า
หยวนเว่ยที่ได้เห็นก็หัวเราะขึ้น “ที่แท้มันเป็นลูกหลานของหมามังกร ไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดจึงเก่งกาจปานนั้น หมามังกรนั้นมันเป็นตัวตนสูงส่งเทียบเคียงกับแปดเผ่าศักดิ์สิทธิ์เผ่าอสูรได้ แต่พวกมันนั้นกลับคิดทรยศเผ่าเทวาพร้อมๆ กับพวกมนุษย์จึงถูกบดขยี้ลง ไม่นึกเลยว่าในโลกหล้านี้จะยังมีลูกหลานของพวกมันอยู่”
ร่างกายใหญ่โตของยี่นั้นสั่นสะท้านขึ้นมาพร้อมตะโกนลั่นอย่างโกรธแค้น “ข้าก็สงสัยมานานว่าทำไมเผ่าหมามังกรเราถึงได้กลายมามีสภาพเช่นนี้ ที่แท้มันเป็นเพราะพวกเจ้าเผ่าเทวา! เช่นนั้นวันนี้ก็ดี ข้าจะได้สะสางความแค้นของเผ่าพันธุ์!”
พูดจบเขาก็พุ่งตัวเป็นสายฟ้าสีดำเข้าหาตัวหยวนเว่ย
พร้อมๆ กันนั้นทางโอสถบรรพกาลก็ก้าวออกมาปะทะกับหยวนเว่ยเช่นกัน
หลังจากคนทั้งสองกลับไปใช้ร่างสมบูรณ์แล้วมันย่อมจะมีพลังการต่อสู้ที่เหนือล้ำกว่าเก่ามาก
น่าเสียดายที่ว่าหยวนเว่ยนั้นเองก็เก่งกาจล้ำ เก่งจนถึงขั้นที่แม้สองคนจะช่วยเหลือกันอย่างไรมันก็ไม่อาจกดดันอีกฝ่ายได้ลง
คนทั้งสามนั้นต่อสู้กันอย่างหนักหน่วงจนทำให้ฟ้าดินเปลี่ยนสี มิติแตกแยกพังทลาย!
หลังปะทะกันไปได้อีกพักหนึ่งเขาทหัยเมฆานั้นมันก็มีรอยบแยกมิติเกิดขึ้นจนเกิดกระแสคลื่นห้วงมิติหลั่งไหลไปทั่ว
อาณาจักรทหัยเมฆาที่เดิมทีงดงามนั้นมันได้แตกสลายพังทลายลงกลายเป็นลานกว้าง เหล่ายอดฝีมือทั้งหลายของอาณาจักรทหัยเมฆานั้นต่างตายตกลงเต๋าดับสูญ
แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นหยวนเว่ยก็ยังกดดันสองเจ้าฟ้าดินสี่ทลายนี้ไว้ได้
พลังของเขานั้นยังคงเหนือล้ำกว่าคนทั้งสองไปขั้นหนึ่ง แม้ว่าทั้งสองจะแปลงร่างกลับมันก็ยังไม่อาจจะเอาชนะตัวเขาได้แม้แต่น้อย
แต่มันมิใช่แค่คนทั้งสามเท่านั้นที่ต่อสู้กันอย่างดุเดือด เพราะเหล่าบรรพกาลทั้งหลายนั้นเองก็เป็นเจ้าฟ้าดินกันไม่น้อยการต่อสู้ของพวกเขากับเหล่ายอดฝีมือเผ่าเทวานั้นเองมันก็ได้ทำให้ฟ้าดินต้องแตกสลาย
แต่จะอย่างไรทางเผ่าเทวามันก็เตรียมการโจมตีมาดี ยอดฝีมือของพวกเขานั้นมากล้น เหนือล้ำกว่าจำนวนของฝ่ายมนุษย์ไปไม่น้อย
การปะทะนี้มันไม่อาจจะเรียกว่าการต่อสู้ได้นัก เพราะเหล่ามนุษย์นั้นต่างค่อยๆ ตายตกลงไปตามๆ กันทำให้สภาพการต่อสู้นี้เป็นดั่งโศกนาฏกรรม
ทางเย่หยวนเองก็ลำบากไม่แพ้คนอื่นๆ เช่นกัน
เพราะว่าตัวเขานั้นถูกอีกฝ่ายหมายหัว ยอดฝีมือที่ส่งมาจัดการกับเขามันก็มากล้ำกว่าคนอื่นๆ ไปนัก!
แล้วกองกำลังทั้งสองนี้มันคือกองกำลังระดับใด?
มันคือทีมของยอดคนกว่ายี่สิบที่สามารถสังหารจักรพรรดิเทพสวรรค์ได้กว่าห้าสิบคนง่ายๆ!
ใช่ สังหาร มิใช่เอาชนะ!
การสังหารและเอาชนะนั้นมันแตกต่างกันสิ้นเชิง
แต่กองกำลังยิ่งใหญ่นี้กลับถูกส่งมาจัดการเย่หยวนเพียงแค่คนเดียว มันย่อมจะแสดงได้อย่างชัดเจนว่าเผ่าเทวานั้นให้ค่าเย่หยวนมากแค่ไหน
เย่หยวนนั้นใช้ค่ายกลดาบร่ายรำแต่จะอย่างไรพื้นที่ป้องกันของเขามันก็ค่อยๆ เล็กลงมาเรื่อยๆ อย่างไม่อาจหยุดห้าม
เพราะอีกฝ่ายนั้นเก่งกาจจนเกินไปบวกกับความที่พลังบ่มเพาะของเขามันต่ำมาก
“เร่งมือเข้า เจ้าเด็กคนนี้มันจะไม่อาจทนทานไหวแล้ว!” หยวนซิ่วกล่าวขึ้นมา
เหล่ามารนรกทั้งหลายที่ได้ยินคำสั่งก็ยิ่งโจมตีเข้ามาอย่างบ้าคลั่งจนทำให้เย่หยวนแทบไม่อาจทนรับไหว
“ไม่ได้การ! เจ้าพวกนี้มันแข็งแกร่งเกินไป หากข้ายังออมมือไว้มีหวังคงไม่ได้มีชีวิตรอดไปแน่!”
เย่หยวนนั้นตัดสินใจลงและใช้เวลาชะงักออกมาในทันที
“หยุด!”
ในวินาทีเดียวกันนี้เขาก็หยิบธนูสาบานสังหารเทพออกมา
พลังของเครื่องรางเต๋านั้นมันทำให้สีหน้าของพวกหยวนซิ่วเปลี่ยนสี
ธนูง้าง ดาบขึ้นคัน!
ดาบแสงกว่ายี่สิบนั้นหายวับไปก่อนที่จะปะทะเข้ากับร่างของพวกหยวนซิ่วทั้งหลายในทันที
ปัง ปัง ปัง…
ระเบิดรุนแรงนี้มันได้สร้างความเสียหายให้แก่พวกเขาอย่างมาก
แต่จะอย่างไรพวกหยวนซิ่วนั้นมันก็เก่งกาจเหนือล้ำ แม้ว่าพลังของธนูสาบานสังหารเทพจะรุนแรงปานใดมันก็ยังไม่พอที่จะสังหารพวกเขาลง
แต่เย่หยวนเองก็ไม่คิดหยุด รีบง้างธนูขึ้นอีกครั้งทันที!
การโจมตีที่สองถูกปล่อยออกมา!
ปัง ปัง ปัง…
หยวนซิ่วและพวกนั้นยังไม่ทันจะได้ตั้งตัวก็ถูกธนูชุดที่สองยิงเข้าใส่!
เมื่อยิงออกมาครบสองครั้งธนูสาบานสังหารเทพมันก็แทบจะกลืนกินปราณเทวะของเย่หยวนจนหมดสิ้น
แน่นอนว่าพลังโจมตีที่เหนือล้ำมันย่อมจะต้องการปราณเทวะที่มากมาย
เวลานี้เย่หยวนมีปราณเทวะหนาแน่นไม่แพ้จักรพรรดิเทพสวรรค์สองดาว
แต่ถึงจะอย่างนั้นมันก็ยังมากพอจะยิงได้แค่สองครั้งเท่านั้น
แต่มันยังไม่จบ!
เพราะเหล่าเผ่าเทวาและมารนรกทั้งหลายนั้นย่อมจะไม่มีทางตายด้วยการโจมตีแค่นี้
เย่หยวนนั้นยกนิ้วขึ้นวาดค่ายกลกลางอากาศเพื่อเริ่มหลอมโอสถ!
เขานั้นชิงเอาสมุนไพรวิญญาณมากมายมาจากตระกูลสายเลือดเร้น มันมากพอที่จะเอามาหลอมโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับแปดได้ไม่น้อย
เย่หยวนนั้นไม่ได้หลอกลวงโอสถบรรพกาลใดๆ เขานั้นเห็นถึงพลังต้นแนวคิดในการประลองนั้นจริงๆ!
โอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับแปดของเขานี้มันจึงถูกหลอมขึ้นมาด้วยความรวดเร็วสุดล้ำ
แค่อึดใจโอสถมันก็ก่อตัวขึ้น!
ในเวลาเช่นนี้พวกหยวนซิ่วทั้งหลายย่อมจะไม่คิดปล่อยให้เย่หยวนได้มีโอกาสหลอมโอสถใดๆ
แต่จะอย่างไรเย่หยวนนั้นก็ลัดขัดตอนในการหลอมไปมากเพื่อจะประหยัดเวลาทำให้ตัวโอสถก่อร่างขึ้นมาในเวลาพริบตา
แต่ถึงจะทำอย่างนั้นโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับแปดที่เขาหลอมขึ้นมานี้มันก็ยังขึ้นมาถึงขั้นเทวะม่วง
จากนั้นเย่หยวนก็ยกโอสถขึ้นกินอย่างไม่ลังเลก่อนจะง้างคันธนูขึ้นยิ่งอีกครั้งหนึ่ง!
เสียงระเบิดดังลั่นดังขึ้นตาม
จากนั้นเขาก็หลอมแล้วยิง! หลอมแล้วยิงไปอีก!
แต่จะอย่างไรพลังที่เพิ่มเติมเข้ามามันก็ไม่อาจจะเทียบกับพลังที่เสียไปกับการยิงธนูสาบานสังหารเทพ
หลังยิงไปได้อีกราวสิบครั้งเย่หยวนก็มีสภาพไม่ต่างจากผีดิบผอมแห้งไร้ชีวิต
แต่แน่นอนว่าทางพวกหยวนซิ่วทั้งหลายนั้นได้ตายลงสิ้น
เหล่ามารนรกนั้นตายลงอย่างไม่เหลือซากส่วนตัวหยวนซิ่วและหยวนซื่อเองก็ได้รับบาดเจ็บกันสาหัสจนมีลมหายใจรวยริน
ภาพตรงหน้านี้มันทำให้ยอดฝีมือทั้งหลายต้องอ้าปากค้าง!
“ใช้ต้นกำเนิดเต๋าดาบกับพลังของเครื่องรางเต๋าปล่อยดาบนั้นออกมากว่าสิบครั้งสังหารมารนรกไปนับยี่สิบและยังทำร้ายเผ่าเทวาจนบาดเจ็บสาหัส! นี่… มันเป็นพลังยุทธระดับใดกัน?”
“หลอมโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับแปดในพริบตา! ข้าไม่รู้เลยวจริงๆ ว่ารองมหาปราชญ์นั้นก้าวขึ้นถึงอาณาจักรใดแล้วกันแน่!”
“แข็งแกร่ง! แข็งแกร่งเสียจริงๆ! ติดแค่ว่ารองมหาปราชญ์นั้นมีพลังบ่มเพาะต่ำเกินไป! หากเขานั้นเป็นจักรพรรดิเทพสวรรค์เก้าดาวแล้วเขาอาจจะพาเราออกไปจริงๆ ก็ได้!”
…
พลังต่อสู้ของเย่หยวนนั้นมันไม่ได้ทำให้แค่ฝ่ายมนุษย์ตื่นตะลึง เพราะเวลานี้แม้แต่เหล่าเผ่าเทวาทั้งหลายก็ยังต้องอ้าปากค้าง
เมื่อใดที่เผ่าเทวาต่อสู้กับเผ่ามนุษย์นั้น พวกเขาทั้งหลายย่อมจะไม่เคยต้องลำบากลำบนใดๆ
แต่เย่หยวนนั้นกลับเอาชนะมารนรกกว่ายี่สิบและยังทำร้ายเผ่าเทวาทั้งสองจนบาดเจ็บสาหัส
นี่มันเป็นพลังการต่อสู้ที่น่ากลัวจนเกินไปแล้ว!
……………..