ตอนที่ 2546

War sovereign Soaring The Heavens

ตอนที่ 2,546 : เข่นฆ่าเข้าไปในวังคลื่นสวรรค์!

 

เป็นธรรมดาที่ต้วนหลิงเทียนจะไม่ล่วงรู้เรื่องราวในดินแดนแห่งทวยเทพ…

 

เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเค่อเอ๋อกำลังจะเข้าสู่สมรภูมิเทพที่อันตรายถึงขั้นเก้าตายหนึ่งรอด เพียงเพราะอยากยกระดับความแข็งแกร่งส่วนตัว และหมายเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของเขาในอีกพันปีหลังจากนี้…!

 

หากต้วนหลิงเทียนรู้ล่ะก็ คงอดไม่ได้ที่จะร้อนรนกังวลใจถึงขีดสุด และอยากให้แผ่นหลังมีปีกงอกเงยจะได้โบยบินไปหยุดเค่อเอ๋อเอาไว้…

 

หนึ่งเดือนต่อมา

 

ต้วนหลิงเทียนได้พาถังเซี่ยวเซี่ยวข้ามห้วงอวกาศสุดไพศาลมาถึงดาราจักรคอสเตอร์อีกครั้ง…

 

ตอนแรกนั้น แม้จะใช้ความเร็วสูงสุด แต่ต้วนหลิงเทียนก็ใช้เวลาเดินทางจากดาราจักรคอสเตอร์ไปยังดาราจักรทางช้างเผือกทั้งสิ้น 3 เดือน…

 

ทว่าตอนนี้เขาใช้เวลาเพียงแค่เดือนเดียวเท่านั้น ในการพาถังเซี่ยวเซี่ยวย้อนกลับมา

 

เวลาที่ใช้ในการเดินทางหดสั้นลงไปอย่างมาก และทั้งหมดเป็นเพราะเขาเข้าใจ 13 กระบี่บงกชฟ้าถึงขั้นตอนไร้ตำหนิ และนั่นทำให้ความเร็วในการเดินทางของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก!

 

ต้องทราบด้วยว่าต้วนหลิงเทียนที่เข้าใจ 13 กระบี่บงกชฟ้าถึงขั้นตอนไร้ตำหนิแล้ว ยามลงมือด้วยพลังทั้งหมด ก็มีความแข็งแกร่งเทียบได้กับตัวตนขอบเขต จินเซียน ของระนาบเทวโลก!

 

“ไม่รู้ผู้คนในดาราจักรคอสเตอร์แห่งนี้จะลืมพวกเราไปแล้วรึยัง?”

 

เมื่อเดินทางมาถึงดาวแม่ของดาราจักรคอสเตอร์อย่างดาวแซทเทิลอีกครั้ง ถังเซี่ยวเซี่ยวก็อดไม่ได้ที่จะพึมพำออกมาด้วยสงสัย ขณะเหินร่างมายังอาคารที่มีค่ายกลเคลื่อนย้ายระหว่างดวงดาวจัดตั้งเอาไว้

 

ในตอนที่ต้วนหลิงเทียนกับนางถูกเรือรบระดับภัยพิบัติทั้ง 18 ลำ ของตระกูลการ์นิเย่ปิดล้อมเอาไว้ ฉากเรื่องราวทั้งหมดก็ได้ถูกถ่ายทอดสดไปทั่วดาราจักรคอสเตอร์

 

นางจึงรู้ดีแก่ใจ

 

ว่าในวินาทีนั้นทั้งดาราจักรคอสเตอร์ แทบไม่มีใครไม่รู้จักหน้าค่าตาของนางกับต้วนหลิงเทียน

 

“เฮ่ย! นะ…นั่นมัน 2 ผู้ฝึกตนเมื่อ 4 เดือนก่อนไม่ใช่รึไง!?”

 

“เวรแล้วไง! พวกมันมากันทำไมอีก!?”

 

“ทั้งคู่…คงไม่ได้ต้องการอะไรหรอกนะ ถึงย้อนกลับมาที่นี่?”

 

 

เมื่อต้วนหลิงเทียนกับถังเซี่ยวเซี่ยวมาปรากฏตัวหน้าอาคารที่มีค่ายกลเคลื่อนย้ายระหว่างดวงดาวจัดตั้งไว้ ก็มีหลายคนที่จดจำทั้งคู่ได้ทันที ยังพากันตื่นตระหนกเสียขวัญไม่น้อย

 

ทั้งหลายยังมองทั้ง 2 ด้วยสายตาขยาดราวเป็นพาหะของโรคระบาด…

 

มีไม่น้อยที่เร่งยกอุปกรณ์มาถ่ายทั้งคู่ และเริ่มแพร่ภาพสด!

 

“ดูเหมือนพวกมันจะยังไม่ลืมพวกเราสินะ…”

 

ถังเซี่ยวเซี่ยวยิ้มบางๆ

 

คนของดาราจักรคอสเตอร์ที่อยู่ไม่ไกล พอได้ยินคำพูดลอยๆนี้ของถังเซี่ยวเซี่ยว มุมปากของพวกมันก็อดไม่ได้ที่จะกระตุกขึ้นมาตงิดๆ

 

ผู้ฝึกตนหญิงคนนี้ แลดูจะชอบใจไม่น้อยที่คนในดาราจักรคอสเตอร์ของพวกมันยังไม่ลืม?

 

ล้อกันเล่นหรือท่านย่าน้อย!

 

ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่เวลายังพึ่งผ่านพ้นไปแค่ไม่กี่เดือนเลย! ต่อให้ผ่านไปอีกหลายปี…คนของดาราจักรคอสเตอร์ก็ไม่มีวันลืมหน้าบุคคลทั้ง 2 แน่นอน!!

 

ใครจะไปลืมได้ลง ผู้ฝึกตนชายหนุ่มคนนั้น แค่พุ่งชนก็ทำลายเรือรบระดับภัยพิบัติได้หน้าตาเฉย! และไม่เพียงแต่จะรอดจากการระเบิดของเรือรบ ยังรอดชีวิตจากการระดมยิงเต็มอัตราศึกของเรือรบ 17 ลำ!!

 

ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาของดาราจักรคอสเตอร์…ไม่เคยปรากฏตัวผู้ฝึกตนที่ทรงพลังระดับนี้มาก่อนเลยสักครั้ง!

 

และเหตุการณ์ที่พึ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่เดือนก่อน ก็ได้ถูกบันทึกให้เป็นประวัติการณ์ของดาราจักรคอสเตอร์เรียบร้อย และชื่อเรื่องก็คือ…

 

มนุษย์ที่ร้ายกาจดั่งเทพ!

 

“เฮ่อ…”

 

“ฟู่ว…”

 

จนเมื่อเห็นต้วนหลิงเทียนกับถังเซี่ยวเซี่ยวอันตรธานหายไปจากค่ายกลเคลื่อนย้ายระหว่างดวงดาว คนดาราจักรคอสเตอร์ที่อยู่รอบๆค่อยระบายลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก

 

“เฮ่อ ทั้งคู่แค่ผ่านทางจริงๆด้วย ทำเอาฉันกลัวจนหัวใจแทบวาย!”

 

“แต่ไม่คิดเลยว่าจะได้เห็นทั้งคู่ตัวเป็นๆแบบนี้…ให้ตายเถอะ เจอจังๆแล้วโคตรน่ากลัวเลยอะ! ให้ความรู้สึกน่าเกรงขามกว่าเห็นในถ่ายทอดสดคนละโลก!!”

 

“จริง…เมื่อกี้เฮียแทบลืมหายใจแน่ะ…”

 

“แต่ดูเหมือนเฮียจะลืมอั้นฉี่นะ…อย่างฉุน!”

 

 

การมาเยือนดาราจักรคอสเตอร์อีกครั้งของต้วนหลิงเทียนกับถังเซี่ยวเซี่ยวย่อมสร้างความกดดันให้คนของดาราจักรคอสเตอร์ไม่น้อย

 

จนเมื่อยืนยันกันได้แล้วจริงๆ ว่าทั้งคู่ได้จากไปแล้วจริงๆ ดาราจักรคอสเตอร์ค่อยหวนคืนสู่ความสงบอีกครั้ง

 

เรื่องนี้เผยให้เห็นว่าการปรากฏตัวของต้วนหลิงเทียนกับถังเซี่ยวเซี่ยวมีอำนาจครอบงำจิตใจของพวกมันขนาดไหน!

 

เป็นธรรมดาว่าต้วนหลิงเทียนไม่ได้รู้เรื่องพวกนี้

 

แต่ถึงจะรู้เขาก็ไม่ได้รู้สึกภาคภูมิใจอะไร เพราะอย่างไรที่นี่ก็เป็นแค่ดาราจักรที่ถูกปกครองโดยเทคโนโลยีระดับ SS เท่านั้น…

 

และในระนาบเหยียนหวงแห่งนี้ ดาราจักรที่ยืนอยู่ ณ จุดสูงสุดของเทคโนโลยี ก็ถือครองเทคโนโลยีระดับ SSS! อาวุธที่ร้ายแรงที่สุดก็คือ เรือรบระดับโลกาวินาศ!!

 

เรียกว่านั่นคือเทคโนโลยีที่ทรงพลังอำนาจสูงสุดของระนาบเหยียนหวงแล้ว!

 

และในดาราจักรที่ถูกปกครองด้วยเทคโนโลยีนั้น ก็มีการจัดแบ่งไว้เป็นระดับต่างๆ ได้แก่ ระดับ SSS ระดับ SS ระดับ S ระดับ A ระดับ B ระดับ C เรียงจากสูงไปต่ำ

 

ดาราจักรทางช้างเผือกนั้น เมื่อนำมามองในมุมของทั้งระนาบเหยียนหวงแล้ว ก็เป็นดาราจักรที่ถูกปกครองด้วยอารยธรรมระดับ A เท่านั้น…

 

เทียบกับดาราจักรคอสเตอร์แล้ว ยังอ่อนด้อยกว่ากัน 2 ระดับ…

 

อย่างไรก็ตาม จะนับประสาอะไรกับต้วนหลิงเทียนที่ตอนนี้มีพลังเพิ่มพูนขึ้น…

 

กระทั่งเป็นต้วนหลิงเทียนในช่วงที่พึ่งมาถึงดาราจักรคอสเตอร์หยกๆ ก็ไม่ใช่ตัวตนที่ดาราจักรที่ถูกปกครองโดยอารยธรรมระดับ SSS จะต่อกรได้ด้วยซ้ำ!

 

เพราะแม้แต่เรือรบระดับโลกาวินาศ ก็ไม่ได้นับเป็นอะไรในสายตาเขาเลย

 

เพราะสุดท้ายแล้วความแข็งแกร่งของเขา เดิมทีก็เทียบได้กับเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์!

 

 

“ต้วนหลิงเทียนอย่างไรหากคิดจะไประนาบเซียน พวกเราก็ต้องผ่านค่ายกลเคลื่อนย้ายประจำดาราจักรเชียนจีที่ตั้งอยู่ไม่ห่างจากนิกายถังข้าซักเท่าไหร่…เช่นนั้นข้าขอกลับไปคืนแผนที่ดวงดาวก่อนได้หรือไม่?”

 

ในขณะที่กำลังใช้งานค่ายกลเคลื่อนย้ายระหว่างดวงดาวแห่งหนึ่ง ถังเซี่ยวเซี่ยวก็หันไปถามต้วนหลิงเทียนข้างๆ

 

“ได้สิ”

 

ต้วนหลิงเทียนพยักหน้า “ข้าจะไปนิกายถังพร้อมเจ้าด้วย”

 

ไม่นานหลังจากนั้นต้วนหลิงเทียนกับถังเซี่ยวเซี่ยวก็เดินทางผ่านค่ายกลเคลื่อนย้ายระหว่างดวงดาวต่างๆ สุดท้ายก็กลับมาถึงดาราจักรเชียนจีที่ถูกปกครองโดยนิกายถัง

 

และค่ายกลเคลื่อนย้ายระหว่างดวงดาวประจำดาราจักรเชียนจีนั้นก็ตั้งอยู่ในดาวซูถัง อันเป็นดาวเคราะห์ต้นกำเนิด…

 

เมื่อกลับมาถึงเขตนิกายถังอีกครั้ง ถังเซี่ยวเซี่ยวก็อารมณ์ดีไม่น้อย

 

อย่างไรก็ตามพอเข้ามาเจอประมุขนิกายถังอย่างถังชง และได้รับทราบเรื่องราวจากอีกฝ่าย สีหน้าถังเซี่ยวเซี่ยวก็เปลี่ยนไปใหญ่หลวง!

 

“ท่านบรรพบุรุษผู้เฒ่า…ตายแล้ว?”

 

พอถังเซี่ยวเซี่ยวได้รับทราบเรื่องราววการตายของอาวุโสสูงสุดอย่างถังจงยี่ ร่างบางก็เซไปจนแทบล้มทั้งยืน หยาดน้ำตายังไหลอาบแก้ม พาลให้ใบหน้าที่งดงามแลดูน่าเวทนาสงสารนัก

 

“เกิดอะไรขึ้น?”

 

เมื่อต้วนหลิงเทียนได้ยินเรื่องราวที่ถังชงกล่าวบอกถังเซี่ยวเซี่ยว ลึกลงไปในแววตาเขาก็เผยความโมโหทั้งไม่สบอารมณ์ขึ้นมาทันที จึงอดไม่ได้ที่จะถามถังชงออกไปเสียงหนัก

 

“เป็นเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ของวังคลื่นสวรรค์…บุกมาลงมือ”

 

ถังชงได้แต่เผยยิ้มขื่นขม “เหตุผลเป็นเพราะนิกายถังของพวกเรากล้าผิดสัญญาวิวาห์วังคลื่นสวรรค์ของพวกมัน…เช่นนั้นมันจึงฆ่าผู้อาวุโสถังจงยี่ทิ้ง โดยบอกว่านี่คือการลงโทษที่นิกายถังของพวกเรากล้าหักหน้าวังคลื่นสวรรค์โดยการล้มเลิกสัญญาวิวาห์กับพวกมัน”

 

“ข้าเองก็ไม่คิดเลย…ว่าผู้เฒ่าคนนั้นของวังคลื่นสวรรค์ จะถึงขั้นออกโรงด้วยตัวเอง…”

 

กล่าวถึงท้ายประโยค เสียงของถังชงก็เผยโทสะทั้งความไม่พอใจล้นปรี่

 

อย่างไรก็ตามต่อให้มันโกรธทั้งไม่ยินยอมพร้อมใจขนาดไหน มันก็ทำอะไรไม่ได้

 

เพราะสุดท้ายแล้วนั่นก็คือตัวตนขอบเขตเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์!

 

แทบจะทันทีที่ถังชงกล่าวจบคำ และต้วนหลิงเทียนไม่ทันได้ตอบสนองใดๆ

 

สองตาที่คล้ายเปลี่ยนเป็นก้อนโลหิตแดงฉานจากการรองไห้ของถังเซี่ยวเซี่ยวก็หันมามองเขา รอยยิ้มขื่นขมคลี่กางออกมาพร้อมแววตาเยียบเย็น

 

เป็นธรรมดาว่าสายตาเยียบเย็นนี้ไม่ได้มุ่งเป้ามาที่เขา หากแต่เป็นเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ของวังคลื่นสวรรค์ที่มาลงมือ…

 

“ต้วนหลิงเทียน ช่วยข้าฆ่ามันที!”

 

“ขอเพียงเจ้าช่วยฆ่ามันให้ข้า…ทั้งชีวิตของข้าถังเซี่ยวเซี่ยวเป็นของเจ้า!”

 

ตอนนี้ถังเซี่ยวเซี่ยวคล้ายไม่เหลือเหตุผลและสติยั้งคิดใดๆสืบไป! นางมองต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาข้นแค้นกล่าวออกด้วยน้ำเสียงเล็ดลอดไรฟัน!!

 

สำหรับถังเซี่ยวเซี่ยวนั้น ถังจงยี่ไม่ใช่แค่บรรพบุรุษของนาง อีกฝ่ายดูแลนางดียิ่งกว่าบิดาหรือปู่แท้ๆเสียอีก ยังเป็นคนชี้แนะการฝึกปรือของนางมาโดยตลอด เห็นนางไม่ต่างอะไรจากหลานสาวแท้ๆ…

 

นางเองก็เห็นถังจงยี่ไม่ต่างอะไรจากปู่แท้ๆเช่นกัน

 

ตอนนี้พอมารู้ว่าถังจงยี่ต้องมาถูกฆ่าตายเพราะมีนางเป็นต้นเหตุ ในใจถังเซี่ยวเซี่ยวย่อมท่วมท้นไปด้วยความรู้สึกผิด อีกทั้งยังเคียดแค้นคนที่ฆ่าถังจงยี่จับใจ

 

ยังแทบรอสับร่างอีกฝ่ายให้แหลกเป็นหมื่นๆชิ้นๆไม่ไหว!

 

อย่างไรก็ตามนางรู้ตัวดี ว่าอาศัยพลังฝีมือของนาง แม้จะไปทวงแค้นที่วังคลื่นสวรรค์ ก็รังแต่จะไปรนหาที่ตายเท่านั้น

 

เช่นนั้นตอนนี้นางจึงได้แต่ฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่ต้วนหลิงเทียน

 

เพื่อล้างแค้นให้บรรพบุรุษแล้ว นางยินดีขายชีวิตของตัวเอง!

 

“นำทางไป”

 

ต้วนหลิงเทียนย่อมสัมผัสได้ถึงความโกรธแค้นถึงขีดสุดของถังเซี่ยวเซี่ยวดี เขาจึงไม่คิดจะกล่าวปลอบใจอะไรให้เสียเวลา เพราะเขารู้ดีว่าตอนนี้จะให้พูดปลอบอะไรก็ไร้ประโยชน์…

 

“ขอบคุณเจ้า”

 

หลังได้ยินวาจา 3 พยางค์ของต้วนหลิงเทียน ร่างถังเซี่ยวเซี่ยวก็สะท้านไปทันใดเร่งพยักหน้าอย่างหนักเพื่อขอบคุณต้วนหลิงเทียน

 

จากนั้นภายใต้สายตาตกตะลึงของถังชง ถังเซี่ยวเซี่ยวก็พุ่งนำไปยังค่ายกลเคลื่อนย้ายระหว่างดวงดาวทันที

 

ต้วนหลิงเทียนก็ตามถังเซี่ยวเซี่ยวไปยังค่ายกลเคลื่อนย้ายระหว่างดวงดาว และเดินทางออกจากดาราจักรเชียนจีที่ถูกปกครองโดยนิกายถัง ไปถึงดาราจักรที่ถูกวังคลื่นสวรรค์ปกครอง

 

ดาราจักรคลื่นสวรรค์!

 

วังคลื่นสวรรค์นั้นก็ตั้งอยู่ในดาวเคราะห์ต้นกำเนิดของดาราจักรคลื่นสวรรค์ และยังเป็นสถานที่ตั้งค่ายกลเคลื่อนย้ายระหว่างดวงดาวอีกด้วย ต้วนหลิงเทียนกับถังเซี่ยวเซี่ยวจึงไม่ต้องลำบากไปไหนไกล

 

ฟุ่บ! ฟุ่บ!

 

เช่นนั้นภายใต้การเหินนำของถังเซี่ยวเซี่ยว ต้วนหลิงเทียนกับนางก็บุกมาถึงวังคลื่นสวรรค์ได้อย่างง่ายดาย ปรี่ตรงเข้าสู่พื้นที่หลัก!

 

“ผู้ใดหาญกล้าบุกรุกวังคลื่นสวรรค์!”

 

ทันทีที่ต้วนหลิงเทียนกับถังเซี่ยวเซี่ยวบุกมายังเขตของวังคลื่นสวรรค์ เหล่าศิษย์ที่ลาดตระเวนอยู่ก็ตอบสนองทันที พวกมันเร่งรุดออกไปสกัดต้วนหลิงเทียนกับถังเซี่ยวเซี่ยวตามหน้าที่

 

ฉัวะ! ฉัวะ! ฉัวะ! ฉัวะ! ฉัวะ!

 

 

หากทว่าถังเซี่ยวเซี่ยวเพียงเห็นหน้าพวกมัน ก็ปะทุพลังสังหารซัดอาวุธลับปลิดชีพพวกมันทันใด! ไม่พูดไม่จาอะไรแม้ครึ่งคำ!!

 

การเข่นฆ่าสังหารอันดุร้ายนี้ ทำให้ต้วนหลิงเทียนที่ติดตามมาด้านหลังส่ายหน้าเบาๆ…

 

อย่างไรก็ตามต้วนหลิงเทียนเข้าใจดีว่าตอนนี้ถังเซี่ยวเซี่ยวอาฆาตแค้นขนาดไหน

 

ในระหว่างที่เขากับถังเซี่ยวเซี่ยวเดินทางไปยังโลกนั้น นางได้เล่าเรื่องราวต่างๆให้เขาฟังมากมาย ในนั้นยังมีเรื่องบรรพบุรุษของนางอย่างถังจงยี่ด้วย ว่าอีกฝ่ายดีต่อนางอย่างไร กระทั่งนางยังสนิทกับบรรพบุรุษคนนี้ดีกว่าครอบครัวเสียอีก ทำให้เขารู้ดีว่าความผูกพันระหว่างถังเซี่ยวเซี่ยวกับอีกฝ่ายเป็นอย่างไร…

 

และแน่นอนว่าการบุกเข้ามาลงมือสังหารคนอย่างอำมหิตของถังเซี่ยวเซี่ย ย่อมทำให้วังคลื่นสวรรค์แตกตื่นไม่น้อย!