ตอนที่ 1271: แร่ทองคำโลหิต (2)
บอลสีชมพูที่เต็มไปด้วยพลังงานบริสุทธิ์ในมือเจี้ยนเฉิน มันเป็นพลังจักรพรรดิที่เขาได้รับจากไทนิชในโถงศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดินทั้งแปด มันถูกทิ้งไว้ในร่างกายของไทนิชโดยเจ้าศาลาเทพเจ้าอสรพิษ
เจี้ยนเฉินเก็บพลังงานไว้ในวัตถุเซียนตั้งแต่ที่เขาได้มา จิตวิญญาณวัตถุที่คอยคุ้มกัน เจี้ยนเฉินนำมันออกมาเพียงครั้งเดียวเมื่อครั้งสู้กับไคเซอร์ หลังจากผ่านไปนานมากเขาก็เกือบลืมไปแล้วและวันนี้เขาพึ่งจะจำมันได้
พลังงานทั้งหมดที่นอกเหนือจากพลังบรรพกาลของเจี้ยนเฉินและพลังของเถี่ยต้ายังคงมีขีดจำกัดในโลกจิ๋วหยานหวง ทันทีที่พลังจักรพรรดิปรากฏ มันก็เริ่มจางหายไปอย่างรวดเร็ว
เจี้ยนเฉินรู้ว่าเขาไม่อาจละทิ้งพลังของจักรพรรดิได้นานเกินไป เขามองไปที่บริเวณของฝุ่นที่เกิดจากจระเข้ที่บิดตัวและพุ่งเข้าหาอย่างไม่ลังเล เมื่อใช้ประสาทรับรู้ทางวิญญาณเพื่อสังเกตสภาพแวดล้อม เขาก็มุ่งไปที่ส่วนหัวของจระเข้ทันที
จระเข้ดูเหมือนจะรู้สึกว่าตอนนี้เจี้ยนเฉินมีพลังมาพอที่จะคุกคามมัน มันลืมความเจ็บปวดไปชั่วคราวที่ประดังประเดในตาและเริ่มถอยช้า ๆ ในเวลาเดียวกันรอยแยกในอากาศก็เริ่มเห็นได้ชัดและเสียงตัดอากาศก็ดังขึ้น หางที่หนาและว่องไวพุ่งเข้าเจี้ยนเฉิน
ประสาทสัมผัสของเจี้ยนเฉินได้รับรู้ถึงหางที่กำลังเข้ามาของมัน เขาหลบได้อย่างคล่องแคล่ว เพียงพริบตาเขาก็มาถึงส่วนหัวของมันและกระแทกพลังจักรพรรดิไปที่มันอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ เพื่อป้องกันไม่ให้สูญเสียพลัง เจี้ยนเฉินได้ใช้สายใยวิญญาณยึดติดกับพลังเพื่อที่เขาจะได้ควบคุมมันได้ในช่วงเวลาสำคัญ
พลังจักรพรรดิระเบิดออกไปอย่างรวดเร็วโดยมุ่งเป้าไปที่ดวงตาซึ่งบอดของจระเข้ สัตว์อสูรต้องการหนี แต่มันไม่อาจหลบพลังงานที่พุ่งเข้ามาได้เพราะมันช้าเกินไป ท้ายที่สุดพลังงานที่ทีงพลังได้สร้างความประทับใจให้กับสัตว์ร้ายด้วยความแม่นยำอย่างมาก
ตูม !
พร้อมกับเสียงที่ดังลั่น พลังของจักรพรรดิก็ระเบิดภายในหัวของสัตว์ร้าย พลังที่ยิ่งใหญ่ทำให้หัวของมันส่ายไปมาและมีน้ำสีแดงและสีขาวสดใสพ่นออกมาจากทวารทั้งห้า
ถ้าหากพลังของจักรพรรดิโจมตีไปที่ร่างกายของสัตว์ร้าย มันน่าจะเป็นเพียงบาดแผลตื้น ๆ เท่านั้น แบบเดียวกับที่เกิดขึ้นกับไคเซอร์ อย่างไรก็ตามมันโจมตีไปที่จุดอ่อนที่สุดของมันเข้าที่หัวของจระเข้ยังจุดที่มันบาดเจ็บอย่างรุนแรง ถึงแม้ว่ามันจะมีร่างกายที่แข็งแกร่ง แต่มันก็ไม่อาจทนได้
ร่างกายของสัตว์ร้ายแข็งทื่อ ดวงตาข้างหนึ่งของมันถูกทำลายด้วยการระเบิดของพลังงานและร่างกายของมันดูเหมือนจะไร้เรี่ยวแรงและแนบนิ่งลงที่พื้นและตาย
เจี้ยนเฉินถอนหายใจขณะที่เขายืนอยู่ข้างศพจระเข้ ท้ายที่สุดเขาก็สามารถสังหารสัตว์อสูรหยานหวงระดับ 9 ได้ แต่เจี้ยนเฉินเข้าใจเป็นอย่างดีว่ามันเป็นเพราะพลังจักรพรรดิ มันยากจะยากมากที่จะฆ่ามันแม้ว่าเขาจะทำให้ตาทั้งสองข้างของมันบอด
ในขณะนั้นเสียงคำรามจากระยะไกลดังขึ้น เมื่อเห็นว่าสหายของมันได้ตายลงไปแล้ว จระเข้ที่ต่อสู้อยู่กับเถี่ยต้าก็พุ่งเข้าหาเจี้ยนเฉินด้วยสายตาที่แดงก่ำทันที มันไม่สนใจแม้ว่าจะมีเถี่ยต้านั่งอยู่บนหลังของมัน
ในเวลานั้น เถี่ยต้าก็ยังคงอยู่ในแผลอยู่เช่นกัน เขาเฉาะขวานของเขาไปที่เนื้อของมัน แม้ว่าร่างกายของมันจะแข็งแกร่งมากแต่ก็ไม่มีที่ไหนแข็งแกร่งกว่าเนื้อในของมัน เลือดเปรอะเปื้อนทั่วตัวเถี่ยต้าทุกครั้งที่เฉาะขวานลงไป
อย่างไรก็ตามการโจมตีของเถี่ยต้าไม่แตกต่างไปจากเกาหลังให้มัน สัตว์อสูรที่มีความยาวกว่า 1,000 เมตร
เถี่ยต้าไม่ได้สนใจ สุดท้ายเขาก็ทำลายเข้าไปถึงเนื้อในของสัตว์อสูรหยานหวงจากความยากลำบาก เขาใช้ประโยชน์จากบาดแผลของมันขณะที่ขวานกำลังเปล่งประกายสีทอง เขาเฉาะลงไปที่แผลอีกครั้งและอีกครั้งโดยไม่มีอาการเหนื่อยล้า
เจี้ยนเฉินเป็นเพียงคนเดียวที่อยู่ในสายตาของสัตว์อสูรตอนนี้ มันไม่สนใจเถี่ยต้าที่กำลังเฉาะหลังมันอย่างต่อเนื่อง การโจมตีของเขาไม่ต่างอะไรกับยุงกัด
สัตว์อสูรหยานหวงวิ่งไปหาเจี้ยนเฉินอย่างรวดเร็วเนื่องจากสัตว์อสูรไอ้แผ่กลิ่นอายเป็นจำนวนมาก มันขังให้เจี้ยนเฉินเผชิญหน้าจากแรงกดดันราวกับภูเขากดทับ
เจี้ยนเฉินยืนอยู่ตรงนั้นไม่ได้ขยับไปไหน เขามองจระเข้เขม็ง ในขณะที่เขากำลังคิดหาวิธีว่าเขาจะจัดการกับมันอย่างไร ตอนนี้เขาไม่มีพลังของจักรพรรดิ ดังนั้นวิธีที่เขาใช้ครั้งแรกมันจะไม่ได้ผล แม้ว่าเขาจะแทงไปที่ตาและปล่อยพลังบรรพกาล มันก็จะไม่เป็นอย่างที่เขาหวังเอาไว้
นี่เป็นเพราะพลังบรรพกาลอ่อนแอเกินกว่าพลังที่สัตว์อสูรหยานหวงที่มีพลังปราณ แม้ว่ามันจะไม่บริสุทธิ์และเบาบางเป็นพิเศษ แต่มันก็ยังเป็นพลังงานที่ทัดเทียมกับพลังบรรพกาล
สัตว์อสูรหยานหวงเข้ามาหาเจี้ยนเฉินอย่างรวดเร็วและเปิดปากเพื่อที่จะกัดเขา ฟันแหลมคมสองแถวส่องประกายหนาวเย็น เพียงแค่มองก็ทำให้คนตัวสั่น
เมื่อเห็นว่าสัตว์อสูรหยานหวงต้องการที่จะกินเขา ประกายแสงแว่บผ่านดวงตาของเจี้ยนเฉิน คราวนี้เขาไม่ได้หลบ แต่เขาพุ่งเข้าไปในปากของจระเข้ราวกับลูกธนู ก่อนที่มันจะกัดเขา เขาต้องระวังฟันที่แหลมคมของมัน ก่อนที่ลิ้นจะเข้าหาเขา เขาก็ต้องควานหาหลอดลมของสัตว์อสูรหยานหวงและเดินเข้าไปในท้องของมัน
มันเป็นกระเพาะสีดำสนิท เจี้ยนเฉินใช้พลังวิญญาณของเขาเพื่อรับรู้สภาพแวดล้อมรอบ ๆ ของเขา หลังจากทำความเข้าใจกับสภาพแวดล้อม เขาได้มาอยู่ในกระเพาะที่เต็มไปด้วยกรดและมันทำให้เขารู้สึกปวดแสบปวดร้อนแม้ว่าจะเป็นร่างกายของเขาก็ตาม อย่างไรก็ตามร่างบรรพกาลขั้นสามและมันเพียงพอที่จะต้านทานการกัดกร่อน
เจี้ยนเฉินไม่ลังเลเลยเมื่อเข้ามาในท้อง เขาใช้ยุทธ์ภันฑ์จักรพรรดิและฟันไปรอบๆด้วยพลังเต็มที่ สิ่งที่เขาต้องการทำคือทำร้ายสัตว์อสูรหยานหวงจากภายใน
คราวนี้สัตว์อสูรหยานหวงระดับ 9 ไม่อาจทนการโจมตีได้ มันเจ็บปวดอย่างมากแผลที่ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ก็ทำให้มันยิ่งส่งเสียงดังมาก ร่างกายของมันบิดไปอย่างรุนแรงและเกือบจะกลิ้งทับเถี่ยต้าที่อยู่ด้านหลัง
ยุทธ์ภันฑ์จักรพรรดิของเจี้ยนเฉินส่องสว่าง เพียงฟันครั้งเดียวเขาก็สามารถทำลายอวัยวะของมันได้ 3-4 เมตร เขาเดินผ่านร่างของสัตว์อสูรหยานหวงและเข้าไปใกล้หัว เขาฟันเนื้อผังผืดที่ขวางทางเขาอยู่ทั้งหมด
แต่เวลานั้น เจี้ยนเฉินรู้สึกได้ถึงพลังที่มองไม่เห็นเข้ามาห่อหุ้มเขา เมื่อเขากำลังจะตอบโต้เขาก็ถูกพันธนาการโดยพลังนั้น มันมีพลังมาก เจี้ยนเฉินไม่แม้แต่จะขัดขืนมันได้ในเวลานี้ เขารู้สึกว่าวิสัยทัศน์ของเขาสนใจขึ้นเมื่อเขาถูกจระเข้ขย้อนออกมา
หลังจากได้เรียนรู้แล้ว สัตว์อสูรหยานหวงก็ไม่กล้าเปิดปากอีกครั้ง หลังจากที่มันขย้อนเจี้ยนเฉินออกมาและหุบปากแน่น
เจี้ยนเฉินรับตั้งตัวและใช้อุบายดั่งเดิม ปราณกระบี่ได้ถูกปล่อยลงที่พื้นและทำให้บดบังวิสัยทัศน์ของสัตว์อสูรหยานหวง เขาลบตัวตนของเขาขณะที่เดินไปด้านหน้าสัตว์อสูรหยานหวงอย่างเงียบ เขาแทงตาข้างหนึ่งของมันอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้า
สัตว์อสูรหยานหวงไม่อาจทำอะไรได้ นอกจากร่ำร้องด้วยความเจ็บปวด มันเปิดปากอีกครั้งและเจี้ยนเฉินก็ใช้โอกาสนี้เข้าไปในร่างกายของมันอีกครั้ง เขายังคงใช้ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิเพื่อสร้างเส้นทางโดยทำลายสิ่งกีดขวางทั้งหมดและมุ่งไปยังสมองของสัตว์อสูร
ในเวลานี้เจี้ยนเฉินได้รู้สึกถึงพลังที่มองไม่เห็นห่อหุ้มเขาอีกครั้ง เขามาถึงใกล้กับสมองของสัตว์อสูรแล้ว ดังนั้นเขาจึงปล่อยปราณกระบี่ไปข้างหน้าโดยไม่ลังเล เป็าหมายของเขาอยู่ที่ประสาทส่วนกลาง
ทันใดนั้นระบบประสาทส่วนกลางของสัตว์ร้ายก็ถูกทำร้ายโดยปราณกระบี่ของเจี้ยนเฉิน แม้ว่ามันจะไม่ตาย แต่มันก็ได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง แผลที่ปริแตกทำให้ความเจ็บปวดของมันพุ่งสูงถึงท้องฟ้าและเกือบจะทรุดตัวลงกับพื้น มันสูญเสียการควบคุมที่อยู่ในหัวเพื่อให้เจี้ยนเฉินออกมาจากร่างกายของมันไป
เจี้ยนเฉินรู้ว่านี่เป็นโอกาสที่หายาก ดังนั้นเขาจึงเพิ่มความเร็วของมันเขาทันที เขามาถึงประสาทส่วนกลางโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้และรีบใช้ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิออกไป เขาโจมตีอย่างต่อเนื่องและสมองของมันก็ถูกทำลายอย่างสมบูรณ์
ตูม ! เพียงมันถูกทำลาย แม้ว่าสัตว์อสูรหยานหวงจะอึดแค่ไหน พลังชีวิตของมันจะมากเพียงใด ในที่สุดมันก็ล้มตัวลงและเกิดหลุมที่พื้นขนาดใหญ่
เมื่อเห็นพลังชีวิตที่เหือดหายไปของสัตว์อสูรหยานหวง เถี่ยต้าก็หยุดเฉาะขวานของเขา เขามองไปที่ศพขนาดใหญ่อยู่ที่พื้นและตกตะลึงอย่างมาก จากนั้นเขาก็กระโดดออกจากร่างกายของมันและหัวเราะเบา ๆ พลางพูดว่า เจี้ยนเฉินยังคงแข็งแกร่ง ข้าเพียงแค่มุดเข้าไปในตัวมัน เจ้าก็ฆ่ามันได้แล้ว
พรุ่บ ! ดวงตาของสัตว์อสูรหยานหวงจู่ ๆ ก็ระเบิดออกและเจี้ยนเฉินก็พุ่งออกมาพร้อมกับของเหลวต่าง ๆ และดูน่าเกลียดอย่างมาก เขาขว้างผลึกโลหิตที่อยู่ในมือของเขาไปให้เถี่ยต้าและพูดว่า เถี่ยต้า นี่เป็นของเจ้า มันเทียบเท่ากับแกนอสูรระดับ 9 ดังนั้นมันจึงทำให้เจ้าแข็งแกร่งขึ้นเล็กน้อย
เถี่ยต้าจับผลึกขนาดนิ้วโป้งและตอบอย่างจริงจัง เจี้ยนเฉิน เจ้าฆ่าสัตว์อสูรหยานหวงทั้งสองตัว ดังนั้นสิ่งนี้ก็เป็นของเจ้าเหมือนกัน ข้าไม่ต้องการมัน พร้อมกับโยนมันกลับไปให้เจี้ยนเฉิน
เจี้ยนเฉินยกมือขึ้นเพื่อหยุดเถี่ยต้า เขาพูดว่า สัตว์อสูรหยานหวงที่เรากำลังจะเจอแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ แน่นอนว่ามันมีสัตว์อสูรหยานหวงระดับ 9 เป็นจำนวนมากที่รอคอยอยู่และอาจเป็นไปได้ว่าจะมีสัตว์อสูรที่เหนือกว่าระดับ 9 ดังนั้นเราต้องแข็งแกร่งให้เร็วที่สุด เราจะได้สังหารสัตว์อสูรหยานหวงระดับ 9 ได้มากขึ้น
เจี้ยนเฉินตัดสินใจและทำทันที หลังจากที่เขาเก็บใบชาหยั่งรู้ระดับ 5 และผลไม้เมฆไฟ เขาก็จะปลีกวิเวกทันทีเพื่อทะลวงไปยังขั้นที่ 4 เขาไม่สนใจว่ามันจะใช้เวลานานแค่ไหน
เขาเข้าใจว่าจะมีสมบัติสวรรค์ที่มีค่ายิ่งกว่าที่อยู่ในระดับสูงในภายหลังและสัตว์อสูรทุกตัวที่ปกป้องมันอาจจะเป็นสัตว์อสูรระดับ 9 หรือระดับ 9 ขั้นสูงสุด ด้วยความแข็งแกร่งปัจจุบันของเขา เขาไม่อาจทำได้ทั้งหมด มันต้องเพิ่มความแข็งแกร่งโดยรวมของพวกเขาเท่านั้น เขาถึงจะไปต่อไปได้และรวบรวมสิ่งต่าง ๆ ให้มากยิ่งขึ้น
เถี่ยต้าเห็นว่าที่เจี้ยนเฉินกล่าวมามีเหตุผล เขาไม่ได้ดื้อดึงอีกต่อไป และยอมรับแกนอสูรระดับ 9
หลังจากนั้นเจี้ยนเฉินก็นำแกนอสูรที่มีขนาดใกล้เคียงออกมาจากสัตว์อสูรอีกตัวและเก็บไว้ในแหวนมิติ นอกจากนี้เขายังเก็บซากของทั้งสองตัวเข้าไปในวัตถุเซียนก่อนที่จะใช้น้ำพุระดับ 1 ล้างตัว เขาเปลี่ยนชุดใหม่ก่อนที่จะไปยังส่วนอื่นนอกจากสัตว์อสูรระดับ 9 ทั้งสองตัวที่อยู่ที่นี่
แร่ทองคำโลหิต นั่นคือแร่ทองคำโลหิต นายท่านเราได้พบสิ่งของอีกชิ้นเพื่อหลอมกระบี่ม่วง-ฟ้า ก่อนที่เจี้ยนเฉินจะเก็บใบชา จิตวิญญาณกระบี่ม่วง-ฟ้าก็ตะโกนออกมาด้วยความดีใจทันทีที่เขาขึ้นมาถึงด้านบนภูเขา
เจี้ยนเฉินเหลือบมองออกไป ในหลุมที่จระเข้อยู่มีก้อนหินสีทองขนาดครึ่งตัวคนวาววับดั่งทองคำ
เจี้ยนเฉินยิ้มแย้ม เขาไม่สนใจต้นชาหยั่งรู้และวิ่งไปที่หินนั่น แม้ว่าใบชาจะมีค่า แต่ก็ไม่ได้มีค่ามากกว่าสิ่งของที่ใช้หลอมกระบี่ม่วง-ฟ้าในสายตาของเจี้ยนเฉิน
นี่เป็นเพราะเขาต้องการกระบี่ที่เหมาะสมกับเขาอย่างแท้จริงภายในก้นบึ้งของจิตใจ ในเวลาเดียวกันเขาต้องการกระบี่ที่ควบรวมทั้ง 5 ขอบเขตเพื่อเข้าใจวิถีดาบ เมื่อเขาเริ่มฝึกมันอย่างจริงจัง