ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 1193 ขุดรากถอนโคลน
เมืองหลวง
ตอนที่ม็อกโกกลับมาถึงที่นี่ ฟ้ายังไม่ทันสาง แต่เขายังคงไปเดอะวิวซีด้วยท่าทางเหนื่อยๆ
“คุณชายภาสดร คุณเป็นอะไรคะ?”
“คุณชายเล็กของพวกเธอล่ะ กำลังนอนอยู่หรอ?”
ภาสดรไม่อยากจะพูดจาเพ้อเจ้อกับพวกคนรับใช้ เลยถามถึงนายน้อยของพวกเขา
แต่เหนือความคาดหมาย สาวใช้คนนี้ส่ายหน้า “ยังค่ะ คุณชายเล็กกำลังอยู่ในห้องอ่านหนังสือ คุณชายภาสดรอยากที่จะหาเขาหรอคะ”
“……”
ภาสดรถือโอกาสตอนที่ฟ้ามืด เข้าไปในห้อง
หลังจากที่เขามาถึงเดอะวิวซีก็เดินผ่านห้องโถงใหญ่อย่างคุ้นเคยมาที่ตึกๆเล็กที่อยู่ด้านข้าง เขามองปราดเดียวก็เห็นแสงไฟสีส้มกำลังเปิดอยู่ในห้องนั้น
แสงไฟนั้นไม่ได้สว่างมากมายขนาดนั้น แต่ตอนที่ฟ้ามืดกำลังจะสางนั้น กลับทำให้รู้สึกถึงความอบอุ่นเป็นพิเศษ
ภาสดรเดินสาวเท้าเข้าไปหา
“แอ๊ดดด…..”
ตอนที่ประตูถูกผลักออก กลิ่นอายนวลๆได้เข้าถาโถมเข้ามาในจมูก ชั่วขณะนั้นเขาที่กำลังยืนอยู่หน้าประตูก็รู้สึกอยากจะร้องไห้อีก
นี่เป็นครั้งแรกที่เขากลับมาที่นี่ ตอนที่เขาได้เกิดเรื่องขึ้น
คนที่อยู่ในห้องหนังสือก็ชะงัก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนสูงวัยที่กำลังผมขาวที่กำลังนั่งอยู่ข้างเตาผิง หลังจากเงยหน้ามามองเขาแล้ว สายตาพล่ามัวที่สะลึมสะลือนั้นก็ให้เบิกกว้างขึ้นในทันใด
“โก?!”
เขาค่อยๆลุกขึ้นยืน ไม่สนใจชาที่ถืออยู่ในมือ เขาวางมันไว้บนโต๊ะเล็กๆอย่างรีบร้อน แล้วรีบเดินเข้ามาหา
ม็อกโกเห็นดังนั้น เดิมทีความรู้สึกที่อึมครึมเสียใจอยู่ภายใน ชั่วขณะนั้นเองก็ไม่สามารถที่จะฝืนเอาไว้ได้ เขายืนอยู่ต่อหน้าคนสูงวัย น้ำตาไหลรินออกมาจากนัยน์ตาของเขา
“ปู่ ผมกลับมาแล้ว”
“อื้ม กลับมาแล้ว หลานชายของฉัน……ในที่สุดก็กลับมาแล้ว”
ไชยันต์รู้สึกจุกอยู่ที่คอ นายพลสูงวัยที่ไม่เคยน้ำตาไหลในสนามรบเลย ตอนนี้เขากอดหลานชายที่สูญเสียไปแต่ได้กลับคืนมา
ในที่สุดเขาก็น้ำตาไหล
นั่นสิ ผ่านอะไรพวกนี้มา เขาเข้าใจอย่างลึกซึ้งเลยว่าไม่มีอะไรสำคัญกว่าคนในครอบครัวที่อยู่ข้างกายของตัวเอง
แสงดาวมองดูอยู่ข้างๆอย่างเงียบๆ
จนกระทั่งอารมณ์ของปู่หลานสงบลง เขาถึงเอาแก้วชาที่เทไว้เรียบร้อยแล้วเลื่อนมาให้
“เรื่องของมณฑลAจัดการเรียบร้อยแล้วหรอ?”
“ครับ พิมเจ้าตายแล้ว”
ม็อกโกรับชามาจิบ ตอนที่เอ่ยชื่อนี้เขาจุกที่ลำคอ
แสงดาวค่อนข้างประหลาดใจ “ตายหรอ แล้วตายได้ยังไง?”
“ตอนที่สู้กับพวกนั้น เธอได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก ผมไม่ได้สังเกต จนกระทั่งเธอขึ้นเรือสปีทโบ๊ทไป เธอรู้ว่าตัวเองจะหนีไปไม่พ้น ก็เลยระเบิดตัวเอง”
ม็อกโกพูดอย่างหน่วงใจ
ใช่แล้ว ตอนนั้น พิมเจ้าฆ่าตัวตาย
ตอนที่พวกเขาออกจากคฤหาสน์หลังนั้น มันเป็นช่วงเวลากลางคืนเขาไม่มีทางที่จะสังเกตได้ละเอียดขนาดนั้น และผู้หญิงคนนั้นก็ปกปิดไว้ได้เป็นอย่างดี จนแม้แต่ตัวม็อกโกเองก็ไม่ได้สังเกตเห็นว่าเธอนั้นได้รับบาดเจ็บหนัก
และเธอที่ได้รับบาดเจ็บอย่างนี้ ในสถานการณ์นั้นก็ไม่มีทางหนีทีไล่แล้วจริงๆ
จัดการตัวเองให้หมดสิ้น ยังดีกว่าตายคาน้ำมือคนพวกนั้น
ม็อกโกหยิบของสองสิ่งออกมาวางไว้บนโต๊ะด้วยสายตาที่ดำขลับ
แสงดาว “นี่คือ…..?”
“เป็นของที่เธอให้ผมก่อนที่จะตาย อันนึงเป็นรายชื่อที่เธอรับมาทั้งหมดตลอดหลายปีนี้ที่โรงน้ำชา อีกอันนึงเป็นโซนส่วนตัวการเดินอาวุธของคนพวกนั้นแล้วก็มีส่วนของโครงการยุทธโยธาทหาร”
“!!!!!”
เป็นไปอย่างที่เขาคาดคิด หลังจากที่ผู้ชายคนนี้ได้ยินดังนั้น สายตาดำขลับที่สงบเยือกเย็นก็ให้แลดูสว่างสไหวขึ้นมาทันตา แล้วหลังจากนั้นก็หยิบของสองสิ่งนี้ไปทันที
นี่ถือว่าเป็นของขวัญชิ้นใหญ่!
ไชยันต์ยืนอยู่ด้านข้าง รู้สึกตะลึง “เธอกล้าเอาของสำคัญนี้ให้แกหรอ แกบอกเธอแล้วหรอว่าแกเป็นใคร?”
ม็อกโกส่ายหน้า
แต่ในความเป็นจริง ในใจของเขามีคำตอบนี้อยู่นานแล้ว
เพราะตอนที่พิมเจ้าจะตาย เขาได้เห็นเธอยิ้มให้เขา และรอยยิ้มเมื่อมาคิดดูอีกทีก็เหมือนเป็นรอยยิ้มที่เธอยิ้มตอนมองม็อกโก
มันดูอ่อนโยน
และสนิทสนม
ม็อกโกให้รู้สึกจุกอยู่ในใจขึ้นมาอีกครั้ง
คืนนั้นแสนรักที่เอาของสองอย่างนี้มา เขาไม่ได้กำจัดความหายนะพวกนี้ด้วยตัวของเขาเอง แต่รอให้ฟ้าสาง เขาเลยให้คนเอาพวกมันไปให้กับเตชินทร์ไวท์ พาเลซ
ไชยันต์เห็นดังนั้น ให้รู้สึกโกรธ
“ทำไมแกถึงให้มัน นี่เป็นของที่ไม่ใช่ว่าได้มาง่ายๆนะ แกให้มันไป แล้วถ้ามันเอาไปทำลายจะทำยังไง?”
“ไม่หรอกครับ”
แสนรักแสยะยิ้มที่มุมปาก แล้วพูดทิ้งท้ายอย่างเรียบๆ
ความจริงพิสูจน์แล้วว่าแผนยุทธการของเขานั้นถูกต้อง ผ่านไปสองวันอีกฝ่ายนึงก็เริ่มกวาดล้างให้ราบคาบ และครั้งนี้รูปแบบกองทัพจะดูยิ่งใหญ่ขึ้นเพราะเป็นคำสั่งออกมาจากไวท์ พาเลซที่ทำงานหัวหน้าสูงสุด
ฝ่ายปราบปรามคอร์รัปชั่น ศาลยุติธรรม ฝ่ายตำรวจ กรมภาษี แล้วก็กองกลุ่มตำรวจติดอาวุธเริ่มจะปฏิบัติการแล้ว
พวกเขาเหมือนอำนาจรัฐที่เพิ่งสร้างตัวในปีก่อน กองกำลังทหารเข้ามาเป็นร้อย พวกเดนมนุษย์ที่หลบซ่อนไม่ได้รับการลงโทษมาหลายสิบปี ขนาดความรู้สึกตอบสนองขั้นพื้นฐานยังรับไม่ทันก็ถูกจัดการราบเรียบ
ไชยันต์มองอย่างอ้าปากค้าง
ดูเหมือนว่าตอนนี้เขายังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไมเตชินทร์ถึงได้เป็นกลายเป็นมีดที่อยู่ในมือของพวกเขาได้?
มีเพียงแค่เส้นหมี่ที่หลังจากได้เห็นฉากนี้ ในช่วงเวลาบ่ายแสงแดดอันอบอุ่น เธอกำลังถือตระกร้ามาที่ในสวนเพื่อมาหาชายที่กำลังตัดดอกไม้อยู่กับลูกสาว