ภาค 10 ขี่วายุทะลายคลื่นหมื่นลี้ บทที่ 996 เยี่ยนจ้าวเกอ เซียนผู้ถูกเนรเทศ

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

แม่เฒ่ากระบี่อาคเนย์ไม่อาจไม่แตกตื่น

ชิงซู่จื่อตายด้วยน้ำมือของเยี่ยนจ้าวเกอบ่งบอกถึงอะไร

บ่งบอกว่าถ้าหากนางสู้กับเยี่ยนจ้าวเกอ ก็อาจจะมีจุดจบโดยการถูกสังหารเช่นกัน

จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้า ขั้นสะพานเซียนระยะท้ายถูกจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะสำแดงสังหาร?

ก่อนวันนี้ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่แม่เฒ่ากระบี่อาคเนย์แทบไม่เคยคิดถึง

หากแต่ตอนนี้นางไม่อาจไม่ยอมรับปัญหานี้

โดยเฉพาะตามคำกล่าวของเยี่ยนจ้าวเกอ คนที่ตายในค่ายกลแม่น้ำเหลืองเก้าโค้งไม่ได้มีแค่ชิงซู่จื่อเท่านั้น แต่ยังมีจางซู่เหรินกับเผิงเฮ่อด้วย

สองคนนี้ล้วนตายเพราะฝ่ามือรอยตราพลิกนภาของเยี่ยนจ้าวเกอ ถูกกระแทกจนศีรษะแตกเลือดอาบ กะโหลกแหลกเหลว ยากจะแยกแยะรูปร่างหน้าตา

เนื่องจากถูกแม่น้ำเหลืองเก้าโค้งกัดกร่อน กายเนื้อจึงไม่ได้แข็งแกร่งเท่าก่อนหน้า

ดูจากอาภรณ์แล้ว แม้คนอื่นยากจะแยกแยะ แต่แม่เฒ่ากระบี่อาคเนย์กลับคุ้นเคยดี

ในฐานะผู้อาวุโสระดับสูงที่มีหน้าที่ดูแลสำนักของฝั่งตะวันออกกับฝั่งทิศใต้ นางไม่ได้รู้จักกับจางซู่เหรินและเผิงเฮ่อมาแค่วันสองวัน

ถ้าหากบอกว่าเยี่ยนจ้าวเกอปลอมแปลงศพ เมื่อมีชิงซู่จื่อที่ตายไปแล้วอยู่ด้านข้าง ย่อมไม่มีความจำเป็นนั้น

นี่ยิ่งทำให้แม่เฒ่ากระบี่อาคเนย์ตื่นตระหนกกว่าเดิม

จางซู่เหรินกับเผิงเฮ่อเป็นยอดฝีมือที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้า ขั้นสะพานเซียนระยะท้ายเหมือนกัน

วรยุทธ์ที่พวกเขาฝึกฝน เป็นการสืบทอดสายหลักของเนินต้นจักรพรรดิแห่งเขาลีลาหงส์ มีความถนัดต่างกันไป พลังล้วนไม่ธรรมดา

แม่เฒ่ากระบี่อาคเนย์รู้ตัวว่าถ้าหากสู้กันหนึ่งต่อหนึ่ง ก็ไม่อาจรับประกันว่าสังหารจางซู่เหรินกับเผิงเฮ่อได้

แต่ว่าตอนนี้พวกเขากลับตายด้วยน้ำมือของเยี่ยนจ้าวเกอ

‘หรือว่าค่ายกลแม่น้ำเหลืองเก้าโค้งที่เขาวาง จะมีอานุภาพเหนือกว่าที่คาดไว้’ แม่เฒ่ากระบี่อาคเนย์เกิดความสงสัย

ก่อนหน้านี้แม้จะเข้าไปในค่ายกล แต่ว่าตอนที่ค่ายกลแม่น้ำเหลืองเก้าโค้งเพิ่งปรากฏได้ไม่นาน สถานการณ์ยังไม่ชัดเจน แม่เฒ่ากระบี่อาคเนย์ได้ลองทดสอบอานุภาพของค่ายกลดู

ถึงแม้ว่าจะแข็งแกร่งมาก แม้แต่พลังระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียนระยะท้ายก็ยังถูกสะกด แต่คิดจะอาศัยค่ายกลสังหารจอมยุทธ์เช่นตนในระยะเวลาสั้นๆ ยังคงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด

ยิ่งไปกว่านั้น พวกชิงซู่จื่อยังร่วมทางกันด้วย?

นอกจากนี้ดูจากสถานการณ์แล้ว ยังมีจอมยุทธิ์ทิศใต้คนอื่นอีก

แม่เฒ่ากระบี่อาคเนย์กวาดสายตามอง เห็นหยวนเสี่ยนเฉิงแล้ว

หยวนเสี่ยนเฉิง ‘เนตรหงส์’ ลูกศิษย์ที่ประมุขทักษิณจวงเซินภาคภูมิใจที่สุด เป็นบุคคลที่โดดเด่นที่สุดในหมู่ยอดฝีมือยุคใหม่ของเขตเพลิงทักษิณ

ทว่าคนเช่นนี้กลับตกตายด้วยมือของเยี่ยนจ้าวเกอ

‘อาวุธเซียนหรือ’ ครั้งนี้แม่เฒ่ากระบี่อาคเนย์คิดถึงความเป็นไปได้อีกอย่าง แม้ว่าการกระตุ้นอาวุธเซียนของจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะสำแดงจะเป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อ แต่นอกจากนี้แล้ว แม่เฒ่ากระบี่อาคเนย์ก็คิดไม่ออกจริงๆ ว่าเยี่ยนจ้าวเกอจะยังมีวิธีอะไรที่ใช้สังหารพวกชิงซู่จื่อได้

ทว่านางสัมผัสถึงเศษลมปราณที่ยิ่งใหญ่ของอาวุธเซียนไม่ได้

นี่ขัดแย้งกับการอนุมานของนางอีกครั้ง

แม้แม่เฒ่ากระบี่อาคเนย์จะมีภูมิความรู้กว้างขวาง ในตอนนี้ก็ยังสับสน

เยี่ยนจ้าวเกอเหมือนเห็นเหมือนไม่เห็นสายตาของคนอื่นๆ ที่มองดูเขาคล้ายมองดูสัตว์ประหลาด กล่าวสืบต่อ “นอกจากพวกชิงซู่จื่อแล้ว ยังมีหยวนเสี่ยนเฉิงจากเนินต้นจักรพรรดิ และคนจากยอดเขาอนัตตาที่มองพร้อมกับเขา”

“เป็นนักพรตเซียนหลาน ลูกศิษย์ที่จักรพรรดิเอกภพถ่ายทอดวิชาให้ด้วยตัวเอง” แม่เฒ่ากระบี่อาคเนย์กล่าวด้วยน้ำเสียงแหบพร่า

นางยังไม่เคยพบนักพรตเซียนหลาน แต่เคยเห็นภาพเงาแสงที่แพร่หลายมาก่อน

ลูกศิษย์ที่จักรพรรดิเอกภพถ่ายทอดวิชาให้ด้วยตัวเองมีไม่กี่คน ทว่าแต่ละคนล้วนนับเป็นคนที่มีชื่อเสียงบนโลกซ้อนโลกทั้งสิ้น

แม่เฒ่ากระบี่อาคเนย์มองไปยังศพเหล่านั้น จำนักพรตเซียนหลานได้แล้ว

“ตอนอยู่บนเทือกเขาสันติภาพที่อยู่ทางตะวันตกของเขารอบวง ข้าความจริงสู้กับจางซู่เหรินและหยวนเสี่ยนเฉิงก่อน ต่อมาพวกเขาถอยกลับเขารอบวง พวกชิงซู่จื่อกับเผิงเฮ่อจึงค่อยไล่ตามมา” เยี่ยนจ้าวเกอเล่า “ยังดีที่เขารอบวงมีแม่น้ำยุคสมัยไหลผ่าน ทำให้ข้าวางค่ายกลแม่น้ำเหลืองเก้าโค้งได้ ไม่อย่างนั้นข้าคงจัดการเขาไม่ได้จริงๆ”

“แม่น้ำเหลืองเก้าโค้งปกคลุมอาณาเขตของเขารอบวงทั้งหมด นอกจากพวกจางซู่เหรินกับชิงซู่จื่อแล้ว สำนักของจอมยุทธ์ทิศใต้ที่อาศัยอยู่ที่นี่ ล้วนจมน้ำไปหมดสิ้น”

น้ำจากแม่น้ำเหลืองที่ยิ่งใหญ่ ก่อนหน้านี้กระจายไปทั่วทุกที่ในเขารอบวง เหมือนกับอุทกภัยล้างโลก

แต่ว่าเพราะการควบคุมของเยี่ยนจ้าวเกอ แม้ว่าแม่น้ำจะอันตราย แต่กลับไม่ส่งผลต่อคนทั่วไป

แม้จะเป็นสถานที่ที่มีผู้คนบางตา น้ำล้วนอ้อมผ่าน เพียงแค่สร้างความแตกตื่นแก่ผู้คนเท่านั้น

แต่ว่าสำนักของจอมยุทธ์ที่เหลือไม่ได้โชคดีบานนั้น ล้วนถูกแม่น้ำเหลืองเก้าโค้งชำระล้างหมดสิ้น

เยี่ยนจ้าวเกอไม่ถือสากับการฆ่าคน กระนั้นก็ไม่ได้กระหายเลือด

สำนักเหล่านั้นแม้จะประสบการกวาดล้าง กลับไม่มีคนบาดเจ็บล้มตาย เพียงแต่ถูกทำลายที่อยู่และค่ายกลเท่านั้น

ที่ถูกสังหารจริงๆ ล้วนเป็นจอมยุทธ์จากเนินต้นจักรพรรดิ และจอมยุทธ์ที่อยู่บนเรือนภาร่อนวายุ

“หากฝั่งตะวันออกเฉียงใต้คิดจะยึดเขารอบวง จอมยุทธ์ในท้องถิ่นที่เหลืออยู่สมควรไม่ไร้พลังแข็งขืน” เยี่ยนจ้าวเกอว่า “จอมยุทธ์ทิศใต้ส่วนใหญ่ที่เทือกเขาสันติภาพล้วนถูกข้าสังหารทิ้ง เขามหาวิญญาณหนึ่งในสองสำนักใหญ่ระดับสูงสุดถูกข้าทำลายที่อยู่ นักพรตตงเฉวียน เจ้าสำนักถูกข้าสังหาร”

“หากฝั่งตะวันออกเฉียงใต้จะรุกเข้าไปหาเขาสันติภาพ กำลังป้องกันเกรงว่าจะไม่มาก”

เพื่อป้องกันไม่ให้จอมยุทธ์ทิศตะวันออกเฉียงใต้มารับหรือฉวยโอกาสโจมตี เมื่อก่อนหน้านี้เขตเพลิงทักษิณจึงปิดข่าวที่เยี่ยนจ้าวเกอบุกมาไว้อย่างแน่นหนา

เป็นคนในฝั่งตะวันออกเฉียงใต้เพิ่งจะทราบเรื่องก่อนหน้า

จอมยุทธ์เขาโถงทองคนหนึ่งที่อยู่ด้านข้างแม่เฒ่ากระบี่อาคเนย์กล่าวด้วยสีหน้าแข็งค้าง “นักพรตตงเฉวียนแห่งเขามหาวิญญาณในเทือกเขาสันติภาพ คนผู้นี้ข้าคล้ายได้ยินมาก่อน สมควรอยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้้นแปด ขั้นสะพานเซียนระยะกลางกระมัง”

“ถูกต้อง” เยี่ยนจ้าวเกอพูด ในมือเพิ่มแส้เหล็กหยาบที่เหมือนกับหางมังกรอันหนึ่ง “นี่คือของวิเศษคุ้มครองสำนักของเขามหาวิญญาณ”

ขณะเดียวกันในมืออีกข้างของเขาก็เพิ่มกระบี่ยาวที่เปล่งแสงสีม่วงเล่มหนึ่ง “นอกจากนี้แล้ว ตอนนั้นบนเขามหาวิญญาณยังมีคนผู้หนึ่ง วิชากระบี่โดดเด่น แต่คล้ายไม่ใช่จอมยุทธ์ในเทือกเขาสันติภาพ”

ทุกคนตื่นตะลึง “อาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงสองชิ้น?!”

แม่เฒ่ากระบี่อาคเนย์มองดูกระบี่ยาวเล่มนั้นอยู่ครู่หนึ่ง พลันโพล่งว่า “กระบี่ทะเลม่วง กระบี่ของจ้าวเจิน มือกระบี่ทะเลม่วงแห่งทะเลเจิดจ้าในเขตเพลิงทักษิณ”

จากนั้นนางก็เว้นครู่หนึ่ง แล้วค่อยกล่าวสืบต่อ “เขาอยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นแปด ขั้นสะพานเซียนระยะกลางเช่นกัน”

นางมองเยี่ยนจ้าวเกอ

พอได้ฟังเยี่ยนจ้าวเกอพูด นางจึงเข้าใจขึ้นมา

สาเหตุที่เยี่ยนจ้าวเกอวางค่ายกลทะเลเหลืองเก้าโค้งในเขารอบวงได้ เป็นเพราะว่าชัยภูมิของแม่น้ำยุคสมัย

แต่เทือกเขาสันติภาพไม่ได้มีแม่น้ำที่เหมือนกับแม่น้ำยุคสมัย!

เช่นนั้นเยี่ยนจ้าวเกอเอาชนะหยวนเสี่ยนเฉิง สังหารนักพรตตงเฉวียนและจ้าวเจินที่นั่น ถึงขั้นที่เอาชนะจางซู่เหรินที่อยู่ใรนระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้า ด้วยการใช้แค่ความสามารถของตัวเอง!

ต่อให้มีพลังของอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงเช่นตราประทับตะวัน หรือต่อให้มีอาวุธเซียน แต่สุดท้ายก็เปลี่ยนแปลงความจริงข้อหนึ่งไม่ได้อยู่ดี

ปัจจุบันเยี่ยนจ้าวเกออยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นหก ขั้นเทวะสำแดงระยะท้าย

มีคนกล่าวไว้ว่าทารกสามขวบถือมีด ไม่ทำร้ายผู้อื่น แต่จะทำร้ายตัวเอง

ของวิเศษต่อให้แข็งแกร่งกว่านี้ แต่ถ้าผู้ใช้อ่อนแอเกินไป ก็ไม่อาจแสดงอานุภาพ

เยี่ยนจ้าวเกอเคยไล่ล่าผู้วิเศษเซิงที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นแปดในทะเลหวงเจีย แม่เฒ่ากระบี่อาคเนย์และจอมยุทธ์เขาโถงทองที่อยู่รอบๆ ล้วนทราบเรื่องนี้ ตั้งแต่นั้นมา พวกเขาก็รู้แล้วว่าคนหนุ่มตรงหน้านี้ไม่ธรรมดา

แต่ว่าหนึ่งต่อหนึ่ง กับหนึ่งต่อมาก เป็นเรื่องที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

ด้วยพลังของตัวเอง แม้จะเจอการกลุ้มรุม ก็ยังคงเอาชนะและสังหารจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียนระยะกลางกลุ่มหนึ่งได้

อาศัยพลังของค่ายกลแม่น้ำเหลืองเก้าโค้ง สังหารพวกชิงซู่จื่อจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียนระยะท้ายสามคน

ผลการรบเช่นนี้ยังคงสร้างความตกตะลึงพรึงเพริดให้แก่ผู้คน

บุคคลในตำนานตัวเป็นๆ ยังทำเช่นนี้ไม่ได้!

มีคนไม่อาจควบคุมอารมณ์ พึมพำว่า “เซียนถูกเนรเทศลงสู่โลกมนุษย์…”