ตอนที่ 2,547 : หยางอวี้ถิง
“พลุสัญญาณนั่นมัน…มีคนบุกเข้ามาในวังคลื่นสวรรค์ของพวกเรางั้นเหรอ!?”
“ใครมันช่างกล้า!?”
…
ไม่นานความเคลื่อนไหวของถังเซี่ยวเซี่ยวก็สร้างความแตกตื่นให้คนของวังคลื่นสวรรค์ไม่น้อย!
ทำให้หลังจากผ่านเขตหน้าของวังคลื่นสวรรค์มาได้ไม่ทันไร ต้วนหลิงเทียนกับถังเซี่ยวเซี่ยวก็ต้องเผชิญหน้ากับกลุ่มคนที่เหินมาจากทั่วสารทิศเพื่อขัดขวาง…
ช่วงแรกๆ ก็มีแค่ไม่กี่สิบคน แต่หลังจากนั้นไม่ทันไรก็เจอผู้ที่ออกมาเป็นร้อยๆ!
อีกทั้งพลังฝึกปรือของศิษย์เหล่านี้ก็ไม่ธรรมดาอีกด้วย
เพียงแผ่สำนึกเทวะออกไป ต้วนหลิงเทียนก็ทราบได้ทันที
ว่าในบรรดาเหล่าศิษย์ที่ออกมาหมายสกัดพวกเขานั้น ที่อ่อนแอที่สุดก็เป็นถึงตัวตนเซียนสวรรค์ 7 เปลี่ยน!
ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีเหล่าเซียนอมตะเสเพลที่มพลังฝีมือไม่ใช่ชั่วรวมอยู่ด้วย
“ครึ่งก้าวเซียนอมตะที่มีพลังทัดเทียมเซียนอมตะเสเพล 5 ทัณฑ์งั้นเรอะ!?”
เซียนอมตะเสเพล 5 ทัณฑ์คนหนึ่งที่พุ่งมารับมือถังเซี่ยวเซี่ยว อดไม่ได้ที่จะแปลกใจ เพราะอีกฝ่ายสามารถต้านทานรับมือมันได้อย่างไม่เสียเปรียบ สุดท้ายก็ได้แต่ปะทะพัวพันยากจะพิชิตชัย!
สตรีในชุดคลุมลมดำเบื้องหน้าของมัน เป็นแค่ครึ่งก้าวเซียนอมตะแท้ๆ แต่มิคาดกลับมีความแข็งแกร่งทัดเทียมกับเซียนอมตะเสเพล 5 ทัณฑ์!
“สตรีนางนั้นเป็นผู้ใดกันแน่ ถึงกับสามารถรับมือผู้อาวุโสได้!?”
“สตรีนางนี้ไม่เพียงงดงาม ยังมีพลังฝีมือกล้าแข็งทัดเทียมเซียนอมตะเสเพล 5 ทัณฑ์ทั้งๆที่มีพลังฝึกปรือครึ่งก้าวเซียนอมตะแบบนี้…ย่อมมิใช่ชนชั้นรากหญ้าไร้ชื่อเสียงเรียงนามเป็นแน่!”
“ใบหน้าของนาง ข้าเคยเห็นที่ใดกันนะ…คุ้นตาข้ายิ่ง แต่นึกไม่ออก!”
…
ไม่นานเหล่าคนของวังคลื่นสวรรค์ที่เหินมารวมตัวหมายยสกัดคนร้าย แต่พอพบว่าพลังฝึกปรือสู้ไม่ได้ ก็ไม่เข้าไปตายอย่างเปล่าประโยชน์ เพียงอยู่ห่างๆอย่างห่วงๆและเริ่มกระซิบกระซาบคุยกัน
“กริชในมือนางเล่มนั้น…ดูเหมือนจะเป็นยอดสมบัติสวรรค์!”
ทันใดนั้นเซียนอมตะเสเพลคนหนึ่ง ก็อุทานออกมาเสียงดัง สองตามองจ้องกริชในมือถังเซี่ยวเซี่ยวไม่วางตา
ทันใดนั้นความสนใจของคนวังคลื่นสวรรค์ก็มุ่งเป้าไปยังกริชในมือถังเซี่ยวเซี่ยวทันที
“เป็นยอดสมบัติสวรรค์จริงๆด้วย!”
ไม่นานเหล่าเซียนอมตะเสเพลทั้งหลายก็เริ่มยืนยันได้ว่ากริชในมือถังเซี่ยวเซี่ยวเป็นยอดสมบัติสวรรค์จริงๆ ประกายแห่งความโลภเริ่มลุกวาวในแววตาของพวกมันอย่างอดไม่ได้!
แต่ละคนทำราวกับรอพุ่งไปฉกกริชในมือของถังเซี่ยวเซี่ยวมาเป็นของตัวเองไม่ไหวแล้ว!
และในขณะเดียวกันกับที่ความสนใจของคนวังคลื่นสวรรค์ส่วนใหญ่มุ่งไปยังกริชในมือของถังเซี่ยวเซี่ยวนั้นเอง
“ข้านึกออกแล้ว!”
ศิษย์หนุ่มคนหนึ่งของวังคลื่นสวรรค์พลันอุทานออกมาเสียงดัง
“นาง…นางคือถังเซี่ยวเซี่ยว! นางคือถังเซี่ยวเซี่ยว!!”
“ข้าเคยเจอนางครั้งหนึ่ง…นางคือถังเซี่ยวเซี่ยว! รุ่นเยาว์อัจฉริยะอันดับ 1 ของนิกายถัง!!”
ทันทีที่ชายหนุ่มคนดังกล่าวเอ่ยเรื่องราวเหล่านี้ออกมา หลายคนก็เริ่มตระหนักถึงตัวตนของสตรีในชุดคลุมลมดำเบื้องหน้าทันที
รุ่นเยาว์อัจฉริยะอันดับ 1 ของนิกายถัง!
“ว่าแต่ไฉนถังเซี่ยวเซี่ยวต้องบุกมาฆ่าคนในวังคลื่นสวรรค์ของพวกเราด้วยเล่า?”
ลูกตาของศิษย์วังคลื่นสวรรค์หลายคนอดไม่ได้ที่จะฉายแววงุนงง
เท่าที่พวกมันทราบ ถังเซี่ยวเซี่ยวไม่ใช่คู่หมั้นของนายน้อยวังคลื่นสวรรค์พวกมันหรือไร?
“เหอๆ เรื่องนี้พวกเจ้าหลายคนอาจจะยังไม่ทราบกัน…แต่ทางนิกายถังได้ปฏิเสธการแต่งงานระหว่างถังเซี่ยวเซี่ยวกับนายน้อยของพวกเราแล้ว!”
เมื่อได้ยินเสียงกระซิบคุยันด้วยความสงสัยของเหล่าศิษย์ที่ไม่ทราบเรื่องราวเพราะข่าวนี้ถูกปิดไว้ เหล่าศิษย์หลายคนที่ได้รับทราบข่าวนี้มาจากคนวงในก็กล่าวบอกออกมาอย่างไม่รอช้า
“พอพวกเราถูกอีกฝ่ายหักหน้า…ท่านบรรพบุรุษของวังคลื่นสวรรค์ของพวกเราจึงออกโรงด้วยตัวเอง บุกไปฆ่าถังจงยี่ของนิกายถังทิ้ง เพื่อเป็นการลงโทษนิกายถัง!”
“อะไรกัน? ไม่ใช่แค่ยกเลิกการแต่งงานหรือไร ไฉนทำราวกับเป็นเรื่องใหญ่โตนัก?”
“เกิดเรื่องใหญ่โตขนาดนี้ แต่ทำไมข้าถึงไม่ได้ข่าวอะไรเลยล่ะ?”
…
เหล่าศิษย์วังคลื่นสวรรค์ที่ไม่รู้เพราะถูกระดับสูงๆปิดข่าว อดไม่ได้ที่จะตกใจ
“เช่นนั้นที่ถังเซี่ยวเซี่ยวบุกมาเข่นฆ่าถึงวังคลื่นสวรรค์ของพวกเรา…เพราะคิดล้างแค้นให้บรรพบุรุษของนางน่ะสิ…”
มีหลายคนที่ล่วงรู้ความสัมพันธ์ระหว่างถังเซี่ยวเซี่ยวกับถังจงยี่ที่ถูกบรรพบุรุษวังคลื่นสวรรค์ฆ่าตายไปดี ทำให้พวกมันได้แต่มองไปทางถังเซี่ยวเซี่ยวด้วยสายตาเวทนา
“ถังเซี่ยวเซี่ยว!”
ทว่าตอนนี้เองพลันมีเสียงหนึ่งดังขึ้น
ฟุ่บ!
หลังจากนั้นไม่นานชายหนุ่มในชุดหรูหราคนหนึ่งพลันปรากฏตัวขึ้นมา ร่างของมันเหินทะยานลัดฟ้ามาราวใบไม้พัดปลิวตามลม
เหล่าศิษย์และอาวุโสทั้งหลายที่ฝีมือไม่ถึงได้แต่ยืนชมดูเรื่องราว พอเห็นชายหนุ่มคนนี้มาถึงก็เร่งเปิดทางให้อีกฝ่ายทันที
ขณะเดียวกันหลายคนก็เร่งประสานมือคารวะมันด้วยท่าทีนอบน้อม
“จ้าววังน้อย!”
“จ้าววังน้อย!”
…
ฟังจากวาจาเรียกหาชายหนุ่มของเหล่าศิษย์และอาวุโสทั้งหลาย ก็ทำให้คาดเดาฐานะความเป็นมาของมันได้ทันที
นายน้อยแห่งวังคลื่นสวรรค์ หยางอวี้ถิง!
อดีตคู่หมั้น ถังเซี่ยวเซี่ยว!
“เจ้าไฉนมาวังคลื่นสววรรค์ข้าได้ล่ะ หรือเริ่มเสียดายและไม่อยากล้มเลิกการแต่งงานแล้ว?”
ทันทีที่หยางอวี้ถิงปรากฏตัว มันก็มองถังเซี่ยวเซี่ยวด้วยท่าทีกรุ้มกริ่ม แววตายังมองจ้องเรือนร่างนางตาเป็นมันราวกับกำลังคิดเรื่องราวต่ำช้าอยู่…
วันนั้นพอรู้ว่านิกายถังกล้าปฏิเสธการแต่งงาน มันเองก็เสียดายนัก
อย่างไรก็ตามในขณะที่มันกำลังเสียดาย บรรพบุรุษวังคลื่นสวรรค์ของมันก็บุกไปเข่นฆ่าอาวุโสสูงสุดของนิกายถังอย่างถังจงยี่เสียแล้ว ทำให้มันอดไม่ได้ที่จะรู้สึกจนใจทันที
เพราะในวินาทีนั้น มันรู้ดีว่าระหว่างมันกับถังเซี่ยวเซี่ยวเป็นไปไม่ได้อีกต่อไป
ด้วยลักษณะนิสัยของถังเซี่ยวเซี่ยว มันรู้ดีว่าลองวังคลื่นสวรรค์ของมันฆ่าบรรพบุรุษที่ถังเซี่ยวเซี่ยวสนิทด้วยมากที่สุดไปแบบนี้ ย่อมเป็นไปไม่ได้เลยที่อีกฝ่ายจะตกลงปลงใจแต่งกับมันได้อีก…
ดังนั้นพอมันเจอหน้าถังเซี่ยวเซี่ยว ก็ได้แต่กล่าวหยอกล้อออกไปแบบนั้น
เพราะมันเองก็ดูออก
ที่ถังเซี่ยวเซี่ยวบุกมาเข่นฆ่าคนในวังคลื่นสวรรค์ของมันแบบนี้ เห็นได้ชัดว่านางกระทำไปเพราะบันดาลโทสะ…
ยังบอกได้ทันทีว่านางรู้เรื่องที่บรรพบุรุษของนางถูกบรรพบุรุษของวังคลื่นสวรรค์เข่นฆ่าไปแล้ว
“หยางอวี้ถิง!”
เมื่อเห็นหยางอวี้ถิงปรากฏตัวขึ้น สองตาที่แดงฉานเป็นทุนของถังเซี่ยวเซี่ยวก็ยิ่งแดงก่ำปานก้อนโลหิต นางผละออกจากเซียนอมตะเสเพล 5 ทัณฑ์ที่รบเร้าพัวพันอยู่ และทะยานร่างเข่นฆ่าสังหารเข้าใส่หยางอวี้ถิงทันที!
ด้านหยางอวี้ถิงก็หน้าเปลี่ยนสีไปไม่เป็นท่า เมื่อเจอถังเซี่ยวเซี่ยวเหินทะยานเข่นฆ่าเข้ามาด้วยท่าทีดุร้ายแบบนั้น!
เพราะความแข็งแกร่งมันก็เทียบได้กับเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์เท่านั้น!
ท้ายที่สุดแล้วมันก็ไม่มียอดสมบัติสวรรค์!
ต่อหน้าถังเซี่ยวเซี่ยวที่มียอดสมบัติสวรรค์ในมือ จนมีพลังทัดเทียมเซียนอมตะเสเพล 5 ทัณฑ์ มันย่อมไม่อาจรับมือนางได้ไหว!
ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ!
…
อย่างไรก็ตามพอเห็นว่ามีร่างหลายร่างวูบมาบังขวางเอาไว้เบื้องหน้า หยางอวี้ถิงก็พอได้หายใจคล่องคอขึ้นมา
นั่นเพราะ 3 คนที่ยืนบังอยู่เบื้องหน้ามันไว้ตอนนี้ ไม่เป็นเซียนอมตะเสเพล 5 ทัณฑ์ก็เป็นเซียนอมตะเสเพล 6 ทัณฑ์ทั้งนั้น!
และหลังจากทุกคนมาปรากฏตัวขวางหยางอวี้ถิงเอาไว้ พวกมันก็มองจ้องถังเซี่ยวเซี่ยวพลางตะโกนออกไปอย่างดุร้าย “ถังเซี่ยวเซี่ยว! สวรรค์มีทางไม่ยอมไปนรกไร้ประตูกลับมุดมา!!”
“อาศัยพลังฝีมืออ่อนด้อยของเจ้า กล้าบุกมาวังคลื่นสวรรค์ของพวกเรา นับว่ารนหาที่ตายแท้ๆ!!”
“คุกเข่าร้องขอความเมตตาจ้าววังน้อยอวี้ถิงของพวกเราเสีย! บางทีจ้าววังน้อยของพวกเราอาจเมตตาละเว้นชีวิต ทั้งอนุญาตให้เจ้าไปอุ่นเตียง!!”
…
เหล่าเซียนอมตะเสเพล 5 หรือ 6 ทัณฑ์เหล่านี้ เผยทีท่าผยองลำพอง มองถังเซี่ยวเซี่ยวด้วยสายตาทำราวกับกำลังมองคนสิ้นคิด และดันทุรังอย่างสูญเปล่า…
“ถังเซี่ยวเซี่ยว…นังแพศยาเจ้าตอนนี้ใช่สำนึกแล้วหรือไม่? สุราคารวะไม่รับชมชอบสุราจับกรอก! ได้แต่งกับข้าหยางอวี้ถิงมิทราบเป็นพรอันประเสริฐเท่าใด…แต่เจ้าไม่เพียงไม่ทะนุถนอม ยังกล้ายกเลิกงานแต่ง! โง่เขลาเบาปัญญา!!”
ด้านหยางอวี้ถิงพอได้อยู่ด้านหลังเหล่าเซียนอมตะเสเพล 5 ทัณฑ์กับ 6 ทัณฑ์ ก็บังเกิดความห้าวหาญออกมาทันที รีบกล่าวออกไปอย่างได้ใจ วาจายังผยองลำพองเป็นที่สุด
“หยางอวี้ถิง…หากเจ้ายังเป็นลูกผู้ชาย แน่จริงก็มาสู้กับข้าถังเซี่ยวเซี่ยวให้ตายกันไปข้าง!”
ถังเซี่ยวเซี่ยวมองจ้องหยางอวี้ถิงด้วยสายตาเยียบเย็น กล่าววาจาท้าทายออกไปอย่างดุดัน
“ฮึ่ม!”
อย่างไรก็ตาม หยางอวี้ถิงเพียงตอบถังเซี่ยวเซี่ยวด้วยการพ่นลมสบถ
“ต้วนหลิงเทียน ข้าอยากฆ่ามันด้วยมือข้าเอง!”
ในขณะที่หยางอวี้ถิงพ่นลมสบถออกมา ถังเซี่ยวเซี่ยวก็หันไปมองต้วนหลิงเทียนด้านหลังทันที ยังกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงวิงวอน “ขอแรงเจ้า ช่วยข้าด้วย…”
“หืม?”
เมื่อเห็นถังเซี่ยวเซี่ยวหันหลังไปมองกล่าวกับต้วนหลิงเทียน ผู้คนในวังคลื่นสวรรค์จึงพึ่งตระหนักกันว่า…
ถังเซี่ยวเซี่ยวไม่ได้บุกเข้ามาในวังคลื่นสวรรค์ของพวกมันแค่คนเดียว
นางยังมีเพื่อนร่วมทาง!
อย่างไรก็ตามด้วยพลังฝีมือของถังเซี่ยวเซี่ยวที่ดุร้ายไม่เบา ทั้งยังมียอดสมบัติสวรรค์อันล้ำค่า ทำให้ทุกคนมัวแต่สนใจนางกับสมบัติ ไม่ทันสังเกตเห็นชายหนุ่มชุดม่วงที่ลอยตามมาด้านหลังเลย…
“ใครไม่อยากตาย ก็ไสหัวไปให้หมด…”
ต้วนหลิงเทียนกวาดตามองไปยังเหล่าเซียนอมตะเสเพลที่บังขวางหยางอวี้ถิง พลางกล่าวออกไปด้วยน้ำเสียงเฉยเมย
วู้ม! วู้ม! วู้ม! วู้ม! วู้ม! วู้ม!
…
ทันใดนั้นทั่วร่างเขาพลันปรากฏรังสีกระบี่ปรากฏขึ้นมาเล่มแล้วเล่มเล่า!
พริบตาต่อมารังสีกระบี่นับพันหมื่นก็เริ่มม้วนวนผสาน ก่อเกิดเป็นค่ายกลกระบี่ลอยล่องอยู่เหนือศีรษะ!
ค่ายกลกระบี่เมื่อก่อตัวแล้วเสร็จ ก็แผ่กลิ่นอายลี้ลับน่ากลัวออกมาประการหนึ่ง พาลให้ใจเหล่าเซียนอมตะเสเพลทั้งหลายสั่นไหวไปอย่างตื่นตระหนก และทันใดนั้นเองอยู่ดีๆ ก็ปรากฏรังสีกระบี่หลายสายพุ่งทะยานจี้ตรงเข้ามาทางกลุ่มเซียนอมตะเสเพล 5 ทัณฑ์และ 6 ทัณฑ์ที่ลอยขวางหยางอวี้ถิงเอาไว้!!
ทั้งหมดเห็นดังนั้นแม้จะชักสีหน้าแตกตื่น แต่ก็ไม่ถอยหนี เร่งปะทุพลังชั่วชีวิตออกกระบวนท่าเร็วไว ซัดคลื่นพลังไปหมายต้านทานรังสีกระบี่!
ปง! ปง! ปง! ปง! ปง!!
…
อย่างไรก็ตามเมื่อต้องปะทะเข้ากับรังสีกระบี่ที่อัดแน่นไปด้วยพลังอันน่ากลัว กระบวนท่าทั้งหลาย ก็ไม่วายถูกทำลายลงอย่างง่ายดาย!
“อั๊ค!”
“อ๊อคค—!!”
…
เหล่าเซียนอมตะเสเพล 5 ทัณฑ์และ 6 ทัณฑ์ทั้งหลายชักสีหน้าตื่นกลัว และเมื่อเห็นว่ารังสีกระบี่ยังคงเข่นฆ่าสังหารต่อมาไม่หยุด พวกมันไหนเลยจะกล้าอยู่ขวางทาง เร่งรุดหนีตายหลบออกข้างกันจ้าละหวั่น!!
เพราะหากพวกมันยังดื้อรั้นคิดลอยร่างขวางทางอยู่ ไม่พ้นได้ตกตายกันหมดแน่!!
ชิ้ง! ชิ้ง! ชิ้ง! ชิ้ง! ชิ้ง!
…
ภายใต้สายตาตื่นตระหนกทั้งหวาดกลัวของทุกคน รังสีกระบี่ของต้วนหลิงเทียนที่ขับไล่เหล่าเซียนอมตะเสเพลทั้งหลายให้หลบออกไปจนพ้นทาง ก็เริ่มควบแน่นก่อตัวเป็นกระบี่พลังมีสภาพ! แยกออกซ้ายขวาไปเรียงตัวดั่งแนวกั้น สร้างหนทางสายหนึ่งให้ถังเซี่ยวเซี่ยว!!
“หยางอวี้ถิง!”
และทันทีที่ต้วนหลิงเทียนสร้างถนนสายหนึ่งแล้วเสร็จ ร่างถังเซี่ยวเซี่ยวก็เหินทะยานออกไปด้วยสายตาเยียบเย็น มือกระชับกริชแน่น ป้อนกระบวนท่าสังหารใส่หยางอวี้ถิงทันที!!
ส่วนหยางอวี้ถิงนั้น มันยังตกใจกับพลังอันแข็งแกร่งของต้วนหลิงเทียนไม่หาย!
พอมาเจอถังเซี่ยวเซี่ยวทะยานเข่นฆ่าสังหารเข้ามาอย่างดุร้ายแบบนี้ มันไหนเลยจะมีความคิดต่อสู้หลงเหลือ!
กล่าวได้ว่ามันตกอยู่ในสถานการณ์ล่อแหลมถึงตายทันที!
“ตาย!!”
และเพียงพริบตาเดียว ถังเซี่ยวเซี่ยวที่ทะยานเข่นฆ่าสังหารเข้ามา ก็บรรลุถึงเบื้องหน้ามันแล้ว! กริชในมือตวัดออกไปฉับไวปานอสรพิษฉกกัด ปรี่ตรงเข้าใส่คอหอยหยางอวี้ถิงอย่างอำมหิต!!
หากการลงมือบรรลุผล หยางอวี้ถิงต้องตายคาที่!
“หยุดมือ!”
“หยุดมือ!”
ทว่าในห้วงเวลาคับขันอันตราย พลันบังเกิดเสียงเปี่ยมล้นไปด้วยพลัง 2 สำเนียง ดังมาแต่ไกลในเวลาไล่เลี่ยกัน
พร้อมกับเสียงดังกล่าว ยังปรากฏพลังไร้สภาพอันร้ายกาจ 2 ขุมแผ่พุ่งมาฉับไว! หมายขัดขวางไม่ให้ถังเซี่ยวเซี่ยวลงมือเข่นฆ่าหยางอวี้ถิงได้สำเร็จ!!
พลังทั้ง 2 ขุมนี้ ถูกซัดออกมาจาก 2 เซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์ ที่พึ่งเดินทางมาถึง!
ในขณะที่ทั้งคู่แลเห็นว่าคลื่นพลังไร้สภาพของตัวเอง สมควรหยุดถังเซี่ยวเซี่ยวได้ทันท่วงทีนั้นเอง
เรื่องราวพลันบังเกิดความเปลี่ยนแปลงไปในฉับพลัน!
…
…