ตอนที่ 2,550 : โด่งดังหลังเข่นฆ่า
“ท่านบรรพบุรุษ…สิ้นแล้ว?!”
“เรื่องแบบนี้…ข้ามิได้ฝันไปใช่หรือไม่?”
“ไม่! ไม่ใช่ฝันไป…ทั้งหมดเป็นความจริง!”
“สวรรค์! ท่านบรรพบุรุษมิใช่เซียนอมตะเสเพล 9ทัณฑ์หรือไร…แต่ไฉนถึงถูกชายหนุ่มชุดม่วงคนนั้นเข่นฆ่าได้ในพริบตาเล่า?”
…
หลังคนวังคลื่นสวรรค์ดึงสติกลับคืนได้อีกครั้ง ทั้งหมดก็ตื่นตระหนกตกใจกันยกใหญ่ ต่างรู้สึกเสมือนฝันไปก็ไม่ปาน
บรรพบุรุษวังคลื่นสวรรค์ของพวกมัน จะอย่างไรก็คือเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์!
เซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์นั้น ให้มองไปในระนาบโลกียะทั้งมวล ก็ถือว่าเป็นตัวตนที่อยู่ ณ จุดสูงสุด…
ทว่าในเวลาแค่เสี้ยวพริบตา ตัวตนขอบเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ที่อยู่ ณ จุดสูงสุดอย่างบรรพบุรุษของพวกมัน กลับตกตาย!
“มัน…ยังเป็นผู้คนอยู่แน่หรือ?”
“เซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์…เข่นฆ่าท่านบรรพบุรุษพวกเราได้ง่ายดายขนาดนี้เลยเหรอ?”
“มันเป็นเพียงเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์แน่หรือ?”
…
คนวังคลื่นสวรรค์ที่ทยอยกันฟื้นสติ ก็มองจ้องไปยังร่างต้วนหลิงเทียนไม่วางตา ต่างตกใจกันอย่างหนัก
เป็นธรรมดาที่พวกมันจะรู้สึกเหลือเชื่อ
เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาพวกมันเป็นอะไรที่อยู่เหนือความเข้าใจของพวกมัน!
หากไม่ใช่เพราะผู้อาวุโสขอบเขตเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์ของวังคลื่นสวรรค์พวกมันกล่าวออกมาด้วยตัวเอง พวกมันคงไม่มีทางเชื่อว่าจ้าววังของพวกมันจะตกตายไปแล้วแบบนี้…
ต้องทราบด้วยว่า ก่อนเกิดเรื่องวันนี้ ในสายตาของพวกมันนั้น…
บรรพบุรุษวังคลื่นสวรรค์ไม่ต่างอะไรจากเทพ! ยังเป็นเทพผู้พิทักษ์ของวังคลื่นสวรรค์!!
พวกมันย่อมไม่เคยคิดเคยฝัน ว่าวันหนึ่งจะมีคนฆ่าบรรพบุรุษของพวกมันได้!
ขวับ
ในขณะที่คนของวังคลื่นสวรรค์กำลังมองไปยังต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาหวาดกลัวเสียขวัญ ถังเซี่ยวเซี่ยวที่ลอยห่างต้วนหลิงเทียนไม่ไกล อยู่ๆก็คุกเข่าลงกลางอากาศ หันหน้าไปยังทิศทางที่ตั้งดาราจักรเชียนจีที่มีนิกายถังอยู่
“ท่านบรรพบุรุษผู้เฒ่า ท่านเห็นแล้วหรือไม่ว่าสารเลวเฒ่าที่ฆ่าท่าน ตอนนี้มันตกตายแล้ว”
“ท่านที่อยู่ในปรภพเห็นแล้วหรือไม่…”
ถังเซี่ยวเซี่ยวกล่าวรำพันออกมาอย่างซึมเซา หยาดน้ำตาสองสายเริ่มไหลรินรดแก้มงามอีกครั้ง
“คนตายมิอาจฟื้นคืน…หักห้ามใจเถอะ”
ต้วนหลิงเทียนถอนหายใจเฮือกหนึ่ง ค่อยกล่าวปลอบ
“อื้อ”
ถังเซี่ยวเซี่ยวพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้มเศร้าๆ ค่อยลุกขึ้นยืนเงียบๆ
“ไปกันเถอะ”
หลังยืนขึ้นแล้ว ถังเซี่ยวเซี่ยวก็กล่าวชวนต้วนหลิงเทียน หมายเดินทางออกจากที่นี่
“แล้วพวกมัน…”
ได้ยินคำของถังเซี่ยวเซี่ยว ต้วนหลิงเทียนก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ขณะเดียวกันก็อดไม่ได้ที่จะกวาดตามองไปทางคนของวังคลื่นสวรรค์…
ด้านคนวังคลื่นสวรรค์ พอเห็นต้วนหลิงเทียนกวาดตามองมาก็อดไม่ได้ที่จะหนาวสะท้านจับไขสันหลัง สีหน้ายังเคร่งเครียดราวเผชิญหน้ากับศัตรูที่ไม่อาจสู้
ชายหนุ่มชุดม่วงคนนี้ กระทั่งบรรพบุรุษของพวกมันที่เป็นถึงเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ยังฆ่าได้ในพริบตา…
เช่นนั้นหากจะฆ่าพวกมันไม่ใช่ง่ายดายเหมือนตัดต้นหอม?
กระทั่งจ้าววังคลื่นสวรรค์อย่างหยางชิงเจียน รวมถึงอาวุโสสูงสุดขอบเขตเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์ก็มองต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาหวาดกลัวสุดขีด กลัวว่าต้วนหลิงเทียนจะลงมือฆ่าพวกมัน!
พวกมันเห็นพลังฝีมือต้วนหลิงเทียนชัดเจน!
กระทั่งเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ยังฆ่าได้ง่ายดายราวกับตัดหญ้าฆ่าไก่!
คิดล้างบางวังคลื่นสวรรค์ของพวกมัน ก็ประหนึ่งย่ำเหยียบมดฝูงหนึ่งเท่านั้น
“ในเมื่อคนร้ายที่ลงมือ ทั้งสารเลวที่เป็นตัวการก็ตกตายไปแล้ว ตราบใดที่พวกมันไม่มาขวางทางพวกเราอีก เช่นนั้นพวกเราก็ไปเถอะ…”
ถังเซี่ยวเซี่ยวกล่าว
นางไม่ใช่ฆาตกรที่ชอบเข่นฆ่าผู้คน
มาตอนนี้พอเห็นคนวังคลื่นสวรรค์ทั้งหลายกำลังมองต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาหวาดกลัวเสียขวัญ นางก็คร้านจะสนใจอะไรพวกมันอีกต่อไป
“เอาล่ะ”
ต้วนหลิงเทียนเคารพการตัดสินใจของถังเซี่ยวเซี่ยว
อย่างไรก็ตามแม้เขาจะไม่ลงมือเพื่อตัดรากถอนโคน เพราะเคารพการตัดสินใจของถังเซี่ยวเซี่ยว แต่ต้วนหลิงเทียนก็ไม่ลืมลงมือบางประการทิ้งท้าย จะได้ไม่ชักนำหายนะกลับไปสู่นิกายถัง
เพราะสุดท้ายแล้วนิกายถังตอนนี้ก็หลงเหลือเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์แค่คนเดียว ทว่าวังคลื่นสวรรค์ยังเหลือไม่น้อย
ถึงแม้ว่าไม่ใช่เรื่องง่ายอีกต่อไปหากวังคลื่นสวรรค์คิดจะทำลายนิกายถังให้สิ้นซาก แต่หากจะสร้างปัญหาใหญ่ให้นิกายถังย่อมไม่ใช่เรื่องยาก
“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปอย่าให้ข้ารู้ว่าวังคลื่นสวรรค์กล้าไปหาเรื่องอะไรนิกายถังอีก…ไม่งั้นข้า ต้วนหลิงเทียน จะกลับมาละเลงเลือดที่วังคลื่นสวรรค์!”
ต้วนหลิงเทียนกวาดตามองจ้องไปยังจ้าววังคลื่นสวรรค์ หยางชิงเจียน พลางกล่าวคำด้วยอำมหิต! ยังไม่ปกปิดจิตสังหารแม้แต่น้อย!!
ได้ยินคำขู่ของต้วนหลิงเทียน ถึงแม้หยางชิงเจียนจะรู้สึกหน้าม้านไม่น้อย แต่มันก็ได้แต่กัดฟันและพยักหน้ารับด้วยท่าทางจริงใจ
ผู้ฉลาดย่อมรู้สถานการณ์!
ชายหนุ่มชุดม่วงเบื้องหน้าเข่นฆ่าได้กระทั่งเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ คิดทำลายวังคลื่นสวรรค์ยังจะยากเย็นอะไร
ตอนนี้ลองอีกฝ่ายกล่าวมาแบบนี้ เห็นได้ชัดว่าไม่คิดจะทำอะไรกับวังคลื่นสวรรค์อีก!
จังหวะนี้มันยังไม่เห็นด้วยได้เหรอ?
สำหรับคนอื่นๆของวังคลื่นสวรรค์ พวกมันยิ่งกลัวจนไม่กล้าแม้จะหายใจแรง! พอได้ยินดังนั้นถึงกับเร่งระบายลมหายใจออกมาอย่างโล่งอกทันที!!
ที่แท้ยอดฝีมืออันน่าสะพรึงกลัวคนนี้ก็ไม่คิดจะฆ่าพวกมันทิ้ง!
“ไปกันเถอะ”
พอเห็นหยางชิงเจียน จ้าววังคลื่นสวรรค์พยักหน้ารับเป็นมั่นเหมาะ ต้วนหลิงเทียนก็ละสายตาจากมันและหันไปพยักหน้าชวนถังเซี่ยวเซี่ยว
หลังจากนั้นทั้งคู่ก็เหินร่างออกจากวังคลื่นสวรรค์
ด้านคนของวังคลื่นสวรรค์ พอเห็นว่าแผ่นหลังต้วนหลิงเทียนหายลับตาไปแล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะระบายลมหายใจออกมาด้วยความเสียวไส้กันยกใหญ่
“ทะ…ท่านจ้าววัง เจ้านั่นมันเป็นผู้ใดกันแน่…ไฉนถึงช่วงชิงยอดสมบัติสสวรรค์ไปจากมือท่านบรรพบุรุษทั้งเข่นฆ่าท่านบรรพบุรุษได้ง่ายดายขนาดนั้น!?”
เหล่าเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์อันเป็นอาววุโสสูงสุดของวังคลื่นสวรรค์ได้แต่หันไปมองถามหยางชิงเจียนด้วยสายตาหวาดกลัว
ต้นเหตุความกลัวในแววตาพวกมันก็คือต้วนหลิงเทียนเป็นธรรมชาติ
“ข้าไม่รู้…”
หยางชิงเจียนส่ายหน้าไปมา ค่อยกล่าวออกเสียงหนัก สองตาแดงก่ำ “จากที่มันพูดข้ารู้เพียงว่ามันชื่อต้วนหลิงเทียน…หากแต่ไฉนข้าจึงไม่เคยได้ยินว่าในระนาบเหยียนหวงของพวกเรามียอดฝีมือชื่อนี้มาก่อนเลย?!”
“ดั่งที่ท่านบรรพบุรุษกล่าวไวกับมันก่อนหน้า ว่าต่อให้เป็นเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ที่ได้รับการยอมรับว่าแข็งแกร่งที่สุดในระนาบเหยียนหวงอย่างผู้แซ่กงซุนคนนั้น…แต่ยังไม่อาจฆ่าท่านบรรพบุรุษได้! ทว่าต้วนหลิงเทียนนั่นมันฆ่าท่านได้ ยังฆ่าได้ง่ายๆ!!”
กล่าวถึงท้ายประโยคเสียงของหยางชิงเจียนก็เผยความตึงเครียด ทั้งสั่นไปเล็กน้อย…
ความแข็งแกร่งของชายหนุ่มชุดม่วงได้ทำให้มันหวาดกลัวจับใจ ยังไม่เหลือแม้แต่ความกล้าจะคิดล้างแค้นด้วยซ้ำ…
“ต้วนหลิงเทียน…ต้วนหลิงเทียน”
ได้ยินคำของหยางชิงเจียน เหล่าอาวุโสสูงสุดขอบเขตเซียนอมตะเสพล 8 ทัณฑ์ของวังคลื่นสวรรค์ก็ได้แต่พึมพำชื่อดังกล่าวซ้ำอยู่ไม่กี่ครั้ง ค่อยหันไปถามอาวุโสคนอื่นๆในที่นี้ “พวกเจ้าเล่า มีผู้ใดเคยได้ยินชื่อต้วนหลิงเทียนมาบ้างหรือไม่…ในระนาบเหยียนหวงเรามียอดฝีมือนามนี้ด้วยหรือ?”
คนของวังคลื่นสวรรค์ได้แต่ส่ายหน้าไปมา
ทั้งหมดเป็นเพราะคนของวังคลื่นสวรรค์ที่เดินทางไปยังแดนลับต่างสวรรค์ยังไม่กลับมา
หาไม่แล้วพวกมันคงเชื่อมโยงต้วนหลิงเทียนที่เข่นฆ่าบรรพบุรุษของพวกมัน กับต้วนหลิงเทียนที่มีนามกระฉ่อนไปทั่วแดนลับต่างสวรรค์ได้ไม่ยาก สุดท้ายก็ไม่พ้นยืนยันได้ว่าเป็นคนๆเดียวกัน
เพราะอย่างไรต้วนหลิงเทียนทั้งสองก็เป็นผู้ฝึกกระบี่ อีกทั้งวิธีการลงมือยังเหมือนกัน!
“ตอนนี้พวกเจ้าทุกคนจงกล่าวคำสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้าเสีย…ว่าจะไม่เปิดเผยเรื่องราวในวันนี้ออกไป”
ขณะเดียวกันจ้าววังคลื่นสวรรค์ หยางชิงเจียน ก็ฉุกคิดใดได้ จึงเร่งกล่าวออกมาเสียงหนัก ทำให้บางคนของวังคลื่นสวรรค์ที่ยังอื้ออึง สะดุ้งไปเพราะตั้งตัวไม่ทัน “เนื้อหาคำสาบานก็ไม่ใช่อะไร นอกจากหากกล้าเปิดเผยเรื่องราววันนี้ออกไป ก็ขอให้ฟ้าพิฆาตตายตก!”
เสียงของหยางชิงเจียนนั้นเด็ดขาดนัก ไม่เหลือช่องว่างให้ต่อรองใดๆ
และจุดประสงค์เดียวที่มันสั่งออกมาแบบนี้ เพราะไม่ต้องการให้เรื่องบรรพบุรุษของพวกมันตกตายแล้แพร่กระจายออกไป
ท้ายที่สุดแล้ว ที่วังคลื่นสวรรค์ของพวกมนัคงความยิ่งใหญ่ดั่งวันนี้ได้ เพราะมีบรรพบุรุษขอบเขตเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์เป็นผู้ค้ำจุน!
หากข่าวเรื่องราวนี้แพร่กระจายออกไป เกรงว่าไม่นานต้องทำให้ววังคลื่นสวรรค์ตกที่นั่งลำบากแน่นอน
เนื่องจากวังคลื่นสวรรค์ไม่อาจควบคุมกลุ่มอิทธิพลได้เด็ดขาดเหมือนเดิม สุดท้ายพวกมันก็ต้องเสื่อมอำนาจลง…
ยังต้องตกไปอยู่ในกลุ่มขุมพลังชั้นรองเหมือนกับนิกายถัง! ส่วนนิกายถังนั้น…ในบรรดาขุมพลังชั้นรองก็เป็นเพียงขุมพลังที่ค่อนข้างอ่อนแอเช่นกัน…
เปรี๊ยง! เปรี๊ยง! เปรี๊ยง! เปรี๊ยง! เปรี๊ยง!
…
วันนี้คนของวังคลื่นสวรรค์ทั้งหลายอดไม่ได้ที่จะตกใจกันยกใหญ่ เพราะเสียงอัสนีลั่นดังกึกก้องไปทั่ว เสียงฟ้าฟาดยังดังต่อเนื่องไปถึงหนึ่งก้านธูปกว่าจะดับลง
อย่างไรก็ตาม เรื่องราวกลับไม่เป็นไปอย่างที่หยางชิงเจียนต้องการแม้แต่น้อย…
นั่นเพราะก่อนที่มันจะสั่งให้คนกล่าวคำต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้า มีศิษย์ลาดตระเวนหลายคนได้ ใช้ป้ายหยกสื่อสารแจ้งเรื่องราวทั้งหมดไปยังสหายและหัวหน้าหน่วยของตัวเองเรียบร้อย กล่าวได้ว่ามี ‘ปลาที่เล็ดลอดร่างแห’ ไม่ได้กล่าวคำสาบานหลายคน!
และกว่าที่หยางชิงเจียนจะไหวตัวทัน เรื่องราวก็ผ่านไปแล้วกว่าครึ่งเดือน ทุกอย่างสายเกินไป…
“บรรพบุรุษของวังคลื่นสวรรค์ เซียนอมตะเสเพล 9ทัณฑ์ กลับถูกชายหนุ่มชุดม่วงคนหนึ่งเข่นฆ่าต่อหน้าต่อตาคนมากมายไม่เว้นจ้าววังอย่างหยางชิงเจียน! เห็นว่าชายหนุ่มชุดม่วงคนนั้นเรียกว่าต้วนหลิงเทียน!!”
“ต้วนหลิงเทียนผู้นั้น เห็นว่าเป็นมือดีที่นิกายถังจ้างวานมาคอยติดตามช่วยเหลือถังเซี่ยวเซี่ยว…เห็นว่าพลังฝีมืออาจเหนือกว่ายอดฝีมือของตระกูลกงซุนผู้นั้นเสียอีก!”
“คนของตระกูลกงซุน แม้จะได้รับการยอมรับจากชนชั้นยอดฝีมือของระนาบเหยียนหวงแล้วว่าเป็นเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์อันดับ 1…แต่กระนั้นมันก็ไม่กล้าพูดได้เต็มปากว่ามีสามารถมากพอจะเข่นฆ่าเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ด้วยกันได้! นับประสาอะไรกับเข่นฆ่าในพริบตา!!”
“ว่ากันว่าต้วนหลิงเทียนผู้นั้นยังมีวิธีการลงมือที่แปลกประหลาดนัก…ค่ายกลกระบี่ที่มันใช้ออก ไม่ทราบทำอย่างไรกันแน่ แต่สามารถปลดอาวุธของบรรพบุรุษวังคลื่นสวรรค์ที่เป็นยอดสมบัติสวรรค์ได้หน้าตาเฉย!”
“ข้าเองก็ได้ยินเรื่องนี้มาเหมือนกัน…ที่มันเข่นฆ่าบรรพบุรุษวังคลื่นสวรรค์ได้เพราะมีเปรียบเรื่องศาสตรา แต่ผู้อื่นมิอาจใช้…”
…
ข่าวลือเรื่องต้วนหลิงเทียนถูกนิกายถังจ้ามาล้างแค้นวังคลื่นสวรรค์ ทั้งฆ่าเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์เริ่มแพร่ออกไปทั่ว ไม่นานคนที่รู้ก็ไม่ได้มีแต่คนของวังคลื่นสวรรค์ เพราะข่าวลือดังกล่าวยังแพร่ออกไปทั่วทั้งดาว และเริ่มแพร่ไปยังดาราจักรใกล้เคียงในเวลาอันสั้น
และพอข่าวลือดังกล่าวแพร่มาถึงดาราจักรเชียนจี ประมุขนิกายถังอย่างถังชงที่ได้รับทราบก็หวาดกลัวไม่น้อย
“ตะ…ต้วนหลิงเทียนผู้นั้น ฆ่าแพะเฒ่าของวังคลื่นสวรรค์ได้จริงๆ?”
“เรื่องแบบนี้มัน…”
จังหวะนี้กระทั่ง ถังชง ประมุขนิกายถัง ที่เผชิญคลื่นมรสุมมาไม่น้อยในชีวิต ยังอดไม่ได้ที่จะตกใจจนสติหลุดลอย
กระทั่งหลับมันยังไม่เคยฝันถึง
ว่าชายหนุ่มชุดม่วงคนนั้นจะทรงพลังทั้งร้ายกาจขนาดนี้
“เซี่ยวเซี่ยว…ได้คบหาสหานอันน่าทึ่งแล้วจริงๆ”
หลังจากนั้นไม่นานนัก ถังชงก็สามารถระเบิดเสียงหัวเราะออกมาได้อย่างปลอดโปร่ง ความเครียดและความกังวลเพราะสูญเสียเสาหลักไป 2 คนก่อนหน้า มลายหายไปหมดสิ้น…