ตอนที่ 2549

War sovereign Soaring The Heavens

ตอนที่ 2,549 : ฆ่าเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์!

 

เซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์นั้น เป็นตัวตนที่ดำรงอยู่ ณ จุดสูงสุดของระนาบโลกียะ…

 

ในสายตาของผู้คนของระนาบโลกียะทั้งมวล เซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์เป็นตัวตนที่อยู่ยงคงกระพันไม่ต่างใดจากเทพเจ้า!

 

มิอาจล่วงเกินลบหลู่เซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ได้โดยเด็ดขาด!

 

นี่เป็นดั่งกฏเหล็กของระนาบโลกียะ!

 

เช่นนั้นจึงไม่มีใครหาญกล้าใช้สำนึกเทวะแผ่ไปตรวจสอบพลังฝึกปรือผู้ที่คาดว่าอาจจะเป็นตัวตนระดับนี้โดยง่าย! ด้วยกลัวว่านั่นจะเป็นการทำให้เซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์บังเกิดความไม่พอใจ!!

 

แม้กระทั่งเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ 2 คนที่เพียงแต่ได้ยินชื่อเสียงเรียงนามกันมา เมื่อพบเจอหน้ากันก็ไม่มีใครคิดจะแผ่สำนึกเทวะไปตรวจสอบพลังฝึกปรือของอีกฝ่ายดูอย่างผลีผลาม! เพราะนั่นไม่ต่างอะไรกับการบอกอีกฝ่ายว่า ‘ชื่อเสียงท่านมันจอมปลอม เราจึงไม่เชื่อต้องขอตรวจสอบดู’!!

 

ด้วยเหตุนี้ไม่ว่าจะเป็นจ้าววังคลื่นสวรรค์อย่างหยางชิงเจียนหรือใครหน้าไหนในวังคลื่นสวรรค์ เมื่อคาดเดากันได้แล้วว่าต้วนหลิงเทียนสมควรเป็นเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์กระทั่งอาจเป็นชนชั้นสุดยอดฝีมือ พวกมันก็ไม่มีใครกล้าแผ่สำนึกเทวะออกไปหยั่งตื้นลึกหนาบางของต้วนหลิงเทียนสักคน ด้วยกลัวจะเป็นการยั่วโทสะต้วนหลิงเทียน!

 

“แล้วเจ้าคิดว่า…ทางนิกายถังจะให้ผลประโยชน์อันใดแก่ข้าได้เล่า ข้าถึงยอมมาช่วยเหลือถังเซี่ยวเซี่ยวในวันนี้?”

 

ต้วนหลิงเทียนเพียงยิ้มเฉยกล่าวตอบออกไปด้วยน้ำเสียงค่อนแคะเมื่อได้ยินคำสัญญาของหยางชิงเจียนจ้าววังคลื่นสวรรค์

 

“มิใช่เช่นนั้นหรือ?”

 

เมื่อได้เห็นทีท่าทั้งได้ยินน้ำเสียงดังกล่าวของต้วนหลิงเทียน หยางชิงเจียนอดไม่ได้ที่จะผงะไป ในใจยังบังเกิดสังหรณ์อัปมงคลขึ้นมาประการหนึ่ง!

 

อย่างไรก็ตามมันไม่อาจจินตนาการได้จริงๆ

 

ว่านิกายถังที่หลายปีดีดักไม่ปรากฏตัวตนขอบเขตเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ จนไม่น่าจะมีอะไรจ้างวานตัวตนระดับเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ตรงหน้าได้ แล้วทางนิกายถังอาศัยอะไรกันแน่ถึงทำให้อีกฝ่ายสอดมือเข้ามาแทรกแซงเรื่องราวระหว่างนิกายถังกับวังคลื่นสวรรค์แบบนี้?

 

“เรียกเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ของวังคลื่นสวรรค์ออกมา!”

 

เผชิญหน้ากับคำถามด้วยสงสัยของหยางชิงเจียน ต้วนหลิงเทียนก็ไม่สนใจจะตอบ เพียงกล่าวบอกออกไปเสียงเรียบ

 

และพอพูด ก็สั่งให้หยางชิงเจียนเรียกบรรพบุรุษของวังคลื่นสวรรค์ที่เป็นเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ออกมาทันที!!

 

ฟืด!

 

เมื่อเห็นต้วนหลิงเทียนแลดูมั่นใจถึงขนาดนี้ หยางชิงเจียนก็อดไม่ได้ที่จะสูดอากาศเข้าลึกๆ ในใจตระหนักได้ว่า อีกฝ่ายไม่ได้มาดีแน่!

 

หากแต่มันก็ไม่กล้าละเลยคำของอีกฝ่าย จึงเร่งบดขยี้ป้ายหยกป้ายหนึ่ง เพื่อแจ้งบรรพบุรุษของวังคลื่นสวรรค์ทันที!

 

ซัว! ซัว! ซัว!

 

 

และแทบจะเป็นเวลาเดียวกันกับที่หยางชิงเจียนบดขยี้ป้ายหยก ต้วนหลิงเทียนก็หันไปมองทิศตะวันออกเฉียงเหนือของวังคลื่นสวรรค์ทันที

 

เพราะตอนนี้เขาสัมผัสได้รางๆ ว่ามีกลิ่นอายทรงพลังหนึ่งปะทุออกมาจากทิศทางนั้น และกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้ด้วยความเร็วสูง!

 

“ข้าเองก็รู้จักเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ในระนาบเหยียนหวงไม่น้อย…”

 

ในขณะที่ต้วนหลิงเทียนกำลังหันมองไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือนั้นเอง เสียงชราหนึ่งก็ดังขึ้นพร้อมกลิ่นอายพลังมหาศาลที่แผ่ซ่านกดดันไปในบรรยากาศทั่วน่านฟ้าบริเวณนี้ “มิทราบสหายเต๋าแปลกหน้าท่านนี้มีนามว่าอะไร…”

 

ฟุ่บ!!

 

และแทบจะพร้อมกันกับที่เสียงอันแฝงเร้นไปด้วยกลิ่นอายพลังน่ากลัวแผ่มาปกคลุม ร่างชายชราคนหนึ่งก็ปรากฏขึ้นกลางอากาศต่อหน้าต่อตาทุกคนราวภูตผี!

 

“ท่านบรรพบุรุษ!”

 

เหล่าเซียนอมตะเสเพลทั้งหลายของวังคลื่นสวรรค์นำโดยหยางชิงเจียน เร่งประสานมือโค้งคารวะทักทายชายชราผู้มาใหม่ทันที

 

“ท่านบรรพบุรุษ?!”

 

จากนั้นเหล่าศิษย์ขอบเขตเซียนสวรรค์ทั้งหลาย ที่เกิดมาไม่เคยคบเคยเจอตัวตนอย่างบรรพบุรุษมาก่อน พอหายอึ้งก็เร่งประสานมือโค้งหัวลงไปด้วยความเคารพทั้งยินดีถึงที่สุด!

 

นี่คือผู้ที่คอยค้ำจุนวังคลื่นสวรรค์ของพวกมันเอาไว้! ตัวตนขอบเขตเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ ที่ทรงพลังสูงสุดในระนาบโลกียะ!!

 

เซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ของวังคลื่นสวรรค์ผู้นี้ เป็นชายชราในชุดคลุมสีเทา รูปร่างหน้าตาของมันไร้ใดโดดเด่นเป็นพิเศษ ดูไปยังไม่ต่างจากชายชราธรรมดาสามัญข้างบ้านที่ชอบนั่งมองลูกหลานวิ่งเล่น…

 

“อืม”

 

ชายชราพยักหน้ารับการคารวะจากคนขอวังคลื่นสวรรค์ก่อน จากนั้นค่อยละสายตาจากทุกคนไปตกลงบนร่างต้วนหลิงเทียน

 

และเมื่อชายชรากับต้วนหลิงเทียนสบตากัน…

 

ทันใดนั้นคนของวังคลื่นสวรรค์ทั้งหลายก็อดกลั้นลมหายใจไม่ได้!

 

เพราะสุดท้ายแล้ว ที่กำลังเผชิญหน้ากันอยู่ตอนนี้ก็คือตัวตนขอบเขตเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ ที่ยืนอยู่ ณ จุดสูงสุดของระนาบโลกียะ!

 

“คนตายไม่ต้องรู้หรอกว่าข้าชื่ออะไร..”

 

ในขณะที่คนของวังคลื่นสวรรค์กำลังคิดว่า ต้วนหลิงเทียนต้องกล่าวความเป็นมาของตัวเองออกมาแน่ เมื่อได้ยินคำถามดังกล่าวของท่านบรรพบุรุษพวกมันที่เป็นชนชั้นเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ดุจเดียวกัน แต่มิคาดต้วนหลิงเทียนพลันกล่าวตอบวาจาดังกล่าวออกมาอย่างไม่รีบไม่ร้อน…!

 

ทันทีที่วาจาดังกล่าวล่วงล้ำออกมาจากปากต้วนหลิงเทียน คนของวังคลื่นสวรรค์ทั้งหมดก็เกิดอาการใบ้รับประทานเพราะตกใจกันเป็นแถบ! เรียกว่าพากันอึ้งกิมกี่!!

 

ท่าน…ถึงท่านจะเป็นเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ แต่ก็มิจำเป็นต้องถือดีและหยิ่งผยองถึงเพียงนี้มิใช่หรือ?

 

ต้องทราบด้วยว่าที่ท่านกำลังเผชิญหน้าอยู่นั้น ก็คือบรรพบุรุษวังคลื่นสวรรค์ของพวกเรา! ชนชั้นเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์เหมือนกันกับท่าน!!

 

“คนตาย? ข้ารึ?”

 

ได้ยินคำพูดดังกล่าวของต้วนหลิงเทียน ชายชราเองก็อดไม่ได้ที่จะอึ้งไปเช่นกัน จากนั้นมันค่อยแสยะยิ้มเยียบเย็น “สหายเต๋าผู้นี้ไม่ต้องกล่าวถึงเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ทั่วไปของระนาบเหยียนหวง…ต่อให้เป็นเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ที่ได้ชื่อว่าแข็งแกร่งที่สุดในระนาบเหยียนหวงของตระกูลกงซุน ยังมิกล้าพูดว่าจะฆ่าข้าได้!!”

 

“แต่ฟังจากที่เจ้ากล่าว…เจ้าคิดว่าตัวเองมีปัญญาฆ่าข้าได้?”

 

กล่าวถึงประโยคท้าย ชายชราก็อดไม่ได้ที่จะระเบิดเสียงหัวเราะออกมา

 

“เหลวไหลสิ้นดี!”

 

“นี่มันคิดว่าท่านบรรพบุรุษของวังคลื่นสวรรค์เราอ่อนเหลวเหมือนโคลนหรือไร?”

 

“คิดว่าเป็นเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์เข้าหน่อย แล้วตัวเองจะไร้เทียมทานในใต้หล้าแล้วหรือ?”

 

 

ไม่นานคนของวังคลื่นสวรรค์ทั้งหลายก็ทยอยกันได้สติกลับคืนฟื้นจากอาการตะลึง และพอมองไปยังต้วนหลิงเทียนอีกครั้ง สายตาที่ใช้มองก็ไม่ต่างอะไรกับกำลังมองดูตัวโง่งม!

 

ในสายตาของพวกมันตอนนี้

 

ต้วนหลิงเทียนเป็นคนที่หยิ่งผยองทั้งถือดีเกินไป!

 

“หึ!”

 

อย่างไรก็ตามเผชิญหน้ากับวาจาปรามาสของชายชราทั้งวาจาเสียดสีของคนวังคลื่นสวรรค์ทั้งหลาย ต้วนหลิงเทียนคร้านกล่าวใดให้มากความ เพียงสบถเสียงเย็นออกคำหนึ่ง!

 

และขณะที่สบถคำเสียงเย็น เขาก็ชิงลงมือก่อนทันที!!

 

ฟั่ฟ! ฟั่ฟ! ฟั่ฟ! ฟั่ฟ! ฟั่ฟ! ฟั่ฟ!

 

 

เสียงแหวกอากาศสนั่นดังขึ้นเสียดหูห่าหนึ่ง เป็นต้วนหลิงเทียนที่อยู่ๆก็ปะทุพลังแข็งกร้าวออกมาดั่งเพลิงไฟ ก่อเกิดรังสีกระบี่นับพันหมื่นควบรวมเป็นค่ายกลกระบี่ชุดหนึ่งที่เปล่งแสงสว่างดั่งตะวันเหนือหัว! ทั้งพุ่งยิงรังสีกระบี่สังหารชุดหนึ่งเข้าใส่ชายชราอย่างดุร้าย!!

 

และคราวนี้ต้วนหลิงเทียนไม่ได้ออมรั้งยั้งมืออะไร!

 

นอกเหนือจากปฐมเวทย์กลืนกินที่ใช้ออกมาตั้งนานแล้ว ยังโคจรพลังใช้ออกตามเคล็ดสุดท้ายของยอดใจกระบี่เต็มกำลัง ตามด้วยเวทย์พลังจู่โจมอย่าง 13 กระบี่บงกชฟ้า!!

 

เบื้องหน้าจึงอุบัติเป็น รังสีกระบี่กลุ่มหนึ่งจากค่ายกลที่พุ่งไป โดยมีรังสีกระบี่อีก 12 สายตามไล่หลังมาติดๆ!

 

‘รังสีกระบี่กลุ่มนั้น…พลังทำลายเพียงเทียบได้กับเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์เท่านั้น’

 

ทันทีที่ค่ายกลกระบี่ต้วนหลิงเทียนกก่อตัว และซัดรังสีกระบี่ห่าหนึ่งออกมาโดยมีรังสีกระบี่อีก 12 ติดตามไล่หลังโดยที่ทั้งหมดยังไม่ได้ผสานหลอมรวมเข้าด้วยกัน บรรพบุรุษวังคลื่นสวรรค์ชนชั้นเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ ก็เผยความดูแคลนหยันหยามออกทางสายตาแจ่มชัด มุมปากยังยกยิ้มแสยะออกมาอย่างถือดี

 

อย่างไรก็ตามรอยยิ้มถือดีทั้งสีหน้าแววตาดูแคลนหยันหยามของมัน จำต้องแข็งค้างไปในพริบตา!

 

นั่นเพราะเมื่อรังสีกระบี่ตามหลังทั้ง 12 สาย ได้พุ่งไล่ขึ้นมาอย่างฉับไวจนผสานควบรวมเข้ากับห่ารังสีกระบี่หน้าสุด! มันก็ได้อุบัติเป็นพลังอันน่าสะพรึงขุมหนึ่ง!!

 

แม้พลังขุมนี้ยังคงอยู่ห่างไกลจากมันไม่น้อย แต่ก็ทำให้มันรู้สึกกเสมือนหายใจไม่ออก!

 

‘นิ…นี่มันอะไรกัน เป็นไปได้อย่างไร!?’

 

ทันใดนั้นสีหน้าของชายชราขอบเขตเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์พลันเปลี่ยนไปใหญ่หลวง แววตาไม่หลงเหลือความดูแคลนสืบไป จะมีก็แต่ความหวาดกลัวทั้งแตกตื่น!

 

ขณะเดียวกันมันก็เร่งสะบัดมือเรียกหอก 7 ฉื่อหนึ่งออกมาจากความว่างเปล่า และปะทุพลังชั่วชีวิตถ่ายทอดลงสู่ตัวหอกอย่างไม่รอช้า!

 

“ยอดสมบัติสวรรค์?”

 

สองตาต้วนหลิงเทียนทอประกายเรืองขึ้นวูบหนึ่ง เพียงมองปราดเดียวเขาก็บอกได้ทันทีว่าหอกในมือชายชราเป็นยอดสมบัติสวรรค์!

 

อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้แยแสแม้แต่น้อย

 

“หมื่นศาสตราสยบ!!”

 

เพียงหนึ่งห้วงคิดของต้วนหลิงเทียน รังสีกระบี่ที่ผสานไปด้วยพลังอำนาจของ 13 กระบี่บงกชฟ้าที่กำลังเข่นฆ่าสังหารไปทางชายชราเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์…พลันเปล่งพลังลี้ลับออกมาขุมหนึ่งเป็นวงกว้าง! และครอบคลุมไปถึงร่างชายชราในชั่วพริบตา ฉกชิงหอกเซียนอมตะที่บรรจุพลังชั่วชีวิตชายชราให้พุ่งหลุดมือออกมาหน้าตาเฉย!!

 

‘บัดซบ! นี่มันเรื่องบ้าอันใด!?’

 

ชายชราขอบเขตเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ที่พึ่งบรรจุพลังทั้งหมดลงสู่หอกเพื่อเตรียมออกกระบวนท่า สีหน้าถึงกับต้องเปลี่ยนเป็นบิดเบี้ยวอัปลักษณ์! เมื่ออยู่ดีๆหอกในมือก็แปรเปลี่ยนไปจากสุนัขเชื่องเป็นม้าป่าพยศ…เปล่งพลังร้ายกาจทำลายมือถือจับ และพุ่งหนีมือมันไปหน้าตาเฉย!!

 

ต่อให้หลับมันยังไม่อาจฝันถึง…

 

ว่ายอดสมบัติสวรรค์ของมัน จะถูกช่วงชิงไปในลักษณะนี้!!

 

ชายหนุ่มในชุดสีม่วงคนนี้ที่แท้เป็นผู้ใดกันแน่!?

 

แล้วอีกฝ่ายใช้วรยุทธ์เซียนอมตะหรือเวทย์พลังผีสางอันใด!?

 

ขวับ! ขวับ! ขวับ! ขวับ! ขวับ!

 

 

หากแต่จะอย่างไรมันก็เป็นชนชั้นเซียนอมตะเสเพลคนหนึ่ง แม้จะตื่นตระหนกเพราะหอกเซียนอมตะถูกฉกชิงไปอย่างไม่คาดฝัน แต่มันก็ดึงสติกลับมาได้ทันท่วงที เร่งรีดเค้นพลังชั่วชีวิตออกมาอีกรอบ ผนึกสร้างเป็นหอกพลังมีสภาพยาว 7 ฉื่อ ก่อนที่จะทิ่มแทงทะลวงออกไปยังความว่างเปล่าเบื้องหน้าด้วยกระบวนท่าลี้ลับชุดหนึ่ง หมายต้านทานค่ายรังสีกระบี่ที่เข่นฆ่ามาถึง!

 

จะอย่างไรนี่ก็เป็นกระบวนท่าที่อีกฝ่ายชิงจู่โจมอัศจรรย์ สมควรสลายพลังได้ไม่ยาก!!

 

เปรียะ! เปรียะ! เปรียะ! เปรียะ! เปรียะ!

 

 

ไม่ว่าจะเป็นค่ายรังสีกระบี่ต้วนหลิงเทียนที่เข่นฆ่าออกไปยังชายชราร้ายกาจ หรือกระบวนหอกที่จ้วงแทงออกมาของชายชราขอบเขตเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์วังคลื่นสวรรค์! เมื่อปะทุพลังอำนาจแหวกฟ้าผ่าอากาศออกไป ล้วนแล้วแต่สร้างรอยแยกมิติทิ้งไว้เป็นทางยาว มองไปดั่งอสรพิษดุร้ายสีดำมะเมือม!!

 

อย่างไรก็ตามขอเพียงสายตาไม่มีปัญหาอะไร เมื่อมองขนาดของรอยแยกมิติที่อุบัติขึ้นจากเพลงหอกของชายชราขอบเขตเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ของวังคลื่นสวรรค์แล้ว…ดูเหมือนรอยแยกมีติที่เกิดจากค่ายรังสีกระบี่สังหารของต้วนหลิงเทียนจะมีขนาดกว้างใหญ่กว่ากันมาก!!

 

กล่าวได้ว่าเมื่อเทียบกับรอยแยกมิติที่เกิดจากกระบวนหอกแล้ว รอยแยกมิติอันเกิดจากค่ายรังสีกระบี่สังหารนี้ถึงกับใหญ่โตกว่ากัน 2 เท่า!!

 

ปง! ปง! ปง! ปง! ปง! ปง!

 

 

พริบตาต่อมา ค่ายรังสีกระบี่สังหารของต้วนหลิงเทียนก็ปะทะเข้ากับพลังหอกของเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์วังคลื่นสวรรค์อย่างจัง!

 

หากทว่าค่ายรังสีกระบี่ของต้วนหลิงเทียนไม่ได้ถูกหยุดเอาไว้ดั่งที่ชายชราคิดคาดแต่อย่างใด เพียงแสงที่เปล่งออกมาจากรังสีกระบี่ทั้งหลายอ่อนโทรมลงครึ่งหนึ่งหลังทำลายกระบวนหอกของอีกฝ่ายจนสิ้นซากเท่านั้น!!

 

และห่ารังสีกระบี่ที่ยังคงสภาวะเข่นฆ่าสังหารอย่างดุร้ายเอาไว้ พริบตาก็ถาโถมมาปกคลุมทั่วร่างเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ของวังคลื่นสวรรค์! มองไปประหนึ่งคนผู้หนึ่งที่ถูกคลื่นน้ำกลืนกิน!!

 

“ไม่—”

 

ก่อนตายตก เซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ของวังคลื่นสวรรค์ มีเวลาเพียงแค่ร่ำร้องเสียงหลงออกมาด้วยความไม่ยินยอมพร้อมใจสั้นๆเท่านั้น…

 

ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม!

 

 

ขณะเดียวกัน หลังเข่นฆ่าเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ของวังคลื่นสวรรค์จนสลายหายไปในสวรรค์และโลกแล้ว ห่ารังสีกระบี่ของต้วนหลิงเทียนก็ยังไม่สิ้นสภาวะแต่อย่างใด! มันยังคงพุ่งไปต่อ…จนกวาดทำลายพระราชวังอันใหญ่โตของวังคลื่นสวรรค์ทั้งหลายที่อยู่ในเส้นทางจนบังเกิดเป็นเส้นทางวินาศสายหนึ่ง!!

 

พระราชวังกว่าครึ่งของเขตในวังคลื่นสวรรค์ บัดนี้กลับกลายเป็นซากปรักหักพัง!

 

ไม่เพียงแต่อาคารปลูกสร้าง…

 

เหล่าศิษย์และอาวุโสทั้งหลายที่พลังฝึกปรือไม่ถึงขั้น แต่ดันอยู่ในแนวรังสีกระบี่ หากไม่ตกตายคาที่ก็ล้วนบาดเจ็บสาหัส…

 

กระทั่งผู้ที่มีพลังฝึกปรือสูงส่งและไหวตัวทัน อาการเสมือนพบพานเทพเจ้าแห่งโรคห่าก็ไม่ปาน พวกมันเร่งรุดหลบหนีกันสุดชีวิต แยกย้ายกันทางใครทางมัน เพียงขอให้อยู่ไกลห่างพลังมหาประลัยที่มาจากไหนก็ไม่รู้เป็นพอ…

 

ซัว ลา ลา

 

 

เมื่อห่ารังสีกระบี่สังหารสิ้นอานุภาพและสลายหายไป ก็คงเหลือแต่เพียงเสียงของสายลมที่พัดกรรโชกปั่นป่วน กับฉากเรื่องราวความฉิบหายเบื้องล่าง…

 

และบนฟ้าห่างออกไปไม่ไกล ก็ปรากฏร่างชายหนุ่มชุดม่วงที่ลอยล่องอยู่กลางหาวด้วยสภาวะประหนึ่งเทพไร้ผู้ต้าน…

 

สำหรับบรรพบุรุษวังคลื่นสวรรค์ของพวกมัน ไม่ทราบหายสาบสูญไปที่ใดแล้ว ยังไม่เหลือไว้แม้แต่ร่องรอยกลิ่นอายพลังใดๆให้สัมผัส…

 

“ท่านบรรพบุรุษ!!”

 

ตอนนี้เองจ้าววังคลื่นสวรรค์อย่างหยางชิงเจียน ก็กรีดร้องคำรามออกมาอย่างประจวบเหมาะ

 

และกลางฝ่ามือที่มันแบออก ก็มีเศษซากลูกแก้วแตกอยู่ชวนให้สลดใจ…

 

“ท่านบรรพบุรุษ…สิ้นแล้ว!!”

 

เซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์คนหนึ่งของวังคลื่นสวรรค์ร่ำร้องออกมาอย่างโศกเศร้าเสียงดังจ้า เป็นการบ่งบอกทุกผู้คนในวังคลื่นสวรรค์ไปในตัวว่า…

 

บรรพบุรุษวังคลื่นสวรค์ของพวกมันตกตายแล้ว!