บทที่ 1209 ภรรยา มอบหมายภารกิจหนึ่งให้เธอ

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 1209 ภรรยา มอบหมายภารกิจหนึ่งให้เธอ

แต่ทันใดนั้น เขากลับพบความแตกต่างที่อยู่บนนั้น

“อิสริยาภรณ์สันติภาพงั้นหรอ?”

“ใช่ครับท่านประธาน นี่เป็นอิสริยาภรณ์สันติภาพ เป็นเข็มรางวัลเกรียติยศที่ทางสหประชาชาติมอบให้กับวีรบุรุษ”

ดลธีพูดเสียงสั่น

ตรงระเบียงทางเดิน ให้สงบลง ราวกับว่าเสียงของทุกคนที่อยู่ในที่นั้นหายไป ณ ช่วงขณะนั้น ขนาดลมพัดมายังไม่ได้ยิน

สิ่งเดียวที่ได้ยินก็คือเสียงของหัวใจของทุกคน แล้วก็เสียงไหลเวียนของเลือดที่เดิมทีเย็นยะเยือกนั้น ในที่สุดก็มีชีวิตขึ้นมาใหม่อีกครั้ง

สุดท้ายแล้วแสนรักกำเครื่องราชอิสริยาภรณ์นี้แน่นแล้วเดินเข้าไป

ตลอดคืนเขาเอามันไว้ที่หน้าอกของตัวเอง ให้มันแนบชิดเข้านอนไปด้วยกันกับเขา ด้านข้างก็มีเส้นหมี่ที่นอนซุกหัวอยู่ในอ้อมอกของเขา

หลายวันต่อมาหลังจากนั้น พระผู้เฒ่าก็พบว่าชายหนุ่มคนนี้เปลี่ยนไป

เขาไม่มาถามท่านเรื่องนั้นเรื่องนี้ ความรุ่มร้อนใจที่อยู่บนใบหน้าก็สงบลงไปมาก เขาเดินเข้ามาก็มาเล่นหมากรุกกับท่านอย่างสงบ ถ้าให้คุยก็คุยในเรื่องไม่สำคัญ

แปลกไปนะ

พระผู้เฒ่ารู้สึกเป็นห่วง

“โยม หลายวันมานี้ดูเหมือนว่าโยมจะสงบลงมาก”

“ครับ” แสนรักยกชาที่อยู่ข้างๆขึ้นจิบอย่างช้าๆ

“หลวงพ่อไม่อยากเห็นผมเป็นอย่างนี้หรอครับ ท่านบอกแล้วนิครับว่าผมต้องสงบลง อารมณ์ร้ายของผมค่อนข้างหนัก ต้องให้บรรยากาศธรรมที่อยู่ในวัดนี้มาผ่อนอารมณ์ผมให้ดีขึ้น”

“……”

พระผู้เฒ่าไม่พูดว่าอะไรสักพักนึง

แต่ท่าทางอย่างนี้ เขากลับพอใจเป็นอย่างมาก ดังนั้นหลายวันที่เล่นหมากรุกเสร็จ เขาก็กลับไป

มาถึงที่กุฏิไม่นาน ก็มีสามเณรเดินเข้ามาแล้วพูดว่า “หลวงพ่อ คนนั้นที่อยู่ข้างนอกมารับหลวงพ่ออีกแล้ว เขาให้ผมมาถามหลวงพ่อว่าไปได้หรือยัง?”

“…..รู้แล้ว”

พระผู้เฒ่าลุกขึ้นมา ไม่นานเขาก็ไปจากวัดแห่งนี้

เวลาผ่านไปแต่ละวัน ไม่นานหิมะที่อยู่บนเขาก็หยุดลงและละลายไป กิ่งของก้านไม้ก็เริ่มแผ่ออกจากลำต้นใหม่ พื้นหญ้าก็เริ่มเขียวงอกงาม จนขนาดบนต้นไม้ใหญ่ของปากทางเข้ามา นกก็เริ่มส่งเสียงร้องขึ้น

แสนรักไม่เคยลงจากเขาเลย

แต่สถานการณ์ที่อยู่ล่างเขา เขากลับรู้ชัดอย่างชัดเจน

สุดท้ายแล้วชนะธิตเดินมาถึงฉากหน้า

หลังจากที่เขาได้ถูกแสนรักบีบในครั้งนั้นก็เลยแสดงธาตุแท้ของเขาออกมา เขาเข้ามาอยู่ที่ไวท์ พาเลซอีกครั้ง แม้ว่าเตชินทร์จะเป็นผู้นำสูงสุด

แต่ทว่าหลังจากที่บุคคลนี้ได้เข้ามาที่ไวท์ พาเลซแล้ว อำนาจโดยรวมของเขาก็ได้ถูกยกให้สูงขึ้น

ชนะธิตคุมอำนาจรัฐทั้งหมด

อีกทั้งเพราะว่าเจ้าอาวาสวัดวัดวรสานส์ที่มีชื่อเสียงในประเทศได้เข้าร่วมพิธีศาสนาที่ไวท์ พาเลซจัดขึ้น ทำให้ประชาชนทั่วโลกที่เดิมทีกีดกันคนๆนี้ สุดท้ายก็รามือลง

จนถึงตอนนี้ถือว่าชนะธิตชนะรวด

หลังจากที่อากาศอบอุ่น แสนรักก็เล่นหมากรุกน้อยลง ช่วงนี้เขาชอบการอ่านหนังสือ ในวัดมีหอเก็บหนังสือที่ใหญ่ที่หนึ่ง เขามารู้อีกครั้งก็ตอนที่วันๆตัวเองยู่แต่ที่นั่น

“พี่ พี่เห็นหรือเปล่าว่าหมู่นี้พระผู้เฒ่าผอมลง?”

วันนี้เส้นหมี่เพิ่งจะตัดสมุนไพรเสร็จ แล้วมาหาเขาและเอ่ยถึงพระผู้เฒ่า

แสนรักไม่พูดว่าอะไร

แต่ถ้าสังเกตดีๆก็จะพบว่าสายตาที่เขามองไปยังหนังสือเล่มนั้นขยับน้อยๆ

“ทางม็อกโกมีข่าวคราวอะไรบ้างมั้ย?”

“มีค่ะ ได้เอาผ้าก็อตออกและฟื้นตัวแล้ว ใบหน้าเหมือนกับแต่ก่อนมากๆเลย แต่ตอนนี้ในสถานการณ์อย่างนั้น พวกเขาน่าจะทำได้แค่อยู่ที่นั่น”

เส้นหมี่พูดอย่างหมดหวัง

แสนรักยักคิ้ว “ไม่แน่หรอก ภรรยา พี่มอบภารกิจนึงให้เรา ทำให้สำเร็จได้มั้ย?”

“อะไรคะ?”

เส้นหมี่ที่ไม่เคยได้ยินเขาพูดจาอย่างนี้ ก็มองเขาด้วยสายตาที่เบิกกว้าง

“ภารกิจอะไร พี่พูดมาสิ!”

เธอให้ตื่นเต้นนิดหน่อย เพราะก่อนหน้านี้เธอไม่เคยเข้าร่วมในกิจกรรมของเขา เขาก็ไม่เคยเอ่ยปากชวนเธออย่างเป็นทางการ

แต่สิ่งที่เธอคิดไม่ถึงก็คือสิ่งที่เขาบอกกับเธอว่า “เธอช่วยทำยาป่วยให้พี่ได้มั้ย แบบป่วยหนักๆได้ยิ่งดี”

เส้นหมี่ “…….”

อยากตีเขาให้ตาย จะทำไงดี?

ภารกิจที่มอบให้เธอเป็นครั้งแรกเป็นภารกิจที่ดีกว่านี้หน่อยไม่ได้หรอ? ทำไมยังต้องเธอทำยาป่วยให้เขา?!!

“เธอก็เห็นแล้วนิ ความสันติของพวกเราในตอนนี้ รวมไปถึงลูกๆของมัลดีฟส์ตระกูลหิรัญชาของเมืองAกับดราก้อน แชนท์ แล้วก็ทางม็อกโกนั่นอีก ต่างก็พึ่งพาพระผู้เฒ่า และเธอก็พูดเองว่าพระผู้เฒ่ายิ่งผอมลงไปทุกวัน แล้วถ้าท่านตายจะทำยังไง พวกเราไม่มีชีวิตอยู่ต่อได้น่ะสิ?”

เขาเห็นท่าทางเธอโกรธก็รีบพูดอธิบาย

เพียงแต่ว่าการอธิบายครั้งนี้ ฟังยังไงก็ให้แปลกอยู่ดี เหมือนกับกำลังโอ๋เด็กยังไงอย่างนั้น แล้วยังเอาเรื่องที่พระผู้เฒ่าผอมมาพูดถึงอีก จะคิดถึงความรู้สึกของพระผู้เฒ่าบ้างมั้ย?

ในที่สุดเส้นหมี่เลยอ่อนลง

“แล้วอาการป่วยของพี่จะทำยังไง”

“อื้ม ไพบูลย์น่าจะมา”

“……”

ยอมเขาเลย!

สุดท้ายเส้นหมี่เลยจัดการ ดังนั้นในคืนนั้นเอง ชายคนนี้เริ่มมีอาการปวดหัวแทบจะแตกเป็นเสี่ยงอีกครั้ง จนถึงตอนที่หนักสุดเขาเกือบที่จะบีบคอสามเณรที่เดินผ่านกุฏิตาย

พระผู้เฒ่าเห็นก็รีบให้คนจับกุม เขาร้อนใจมาก

“ทำไมเขาถึงได้เป็นอย่างนี้ ก่อนหน้านี้ยังดีอยู่ไม่ใช่หรอ?”

“เปล่าเลยค่ะ ตอนที่ชนะธิตหาเขาเจอจริงๆอาการก็กำเริบครั้งนึงไปแล้ว วันนี้ได้ยินมาว่าคุณปู่เขา….คุณปู่เขาถูกโทษประหารเขาเลยได้รับการโจมตีค่ะ”

เส้นหมี่อธิบายด้วยน้ำตานองหน้า

พระผู้เฒ่าหน้าซีดทันที!

เพราะข่าวนี้เป็นเรื่องจริง เพียงแต่ว่าเขากักตัว ไม่ได้แพร่ข่าวในวัด