ตอนที่ 1268: ต้นชาหยั่งรู้ระดับ 5
เจี้ยนเฉินไม่จำเป็นต้องกังวลอีกต่อไปว่าจะมีกล่องไม่เพียงพอในตอนนี้ ด้วยการที่มีผู้คนมากมายและสัตว์อสูรสร้างภายในวัตถุจิตวิญญาณของเขา
สองวันต่อมา เจี้ยนเฉินก็พบกับสิ่งมีชีวิตที่ใหญ่กว่าเดิม มันดูเหมือนกับโอเอซิสขนาดใหญ่ที่กินพื้นที่หลายตารางกิโลเมตร พืชพรรณเขียวชอุ่มและเติบโตอย่างแข็งแรง ต้นไม้ขนาดใหญ่ที่สูงหลายร้อยเมตร
ภูเขาหนึ่งพันเมตรตั้งอยู่ใจกลาง มันชันและลื่นมากเป็นพิเศษทำให้ยากต่อการทรงตัง อย่างไรก็ตามต้นไม้โบราณที่มีความสูงประมาณหนึ่งช่วงคนเติบโตอยู่บนยอด มันดูเหมือนกับคนชรา มันไม่สูง แต่เต็มไปด้วยพลังงานชีวิตที่ดูไม่เสื่อมคลาย
นั่นมัน ต้นชาหยั่งรู้ ! เจี้ยนเฉินตะโกนออกมาอย่างเบิกบานทันทีเมื่อเขามองเห็นต้นไม้ที่อยู่บนยอด แม้ว่าเขาจะอยู่ไกลจากมัน แต่เขาก็สามารถรู้ได้จากสัมผัสของเขาและเขาก็รู้ว่ามันเป็นบางอย่างที่แตกต่างจากต้นไม้ระดับหนึ่ง ที่เขาเจอมาก่อน เห็นได้ชัดว่ามันมีระดับที่สูงกว่ามาก
นั้นเป็น ต้นชาหยั่งรู้ระดับ 5 จือหยิงพูดตอบกลับอย่างรวดเร็ว
และมันก็มีผลเมฆไฟ ผลลัพธ์ของมันเหมือนกับลูกท้อเมฆม่วง พวกมันสามารถเพิ่มการบ่มเพาะได้โดยตรงและพวกมันก็ยังส่งผลกระทบจากการกลั่นพลังอมตะ ข้อแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือผลเมฆไฟให้ผลลัพธ์เฉพาะผู้ที่กลั่นธาตุไฟเท่านั้น แม้ว่านายท่านจะใช้พลังบรรพกาลและไม่ได้มีข้อจำกัดด้านธาตุ แต่ผลไม้นี้ก็ให้ประโยชน์กับนายท่านน้อยเกินไป ฉิงโซวพูดอย่างเสียดาย
เจี้ยนเฉินเหลือบมองและเห็นต้นไม้เล็ก ๆ ที่ถูกปกคลุมไปด้วยสีแดงกว่าครึ่งภูเขา มันสูงเพียง 10 เมตรและมีผลไม้สีแดงขนาดหัวแม่มือเต็มทั้งต้น
นั่นเป็นผลเมฆไฟหรือ ? เจี้ยนเฉินพูดพึมพำเบาๆ เขาพบว่าผลไม้สีแดงเหล่านี้ส่องสว่างราวกับเปลวไฟจริง ๆ
ผลเมฆไฟเหล่านี้มีประโยชน์อย่างมากกับคนที่บ่มเพาะธาตุไฟ ผู้อาวุโสหงเหลียนใช้พลังเพลิง ดังนั้นผลไม้เหล่านี้คงเป็นประโยชน์กับนางอย่างมาก เพียงผลเดียวคงทำให้นางเป็นเซียนจักรพรรดิ ? เจี้ยนเฉินคิด เขารู้ได้ทันทีว่ามันเหมาะกับหงเหลียนจริง ๆ
เจี้ยนเฉินตบไหล่เถี่ยต้าก่อนที่จะเคลื่อนไหว เขาพุ่งเข้าหาภูเขาโดยใช้ทักษะมายาพริบตาขณะที่เถี่ยต้าตามมาติด ๆ เขาไม่ได้ช้ากว่าเจี้ยนเฉินนัก
เจี้ยนเฉินระมัดระวังอย่างมากระหว่างทาง ทุกภูมิภาคที่เต็มไปด้วยพลังชีวิตจะถูกครอบครองด้วยสัตว์อสูรหยานหวงที่แข็งแกร่ง ในเมื่อต้นชาหยั่งรู้เป็นระดับห้า สัตว์อสูรที่ปกป้องที่นี่มันต้องทรงพลังเช่นเดียวกัน มันเป็นไปได้อย่างมากที่จะเป็นสัตว์อสูรหยานหวงที่แข็งแกร่งที่สุดที่เขาได้เผชิญหลังจากที่เขามาที่นี่
อย่างไรก็ตามเจี้ยนเฉินรู้สึกประหลาดใจกับความจริงที่ว่าเขาไม่เจอสัตว์อสูรหยานหวงแม้แต่ตัวเดียวเมื่อเขาก้าวผ่านไปถึงเชิงเขา เขาไม่รู้สึกถึงการมีอยู่ของสัตว์อสูรหยานหวงเลย
เจี้ยนเฉินและเถี่ยต้ามองหน้ากันและกัน พวกเขาขึงขังอย่างมาก ในสกานการณ์นี้หมายความว่าความแข็งแกร่งของสัตว์อสูรหยานหวงนั้นเกินมือพวกเขาทั้งสอง เนื่องจากมันซ่อนตัว ทำให้มันยากที่จะหาพบ
เจี้ยนเฉิน นี่เป็นสัตว์อสูรหยานหวงขั้นเซียนจักรพรรดิ เถี่ยต้ากล่าวด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง เขาเครียดอย่างมาก แต่เขาก็ไม่ได้แสดงความกลัวใด ๆ เลย
เจี้ยนเฉินพยักหน้าเห็นด้วยอย่างแรง สัตว์อสูรหยานหวงไม่มีสติปัญญา พวกมันมีเพียงสัญชาตญาณสัตว์ป่า แม้ว่ามันจะเป็นสัตว์อสูรระดับเซียนจักรพรรดิ มันก็ยังไม่ได้มีพลังใกล้เคียงจักรพรรดิที่อยู่ด้านนอก นอกเสียจากความแข็งแกร่งทางกายของมัน มันไม่รู้ทักษะใด ๆ ของเซียนจักรพรรดิ ดังนั้นเราสามารถฆ่ามันได้ จากนั้นเจี้ยนเฉินก็เริ่มปีนภูเขาที่สูงชันไปตามโขดหินมันไม่ได้สร้างปัญหาให้กับเจี้ยนเฉินเลย ราวกับว่ามันเป็นเพียงพื้นราบที่สามารถเดินขึ้นไปตรง ๆ ได้และเถี่ยต้าก็ตามเข้ามาติดจากด้านหลัง หากไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าการบินถูกจำกัดในโลกนี้ การจะขึ้นไปบนสุดยอดนั้นจะง่ายขึ้นกว่าเดิม
ไม่นาน เจี้ยนเฉินและเถี่ยต้าก็มาถึงยอดเขา แต่การแสดงออกของพวกเขาเปลี่ยนไปในเวลานี้