บทที่ 1208 ไอเจ้างั่งนี่

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 1208 ไอเจ้างั่งนี่!

“ถ้าเป็นท่าน ท่านจะใจสงบลงได้มั้ยครับ ถ้าลูกและครอบครัวของท่านถูกคนอื่นควบคุมอยู่ ความเป็นอิสระในชีวิตของท่านก็ถูกควบคุมโดยคนอื่นเช่นกัน ท่านเป็นเหมือนสิ่งไร้ค่าที่ทำได้แต่อยู่ที่นี่ ท่านจะใจสงบได้มั้ย?”

“อาตมาทำได้นะ ไม่งั้นอาตมาคงไม่อยู่ที่นี่มาหลายสิบปีหรอก”

พระผู้เฒ่าเล่นหมากรุกพพลางพูดตอบยิ้มๆ

แสนรักที่กำลังเอาแก้วชาเข้าปากก็หยุดลง

หิมะที่อยู่ข้างนอกยังคงพัดลงมาปกคลุม

ลมก็ไม่ได้หยุด

แต่ตอนนี้เขามองพระสูงวัยรูปนี้ แล้วให้รู้สึกเหมือนกับว่าอารมณ์ที่ร้อนอยู่เมื่อกี้นี้ก็กลับพัดออกไปจากสมอง และมีสิ่งเดียวที่อยู่นัยน์ตาเขา

ก็คือใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มของท่าน

หลายสิบปี

ดังนั้นเขาเป็นใครกันแน่ ในเมื่อเขาสามารถช่วยเขาออกมาจากน้ำมือของชนะธิตได้ และก็มาอยู่ที่วัดนี้ได้นานหลายสิบปี ตกลงว่าฐานะที่แท้จริงของเขาคือใครกันแน่?”

“ท่านเป็นใครกันแน่ครับ?”

สุดท้ายแสนรักก็ทนไม่ไหว เลยถามขึ้นมา

แล้วพระรูปนี้ก็ยิ้มอย่างสง่า “โยม คำถามนี้โยมเคยถามไปหลายครั้งแล้วนะ อาตมาเคยบอกโยมแล้วไม่ใช่หรอว่าอาตมานามว่าจรัสแจ้ เป็นเจ้าอาวาสวัดนี้”

“ไม่ ท่านไม่ใช่ ท่านน่าจะมีอะไรข้องเกี่ยวกับเขา!”

ทันใดนั้น ชายหนุ่มผู้นี้ก็ค่อยๆถาม เขานั่งอยู่ตรงข้ามหน้ากระดานมือถือชา

เมื่อเสียงจบลง มือของพระผู้เฒ่ารูปนี้ที่เดิมทีกำลังเดินหมาก ก็ชะงักอยู่ตรงนั้นแล้วหมากนั้นก็เดินต่อ

แสนรักเห็นแล้วพูดต่อว่า “ชนะธิต พูดแล้วว่าอำนาจของเขาแทรกแซงได้ทุกช่องทาง ดังนั้นผมเลยแพ้อยู่ในน้ำมือของเขา แต่วัดของท่านที่อยู่ในสายตาของเขา กลับเป็นสถานที่ที่มีชีวิตอยู่ต่อได้ นั่นมันเลยแสดงให้เห็นอยู่คำถามนึงที่ว่า พวกท่านทั้งสองรู้จักกันและมีที่มาเดียวกัน”

“หึหึ….”

พระผู้เฒ่าหัวเราะอีกครั้ง

แต่ครั้งนี้ เขากลับไม่ได้แสดงสีหน้าท่าทางเหนิบๆออกมาอีก แต่ก็ถือว่าเป็นการยอมรับเป็นนัยๆแล้ว อีกอย่างนัยน์สายตาก็ยังปรากฏความชื่นชม

เหมือนกำลังจะชื่นชมว่าชายหนุ่มคนนี้ฉลาดจริงๆ

“งั้นโยมพูดมาว่าอาตมามีอะไรสนิทที่สนิทกับเขา?”

“ชนะธิตคนแรก ปีนั้นคนที่เดินเข้ามาด้วยกันกับเขาได้ถูกผมจัดการไป ดังนั้นท่านไม่ใช่คนข้างใน”

“อื้ม แล้วโยมคิดว่าอาตมาเป็นใคร?”

พระสูงวัยให้รู้สึกสนใจกับการคาดคะเนของเขามากยิ่งขึ้น ทั้งๆที่กำลังทายฐานะของตัวเขาเอง แต่ในขณะนั้น เขายกแก้วชาแล้วมองชายหนุ่มคนนี้ด้วยท่าทางสนใจ

แล้วตัวเองก็เป็นเหมือนคนที่ขี้นินทาที่รู้เรื่องด่วนเลย

แสนรัก “……”

“ท่านคงไม่ใช่ลูกชายของเขานะครับ?”

“พรู๊ดด!”

ในที่สุดพระผู้เฒ่าก็พ่นชาออกมาที่หน้ากระดาน

ดี!

ทำได้ดีมาก เจ้างั่ง!!

พระสูงวัยใช้เวลาอยู่นานถึงจะคุมเสียงไอที่อยู่ในลำคอให้มาเป็นปกติได้ หลังจากนั้นเขาก็วางแก้วชาลง

“โยม สมองโยมนี่จินตนาการล้ำไปหรือเปล่า ปีนี้เขาแปดสิบ อาตมาดูหมือนคนหกสิบกว่าๆเลยหรอ แล้วโยมคิดว่าชนะธิตมีลูกตั้งแต่อายุเท่าไหร่?”

“……”

แสนรักเก็บสายตาแล้วไม่ได้พูดอะไรต่อ

คนเก่าก่อน สิบกว่าๆมีลูกไม่ได้หรอ?

แต่สุดท้าย เพราะการตอบกลับของพระสูงวัยที่ทำให้คิด แสนรักเลยเดาเรื่องนี้ออกมาได้

ช่วงเวลากลางวัน ตอนที่เส้นหมี่กลับมากินข้าวเที่ยง ได้ยินเรื่องนี้เขาก็รู้สึกว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่เธอกลับคิดไปถึงคนๆนึง “เธอยังจำได้มั้ย? ตอนนั้นที่พิมลเชิญพี่ไปเยี่ยมชมหอวิไลลักษณ์ของตระกูลอุดมฐี พี่เห็นประวัติแนะนำคนในครอบครัวของเขา ตรงนั้นยังบอกว่าชนะธิตยังมีน้องชาย”

“น้องชายหรอ?”

“ใช่ ตอนนั้นคืออยู่ด้วยกัน ต่อมาชนะธิตเป็นคนแรก น้องชายเขาก็ไม่ได้เอ่ยว่าทำอะไร พี่คิดว่าท่านจะใช่เขามั้ย?”

เส้นหมี่พูดวิเคราะห์

แสนรักขมวดคิ้ว แล้วก็ไม่ได้แสดงความคิดเห็นอะไร

นี่จะโทษพวกเขาไม่ได้ พวกเขายังหนุ่มยังสาวที่ไม่เข้าใจเรื่องของคนรุ่นก่อนเลย บวกกับตอนนี้ก็ถูกกักตัวอยู่ที่นี่ งั้นก็อย่าอยากรู้เรื่องความลับนี้เลย

เพียงแต่พวกเขาคิดไม่ถึงว่า พอเข้าสู่กลางดึกดลธีจะแอบขึ้นมาบนภูเขา

“ท่านประธาน……”

“นายมาได้ยังไง? นายรู้มั้ยว่าที่นี่มันอันตรายขนาดไหน?”

สองสามีภรรยาที่ถูกเรียกกลางดึกได้เห็นร่างนั้นเข้ามาก็ให้เป็นห่วงยิ่งนัก

แต่ดลธีกลับไม่ได้สนใจ หลังจากที่เขาใส่หมวกไหมพรมเดินเข้ามา เห็นคนทั้งสองก็หยิบของที่ใช้กระดาษห่อไว้ออกมา

“ท่านประธานดูนี่สิครับ นี่เป็นสิ่งของที่พวกเราพบตอนที่จัดแจงของเก่าตอนที่พวกเราถูกกักตัวที่ดราก้อน แชนท์ ดูสิครับ”

“…….”

แสนรักรับมาดู

ภายใต้แสงไฟที่สลัวที่อยู่ที่ระเบียงทางเดิน เมื่อแกะกระดาษออก ยังไม่ทันดูว่าเป็นของอะไร ความรู้สึกของโลหะที่เย็นก็มาปะทะที่ผิวของเขา

จนในที่สุดเขาแกะออกหมด สีเหลืองส้มๆก็สว่างอยู่ที่หน้าของเขา

“นี่คือ…เครื่องราชอิสริยาภรณ์?”

เส้นหมี่เห็นก็มองด้วยความตะลึง

เครื่องราชอิสริยาภรณ์ ใช่ เครื่องราชอิสริยาภรณ์อีกแล้ว!

แสนรักจำได้ ชั่วแวบเดียวนัยน์ตาเขาก็มีความเจ็บปวดออกมาทันที อยากที่จะโยนมันทิ้ง เพราะว่าของพวกนี้นำพาความมืดมนและระอาให้กับเขาในช่วงนี้