พอเห็นเย่เฉิน หม่าหลันคลุ้มคลั่งด้วยความแค้น

ถึงเธอจะเชื่อคำพูดของตำรวจ คิดว่าเย่เฉินเองก็เป็นเครื่องมือในสายตาพวกแก๊งต้มตุ๋นเหมือนกัน ไม่ได้คิดจะทำบัตรเครดิตปลอมขึ้นมา

แต่ที่เธอโดนทั้งหมดเริ่มต้นจากบัตรใบนั้นของเขานี่แหละ ถ้าไม่ใช่บัตรใบนั้นของเขา ตัวเองก็ไม่ต้องมาเจอเรื่องพวกนี้ ดังนั้นเลยโยนเป็นความผิดให้เย่เฉินหมดเลย

และเพราะอย่างนั้น พอเธอเห็นเย่เฉิน ไม่มีทางทำหน้าดีๆใส่เขาหรอก

แต่พอโดนตำรวจตะคอกมาคำนี้ ก็ทำเธอตกใจเหมือนกัน

พอคิดว่าต่อไปตัวเองต้องโดนตำรวจจับตามองตลอดเวลา หม่าหลันก็รู้สึกรับไม่ได้เหมือนกัน

แต่เธอทำอะไรไม่ได้ ใครให้เธอดันเข้าไปยุ่งเกี่ยววังวนนี้กันล่ะ

ดังนั้นเธอเลยต้องพยายามข่มความแค้นที่มีต่อเย่เฉิน ทำตัวสงบเสงี่ยมขึ้นมา

พอตำรวจเห็นเธอสงบเสงี่ยมขึ้น ก็บอกเย่เฉินว่า “คุณเป็นลูกเขยเธอล่ะสิ?”

เย่เฉินพยักหน้ารับ “ครับ ผมใช่”

ตำรวจเลยบอกว่า “ได้ งั้นคุณมาเซ็นเอกสารให้ผมหน่อย เป็นหลักฐานว่ารับคนไปแล้ว”

เย่เฉินเดินตามตำรวจไปเซ็นเอกสาร ก่อนจะถามเขา “ตอนนี้ไปได้หรือยังครับ?”

ตำรวจพยักหน้าบอก “ได้แล้ว เชิญพวกคุณเถอะ”

ดังนั้นเย่เฉินเลยหันไปบอกแม่ยายว่า “แม่ พวกเราไปกันได้แล้ว ผมพาแม่ไปโรงพยาบาลนะ”

หม่าหลันโกรธจนกัดฟันกรอดๆ แต่ไม่กล้าพูดอะไร ทำได้แต่แสดงละครต่อหน้าตำรวจว่า “ไอ้หยา ลูกเขยสุดที่รักของแม่ พยุงแม่หน่อยสิ แม่เดินไม่ไหวเลย”

เย่เฉินเดินมาข้างเธอ พยายามทนกลิ่นเหม็นเปรี้ยวบนตัวเธอ และพยุงเธอขึ้นมา

เท้าขวาของหม่าหลันเจ็บปวดสุดๆ ขยับนิดเดียวก็ปวดเสียดใจ แต่หม่าหลันตอนนี้ไม่เหมือนก่อนแล้ว เมื่อก่อนหม่าหลันไม่เคยลำบาก หรือทุกข์ยากอะไรมาก่อนเลย และไม่เคยโดนทำร้ายร่างกายอะไรด้วย แต่หม่าหลันในตอนนี้ซึ่งผ่านการโดนอัดซ้อมมาสองวันติด เริ่มมีความอดทนแกร่งขึ้นมาเหมือนกัน

ในสายตาเธอแล้ว ขาหักแค่นี้เทียบกับความลำบากและทุกข์ทรมานตอนอยู่สถานกักขังแล้ว เทียบกันไม่เห็นฝุ่นเลย

เธออดคิดถึงเพลงนั้นของเจิ้งจื้อฮั่วขึ้นมาไม่ได้ เขาบอกว่าในลมพายุฝนความเจ็บปวดแค่นี้จะเท่าไหร่กัน…

ขอเพียงหลุดพ้นจากฝันร้ายอย่างสถานกักขังนี่ได้ ต่อให้ขาหักทั้งสองข้าง ถ้าได้ออกไปจากที่นี่ก็พอแล้ว

เย่เฉินพยุงแม่ยายออกจากสถานกักขัง ที่หน้าประตูมีรถเช่ามาค่อนข้างเก่าคันหนึ่งรออยู่ตรงนั้น เป็นรถที่เขาขับมา เขาเลยหันมามองหม่าหลัน “แม่ครับ พวกเราขึ้นรถกันเถอะ”

พอหม่าหลันเห็นรถเช่าเก่าคร่ำครึนี่ ก็เซ็งสุดๆ!

เธอลำบากมากขนาดนั้น ถึงได้รับการปล่อยตัว ก็น่าจะเอารถดีหน่อยมารับเธอกลับไปถึงจะถูกสิใช่ไหม?

ยังไงก็น่าจะขับรถสปอร์ตของสามีเธอมาสิ!

ผลสุดท้ายหรอ? รถสปอร์ตไม่มี กลับให้เธอขึ้นรถเช่าสัปะรังเคนี่!

หม่าหลันโกรธเอามากๆ อยากด่าเซียวฉางควน และเย่เฉินด้วย!

แต่ที่รับไม่ได้ที่สุดคือ ถึงในใจเธอจะโกรธแค่ไหน แต่ก็ไม่สามารถลงกับเย่เฉินได้

เธอไม่กล้าระบายอารมณ์ใส่เย่เฉินเรื่องบัตรเครดิต และไม่กล้าใส่อารมณ์กับเขาเรื่องรถเช่าด้วย

ได้แต่เก็บความโกรธกลืนลงท้องไป มันเจ็บปวดแทบจะระเบิด

จากนั้น หม่าหลันก็ขึ้นไปนั่งรถเช่าเก่าคร่ำครึภายใต้การช่วยพยุงของเย่เฉิน

พอขึ้นรถ เย่เฉินก็บอกกับคนขับรถว่า “ลุงครับ ไปแผนกฉุกเฉินโรงพยาบาลชุมชนครับ”

————