ตั้งแต่ที่กลับมาจากโลกเซียนเสวียนเทียน หลัวซิวก็กลับไปที่ถ้ำบนเขาสุดหล้า แววตาดูลึกซึ้งดั่งเหว

ทุกครั้งที่โลกเซียนเสวียนเทียนถูกเปิดออก สาเหตุที่มีผู้แข็งแกร่งจำนวนมากต่างเบียดเสียดเข้าไปพร้อมกันนั้น ด้านหนึ่งเป็นเพราะต้องการตามหาสมบัติและโอกาส แต่สิ่งที่สำคัญมากกว่าคือพวกเขาไปเพราะสำนักเต๋าเสวียนเทียน

ถึงแม้คนพวกนั้นจะรู้ดีแก่ใจอยู่ว่าตัวเองไม่สามารถได้ครอบครองสำนักเต๋าเสวียนเทียน แต่พวกเขาก็จะป้องกันไม่ให้สำนักเต๋าเสวียนเทียนถูกคนอื่นแย่งไป

อย่างไรก็ตามปัจจุบันสำนักเต๋าเสวียนเทียนกลับถูกคนอื่นแย่งไปแล้ว โลกเซียนเสวียนเทียนก็ไร้ความหมายต่อแดนศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ผู้แข็งแกร่งจำนวนมากจึงพากันเดินทางย้อนกลับ

ออร่าของอัญเทพฟ้าจากแดนศักดิ์สิทธิ์แดนต่าง ๆ เหือดหายไปแล้ว ทางเหนือนภาที่มุ่งไปสู่โลกเซียนเสวียนเทียนก็ปิดไปตามกัน ทุกอย่างกลับคืนสู่ความสงบอีกครั้ง

ร่างกลของหลี่ยู่เมื่อชาติปางก่อนซ่อนอยู่ในห้วงจักรหยั่งรู้ ในตัวหยั่งรู้ของหลี่ยู่ มีคลื่นออร่าที่ยิ่งใหญ่จนมิอาจคาดเดาได้แผ่กระจายออกมาจากสำนักเต๋าเสวียนเทียน หากไม่ใช่เพราะซ่อนอยู่ในตัวหยั่งรู้แล้วกลิ่นอายออร่าถูกปิดกั้นไว้ละก็ เกรงว่าคงต้องทำให้ผู้แข็งแกร่งจำนวนมากในโลกเสวียนเทียนตื่นตกใจได้แน่นอน

แม้ตำหนักจื่อเซียวจะชำรุดไม่สมบูรณ์ แต่แก่นแท้ของมันกลับเป็นศัสตราวุธแห่งราชาชิ้นหนึ่ง แต่ทว่าสำนักเต๋าเสวียนเทียนกลับกลืนกินมันลงไปโดยตรง นี่จึงเป็นสิ่งที่ทำให้เขาคาดไม่ถึงจริง ๆ

“ตำหนักจื่อเซียวของกู!”

หงเทียนรู้สึกโกรธจนใกล้จะตายแล้ว แม้ว่าปัจจุบันเขาจะกลายเป็นจิตภัณฑ์ในหอกยุทธ์มังกรดำ และตำหนักจื่อเซียวก็ไม่มีประโยชน์อะไรต่อเขาแล้ว แต่ถึงอย่างไรนั้นก็เป็นอาวุธที่เขาอาศัยอยู่และผ่านกาลเวลาที่ช้านานมาพร้อมกับมัน เขามีความรู้สึกผูกพันต่อมันเล็กน้อยจริง ๆ

“สำนักเต๋าเสวียนเทียนกำลังวิวัฒนาการ!”

หลัวซิวสังเกตและเรียนรู้อยู่นานมาก ท้ายที่สุดเขาก็ได้รับบทสรุปเช่นนี้ จึงทำให้พละกำลังที่อยู่ในแววตาเขาปะทุออกมา

สมบัติที่กำเนิดมาจากฟ้าดินเป็นสมบัติที่ล้ำค่ามาก ๆ นอกจากจิตฟ้าดินและสมุนไพรเพิ่มพลังต่าง ๆ แล้ว อาวุธที่มีร่องรอยกฎธรรมฟ้าดินแฝงซ่อนอยู่ ก็จะปรากฏขึ้นโดยสอดคล้องตามความต้องการของยุคสมัย

และอาวุธพรสวรรค์เหล่านี้ก็ถูกเรียกว่านักรบพรสวรรค์เช่นกัน สมบัติพรสวรรค์ สมบัติที่ธรรมดามากที่สุดคือของขลังพรสวรรค์ รองลงมาคือสมบัติวิเศษพรสวรรค์ ตามมาด้วยศัตราวุธฟ้ากำหนด รวมไปถึงอัญมณีพรสวรรค์ ตลอดจนอัญมณีดั้งเดิมสมบัติอาวุธพรสวรรค์บางอย่าง ระดับของมันถูกกำหนดตั้งแต่กำเนิดแล้ว ไม่สามารถยกระดับขึ้นไปได้อีก ซึ่งปริมาณของสมบัติประเภทนี้ค่อนข้างเยอะ และมีข้อจำกัดค่อนข้างมาก

แต่ก็มีสมบัติพรสวรรค์บางอย่างที่สามารถพัฒนาการได้เช่นกัน เพียงแต่วิธีในการวิวัฒนาการแตกต่างกัน อีกทั้งสมบัติพรสวรรค์ที่วิวัฒนาการได้นั้น ระดับช่วงที่พิ่งกำเนิดใหม่ ๆ จะค่อนข้างต่ำ

อย่างเช่นปีกทิพย์ไร้มลทิน ตอนที่มันเพิ่งกำเนิดพรสวรรค์ มันก็เป็นแค่ของขลังเท่านั้น และวิธีการวิวัฒนาการของมันคือวิวัฒนาการโดยใช้วัตถุดิบบางอย่างมีลักษณะเฉพาะพิเศษ

และเช่นหอกยุทธ์มังกรดำ แรกเริ่มมันก็เป็นแค่ของขลังพรสวรรค์เช่นกัน ต่อมาหลัวซิวค้นพบต้องห้ามขั้นเก้าที่อยู่บนตัวมัน หลังจากที่ปลดผนึกต้องห้ามแต่ละขั้นแล้ว พลานุภาพและระดับของอาวุธก็เพิ่มขึ้น หลังจากผ่านต้องห้ามขั้นเก้าไปแล้ว ก็มีต้องห้ามขั้นเก้าเพิ่มมาอีก ราวกับมันมีศักยภาพที่มากมายไร้ขอบเขตยังไงอย่างนั้น

ปัจจุบันมีสำนักเต๋าเสวียนเทียนปรากฏเพิ่มมาอีกหนึ่ง คาดไม่ถึงเลยว่าวิธีการวิวัฒนาการของมันจะเป็นการกลืนกินสมบัติอื่น ๆ

หลัวซิวใช้ตัวสำนึกสัมผัสดู ก่อนจะพบว่าตำหนักจื่อเซียวที่อยู่ในสำนักเต๋าเสวียนเทียนถูกพลังลึกลับบางอย่างกลั่นแปรย่อยสลายอย่างต่อเนื่อง จากนั้นค่อยผสมรวมเข้ากับสำนักเต๋าเสวียนเทียน ทำให้ออร่าของสมบัติชิ้นนี้ยิ่งอยู่ยิ่งทรงพลังขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้ราวกับกำลังอยู่ในขั้นตอนการลอกคราบใหม่

“ตำหนักจื่อเซียวคือศัสตราวุธแห่งราชาที่ไม่สมบูรณ์ สำนักเต๋าเสวียนเทียนกลืนกินและกลั่นแปรมัน ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะวิวัฒนาการไปได้ถึงขั้นใด?”หลัวซิวตั้งตารอคอยเล็กน้อย

การเดินทางไปยังโลกเซียนเสวียนเทียนในครั้งนี้ พอจะพูดได้เลยว่าเขาได้รับผลประโยชน์ที่มหาศาลมาก นอกจากได้รับสำนักเต๋าเสวียนเทียนที่สำคัญที่สุดแล้ว เขายังสังหารเทพมารไปอีกหลายคน ได้ทรัพย์สินมาไม่น้อย โดยเฉพาะแก้วเทวใหญ่เท่าภูเขาที่เขาได้รับหลังจากสังหารยักษ์แก้วเทวสูงสามพันกว่าเมตร

ภูเขาแก้วเทวนี้สูงสามพันกว่าเมตร สีสันแวววาวจับตา เหมือนดั่งของล้ำค่ายิ่งที่งดงามที่สุดในโลก อัดแน่นไปด้วยพลังเทพดั้งเดิมที่มหาศาล เมื่อดูดซับกลั่นแปรส่วนพลังเทพที่ยอดเยี่ยมที่สุดในแก้วเทวนี้ จะสามารถยกระดับบำเพ็ญบู๊ได้