ในเวลาเดียวกันที่พุ่งตรงไปยังโรงพยาบาลชุมชน ยังมีเซียวชูหรันที่เป็นห่วงเต็มหัวใจ

เธอได้ยินว่าขาแม่หักแล้ว ในใจร้อนรนมาก และไม่รู้ว่าสองวันนี้แม่ไปเจออะไรมาบ้าง

หม่าหลันวางสายลง กอดขาขวาตัวเอง เจ็บปวดจนเหงื่อแตกซิก

เธอร้องโอดโอยไปพลาง เร่งคนขับอย่างโกรธๆ “รถคุณโอเคไหมเนี่ย? ขับช้าจริง! ฉันเจ็บจะตายอยู่แล้วรู้ไหม?”

คนขับรถตอบเนิบๆ “ขับรถในเมืองเขามีกฎเรื่องความเร็วนะ ต้องขับตามระดับความเร็วที่บังคับ ถ้าเกิดขับเร็วเกิน ไม่เพียงโดนหักคะแนน และมันจะเสี่ยงกับความปลอดภัยของคนเดินถนนด้วย”

“เสี่ยงอะไรกัน!” หม่าหลันกำลังเดือด พอได้ยินเขาพูดแบบนี้ ก็โพล่งด่าเลย “ขับเร็วหน่อย! ฉันเจ็บจะตายอยู่แล้ว คุณก็จะได้เงินมากขึ้นด้วยไง? คุณขับช้าแบบนี้ เกิดฉันเป็นอัมพาตรักษาไม่ได้ขึ้นมา ฉันไม่จบกับคุณง่ายๆแน่!”

คนขับพูดอย่างอ่อนใจ “รถผมขับเร็วพอแล้ว! ถ้าคุณบ่นว่าผมขับช้า ก็เปลี่ยนคันเลยสิ!

หม่าหลันไม่คิดเลย โพล่งไปทันทีว่า “ทำท่าอะไรน่ะ? เชื่อไหมฉันคอมเพลนคุณได้นะ? เชื่อไหมฉันทำให้คุณตกงานได้เลย?”

คนขับพูดอย่างไม่พอใจ “ผมขับตามกฎระเบียบจราจรแล้ว คุณจะคอมเพลนอะไรผม? คอมเพลนว่าผมไม่ยอมเพิ่มความเร็วหรือไง?”

หม่าหลันกัดฟันด่ากราด “ฉันจะฟ้องว่าแกลวนลามฉัน คิดจะทำมิดีมิร้ายฉัน!”

คนขับโกรธหัวเราะออกมา มองเธอผ่านทางกระจกหลังอย่างเหยียดหยันว่า “คุณดูสารรูปคุณซะก่อน ทุเรศซะยังไงแล้ว? ฟันหน้าสองซี่โหว่ไปน่ะ หยั่งกับซ่งตันตันนั่นน่ะ ยังมีหน้ามาบอกว่าผมลวนลามคุณ? คุณไม่ลวนลามผม ผมก็ขอบคุณสวรรค์แล้ว!”

หม่าหลันเดือดปุดในใจอยู่นาน พอได้ยินคนขับกล้าต่อปากต่อคำกับเธอ แถมยังบอกว่าเธอน่าเกลียด ก็เดือดทะลุปรอทเลย แค่นเสียงเย็นว่า “แกชื่ออะไร? บริษัทไหน? ฉันจะโทรไปคอมเพลนตอนนี้เลย แกเชื่อไหม?”

พอคนขับได้ยินอย่างนั้น ก็เดือดขึ้นมาเหมือนกัน เขาจอดรถเข้าข้างทาง พูดอย่างไม่แคร์ว่า “อยากคอมเพลนก็เชิญเลย ผมไม่รับงานคุณละ รีบไสหัวลงไปเลย!”

หม่าหลันด่ารัว “ให้ฉันลงไป? แกเป็นใครหา! รีบขับๆไปเลย ได้ยินไหม? เกิดทำฉันรักษาขาล่าช้า ฉันจะเอาชีวิตแก!”

คนขับดับเครื่องเอาดื้อๆเลย แค่นเสียงเย็นว่า “ขอโทษนะ รถผมเสียไปไม่ได้แล้ว ถ้าคุณไม่ยอมลงไป ก็นั่งรออยู่บนนี้ละกัน”

หม่าหลันไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะไม่ไว้หน้าหล่อนเลย กำลังจะโพล่งด่าต่อ ไม่คิดว่าคนขับจะเปิดประตูลงไปสูบบุหรี่เอาดื้อๆ

เย่เฉินนั่งอยู่ที่นั่งข้างคนขับ ในใจแอบขำยกใหญ่

แม่ยายตนนี่ไม่รู้จักดูสถานการณ์เอาซะเลย

ตอนนี้ขาหักต้องรีบรับการรักษาโดยเร็วที่สุด แถมไม่ได้หักบนรถเช่านี่ซะด้วย จะต่อล้อต่อเถียงเอาชนะกับเขาไปทำไม?

ตอนนี้ทำคนขับเขาไม่ยอมขับรถละ คนเสียเวลาก็ตัวเธอเองไม่ใช่หรือไง?

แต่เย่เฉินขี้เกียจอธิบายกับเธอเรื่องนี้ เลยแกล้งถาม “แม่ครับ ตอนนี้เราเอาไงดีล่ะ? จะมานั่งอยู่นี่เฉยๆก็ไม่ได้มั้ง?”

หม่าหลันโกรธแทบระเบิด แต่ตอนนี้ตัวเองขาหัก ต้องรีบไปรักษาที่โรงพยาบาล ไม่งั้นเกิดเหลือผลข้างเคียงอะไรไว้ ขาด้วนไปเลยจะทำยังไงล่ะ?

ดังนั้นเธอเลยบอกกับเย่เฉินว่า “นายไปเรียกรถมาคันหนึ่ง!”

เย่เฉินพยักหน้า ลงรถเดินไปยืนรอข้างทางสักครู่ กวักมือเรียกแท็กซี่อีกคัน