ตอนที่ 1267: โลกของจิตวิญญาณกระบี่
ลูกท้อสามารถเพิ่มการบ่มเพาะของข้าได้ 500 ปี ? จือหยิง 500 ปีนี่มันเท่าไรกันแน่ ? และมันคิดกันอย่างไร ? เจี้ยนเฉินถามด้วยความสงสัย เซียนผู้คุมกฏมีหลายคนที่ไม่อาจทะลวงถึงเซียนจักรพรรดิได้ตลอดช่วงชีวิตของเขา ในขณะที่คนอื่น ๆ ต้องการเพียงไม่กี่ร้อยปีเพื่อทะลวงผ่าน เจี้ยนเฉินมีความอยากรู้อย่างมากที่จะทราบจำนวนที่แน่นอนของการบ่มเพาะ 500 ปี
จือหยิงไตร่ตรองอย่างเงียบ ๆ ก่อนที่จะตอบว่า นายท่าน สมบัติสวรรค์ไม่กี่อย่างที่จะเพิ่มจำนวนการบ่มเพาะแบบลูกท้อในโลกของเราตรง ๆ และทั้งหมดก็วัดกันด้วยจำนวนปีที่มันสามารถเพิ่มขึ้นได้ จำนวนของมันคำนวนจากการบ่มเพาะตามเหล่าคนพิเศษที่ได้รับ เนื่องจากการดูดซับพลังอมตะมีจำนวนที่กำหนด ลูกท้อสามารถเพิ่มการบ่มเพาะให้ใครบางคนได้ถึง 500 ปี พลังงานของมันจึงเทียบเท่ากับความสำเร็จในการบ่มเพาะของคนพิเศษหลังจากที่บ่มเพาะมา 500 ปี
แต่บางคนที่มีความสามารถที่ยอดเยี่ยมกว่าหรือพวกที่บ่มเพาะได้อย่างรวดเร็ว พวกเขาจะต้องใช้เวลาไม่กี่ร้อยปีหรือไม่กี่สิบปีเพื่อที่จะบรรลุสิ่งที่คนธรรมดาต้องใช้เวลาถึง 500 ปี”
ในที่สุดเจี้ยนเฉินก็เข้าใจความหมายเกี่ยวกับการบ่มเพาะ 500 ปีที่ลูกท้ออันนี้ให้เขาได้ เขาคิด ลูกท้ออมตะหนึ่งลูกสามารถเพิ่มการบ่มเพาะให้ข้าได้ 500 ปี มันฟังดูแล้วน่าหวาดหวั่นยิ่งนัก และมันก็เป็นการบรรลุความสำเร็จของคนพิเศษที่มีการบ่มเพาะถึง 500 ปี ในทางกลับกันข้าได้บรรลุความสำเร็จที่คนอื่นไม่อาจบรรลุได้ในสามพันปีภายในเวลาน้อยกว่าครึ่งศตวรรษและปริมาณพลังในร่างกายของข้าก็คือพลังบรรพกาลที่ยิ่งใหญ่อย่างน่าเหลือเชื่อ ดูเหมือนว่าผลลัพธ์ของลูกท้อจะไม่ได้ดีเหมือนกับที่ข้าจินตนาการเอาไว้ในคราวแรก
จือหยิง ข้าต้องกินลูกท้อกี่ลูกถึงจะได้ไปถึงขั้นที่สี่ ? และถ้าข้าต้องการไปขั้นที่ห้าข้าต้องใช้เท่าไร ? เจี้ยนเฉินถาม เขาถูกล่อลวงให้กินลูกท้อเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับร่างบรรพกาลหลังจากที่รู้ถึงผลลัพธ์ของมัน
นายท่าน ลูกท้ออมตะระดับหนึ่งเทียบเท่ากับแกนอสูรระดับ 9 สองอัน ร่างบรรพกาลของนายท่านมาถึงจุดสูงสุดของขั้นที่สาม แต่ลูกท้อระดับหนึ่งไม่เพียงพอที่จะทำให้ท่านไปถึงขั้นที่สี่ ท่านจะต้องใช้มัน 3 ผลเป็นอย่างน้อย อย่างไรก็ตามลูกท้ออมตะไม่สามารถกินได้ตามความต้องการ หลังจากที่กินไปครั้งหนึ่งแล้วต้องรออีกร้อยปีเพื่อที่จะกินลูกที่สองได้ ไม่อย่างนั้นมันก็จะไม่เกิดผลใด ๆ จือหยิงอธิบายอย่างขมขื่น สิ่งนี้กำจัดความคิดของเจี้ยนเฉินที่จะกินพวกมันในคราวเดียวออกไปทั้งหมด
เจี้ยนเฉินรู้สึกผิดหวังกับสิ่งนี้ แต่เขารู้ว่าเขาต้องกินลูกท้อเมฆม่วงที่ให้การบ่มเพาะหนึ่งพันห้าร้อยปีเพื่อที่จะทะลวงไปขั้นที่สี่หรือแกนอสูรระดับ 9 หกอัน
แม้ว่าเขาจะยังมีแกนอสูรระดับ 8-9 ที่ได้เขาจากสำนักธูปสวรรค์ เจี้ยนเฉินก็ยังไม่ได้วางแผนที่จะใช้มันตอนนี้เนื่องจากเขาไม่จำเป็นต้องรีบไปขั้นที่สี่และมันก็ยังต้องใช้เวลาอย่างมากเช่นกัน เขาไม่มีเวลามากนักในโลกหยานหวง เขาต้องการใช้เวลาที่เหลือเพื่อค้นหาสมบัติสวรรค์ให้มากที่สุดเท่าที่เขาจะสามารถนำมันออกมาได้
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้เจี้ยนเฉินตกใจคือลูกท้อเพียงผลเดียวก็มีค่าเท่ากับแกนอสูรระดับ 9 สองอัน
บางทีอาจเป็นเพราะว่าจือหยิงเข้าใจว่าเจี้ยนเฉินกำลังคิดอะไรอยู่ เขาอธิบายว่า นายท่าน คนที่แข็งแกร่งขึ้นจะยิ่งแข็งแกร่งเข้าไปอีกเมื่อพวกเขาดูดซับพลังอมตะได้อย่างรวดเร็ว ผู้คนจากโลกของเราไม่อาจเทียบกับทวีปเทียนหยวนได้ พลังงานที่สะสมถึง 500 ปีของคนคนหนึ่งมีความสามารถเทียบเท่ากับหลายพันปีต่อคนคนหนึ่งที่มีความสามารถพิเศษในทวีปเทียนหยวนซึ่งเป็นเหตุผลทำให้ลูกท้อระดับหนึ่งมีค่าเท่ากับแกนอสูรระดับ 9 สองอัน
นอกจากนี้พลังงานของโลกเราก็อยู่ในระดับที่สูงกว่าทวีปเทียนหยวน ถ้าเซียนจักรพรรดิจากทวีปเทียนหยวนไปยังโลกของเรา การบ่มเพาะของพวกเขาจะเพิ่มขึ้นอย่างน้อยหลายหมื่นเท่า ไม่เพียงแค่นั้น เพราะพลังงานโลกของเรามีอยู่มากกว่าทวีปเทียนหยวน แต่ก็มีพลังอมตะอยู่ในระดับที่สูง พลังอมตะนั้นอยู่ในระดับเดียวกับพลังงานดั้งเดิมที่นายท่านรู้จัก
เป็นเช่นนั้นเอง ? เจี้ยนเฉินได้รับความเข้าใจดีขึ้น เขาอดไม่ได้ที่จะถามจือหยิงว่า จือหยิง,ฉิงโซว โลกที่พวกเจ้าจากมานั้นเป็นเช่นไร ? คำถามนี้ถ่วงหัวใจเจี้ยนเฉินมาหลายปีแล้ว เขาเคยถามคำถามนี้มาก่อน แต่จิตวิญญาณกระบี่ปฏิเสธที่จะตอบเพราะว่าเขายังอ่อนแอเกินไป ในที่สุดเขาก็อดที่จะถามออกมาไม่ได้อีกครั้ง
พวกเขาทั้งคู่เงียบไป หลังจากนั้นไม่นานฉิงโซวก็กล่าวว่า นายท่าน เราวางแผนที่จะตอบคำถามนี้หลังจากที่ท่านตัดผ่านเป็นเซียนจักรพรรดิ แต่ตอนนี้ท่านก็อยู่ไม่ไกลจากระดับนั้นแล้ว เนื่องจากนายท่านต้องการจะรู้มาก ข้าจะบอกท่าน มีประกายปรากฏอยู่ในสายตาของฉิงโซวขณะที่นางพูดต่อว่า นายท่าน โลกของเรานั้นเรียกว่าโลกอมตะ มันเป็นโลกขั้นที่สูงกว่าทวีปเทียนหยวน เซียนจักรพรรดิในโลกเราเป็นเพียงคนที่อยู่ในระดับต่ำที่สุด ในโลกของเราพวกเขาก็เปรียบได้กับเด็กแรกเกิดที่ก้าวเข้าสู่เส้นทางการบ่มเพาะ
แม้ว่าจะได้เตรียมใจไว้แล้ว แต่เจี้ยนเฉินก็ยังตกใจอย่างมากกับสิ่งที่พวกเขาพูด ตอนนี้เขาไม่สามารถต่อสู้กับเซียนจักรพรรดิได้ สำหรับเขา พวกเขาไม่อาจเอาชนะได้ แต่พวกเขาก็ยังไม่ได้เป็นตัวตนที่สำคัญในโลกของจิตวิญญาณกระบี่ เจี้ยนเฉินตกตะลึงจากความจริงข้อนี้
ฉิงโซวพูดต่อ ย้อนกลับไปยังโลกของนางท่านคนก่อน จือหยิงและข้าได้รับบาดเจ็บอย่างมากจากการที่กระบี่ของเราอยู่ถูกทำลาย เราอยู่ในสภาวะหลับลึกและค่อย ๆ ฟื้นตัวอย่างช้า ๆ หลังจากนั้นด้วยการปรากฏตัวที่คุ้นเคยจากการฝึกฝนของนายท่านต่อบัญญัติกระบี่นภา ได้ปลุกเรา ย้อนกลับไปแล้วความสำเร็จด้านกระบี่ตั้งแต่อายุยังน้อยของตัวท่าน ผ่านคัมภีร์บ่มเพาะที่ไม่สมบูรณ์ ดังนั้นเราจึงถูกดึงดูดด้วยพรสวรรค์ของท่าน ในเวลานั้นเราจึงเพิ่งตื่นก่อนที่นายท่านคนก่อนจะเสียชีวิต ดังนั้นจือหยิงและข้าจึงรักษาวิญญาณของนายท่านและต้องการให้นายท่านกลับไปโลกอมตะ เราเชื่อว่าด้วยความสำเร็จที่ยอดเยี่ยมของนายท่านได้บ่มเพาะที่โลกอมตะและยังมีความสามารถของปรมาจารย์กระบี่อีกด้วย”
มันเป็นแค่เพราะว่าเราไม่คาดคิดว่าเราจะฟื้นความแข็งแกร่งของเราได้และสามารถทะลวงอุปสรรคของโลกได้ พวกกับความจริงที่ว่าเราใช้พลังงานของเราออกไปอย่างรวดเร็ซเมื่อเราเดินทางผ่านมิติ เราไม่อาจอยู่ได้นาน ซึ่งเป็นสาเหตุที่เราบังเอิญพาท่านมาที่ทวีปเทียนหยวน
เจี้ยนเฉินอดที่จะคิดถึงอดีตที่ได้ต่อสู้กับต๊กโกวคิ้วป่ายในอดีตไม่ได้ ก่อนที่พวกเขาทั้งสองจะตายพร้อมกับ เขาบังเอิญไปที่ทวีปเทียนหยวนด้วยความช่วยเหลือของจิตวิญญาณกระบี่ แต่เขาเพิ่งสงสัยว่าสถานการณ์ของต๊กโกวคิ้วป่ายจะเป็นอย่างไร เขาตายไปแล้วหรือไม่ ?
เจี้ยนเฉินถอนหายใจเบา ๆ เขาเริ่มสับสนเล็กน้อยและเขาพูดว่า จือหยิง, ฉิงโซว ข้าจะไปโลกอมตะไม่ช้าก็เร็ว เจี้ยนเฉินยังคงเข้าใจว่ามันต้องเป็นเรื่องยากมาก ๆ ที่เจี้ยนเฉินจะได้ยกระดับร่างบรรพกาลหลังจากที่เขาเข้าสู่ระดับใหม่ ทวีปเทียนหยวนไม่มีทรัพยากรเพียงพอที่จะสนับสนุนการเติบโตของเขา ดังนั้นเขาจึงต้องไปยังโลกอมตะหากเขาต้องการให้ร่างบรรพกาลของเขาเพิ่มระดับ ดังนั้นเขาจึงต้องการทรัพยากรที่มากขึ้นตาม
จือหยิงอ้าปากค้าง เขาต้องการพูดอะไรบางอย่าง แต่เขาก็เก็บไว้ในที่สุด เขาและฉิงโซวเท่านั้นที่เข้าใจว่านับตั้งแต่ที่พวกเขามาที่นี่การกลับไปยังโลกอมตะที่เต็มไปด้วยอุปสรรคขวางกั้นนั้น มันไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ
สัตว์อสูรหยานหวงที่เทียบเท่ากับเซียนสวรรค์ระดับ 5 อยู่เพื่อปกป้องลูกท้ออมตะ พวกเขาเห็นเจตนาของเจี้ยนเฉินและเถี่ยต้าโดยไม่ต้องจ้องมองใด ๆ เลย แม้ว่าพวกเขาทั้งสองจะมีร่างกายที่แข็งแกร่งมาก พวกมันก็ไม่อาจยืนหยัดต่อสู้กับเจี้ยนเฉินและเถี่ยต้าที่มีพลังต่อสู้พิเศษ สุดท้ายพวกเขาก็ได้หยิบแกนอสูรออกมาและเจี้ยนเฉินก็ไม่พลาดที่จะเก็บซากพวกมันเช่นกัน
หลังจากนั้นเจี้ยนเฉินก็เริ่มเก็บกวาดลูกท้อเมฆม่วง มันมีทั้งหมด 108 ผลและพวกมันก็ถูกเก็บไปทั้งหมด เขาสามารถเก็บผลได้หลายผลตามขนาดของมันกับกล่องหยก
เจี้ยนเฉินเอากล่องหยอกที่เก็บสมบัติสวรรค์ออกหลังจากนั้นก็เก็บลูกท้อจนหมดและกล่องที่เขาเตรียมเอาไว้ทั้งหมดก็เต็ม เขาต้องจัดการแหวนมิติวงอื่นของเขาให้มากขึ้น
ขณะที่เจี้ยนเฉินกังวลว่าจะมีกล่องไม่เพียงพอ จิตวิญญาณกระบี่ก็บอกว่าไม้จากโลกหยานหวงสามารถนำมาใช้เป็นกล่องที่เก็บสมบัติสวรรค์ได้ ทำให้เจี้ยนเฉินและเถี่ยต้าทั้งสองคนช่วยกันรวบรวมไม้มาลังก่อนที่จะเก็บไว้ในวัตถุมิติ เจี้ยนเฉินได้ให้เหล่าคนชั้นสูงของกลุ่มทหารรับจ้างอัคนีในวัตถุจิตวิญญาณรวมถึงสัตว์อสูรระดับ 7 ทำกล่องร่วมกับมนุษย์เช่นกัน